ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 527 เครื่องบินทิ้งระเบิดโหยว-66!
ตอนที่ 527 เครื่องบินทิ้งระเบิดโหยว-66!
หินบินลงมาจากฟ้า เสียงฝ่าลมน่าตกใจจนทำให้คนขนลุก!
การโจมตีที่เสียงดังอลังการเช่นนี้ ย่อมไม่มีการปิดบังอะไรอยู่แล้ว ปู้ซานปู๋ซื่อเหลือบตาขึ้นแวบหนึ่ง แล้วอุทานว่า “แม่จ๋า” กับ “แม่จ๋า” คนละคำ จากนั้นก็เอามือกุมศรีษะวิ่งหนีไปไกล ท่าทางน่าขันได้อีก
เยี่ยเว่ยหมิงเองก็เงยหน้าขึ้นเช่นกัน แต่เพราะได้รับอิทธิพลจากทักษะด้านความคิดอย่างวิชาเต๋า พุทธธรรมรวมทั้งคำนวณ นอกจากเขาจะไม่แสดงความตื่นตระหนกเหมือนปู้ซานปู๋ซื่อแล้ว กลับคำนวณจุดที่หินใหญ่เจ็ดลูกจะตกรวมทั้งขอบเขตของแรงสะเทือนหลังจากหินตกได้อย่างแม่นยำ
ซึ่งหลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงกลับอดชมในใจไม่ได้ว่าวิชาขว้างอาวุธของโหยวโหยวช่างแม่นยำ เนื่องจากอิงตามลำดับที่หินเจ็ดก้อนนี้ตกลงมา ก็บีบให้ติงปู้ซานกับติงปู๋ซื่อถอยหลังไปไกลเช่นกัน ขณะเดียวกันยังส่งผลกระทบต่อเขาน้อยมากด้วย
ในจำนวนนั้น มีเพียงควันหลงที่หลงเหลือจากหินตกสองก้อนเท่านั้นที่สร้างภาพจำให้เขาเล็กน้อย
เขาถอยหลังเบาๆ ก้าวหนึ่งทันที เท่านั้นก็หลบจากขอบเขตการโจมตีของหินลูกใหญ่ได้อย่างสบายๆ แล้ว
โครม! โครม! โครม!…
ภายใต้หินเจ็ดลูกที่ตกลงมาต่อเนื่องกัน ทำให้พื้นดินสะเทือนอยู่พักหนึ่ง
ฉากที่แผ่นดินสะท้านภูเขาสะเทือนแบบนี้ ไม่เพียงแค่หยุดการต่อสู้ของเยี่ยเว่ยหมิงกับติงปู้ซานติงปู๋ซื่อไว้ ทั้งยังทำให้กลุ่มคนที่สู้กันบนสนามต่อสู้ที่เหลือหยุดแล้วเช่นกัน
ในสนามต่อสู้อีกสองแห่ง คนที่โดดเด่นที่สุดก็ต้องเป็นอาจ่งแล้ว
เหนือความคาดหมายของเขา สำหรับความแข็งแกร่งและอ่อนแอของตัวเอง ในใจของทุกคนต่างรู้อย่างแจ่มแจ้ง
มีเพียงอาจ่งที่แม้การแสดงออกของเขาจะมั่นคงเหมือนสุนัขแก่ แต่ที่จริงในใจหวาดกลัวสุดขีด
ตอนนี้เมื่อเห็นคู่ต่อสู้หยุดโจมตีแล้ว บนใบหน้าก็เผยรอยยิ้มสดใสดุจแสงอาทิตย์ออกมาทันที ตอนกำลังจะเอ่ยปากพูดบางอย่าง จู่ๆ กลับพบว่าติงปู้ซานพี่อยู่ทางฝั่งนั้นตกใจจนกระโดดสูง จึงรีบมาขวางตรงหน้าสื่อผัวผั่วกับอาซิ่ว แล้วบอกว่า “แย่แล้ว ท่านปู่ติงปู้ซานกับติงติงตังตังตามมาแล้ว ตอนนี้ข้ากำลังจะแย่แล้ว”
สื่อผัวผั่วเห็นอาจ่งมองติงปู้ซานเหมือนหนูเจอแมว ความโกรธก็ปะทุขึ้นมาทันที “ก็แค่ติงปู้ซานเท่านั้น เจ้าจะกลัวเขาทำไมกัน”
อาจ่งกลับตอบเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ “ท่านยาย ท่านไม่รู้หรอก ท่านปู่ติงปู้ซานนั่นร้ายกาจมาก ขนาดติงติงตังตังยังเก่งกว่าข้าตั้งเยอะ ถ้าข้าถูกพวกเขาจับได้ พวกเขาต้องมัดข้าเป็นบ๊ะจ่างอีกรอบแล้วโยนลงแม่น้ำให้ตะพาบกินแน่!”
ทว่าในความเป็นจริง ตอนนี้ติงปู้ซานไม่มีอารมณ์มาสนใจเขาแล้ว
ก่อนหน้านี้เกือบถูกหินที่ตกลงจากฟ้าทับแบนเป็นขนมเปี๊ยะไส้เนื้อ ตอนนี้ติงปู้ซานกำลังเงยหน้ามองฟ้า แล้วตะโกนด่ากราด
คำสบถต่างๆ นานาพ่นออกจากปากเขาราวกับปืนกล พ่นออกมาต่อเนื่องไม่หยุด
แต่ติงปู๋ซื่อกลับจำได้ว่าผู้ที่มาคือโหยวโหยววีรสตรีขี่อินทรีขาว จึงตะโกนบอกทันทีว่า “นางหนูนี่ ก่อนหน้านี้ละทิ้งภารกิจกลางคันก็ว่าแย่แล้ว ตอนนี้ทำไมยังเห็นคนนอกดีกว่าคนใน ช่วยคนนอกรังแกคนฝ่ายตัวเองอีก”
“ใครเป็นพวกเดียวกับท่าน” บนท้องฟ้า โหยวโหยวกำลังขี่อินทรีขาวเสี่ยวไป๋ นางตอบอย่างภูมิใจว่า “ที่ก่อนหน้านี้ข้าช่วยท่าน ก็เป็นเพราะทำภารกิจเท่านั้น ทุกคนต่างได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว!”
“ตั้งแต่ตอนที่ข้าเริ่มทิ้งภารกิจ ก็เท่ากับยกเลิกสัญญาโดยสมบูรณ์แล้ว ระหว่างข้ากับท่านไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก…
…แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับเป็นสหายที่ดีของข้าโหยวโหยว…ท่านว่าข้าควรจะช่วยใครล่ะ”
ขณะที่พูด ก็มีท่อนไม้กลมๆ สองแท่งและไหใหญ่หนึ่งใบตกลงมาจากฟ้า ตาเฒ่าประหลาดสองคนรีบหลบ
ตุ้บ! ตุ้บ! โครม!…
หลังจากเกิดเสียงดังเหมือนภูเขาสะเทือนแผ่นดินสะท้าน ไหใหญ่ใบนั้นก็ตกกระแทกลงบนหินก้อนใหญ่ที่เพิ่งตกลงก่อนหน้านี้ ไหที่ทำจากกระเบื้องเคลือบชนกระแทกกับหินที่แข็งแรง แตกละเอียดเป็นผุยผงทันที
จากนั้นก็มีควันสีขาวกระจายออกมาจากไหแตกใบนั้นพักหนึ่ง ควันกระจายเข้าไปใกล้ปู้ซานปู๋ซื่อ
ติงปู้ซานเห็นสถานการณ์แล้วตกใจ รีบตะโกนเสียงดังว่า “ระวังพิษ!” จากนั้นเขากับติงปู๋ซื่อก็รีบถอยไปไกลพร้อมกัน
เยี่ยเว่ยหมิงเห็นแล้วกลับตาเป็นประกาย จากนั้นมือซ้ายก็งอนิ้วคำนวณ พร้อมชี้ปลายกระบี่ไปที่ติงปู๋ซื่อไกลๆ “โหยวโหยว ไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดทำร้ายข้า ข้าหมื่นพิษไม่กล้ำกราย โยนพิษใส่ข้าได้เลย!”
เยี่ยเว่ยหมิงพูดประโยคนี้เแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ต่อให้เขาจะหมื่นพิษไม่กล้ำกรายจริงๆ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายอยู่ห่างจากเจ้าระยะหนึ่งไม่ใช่หรอกหรือ ตอนนี้นางใช้พิษโจมตีเจ้า แล้วจะสร้างภัยคุกคามให้พวกเขาสองคนได้อย่างไร
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นมาได้ยินประโยคนี้จะต้องลังเลแน่ๆ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองวินาทีกว่าจะเข้าใจ แต่คิดได้ว่าเพราะมี ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ถึงได้ทำแบบนี้
แต่โหยวโหยวกลับเป็นข้อยกเว้น แม้นางจะนึกถึงประเด็นสำคัญไม่ได้ในทันที แต่เพราะความเชื่อใจที่มีต่อเยี่ยเว่ยหมิง นางจึงทำตามที่เยี่ยเว่ยหมิงบอกในทันที โยนไหยาพิษสองใบลงมาจากฟ้าแล้ว
ลักษณะของทหารเลือดเหล็กที่เฉียบขาดและรวดเร็ว ตอนนี้นางเผยมันออกมาจนหมด!
ซึ่งตอนนี้เอง ติงปู๋ซื่อที่ถูกกระตุ้นด้วย ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ก็พุ่งเข้ามาสังหารเยี่ยเว่ยหมิงโดยไม่สนใจอะไรแล้วเช่นกัน”ฮณ๊ฯดฯฌซ,
ติงปู้ซานเห็นน้องชายตัวเองถูกเยี่ยเว่ยหมิงควบคุมด้วยการยั่วโมโห ตอนนี้จึงไม่สนใจอันตรายแล้ว รีบก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แต่กลับไม่ได้ขนาบโจมตีเยี่ยเว่ยหมิงร่วมกับติงปู๋ซื่อ เขาถ่ายทอดพลังไปที่สองเท้า และทะยานร่างขึ้นมา จากนั้นก็วิชามืออันยอดเยี่ยมอย่าง ‘วิชามือคว้าจับสกุลติง’ รับไหสองใบที่บรรจุยาพิษไว้เต็มจากกลางอากาศ
เมื่อเห็นตาเฒ่าประหลาดสองคนแสดงปฏิกิริยาต่างกันลิบลับ เยี่ยเว่ยหมิงก็ยกมุมปากเผยรอยยิ้มดูถูก
จากนั้นเขาก็หยุดการคำนวณ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ อย่างไม่ลังเล พร้อมทั้งออกแรงที่สองเท้า ใช้ท่าร่าง ‘ทะยานบันไดเมฆา’ ไล่ตามติงปู้ซานที่กระโดดขึ้นฟ้านำมาก่อน แล้วใช้กระบี่รอยมังกรโจมตีด้วยท่า ‘กวาดหิมะต้มชา’ ปาดกระบี่ไปที่คอหอยของติงปู้ซานในแนวราบ!
ตอนนี้สองมือของติงปู้ซานกำลังอุ้มไหยาพิษ ไม่อาจต้านทานได้เลย ทำได้เพียงเอนตัวไปข้างหลังสุดกำลัง จึงหลบกระบี่ปาดคอหอยจากเยี่ยเว่ยหมิงได้อย่างหวุดหวิด
ทว่าเยี่ยเว่ยหมิงที่มีนิสัยวางแผนก่อนปฏิบัติ ในเมื่อลงมือแล้ว เขาก็ย่อมไม่ใช่แค่ท่า ‘กวาดหิมะต้มชา’ โจมตีแน่
ตอนที่ติงปู้ซานหลบกระบี่ของเขา ฝ่ามือซ้ายของเขาก็มีเสียงมังกรคำรามน่ากลัวที่ก้องฟ้าดังขึ้นแล้ว!
กรรร!
ท่ามกลางเสียงมังกรคำรามที่เกือบทำให้หูหนวก ท่า ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ ที่มีประสิทธิภาพที่สุดและเกริกก้องที่สุดใน ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ก็ถูกฟาดออกมาจากฝ่ามือเดียวของเขา ฟาดไปตรงกลางระหว่างไหยาพิษสองใบในมือติงปู้ซานอย่างแม่นยำทันที
จากนั้น พลังฝ่ามือรูปมังกรสีฟ้าใสก็พ่นออกจากฝ่ามือ ทำให้ติงปู้ซานพร้อมทั้งไหยาพิษสองใบในมือเขาจมหายไปพร้อมกัน!
-44866
ไหยาพิษสองใบลดดาเมจได้ไม่มากนัก ฝ่ามือนี้จึงไม่ต่างอะไรกับการตบจริงบนตัวติงปู้ซาน
พอติงปู้ซานถูกโจมตีครั้งนี้ ก็กระอักเลือดสดคำใหญ่ออกมาทันที ก่อนที่ร่างจะกระเด็นถอยหลังออกไป ก็ยังสูดผงพิษที่ยังไม่ทันสลายเข้าไปคำใหญ่ด้วย
ถูกพิษ!
ที่จริงแล้ว ในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ไม่ว่าจะเป็น ‘พิษ’ หรือ ‘ยา’ ถึงแม้จะไม่ใช่ทุกชนิดจะราคาแพง แต่ก็ไม่ถือว่าราคาถูกแน่นอน
ดังนั้นการนำยาพิษหนึ่งไหมาใช้งานเป็นลูกระเบิดแบบนี้ อย่าว่าแต่โหยวโหยวเลย ไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นผู้เล่นคนไหนก็แบกรับความสิ้นเปลืองทางต้นทุนที่น่ากลัวแบบนี้ไม่ไหว
ดังนั้นในสุราไหนี้ นอกจากยาพิษจำนวนเล็กน้อยแล้ว ที่มากกว่านั้นกลับเป็นผงหินแร่ราคาถูกบางชนิดที่ช่วยให้ระเหยออกมา
ผงหินประเภทนี้จัดเป็นสูตรลับเฉพาะของโหยวโหยว มีเพียงนางคนเดียวที่รู้วิธีผสม เนื่องจากราคาถูก จึงใช้ประโยชน์ไม่ได้มาก ตัวมันเองไม่มีพิษ แต่เมื่อผสมอยู่ในยาพิษแล้ว ก็จะทำให้พิษกระจายไปรอบๆ ในรูปแบบอากาศอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น ควันพิษที่ติงปู้ซานสูดเข้าไปแม้จะเข้มข้นมาก แต่ก็สร้างดาเมจไม่ถึงแก่ชีวิต
หลังจากถูกพิษแล้ว จะลดค่าสเตตัสโดยรวมของเขาแค่ประมาณยี่สิบเปอร์เซนต์เท่านั้น
ซึ่งตัวเลขนี้เกือบเป็นขีดจำกัดสูงสุดของยาพิษประเภทนี้แล้ว ต่อให้ติงปู้ซานสูดเข้าไปมากกว่านี้ แต่พิษก็แรงกว่านี้ไม่ได้อยู่ดี
ขณะเดียวกัน ติงปู๋ซื่อที่อยู่บนพื้นก็พุ่งไปที่เท้าของเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว ตอนนี้เขากำลังถูหมัดกับฝ่ามือ เตรียมจะหาโอกาสโจมตีโหดๆ สักครั้ง
เยี่ยเว่ยหมิงเห็นดังนั้นกลับโคจรปราณแท้ หมุนตัวกลางอากาศหนึ่งที แล้วพุ่งลงมาหาติงปู้ซานโดยเอาหัวลง แสงสะท้อนคมของกระบี่รอยมังกรกลืนเข้าคายออก ฟันติงปู๋ซื่อที่อยู่ข้างล่างต่อเนื่องเจ็ดกระบี่!
ติงปู๋ซื่อผู้น่าสงสาร เดิมทียังคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายได้เปรียบมากอยู่เลย แต่ตอนที่อยู่ภายใต้คมของ ‘ท่ากระบี่ร่วง’ กลับถูกคมกระบี่ของเยี่ยเว่ยหมิงกวาดค่าพลังชีวิตไปจำนวนมาก
……
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเห็น BOSS ทั้งสองถูกเยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวร่วมมือกันโจมตีจนสภาพจนตรอก เซี่ยวเฉินกับตู๋กูฉิวเพี่ยวก็สบตากันแวบหนึ่ง แต่กลับเริ่มสื่อสารกันในช่องทีมอย่างรวดเร็ว
ตู๋กูฉิวเพี่ยว [ข้ารู้สึกว่าที่โหยวโหยวพูดก่อนหน้านี้ยังไม่แม่นยำมากพอ เยี่ยเว่ยหมิงคนนี้สู้สูสีกับติงปู๋ซื่อตรงไหนกัน ตอนที่มีคนให้ความร่วมมือ เขาน่ากลัวกว่าติงปู้ซานกับติงปู๋ซื่อตั้งเยอะ!”
เซี่ยวเฉิน [เป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ไหว พวกเราต้องคิดหาทาง ไม่อย่างนั้นวันนี้ทุกคนคงได้ตายที่นี่หมด!]
ตู๋กูฉิวเพี่ยว [เจ้ามีวิธีการอะไร]
เซี่ยวเฉินเผยรอยยิ้มเล็กน้อย มองสื่อผัวผั่วกับอาซิ่วที่ถูกคุ้มครองอยู่ข้างหลังอาจ่งแวบหนึ่ง แล้วส่งข้อความในช่องทีมอีกครั้ง [ตอนนี้ถ้ามองจากภายนอก พวกเราเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่นอน แต่ถ้าในกระบวนทัพของอีกฝ่ายยังมีจุดอ่อนที่แน่นอนอีกสองคน โดยเฉพาะเด็กสาวที่ชื่ออาซิ่ว เห็นได้ชัดว่านางเป็นนคนที่สือพั่วเทียนสนใจที่สุด อีกประเดี๋ยวเจ้าถ่วงเวลาเขาไว้ก่อน แล้วข้าจะไปจับตัวอาซิ่ว พอเป็นแบบนี้ พวกเราก็มีเบี้ยไปเจรจากับพวกเขาแล้ว]
ตู๋กูฉิวเพี่ยวส่ายหน้ายิ้มเจื่อน [น่าเสียดายที่ภารกิจของพวกเรา…]
[ไม่!] เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างมั่นใจในตัวเอง [สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ขอแค่พวกเรากู้สถานการณ์ได้ ก็จะกลายเป็นผู้มีพระคุณของปู้ซานปู๋ซื่อ เจ้ายังกลัวว่าจะไม่มีรางวัลภารกิจให้รับอีกหรือ]
[ก็ได้! ทำตามที่เจ้าบอก!]
ทางด้านนี้ สองคนเพิ่งจะตัดสินใจกลยุทธ์ แต่จู่ๆ กลับพบว่ามีเงาสีแดงแฉลบผ่านตรงหน้า จากนั้นพอเข็มพิษตกลงบนศีรษะของเซี่ยวเฉิน ก็มีตัวเลขคริติคอลดาเมจจำนวนมากลอยขึ้นมา!
-16662!
เมื่อตัวเลขลอยขึ้นมา เซี่ยวเฉินที่เดิมทีเหลือพลังชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งก็ถูกกวาดพลังชีวิตหมดเกลี้ยงทันที ร่างกายกลายเป็นแสงสีขาวสายหนึ่ง ถูกส่งตัวไปรายงานตัวที่จุดคืนชีพตรงไหนก็ไม่รู้…