ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 530 ตรวจนับผลตอบแทน
ตอนที่ 530 ตรวจนับผลตอบแทน
คนโบราณกล่าวไว้ว่า พระเอกชนะเพราะมีเกราะคลุมปาก ตัวร้ายตายเพราะพูดมาก
แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะมั่นใจในคุณสมบัติที่มีเมตตาไร้ความเห็นแก่ตัวของตัวเอง มั่นใจในค่าวีรบุรุษที่สูงถึง 5300+
แต่ตอนที่ผลแพ้ชนะถูกตัดสินแล้ว เขาก็ไม่มีอารมณ์มาสิ้นเปลืองคำพูดกับกระเป๋าค่าประสบการณ์ใบหนึ่งเช่นกัน
เสียงมังกรคำรามดังขึ้น ท่าไม้ตายก็เตรียมไว้แล้วเช่นกัน
ทว่า ตอนที่เขาเตรียมจะตบศีรษะมารเฒ่าที่หายใจรวยรินอยู่ตรงหน้า จู่ๆ กลับได้ยินเสียงลมที่ไม่เป็นมิตรดังมาจากข้างหลัง!
ไม่ต้องลังเลใดๆ เยี่ยเว่ยหมิงอาศัยการตอบสนองโดยสัญชาตญาณของร่างกายผู้ฝึกยุทธ์ถลันตัวหลบ แต่กลับเห็นแสงเย็นของดาบจันทราหิมะเงินกวาดผ่านตรงหน้าเขาพอดี
จากนั้น ก็ฟันคอติงปู้ซานอย่างแรง
-17625!
[ติ๊ง! ทีมของคุณโจมตีสังหารติงปู้ซาน BOSS เลเวล 96 ตาย ได้รับรางวัล: ค่าประสบการณ์ 5000000 ค่าตบะ 130000!]
[ประกาศระบบ: ผู้เล่นเยี่ยเว่ยหมิง สำนักมือปราบเทพ…]
เมื่อเห็นว่าตัวเองแย่งฆ่าติงปู้ซานสำเร็จแล้ว น้องดาบก็หันกลับมาแลบลิ้นทำหน้าล้อเลียนตน เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกพูดไม่ออกนิดหน่อย
เรื่องประเภทการแย่งฆ่าบอสจัดเป็นสิ่งที่นิยมทำที่สุดระหว่างผู้เล่นจากทีมที่ต่างกัน หรือผู้เล่นที่ไร้ทีม เพราะถ้าแย่งโจมตี BOSS ตายเป็นคนสุดท้ายได้ ก็จะส่งผลกระทบว่าไอเทมดรอปจะไปตกอยู่ที่ใคร
แม้จะอยู่ในทีมเดียวกัน ถ้าอยู่ในโหมดแบ่งไอเทมตามผลงาน แม้โอกาสที่จะได้รับส่วนแบ่งจะถูกหดลงอย่างไร้ขีดจำกัด แต่นั่นก็มีผลเล็กน้อยเท่านั้น
ในสถานการณ์ตอนนี้กลับเป็นแบบอยู่ในทีมเดียวกัน ทั้งยังเป็นโหมดแบ่งไอเทมตามหัวหน้าทีมด้วย
การแย่งฆ่าบอสในสถานการณ์แบบนี้ นอกจากจะเติมเต็มศักดิ์ศรีจอมปลอมแล้ว ก็ไม่มีข้อดีใดๆ อย่างอื่นเลย
แต่ดูจากท่าทางของน้องดาบ เป้าหมายของนางก็เหมือนจะเพื่อเติมเต็มศักดิ์ศรีจอมปลอมของตัวเองจริงๆ?
โหยวโหยวก็เหมือนเยี่ยเว่ยหมิง ไม่ค่อยเข้าใจการแย่งฆ่าบอสที่ไร้ความหมายของน้องดาบ แต่นางก็ไม่สนใจที่จะหาคำตอบ นางถามคำถามที่นางสนใจมากกว่า “ก่อนหน้านี้พวกเจ้าสองคนไม่ลงมือสังหารติงปู้ซาน แต่กลับเก็บเขาที่อาการร่อแร่ไว้ข้างกาย ทำเช่นนี้เพียงเพื่อจะถ่วงเวลาให้พวกสะพานสวรรค์น้อยกำจัดร่างแท้ของติงตังอย่างนั้นหรือ”
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้าเบาๆ “พวกสะพานสวรรค์น้อยรับภารกิจพิเศษมา แต่เพราะสาเหตุบางอย่าง ทำให้ต้องสังหารร่างแท้ของติงตังโหมดปกติ ต้องกำจัดการมีอยู่ของนางในเกมให้สิ้นซาก ถึงจะทำภารกิจสำเร็จได้…
…ดังนั้น ข้าจึงให้นางกับมั่วหร่านไปดักรออยู่ใกล้ๆ บ้านสกุลติงลิ่วเหอล่วงหน้า รอให้พวกเรากำจัดติงตังโหมดภารกิจแล้ว พวกนางสองคนก็จะบุกไปล้อมโจมตีร่างแท้ของติงตัง”
พอพูดถึงตรงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็อดยกมุมปากยิ้มไม่ได้ “ที่จริงสิ่งที่พวกเราทำก็คือการเดิมพัน เดิมพันว่าหลังจากติงตังตายแล้ว จะถูกรีเฟรชออกมาในบ้านอีกไหม หรือจะรีเฟรชออกมาจากที่อื่น…
…แม้ในทางทฤษฎีจะมีความเป็นไปได้สูง แต่ก็ไม่อาจตัดความเป็นไปได้อย่างอื่นเช่นกัน แต่ก็ยังดีที่พวกเราเดิมพันได้ถูกต้องแล้ว”
ตอนนี้น้องดาบกล่าวเสริมว่า “ในเมื่อติงตังตายแล้วจะถูกรีเฟรชออกมาจากบ้านเดิม แต่ถ้าพูดตามทฤษฎี หลังจากติงปู้ซานตายแล้ว ก็จะต้องรีเฟรชอยู่ในนั้นเหมือนกันแน่ๆ ด้วยศักยภาพของสะพานสวรรค์น้อยกับมั่วหร่าน ทั้งยังมีอาวุธล้ำค่ากระบี่คมที่เจ้ามือปราบหน้าเหม็นให้พวกนางไว้ ถ้าอยากจะฆ่าติงตังให้ตายก็ง่ายมากจริงๆ แต่ถ้าเพิ่มติงปู้ซานไปด้วยอีกคน ใครจะฆ่าใครกันแน่ก็ยังไม่รู้เลย”
ตอนนี้โหยวโหยวถึงได้เข้าใจ “ดังนั้น พวกเจ้าถึงตัดสินใจทำให้ติงปู้ซานพิการก่อนโดยยังไม่ฆ่า รอจนพวกสะพานสวรรค์น้อยกำจัดร่างแท้ของติงตังและออกจากบ้านสกุลติงไปอย่างปลอดภัยก่อน เจ้าค่อยฆ่าติงปู้ซาน?”
“ความจริงเป็นอย่างนี้ เพราะติงปู๋ซื่ออยู่ห่างจากเกาะปี้หลัวไม่ไกล ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับติงปู้ซานและติงตังจึงฆ่าได้ แต่ถ้าจะฆ่าติงปู้ซาน กลับต้องรอให้มีประกาศระบบนี้ก่อนถึงจะฆ่าได้” หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงอธิบายวิธีการเล่นของตัวเองแล้วก็หันมาบอกน้องดาบว่า “ตามที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ ครั้งนี้ถึงคราวเจ้าคลำศพแล้ว”
น้องดาบได้ยินแล้วกลับขยิบตา “ก่อนหน้านี้ข้าแย่งติงปู้ซานมาจากมือเจ้า เจ้าไม่เคยคิดแย่งโอกาสคลำศพคืนเพื่อล้างแค้นบ้างหรือ”
สำหรับวิธีคิดแบบนี้ของน้องดาบ เยี่ยเว่ยหมิงวิจารณ์อย่างตรงจุดว่า “เด็กน้อย!”
น้องดาบโต้กลับไม่ถอย “น่าเบื่อ!”
หลังจากพูดหยอกกันสองประโยค น้องดาบก็เตะศพติงปู้ซาน
[วิชามือคว้าจับสกุลติง (ระดับกลาง): …]
[หมัดสกุลติงลิ่วเหอ (ระดับกลาง): วิชาหมัดที่ถ่ายทอดจากสกุลติงลิ่วเหอ มีความพิเศษ เงื่อนไขการฝึก: …]
[กล้องยาสูบลิ่วเหอ (ทองคำ): ของเลียนแบบที่ติงปู้ซาน ยอดฝีมือสกุลลิ่วเหอพกติดตัวไว้ ใช้แทนวิชาดาบหรือเคล็ดกระบี่ได้]
โจมตี +350
ป้องกัน +200 ใช้วิชาดาบหรือเคล็ดกระบี่ จะแสดงประสิทธิภาพของอาวุธได้ 90%
[ชุดสกุลติงลิ่วเหอ (อาวุธล้ำค่า): …]
[รองเท้าสกุลติงลิ่วเหอ (อาวุธล้ำค่า): …]
[สุราเพลิงหยกน้ำแข็งลึกลับ: เป็นสุราที่เทพสุราจั่วปั๋วเยี่ยนใช้สมุนไพรล้ำค่าหลายชนิดหมัก มีฤทธิ์ปรับสมดุลหยินหยาง]
[สูตรหมักสุราเพลิงหยกน้ำแข็งลึกลับ: สูตรหมักสุรา ถ้าหมักตามสูตรนี้จะได้ ‘สุราเพลิงหยกน้ำแข็งลึกลับ’ ที่มีสรรพคุณปรับสมดุลหยินหยาง]
[เงิน: 1140 เหรียญทอง!]
……
ในบรรดาไอเทมดรอปของติงปู้ซานและติงปู๋ซื่อมีซ้ำกันเยอะขนาดไหน ยกตัวอย่างเช่นค่าสเตตัสของ ‘ชุดสกุลติงลิ่วเหอ’ และ ‘รองเท้าสกุลติงลิ่วเหอ’ เหมือนกับ ‘ชุดลิ่วเหอ’ และ ‘รองเท้าลิ่วเหอ’ ที่ดรอปจากติงปู๋ซื่อทุกอย่าง ดังนั้นสาเหตุที่ชื่อต่างกัน ก็คงเป็นเพราะอาวุธล้ำค่ามีได้เพียงชิ้นเดียวกระมัง แต่ถ้ามองจากภาพรวม อัตราการดรอปของติงปู้ซานก็เยอะกว่าของติงปู๋ซื่ออยู่เล็กน้อย แม้เงินจะน้อยกว่าประมาณหนึ่งพันเหรียญทอง แต่เขากลับดรอปของเยอะกว่า
หลังจากดรอปไอเทมทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็นำโลงไม้หนานมู่ออกมาเก็บศพของติงปู้ซาน จากนั้นกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ในที่สุดตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงต่อไปได้แล้ว เป็นช่วงแบ่งของที่ทำให้คนใจเต้น!”
ตอนนี้น้องดาบคอยแขวะอยู่ข้างๆ “จะว่าไปแล้ว ไอเทมดรอปของปู้ซานปู๋ซื่อก็นับว่าไม่เลว แต่น่าเสียดายอยู่อย่างเดียว ติงปู๋ซื่อไม่ได้ดรอปแส้มังกรทองนั่น ไม่อย่างนั้นถ้านำแส้กับตำราลับไปขายพร้อมกันก็คงจะได้ราคาดีแน่”
แส้ของติงปู๋ซื่อ?
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วอึ้ง จากนั้นหยิบกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงที่พันด้วยแส้เก้าข้อสีทองออกมา “นี่เจ้าหมายถึงสิ่งนี้หรือเปล่า”
ถึงแม้วิธีการได้แส้เส้นนี้มาจะเหนือความคาดหมายไปบ้าง แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่คิดจะปิดบัง
ถึงอย่างไรก็เป็นอย่างที่น้องดาบบอก
แส้มังกรทองเส้นนี้มีแต่ต้องขายพร้อม ‘วิชาแส้มังกรทอง’ เท่านั้นถึงจะได้สมราคา
ถ้าขายแยกชิ้นเดียว ราคาตลาดของสองสิ่งนี้ก็ต่ำกว่าราคาของอย่างอื่นหนึ่งระดับ
เยี่ยเว่ยหมิงแกะแส้มังกรทองออกจากตัวกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดง เแล้วส่งค่าสเตตัสเข้าไปในช่องทีม
[แส้มังกรทอง (อาวุธล้ำค่า): อาวุธประจำกายของติงปู๋ซื่อ ยอดฝีมือสกุลลิ่วเหอ หนึ่งในอาวุธฉีเหมินที่หายาก]
โจมตี +600
กำลังภายใน+50%
เลเวลวิทยายุทธ์อาวุธฉีเหมิน +1!
แส้เส้นหนึ่งที่ไม่มีจุดเด่นอะไร ในสายตาของทั้งสาม ประโยชน์สูงสุดของไอเทมชิ้นนี้ก็คือนำมาเปลี่ยนเป็นเงินได้เล็กน้อยเท่านั้น
เนื่องจากแผนที่ของเกาะควันม่วงไม่ได้ใหญ่มาก ผู้เล่นห้าคนในทีมแม้แยกย้ายกัน แต่ก็ยังรักษาโหมดทีมเดียวกันได้อยู่ดี ถึงขั้นว่าแม้แต่รางวัลฆ่ามอนสเตอร์ก่อนหน้านี้ก็แบ่งกันได้ ตอนนี้ขอเพียงเยี่ยเว่ยหมิงที่เป็นหัวหน้าทีมเอ่ยคำเดียว ทั้งสองก็ต้องตามมายังพิกัดที่เขาส่งให้ทันที เตรียมตัวเริ่มนั่งแบ่งของที่ชวนให้ใจเต้น