ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 549 เคล็ดกระบี่งูทอง
ตอนที่ 549 เคล็ดกระบี่งูทอง
ทุกครั้งที่เยี่ยเว่ยหมิงโยนคำถามออกไป หกคนที่อยู่ตรงหน้าก็จะมีสีหน้าแย่ลงหนึ่งส่วน หลังจากเขาอธิบายจบแล้ว ทั้งหกก็มองเขาด้วยสายตาที่เหมือนมองสัตว์ประหลาด
มือปราบของสำนักมือปราบเทพคนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าอาศัยแค่เบาะแสที่พวกเขาเผยในปฏิบัติการก่อนหน้านี้เพียงนิดเดียว ก็วิเคราะห์ปัญหาได้ถึงขั้นนี้แล้ว
เจ้าหมอนี่ เยือกเย็นเกินไปแล้วมั้ง!
เยือกเย็นจนน่ากลัว!
แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเขาก็ไม่ได้กลัวเยี่ยเว่ยหมิงจริงๆ หรอก
ต่อให้เจ้าวิเคราะห์เก่งกว่านี้แล้วอย่างไรเล่า
เหตุเกิดขึ้นแล้วจูเก๋อเลี่ยงค่อยมา[1]ก็เท่านั้นเอง!
หากตัวเจ้าอยู่ในเหตุการณ์ตอนที่พวกเราเคลื่อนไหว บางทีอาจจะค้นพบล่วงหน้าและทำลายแผนการได้ก่อน
แต่ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างถูกกำหนดแล้ว เริ่มตั้งแต่ตอนที่พวกซานเย่ว์พาพวกหลิวเจิ้งเฟิงเข้ามาในถ้ำชิงอิน แผนลับก็กลายเป็นแผนโจ่งแจ้งแล้ว
ต่อให้เจ้ามองทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง แต่ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเรื่องราวใดๆ ได้อยู่ดี
เพราะที่ถ้ำชิงอินแห่งนี้มีทางออกเพียงทางเดียว!
พวกเขาไม่คิดว่าเมื่ออยู่ในสถานการณ์นี้ เยี่ยเว่ยหมิงจะยังมีความสามารถปกป้องหลิวเจิ้งเฟิงกับฉวี่หยางที่สูญเสียพลังต่อสู้ไปแล้วให้ฝ่าวงล้อมนับร้อยของพวกเขาออกมาได้
ส่วนที่บอกว่าจะคุ้มกันส่ง NPC ที่ถูกตีจนยับเยินกลับไปยังที่ปลอดภัยเพื่อจบภารกิจ นั่นก็ยิ่งเป็นเรื่องน่าขำ!
“ฮ่าๆๆ…อยากรู้จุดประสงค์ของพวกเรา?” หลังจากเสริมความมั่นใจอีกนิดหน่อย เลี้ยงบาสลงห่วงที่เป็นหัวหน้าก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เจ้าเดาเก่งมากไม่ใช่หรือ เช่นนั้นเจ้าก็ลองเดาดูสิ ว่าจุดประสงค์ของพวกเราคืออะไรกันแน่”
“ไม่ยอมบอก?” เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่สื่อว่าไม่เป็นไร “ที่จริงต่อให้พวกเจ้าไม่บอกก็ไม่เป็นไรเหมือนกัน เพราะดูจากสีหน้าพวกเจ้าก่อนหน้านี้ ข้าก็ได้คำตอบที่ต้องการแล้ว…
…แม้ข้าจะไม่มีทางเดาออกว่าเป้าหมายสุดท้ายของพวกเจ้าคืออะไร แต่อย่างน้อยสีหน้าของพวกเจ้าก็บอกข้าแล้ว ว่าการอนุมานของข้าก่อนหน้านี้ถูกทุกกอย่าง ไม่มีคลาดเคลื่อน!”
เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงพูดแบบนี้ หกคนที่อยู่ตรงหน้าก็สีหน้าแย่กว่าเดิม
บางครั้งข้อมูลสำคัญบางอย่างไม่ได้เผยออกมาตอนพูดอย่างเดียว แต่ตอนที่ฟังเฉยๆ ก็เปิดเผยบางอย่างออกมาได้ง่ายเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่นเยี่ยเว่ยหมิง ตัวเองพูดเอง ปล่อยให้อีกฝ่ายฟังเงียบๆ เพียงอาศัยสีหน้าที่อีกฝ่ายเผยให้เห็นโดยไม่รู้ตัวหลังจากได้ยินบางอย่าง แล้วก็วิเคราะห์ข้อมูลที่ตัวเองต้องการ ที่จริงก็ไม่ใช่วิธีการที่เหนือชั้นอะไรเช่นกัน
ในพจนานุกรม ถึงขั้นกำหนดคำนามสำหรับการกระทำนี้โดยเฉพาะ นั่นก็คือ…หยั่งเชิง!
ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าการหยั่งเชิงของเข้าครั้งนี้ประสบความสำเร็จมาก
อย่างไรเสีย แต่ละอย่างที่เขาวิเคราะห์ออกมาก่อนหน้านี้ ก็เป็นเพียงบทสรุปที่วิเคราะห์โดยอิงจากข้อมูลส่วนหนึ่งที่เขารู้ก่อนหน้านี้เท่านั้น อาศัยการสรุปอย่างนี้ เยี่ยเว่ยหมิงไม่กล้ารับประกันความถูกต้องของมันเลย
เพราะในการอนุมานแบบนี้ มีความเป็นไปได้สูงมากกว่าจะวิเคราะห์ไปในทิศทางตรงกันข้ามเพราะขาดข้อมูลบางอย่างไป
แต่ดูจากปฏิกิริยาของทั้งหกคน การวิเคราะห์ของเขาก่อนหน้านี้คงถูกต้องไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ฝั่งเยี่ยเว่ยหมิงแสดงออกว่าพอใจกับผลการเจรจาสุดๆ แต่ฝั่งตรงข้ามกลับไม่สบอารมณ์แล้ว
คนที่กลั่นแกล้งก่อนก็คือสาวน้อยที่สวมชุดชนเผ่าสีฟ้าอ่อน เห็นนางพลันก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วบอกว่า “ในเมื่อเจ้าแน่ใจขนาดนี้ว่าจุดประสงค์ของพวกเราไม่ใช่การฆ่าคน เช่นนั้นเจ้ากล้ายืนอยู่เฉยๆ ให้ข้าแทงสักกระบี่หรือไม่”
ขณะที่พูด สาวน้อยคนนี้ก็เรียกกระบี่ล้ำค่าสีเงินที่คดเคี้ยวเหมือนงูออกมาจากกระเป๋าหนึ่งเล่ม จากนั้นก้าวขึ้นมาข้างหน้าตามเแนวโค้ง ก้าวเดียวถึงข้างกายเยี่ยเว่ยหมิง กระบี่ล้ำค่าในมือกลายเป็นแสงสีเงิน แทงตรงไปยังลำคอของเขา!
เคล็ดกระบี่ของนางเป็นแนวทางที่ประหลาดและโหดร้ายเช่นเดียวกัน แต่หากเทียบกับ ‘ท่าปลุกปั่นกระบี่’ และ ‘เคล็ดกระบี่พิชิตมาร’ ของเชิญร่ำสุรา ในด้านความประหลาดของกระบวนท่ากลับสูสีกับทั้งสองคน แต่ตอนออกกระบี่โจมตีกลับขาดความว่องไวไปหลายส่วน แต่มีความโหดเพิ่มขึ้นมาหลายส่วน
ส่วนด้านประสิทธิภาพโดยรวม ก็แค่สู้ทั้งสองไม่ได้นิดหน่อยเท่านั้น แต่ไม่ต่างกันมากแน่นอน
เมื่อเห็นฝีมือของผู้หญิงคนนี้ ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่กล้าเมินเฉยแม้แต่น้อย รีบนำกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วใช้ท่า ‘กวาดหิมะต้มชา’ ปัดกระบี่รูปงูในมืออีกฝ่ายออกไป พร้อมตอบคำถามนางด้วยน้ำเสียงสงบเยือกเย็น “มิกล้า”
ขณะเดียวกันนี้เอง ข้อความจากถังซานไฉ่ก็เด้งอยู่ในช่องทีม [น้องสาวคนสวยคนนี้ชื่อว่าเงาใจภูต มาจากนิกายเบญจพิษเผ่าเหมียว เหมือนจะเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของนิกายเบญจพิษ แน่นอนว่าผู้เล่นที่ข้ารู้จักมีจำกัด จุดนี้ข้ายืนยันไม่ได้…ดฮณ๊ฯดฯฌซ,
…แต่นอกจากความสามารถในการใช้พิษที่ยอดเยี่ยมของนาง เคล็ดกระบี่ของนางก็รวดเร็วดุดันสุดๆ เช่นกัน ได้ยินว่าทักษะยุทธ์ของนางชื่อ ‘เคล็ดกระบี่งูทอง’ อาวุธในมือนางก็คืออาวุธล้ำค่างูเงิน พลังทำลายล้างสูงมาก เจ้าต้องรับมือย่างระมัดระวัง]
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วถามกลับในช่องทีม [ทำไมเจ้ารู้ดีขนาดนี้]
[เพราะก่อนหน้านี้ข้าเคยตั้งทีมกับน้องสาวคนนี้] ถังซานไฉ่ตอบ [แล้วก็…ยอดฝีมือพิษที่ข้าเอ่ยถึงก่อนหน้านี้ ก็คือน้องสาวสวยเผ็ดคนนี้นั่นเอง]
แม้จะเห็นเพียงตัวอักษร แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับพบบางอย่างที่แตกต่างออกไปจากน้ำเสียงของอีกฝ่าย จึงพูดหยอกว่า [ฟังจากน้ำเสียงของเจ้า ทำไมข้ารู้สึกเหมือนเจ้าสนใจนางล่ะ เจ้าไม่ต้องการเฟยอวี๋แล้วหรือ]
พอโจมตีหนึ่งครั้งแล้วไม่โดนเป้าหมาย เงาใจภูตกลับอดทนไม่ยอมแพ้ นางใช้ ‘เคล็ดกระบี่งูทอง’ โจมตีต่อเนื่องหลายท่า ไล่ตีเยี่ยเว่ยหมิงไม่หยุดอยู่พักหนึ่ง
แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับอาศัยค่าสเตตัสความว่องไวที่สูงกว่ายอดฝีมือทั่วไปหนึ่งเท่ากางม่านกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ออกมาป้องกัน ขณะที่ต้านทานอย่างสะบักสะบอม เขาก็จงใจล่ออีกฝ่ายไปทางปากถ้ำชิงอิน
ขณะที่โจมตี ก็ยังส่งข้อความบอกในทีมว่า [สหายซานไฉ่ ถ้าน้องสาวคนนี้เป็นยอดฝีมือพิษในกระบวนทัพอีกฝ่าย พวกเราก็ควรจะกำจัดนางก่อน!…
…พิษประเภทหรวนกู่เซียง โดยตัวมันเองแล้วไม่ได้ร้ายกาจนัก มีแต่ต้องให้ยอดฝีมือพิษใช้มันเท่านั้น ถึงจะสร้างภัยคุกข้ามต่อยอดฝีมือที่มีกำลังภายในลึกล้ำอย่างพวกซานเย่ว์ได้…
…เมื่อครู่ตอนอยู่ในห้องลับ เฟยอวี๋แชร์ภารกิจสำนักล้างมือในอ่างทองคำให้ข้าแล้ว ตอนนี้เจอผู้เล่นที่เป็นฝ่ายรุกโจมตีอย่างนาง ระบบจะกำหนดให้เป็นขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่…
…เจ้ายังจำตอนที่อยู่เมืองฝูโจวได้หรือไม่ ข้าเคยบอกเจ้าเรื่องข้อจำกัดของสำนักมือปราบเทพ…
…หรือพูดได้อีกอย่างว่า ขอเพียงตอนนี้สังหารน้องสาวคนนี้ตาย เช่นนั้นอย่างน้อยนางก็จะต้องถูกกักตัวอยู่ในคุกใหญ่ของสำนักมือปราบเทพสองชั่วโมง…
…หากไม่มีนางคอยใช้พิษต่อเนื่อง พิษของหรวนกู่เซียงก็จะสลายไปภายในสิบนาที เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราก็จะปล่อยทุกคนออกมาได้แล้ว โอกาสชนะจะเพิ่มขึ้น…
…ตอนนี้ข้าจะล่อนางไปที่ปากถ้ำ เจ้าเตรียมตัวให้ดี หากเจอโอกาสเหมาะ ก็รวบรวมอาวุธรุมสังหารนางทันที!]
ขณะที่กำลังส่งความอย่างไม่รีบร้อน เยี่ยเว่ยหมิงก็ถูกเงาใจภูต ‘บีบ’ ให้ถอยไปอยู่ห่างจากปากถ้ำชิงอินไม่ถึงหนึ่งจั้ง
เมื่อเห็นโอกาสสุกงอกแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงเปลี่ยนจากป้องกันเป็นโจมตี กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงในมือเฉียดผ่านกระบี่งูเงินจากมุมที่แปลกประหลาดเกินคาดเดา แทงเฉียงไปตามมุมที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึงและหลบไม่พ้นจนถึงลำคอของนาง
ท่าปลุกปั่นกระบี่!
[1] เหตุเกิดขึ้นแล้วจูเก๋อเลี่ยงค่อยมา 事后诸葛亮 หมายถึงมาช้า มาสาย