ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 55 ทักษะอักษร 'คน' ของสำนักมือปราบเทพ!
ตอนที่ 55 ทักษะอักษร ‘คน’ ของสำนักมือปราบเทพ!
[ภารกิจใหญ่ของสำนักกำลังจะเปิดแล้ว รีบกลับมา!…โหยวจิ้น]ประโยคสั้นๆ บรรทัดเดียว แต่กลับทำให้เยี่ยเว่ยหมิงต้องเริ่มให้ความสำคัญ
สำหรับผู้เล่นทั่วไป ภารกิจขนาดใหญ่มักจะหมายความถึงรางวัลที่อุดมสมบูรณ์
แม้สำนักมือปราบเทพจะมีจุดที่ต่างจากสำนักอื่น แต่รางวัลภารกิจไม่น้อยแน่นอน ต่อให้ไม่มีการนำทักษะยุทธ์ของสำนักมาเป็นรางวัล แต่รางวัลอย่างอื่นก็ทดแทนให้ไม่ขาดทุนได้
สิ่งที่แตกต่างกับสำนักอื่นก็คือ ภารกิจใหญ่ของสำนักมือปราบเทพมีลักษณะเป็นคำสั่ง หากไม่เข้าร่วม ก็จะต้องถูกลงโทษตามสมควรแน่นอน
ด้วยอิทธิพลของการบริหารบุคลากรแบบทั้งให้รางวัลและลงโทษ เยี่ยเว่ยหมิงปฏิเสธคำเชิญของถังซานไฉ่อย่างไม่ลังเล ตัดสินใจจะทำภารกิจสำนักของตัวเองให้เสร็จสิ้นก่อน
เพื่อแสดงการขอโทษ เยี่ยเว่ยหมิงนอกจากมอบกุญแจอายุยืนแล้ว ก็ยังมอบตะปูเจ็ดดาวกับเข็มปากยุงอย่างละห้าชิ้นให้ถังซานไฉ่เป็นพิเศษ ล้วนเป็นประเภทที่ใช้แล้วพิษจะลดลงเยอะมาก
ในเมื่อเยี่ยเว่ยหมิงใจกว้างขนาดนี้ ถังซานไฉ่ก็รู้จักหมูไปไก่มาเช่นกัน สัญญาว่าจะให้กำไลเงินสัตว์เลี้ยงมาแลกกุญแจอายุยืนและอาวุธลับของเขาทันที
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็ดีใจมาก
เมื่อเก็บอาจ่งที่กำลังอยู่ในสถานะฟื้นฟูพลังชีวิตเข้ามิติสัตว์เลี้ยงของกำไลแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็กล่าวอำลาถังซานไฉ่ จากนั้นทั้งสองก็เดินไปยังจุดพักม้าของหมู่บ้านโบตั๋นด้วยกัน
ขณะที่เดินไป เยี่ยเว่ยหมิงก็เริ่มจัดระเบียบสิ่งที่เก็บเกี่ยวได้ครั้งนี้ กะว่าก่อนกลับถึงสำนัก จะเพิ่มความสามารถของตัวเองสักหน่อย
อย่างแรกเลยก็คือรางวัลค่าตบะ รางวัลภารกิจตอนท้ายของ BOSS สามคนรวมกัน เขาได้รับค่าตบะรวมทั้งหมดสองพันห้าร้อยห้าสิบแต้ม!
นอกจากนี้ ก็มี ‘ตระหนักรู้วิชาตัวเบา’ หนึ่งเล่ม ‘ตระหนักรู้วิชาดรรชนี’ หนึ่งเล่ม ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ หนึ่งเล่ม แบ่งเป็นของที่ได้ตอนบรรจุศพ BOSS ทั้งสามอย่างเก๋ออ๋างโส่ว จีไหลเหย่และหลินจื้อเพ่ย ปริมาณย่อมไม่ธรรมดา
[ตระหนักรู้วิชาตัวเบา: ประสบการณ์ความรู้ในการฝึกวิชาตัวเบาของมหาโจรลำน้ำคาบสมุทรเก๋ออ๋างโส่ว เมื่อใช้วิชาตัวเบาที่กำหนด จะเพิ่มค่าประสบการณ์ 1500 แต้ม!]
[ตระหนักรู้วิชาดรรชนี: ประสบการณ์ความรู้ในการฝึกวิชาดรรชนีของมหาโจรลำน้ำคาบสมุทรจีไหลเหย่ เมื่อใช้วิชาดรรชนีที่กำหนด จะเพิ่มค่าประสบการณ์ 2000 แต้ม!]
[ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่: บันทึกเคล็ดกระบี่ของมหาโจรลำน้ำคาบสมุทรหลินจื้อเพ่ย เมื่อใช้งานเคล็ดกระบี่ที่กำหนด จะเพิ่มค่าประสบการณ์ 3000 แต้ม!]
เนื่องจากคำนึงถึงวิธีการใช้ที่อาจ่งบอกก่อนหน้านี้ อาจจะได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง เยี่ยเว่ยหมิงจึงไม่รีบเปิดตำราลับตระหนักรู้สามเล่มนี้ แต่เก็บไว้ในกระเป๋าสะพายหลังก่อน เตรียมจะเจียดเวลามาอ่านช้าๆ ทีละเล่ม
ต่อไปก็เป็นของที่ดรอปได้จาก BOSS แล้ว
ของที่ดรอปได้จากเก๋ออ๋างโส่วกล่าวได้ว่าดีเกินความคาดหมาย โบนัสสเตตัสของสร้อยเซินหลัวทำให้เขาเปลี่ยนจากมือสังหารหนังกรอบกลายเป็นมือสังหารเลือดวัว[1]แล้ว ในใจคิดไปคิดมาแล้วรู้สึกว่าเทียบกับบรรดาอุปกรณ์คุณภาพทองคำแล้วก็ยังถือว่าค่อนข้างดี
ตอนนี้ต่อให้โหยวโหยวจะถือหน้าไม้เทพจูเก๋อมายิงโจมติดคริติคอลก็ฆ่าเขาไม่ได้อยู่ดี
ประมาณนั้นมั้ง…
ทักษะอาวุธลับระดับต้น ‘ขว้างดาราเหิน’ เขายังไม่ได้พิจารณาว่าจะเรียนทักษะหรือดีหรือไม่ เตรียมจะกลับไปถามโหยวจิ้นที่สำนักมือปราบเทพก่อน
สุดท้ายแม้ปลอกข้อมือชังหลานจะมีค่าสเตตัสไม่เลวเลย แต่เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าสิ่งนี้จะเป็นอุปกรณ์ที่ดีเลิศสำหรับผู้เล่นอาวุธลับเท่านั้น ตัวเองใช้แล้วเสียของนิดหน่อย ที่สำคัญที่สุดก็คือ ปลอกข้อมือนี้มาเป็นคู่ ถ้าจะติดตั้งอุปกรณ์ก็ต้องติดตั้งสองชิ้นพร้อมกัน แต่เยี่ยเว่ยหมิงต้องการสวมใส่อุปกรณ์กำไลเงินสัตว์เลี้ยง ทำให้ขัดแย้งกับอุปกรณ์นี้
ดังนั้น ปลอกข้อมือที่ค่าสเตตัสค่อนข้างดีคู่นี้ ในสายตาเขาก็กลายเป็นขยะไปแล้ว หรือไม่ก็นำไปขาย หรือมอบเป็นของขวัญแสดงน้ำใจให้ผู้อื่นได้ แต่ตัวเขาเองไม่ใช้งานมันแน่นอน
จากนั้นก็เป็นของดรอปจากจีไหลเหย่ เจ้าหมอนี่ดรอปอุปกรณ์ได้อนาถสุด ปลอกข้อมือหนังกบเป็นเพียงนวมอันหนึ่งเท่านั้น เยี่ยเว่ยหมิงที่ไม่เคยเรียนวิชาหมัดมวยใช้งานมันไม่ได้เลย
ส่วนกระสอบข้าวแสนสาหัสนั่น อย่าไปพูดถึงมันเลย!
บางทีเจ้าหมอนี่อาจจะดรอปของดีอย่างอื่นด้วย แต่ตกไปอยู่ในกระเป๋าสะพายหลังของถังซานไฉ่แล้ว?
เยี่ยเว่ยหมิงสายหน้า แล้วย้ายสายตายไปมองสิ่งสำคัญที่สุดของวันนี้ เป็นของสองชิ้นที่ดรอปจากหลินจื้อเพ่ยนั่นเอง ธนูด้ามเหล็กตอนนี้เขายังง้างยิงไม่ไหว แล้วก็ไม่มีสกิลธนูด้วย แค่ดูจากความแม่นแบบอาศัยโชคนั่นแล้วก็จินตนาการได้เลย
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ในฐานะที่เป็นคนส่วนน้อยในหมู่ผู้เล่นที่ค่าสเตตัสสูง ขนาดเขายังง้างธนูไม่ไหว ผู้เล่นคนอื่นก็ยิ่งไม่มีหวัง
หรือไม่ถ้าผ่านไปสักระยะหยึ่ง นำธนูนี้ออกมาขายก็อาจได้ราคาดี แต่ตอนนี้ทำไม่ได้เด็ดขาด!
ส่วน ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ เยี่ยเว่ยหมิงไม่รีบร้อนไปเรียน เหตุผลก็เช่นเดียวกับตำราลับตระหนักรู้สามเล่มนั้น รอหาเวลาว่างค่อยๆ นั่งอ่านดีกว่า
แต่ตอนนี้ค่าสเตตัสของเยี่ยเว่ยหมิงยังห่างจากเงื่อนไขการฝึก ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ อีกนิดหน่อย เขาจึงใช้ค่าตบะที่เพิ่งได้มาอัป ‘เคล็ดชำระปราณ’ ให้ถึงเลเวลเก้าเสียเลย ให้พละกำลังกับแกนกระดูกล้วนเติมเต็มเงื่อนไขการฝึกสกิลนี้
เมื่อดูค่าประสบการณ์ของ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ อีกครั้ง ก็พบว่าเข้าใกล้จุดหัวเลี้ยวหัวต่อแล้ว จึงเติมให้เต็มเสียเลย
หลังจากทำสิ่งเหล่านี้เรียบร้อย ค่าสเตตัสของเยี่ยเว่ยหมิงก็เปลี่ยนแล้ว…
[เยี่ยเว่ยหมิง เลเวล: 18]……
พลังชีวิต: 2070/2070
กำลังภายใน: 810/810
ความแข็งแกร่ง: 85
พละกำลัง: 85
ท่าร่าง: 191
ความว่องไว: 85
สติปัญญา: 25
ค่าตระหนักรู้: 30
……
[ทักษะยุทธ์]
[เคล็ดชำระปราณ (ไม่เข้าขั้น) เลเวล: 9]ค่าประสบการณ์: 0/25600
พลังชีวิต +450
กำลังภายใน +450
ความแข็งแกร่ง +45
พละกำลัง +45
ท่าร่าง +45
ความว่องไว +45
……
[เคล็ดกระบี่วีรสตรี (ไม่เข้าขั้น) เลเวล: 9]ค่าประสบการณ์: 6365/300000
ประสิทธิภาพ +90%
แม่นยำ +90%
……
[มังกรร่อนล่อหงส์ (ระดับกลาง) เลเวล: 5]ค่าประสบการณ์: 0/10000
ป้องกัน +100%
แม่นยำ +100%
หลบหลีก +50%
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: ดีบัฟ
……
[แปดก้าวไล่ทันคางคก (ระดับต้น) เลเวล: 6]ค่าประสบการณ์: 2660/8000
ท่าร่าง +120
……
[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชา) เลเวล: 2]ค่าประสบการณ์: 1211/2000
ดาเมจโจมตี +20%
แม่นยำ +20%
ดาเมจคริติคอล +20%
สามารถเปิดใช้แอคทีฟสกิลขณะต่อสู้ ประเมินช่องโหว่ในกระบวนท่าของศัตรู โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!
……
[อุปกรณ์]
เป็นต้น
……
สิ่งที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงโล่งใจไปเปลาะหนึ่งก็คือ ถ้าจะอัป ‘เคล็ดชำระปราณ’ จากเลเวลเก้าถึงเลเวลสิบ ค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้ก็แค่ 25600 แต้ม เป็นสองเท่าของเลเวลถัดไป ไม่เหมือน ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ที่ต้องอัปให้เต็มยี่สิบเท่าในรวดเดียว
ถ้าเป็นแบบนี้ เขาก็มีหวังที่จะอัปกำลังภายในระดับต้นนี้ให้ถึงเลเวลสิบได้ภายในเวลาอันสั้นแล้ว
ส่วน ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่คิดจะสิ้นเปลืองค่าตบะกับตำราลับตระหนักรู้อันล้ำค่าไปกับมันแล้ว
……
รถม้าผ่านจุดพักม้ากลับเข้ามาในเมืองเปี้ยนเหลียง เยี่ยเว่ยหมิงใช้ท่าร่างวิ่งปรื๋อกลับสำนักมือปราบเทพทันที ผลปรากฏว่าเพิ่งจะมาถึงประตูใหญ่ ก็เห็นซานเย่ว์ที่ไม่ได้เจอกันมานานกำลังนั่งขัดสมาธิปรับลมหายใจอยู่บนเบาะทรงกลมผืนหนึ่ง
วันนี้เด็กสาวสวมชุดคลุมสีเหลืองขนห่าน มัดแกละสองข้าง ประกอบกับผิวขาวหมดจดของนาง ทำให้ความรู้สึกว่าเป็นสาวน้อยผู้งดงามจากครอบครัวเล็กๆ
หลังจากเห็นเยี่ยเว่ยหมิง ซานเย่ว์ก็เก็บเบาะทรงกลมแล้วลุกขึ้นยืนทันที นางหัวเราะร่าเข้ามาทักทาย “อาหมิง นี่เพิ่งส่งข้อความไปได้ไม่นานเอง พลังของเจ้าเก่งกาจกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้วสินะ!”
“ไม่หรอกน่า…” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าอย่างถ่อมตัว “ถึงจะก้าวหน้านิดหน่อย แต่ก็แค่พอถูไถไม่ให้ล้าหลังผู้เล่นคนอื่นมากเกินไปเท่านั้นเอง”
เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าสวยสดใสของซานเย่ว์ก็เผยแววหยอกล้อ จากนั้นก็จับภาพส่งให้เยี่ยเว่ยหมิงโดยไม่พูดอะไร
[ติ๊ง! ปลดล็อกพาสซีฟสกิล ‘สังเกตสีหน้าท่าทาง’ คุณพบว่าอีกฝ่ายหน้าชื่นตาบานตอนพูดจา ภายใต้คำพูดที่ดูเหมือนถ่อมตัว ที่จริงในใจฟินสุดๆ สภาพจิตใจก็ประมาณว่า ‘ผมมันไร้เทียมทานอยู่แล้วครับ’!]
แม่งเอ๊ย!
สกิล BUG แบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงทำได้เพียงคิดหาทางออก จึงขมวดคิ้วถามว่า “หลังจากเจ้าเข้าสำนักไปแล้ว เจ้าไม่ได้เลือกทักษะ ‘ฟ้า’ หรือ”
ซานเย่ว์ยักไหล่อย่างจนใจ “รอจนข้าเข้าสำนัก สกิลสำนักฟ้ากับดินก็ถูกคนอื่นเลือกไปหมดแล้ว เหลือแค่ ‘คน’ กับ ‘ผี’ แต่ข้าค่อนข้างกลัวผี ก็เลยเลือก ‘คน’ ไปแล้ว”
ไม่ต้องถามเลย ทักษะที่เทียบได้กับเครื่องจับโกหกแบบนี้คงเป็นทักษะอักษร ‘คน’ ที่นางเลือกไม่ผิดแน่ เพียงแต่ไม่รู้ว่ายังมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า แล้วกำชับอีกว่า “ทักษะนี้ เจ้าพยายามอย่าให้คนอื่นรู้แล้วกัน”
“ข้ารู้อยู่แล้ว แต่เจ้าเป็นคนพาข้าเข้าสำนักมือปราบเทพ พวกเราก็ไม่ถือว่าเป็นคนนอกแล้วใช่ไหมล่ะ” ตอนพูดชะงักเล็กน้อย แล้วซานเย่ว์ก็พูดเสริมอีกว่า “เมื่อครู่โหยวจิ้นบอกว่าภารกิจสำนักต้องรอให้ผู้เล่นสำนักมือปราบเทพสามคนกลับมาให้หมดก่อน ถึงจะแจกภารกิจ พวกเรารอก่อนเถอะ”
เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าเล็กน้อย “ข้ามาหาโหยวจิ้นเพราะมีเรื่องอื่นนิดหน่อย”
เขาเดินมาตลอดทางจนถึงลานด้านหลัง เยี่ยเว่ยหมิงก็เห็นโหยวจิ้นตามที่คาดไว้ โหยวจิ้นยืนอยู่กลางลาน ใช้สองมือกอดกระบี่ หลังจากเขาเห็นเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว ก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากทักทายก่อนว่า “เว่ยหมิง เจ้ากลับมาแล้วหรือ”
หึหึ ดูท่าทางสนิทสนมเป็นกันเองของเจ้าสิ
ความสูงส่งดูแพงของเจ้าไปไหนหมดแล้วล่ะ
โหยวจิ้นไม่สนใจความคิดในใจเยี่ยเว่ยหมิง พูดต่อไปว่า “เรื่องภารกิจน่ะ รอให้พวกเจ้าสามคนมาครบก่อน แล้วหวงโส่วจุนจะประกาศด้วยตัวเอง เจ้าไปรอด้านข้างก่อนเถอะ” เขาชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสริม “นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะฝึกเคล็ดกระบี่มังกรร่อนล่อหงส์ถึงขั้นห้าได้เร็วขนาดนี้ ไม่เลวเลย!”
เยี่ยเว่ยหมิงหัวเราะแห้ง นำตำราลับสองเล่มออกมาจากหน้าอกแล้วบอกว่า “หัวหน้าโหยว ระหว่างที่ข้าออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอกครั้งนี้ ข้าได้ตำราลับทักษะยุทธ์มาสองเล่ม แต่อ่านแค่คำแนะนำแล้วรู้ข้อมูลน้อยเกินไป รบกวนท่านช่วยดูให้ข้าหน่อย ว่าเหมาะจะให้ข้าฝึกฝนหรือเปล่า”
[1] เลือดวัว 血牛 ศัพท์แสลง หมายถึง ตัวละครในเกมที่มีค่าพลังชีวิตแข็งแกร่งมาก