ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 556 หนึ่งกระบี่ไร้โลหิต
ตอนที่ 556 หนึ่งกระบี่ไร้โลหิต
ความจริงได้พิสูจน์แล้ว ว่า BOSS เลเวลหนึ่งร้อยห้า ระดับความน่ากลัวไม่ใช่แค่เหนือกว่าเยี่ยเว่ยหมิงห้าสิบสี่เลเวลเฉยๆ แน่นอน!
ก่อนที่จะประมือกัน เยี่ยเว่ยหมิงแม้จะพูดเหมือนร้ายแรง แต่ที่จริงก็ยังค่อนข้างมั่นใจ แต่พอประมือกันแล้ว แม้ระหว่างเฝิงซีฟ่าน อ๋าวป้ายและไห่ต้าฟู่จะห่างกันสิบเลเวล แต่ศักยภาพของพวกเขาไม่ได้ห่างกันแค่สิบเลเวลเท่านั้น!
ตอนเผชิญหน้ากับอ๋าวป้ายและไห่ต้าฟู่ ขอเพียงเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีให้เต็มที่ ถ้าอยากจะเป็นฝ่ายได้เปรียบก็ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ตอนเผชิญหน้ากับเฝิงซีฟ่าน กลับอยู่ในสถานการณ์อึดอัดที่ถูกอีกฝ่ายใช้ความได้เปรียบกว่าโจมตีตลอด
ต่อให้ใช้กระบวนท่าใหญ่ๆ อย่าง ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ แต่ก็สร้างดาเมจจริงๆ ไม่ได้อยู่ดี
สำหรับสถานการณ์แบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงนึกออกเพียงคำอธิบายเดียวที่ทำให้เขาจนปัญญาสุดๆ
นั่นก็คือ เมื่อเลเวล BOSS ทะลุเก้าสิบเก้าเป็นเลขสามหลัก ความสามารถก็พุ่งทะยานขึ้นเยอะมาก!
ระหว่างเลเวลเก้าสิบเก้ากับหนึ่งร้อย ดูเหมือนห่างกันแค่หนึ่งเลเวล แต่ที่จริงหนึ่งเลเวลนี้เป็นเขตแบ่งที่ใหญ่มาก
เมื่อเผชิญหน้ากับ BOSS เลเวลแบบนี้ ถ้าอยากอาศัยแรงของคนคนเดียวทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนัก…บางที ‘มารสวรรค์ทลาย’ อาจจะทำได้?
แต่ท่านั้นมีผลข้างเคียงด้านลบมากเกินไป ถ้ายังไม่ถึงทางตันจริงๆ เยี่ยเว่ยหมิงจะไม่ใช่มันง่ายๆ เด็ดขาด
แต่ยังดีที่เขาไม่ได้ต่อสู้อยู่คนเดียว เขายังมีสหายร่วมทีม
ดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงจึงเลือกใช้กลยุทธ์ที่มั่นคงปลอดภัยกว่า
นั่นก็คือกาง ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ขึ้นมาป้องกัน ดันทุรังสู้กับอีกฝ่ายแบบสูสีกัน
ขอเพียงถ่วงเวลาเฝิงซีฟ่านไว้ได้ รอจนสหายร่วมทีมของเขากำจัดเด็กชายแฝดหกทิ้งหมดแล้ว ทุกคนค่อยรุม BOSS ใหญ่คนนี้ก็ได้ แบบนั้นง่ายกว่าเยอะ!
ยังดีที่อาศัยโบนัสค่าสเตตัสวิชากำลังภายในสามวิชาที่เลเวลเต็มแล้วของเขา ตอนอยู่ในสถานะใช้ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ก็ยังพอต้านการโจมตีอันดุดันของอีกฝ่ายไหว ไม่ได้ถูกอีกฝ่ายโจมตีจนเกิดคริติคอลดาเมจ
แต่จุดอ่อนของเคล็ดกระบี่วิชานี้ก็ชัดเจนมาเช่นกัน นั่นก็คือทำได้แค่ป้องกันตัวเอง ใช้ปิดล้อมศัตรูไม่ได้
พอทั้งสองประมือกันได้พักหนึ่ง เฝิงซีฟ่านก็ทิ้งเยี่ยเว่ยหมิงทันที เปลี่ยนไปโจมตีเชิญร่ำสุราที่กำลังรังแกเด็กชายแฝดหก (4) อย่าบ้าคลั่ง
เพราะคนที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าด้วยตอนนี้ คือร่างแท้ของเฝิงซีฟ่านโหมดปกติ ไม่ตกหลุมพราง ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ เลย ดังนั้น พอเยี่ยเว่ยหมิงเห็น BOSS กำลังจะหนี ก็เปลี่ยนจากป้องกันเป็นรุกโจมตีทันที ใช้ ‘ท่าปลุกปั่นกระบี่’ แทงไปที่แผ่นหลังตรงหัวใจของอีกฝ่าย
เมื่อเจอภัยคุกคามของ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ เฝิงซีฟ่านย่อมไม่กล้ามองข้าม ทำได้เพียงโบกกระบี่รับ
พอโจมตีไม่ถูกเป้าหมาย เยี่ยเว่ยหมิงก็เปลี่ยนจากโจมตีเป็นป้องกันทันที ใช้ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ สู้กับอีกฝ่ายอย่างสูสีอีกครั้ง
เฝิงซีฟ่านกลุ้มใจจนใช้มือขยุ้มผมครั้งแล้วครั้งเล่า!
แต่เขาจะทำอะไรได้
พอเยี่ยเว่ยหมิงเปลี่ยนจากป้องกันเป็นโจมตี ก็ใช้แต่สุดยอดวิชาที่ร้ายกาจทั้งนั้น ด้วยศักยภาพของเขา ถ้าอยากป้องกันตัวเองจากสุดยอดวิชาก็ยังพอไหว แต่ถ้าจะโต้ตอบให้เยี่ยเว่ยหมิงบาดเจ็บก็ฝันไปได้เลย
พอเขาดันทุรังโจมตี เยี่ยเว่ยหมิงก็เริ่มเปลี่ยนมาป้องกันอย่างเดียวทันที…
พอเป็นแบบนี้ ก็ทำให้การต่อสู้ตกอยู่ในวงจรอุบาทว์ที่ทำให้เฝิงซีฟ่านประสาทเสียสุดๆ
ในวงจรอุบาทว์แบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงอาศัยปณิธานการต่อสู้ที่แน่วแน่และสไตล์การต่อสู้ที่หน้าด้านหน้าทนของตัวเองถ่วงแข้งถ่วงขา BOSS เลเวลหนึ่งร้อยห้าอย่างเฝิงซีฟ่านไว้ได้!
ช่วงชิงเวลาอันมีค่าให้สหายร่วมทีมทั้งหกของเขา
ส่วนเพื่อนร่วมทีมของเขาหลังจากประมือกับเด็กชายแฝดหกแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกนับถือเยี่ยเว่ยหมิงมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
เพราะคู่ต่อสู้ของพวกเขาเป็นอย่างที่เยี่ยเว่ยหมิงบอกไว้จริงๆ ขณะที่พลังชีวิตสูงสูงปรี๊ด บนตัวก็มีจุดอ่อนใหญ่มากจริงๆ
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดก็คือ กระบวนท่าของพวกเขาไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ หากเทียบกับพลังชีวิตที่ดุดันจนเหลวไหล ก็บรรยายว่าแย่จนมิอาจทนดูได้เลย
กระบวนท่าของพวกเขาเทียบกับ BOSS เลเวลห้าสิบห้าทั่วไปไม่ได้ด้วยซ้ำ เทียบกับ BOSS เลเวลสี่สิบห้าก็ดีกว่าไม่เท่าไร
คู่ต่อาสู้ระดับนี้ สำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงอย่างพวกเขา จับมารังแกตามอำเภอใจได้เลย!
แล้วก็ผ่านไปอย่างนี้ แม้ทุกคนจะใช้เวลาไปพอสมควร แต่กลับกำจัดคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้อย่างปลอดภัย
จากนั้น…
เจ็ดยอดฝีมือก็ล้อมโจมตีเฝิงซีฟ่าน!
ศึกนี้ค่อนข้างทารุณ แม้ตอนสุดท้ายเฝิงซีฟ่านล้มลงแล้วแต่ก็ไม่ทำให้ทั้งเจ็ดคนสูญเสียสมาชิก แต่ในระหว่างนั้นอันตรายมากจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่เจ้าเวรนี่พลังชีวิตเหลือต่ำกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่น่าเชื่อว่าจะปะทุพลัง ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’!
วิธีการปะทุพลังแบบนี้ เป็นวิธีการล้ำค่าที่เยี่ยเว่ยหมิงใช้รับมือกับ BOSS ระดับสูง วันนี้พอใช้อยู่บนตัว BOSS เลเวลหนึ่งร้อยห้า แค่คิดก็รู้แล้วว่าประสิทธิภาพน่ากลัวขนาดไหนดฮณ๊ฯดฯฌซ,
ภายใต้การโจมตีอันน่ากลัวสิบวินาทีของเฝิงซีฟ่าน สมาชิกทีมที่บุกดันเจี้ยนรวมทั้งเยี่ยเว่ยหมิงได้รับบาดเจ็บทุกคน อีกทั้งในช่วงเวลาสำคัญ ทุกคนยังทิ้งความเห็นแก่ตัวพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ร่วมแรงร่วมใจกันถึงรอดพ้นจากช่วงเวลาอันตรายสิบวินาทีนั้นมาได้
ระหว่างนั้น ผู้แข็งแกร่งอย่างฉางซิงอวี่ยังเกือบตายด้วยกระบี่ของอีกฝ่ายด้วย!
ยังเป็นสองยอดฝีมือวิชากระบี่อย่างเยี่ยเว่ยหมิงและเชิญร่ำสุราที่ใช้ท่าไม้ตายพร้อมกัน ถึงได้ช่วยชีวิตเขาไว้ได้
แต่ถึงแม้ขั้นตอนจะหวาดเสียว แต่ผลลัพธ์กลับออกมาดี
ภายใต้การร่วมแรงร่วมใจกันของทั้งเจ็ดคน ในที่สุดพลังชีวิตที่สูงถึงล้านห้าของเฝิงซีฟ่านก็ลดลงจนเกือบหมด สุดท้ายก็หมดเกลี้ยงภายใต้ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ของเยี่ยเว่ยหมิง
[ติ๊ง! ทีมที่คุณอยู่โจมตีสังหารเฝิงซีฟ่าน BOSS เลเวล 105 สำเร็จ ผ่านทุกด่านของดันเจี้ยน ‘หนึ่งกระบี่โลหิตสาด’ โดยสมบูรณ์ ได้รับรางวัล: ค่าประสบการณ์ 6000000 แต้ม ค่าตบะ 600000 แต้ม!]
[ประกาศระบบ: ผู้เล่นสำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง ผู้เล่นสำนักถังเหมิน โหยวโหยว ผู้เล่นสำนักดาวดึงส์ เชิญร่ำสุรา…]
ท่ามกลางเสียงประกาศระบบต่อเนื่องสามรอบ ในที่สุดสายตาของเฝิงซีฟ่านก็เปลี่ยนเป็นเลื่อนลอย แต่กลับยังเบิกตากว้างอย่างไม่เต็มใจ ร่างล้มลงข้างหลังอย่างช้าๆ
ให้ความรู้สึกเหมือนนอนตายหงายหน้าอย่างทรงเกียรติ ดูแล้วโศกเศร้าปนเร้าใจมาก
ขณะมองเฝิงซีฟ่านที่ตายตาไม่หลับ ทุกคนกลับไม่รีบก้าวขึ้นไปคลำศพ แต่ต่างคนต่างหย่อนยาฟื้นฟูพลังชีวิตและกำลังภายในเข้าปาก ฟื้นฟูค่าสเตตัสของตัวเองกลับมาทันที
เมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์ ทุกคนถึงได้ถอนหายใจเฮือกหนึ่งอย่างโล่งอก ตอนนี้เชิญร่ำสุรากลับหันไปมองเยี่ยเว่ยหมิงพร้อมถามว่า “ได้ยินว่า BOSS ที่ต้องเจอในดันเจี้ยน ‘อายุยืนเทียมฟ้า’ ร้ายกาจกว่าเฝิงซีฟ่านอีกหรือ”
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า “ไห่ต้าฟู่เลเวลสี่สิบสามกับเฝิงซีฟ่านเลเวลห้าสิบโหมดภารกิจ แต่ BOSS หงอันทงในดันเจี้ยน ‘อายุยืนเทียมฟ้า’ เลเวลหกสิบ!…
…ถ้าเปรียบเทียบศักยภาพของพวกเขาตอนอยู่ในสองโหมดนี้ หงอันทงโหมดปกติ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะประมาณเลเวลหนึ่งร้อยสิบ ถึงขั้นว่าถ้ามีหงอันทงเลเวลร้อยยี่สิบโผล่มา ข้าก็ไม่รู้สึกแปลกใจ!”
เชิญร่ำสุราได้ยินแล้วยิ้มเจื่อน “เช่นนั้นพวกเรายังจะสู้ต่อไหม”
“สู้ต่อบ้าอะไรล่ะ!” เยี่ยเว่ยหมิงแบมืออย่างจนใจ “ดันเจี้ยนที่มีโอกาสท้าสู้เพียงครั้งเดียวแบบนี้ ก็ต้องมีความมั่นใจมากๆ ว่าจะท้าสู้ได้ ไม่อย่างนั้นจะสิ้นเปลืองโอกาสดีหนึ่งครั้งไปเปล่าๆ มิหนำซ้ำ…”
พอพูดถึงตรงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ส่ายหน้า ไม่ได้พูดประโยคหลังให้จบ
เขายังมีภารกิจสุดยอดวิชาอีกหนึ่งภารกิจ ต้องดรอป ‘ยาเปลี่ยนเส้นเอ็น’ หรือไม่ก็สูตรยาของมันจากร่างแท้ของหงอันทง
ดังนั้น ถ้ายังไม่มีความมั่นใจเต็มร้อย เขาก็จะไม่บุ่มบ่ามไปท้าสู้ดันเจี้ยนที่มีโอกาสท้าได้เพียงครั้งเดียวแน่นอน
เพราะนี่คือช่องทางในการได้ยาเปลี่ยนเส้นเอ็นเพียงช่องทางเดียวที่เขารู้ตอนนี้!
พอได้ยินว่าเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้จะเตรียมไปท้าสู้ดันเจี้ยนอื่นต่อ เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ตรงนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ พร้อมกัน
บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเงียบลงทันที
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งนาที เยี่ยเว่ยหมิงที่พลังชีวิตและกำลังภายในฟื้นฟูกลับมาเกินครึ่งแล้วก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้วเตะบนศพของเฝิงซีฟ่านหนึ่งที
จากนั้น ข้อมูลไอเทมดรอปก็ปรากฏตรงหน้าทุกคนเป็นชุด
[หนึ่งกระบี่ไร้โลหิต (ระดับสูง)]
มีเคล็ดกระบี่คุนหลุนเป็นพื้นฐาน ใช้ปราณแท้จี้สกัดจุด ฆ่าคนไร้โลหิต
เงื่อนไขการฝึก:
กำลังภายในสูงสุด 5000
ความว่องไว 100
ค่าตระหนักรู้ 30
……
[หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน (ระดับสูง)]
ไม่ขอเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน
เงื่อนไขการฝึก:
กำลังภายในสูงสุด 2000
พละกำลัง 50
ค่าตระหนักรู้ 20
……
[กระบี่ไร้โลหิต (อาวุธล้ำค่า)]
นี่คือกระบี่ล้ำค่าที่ไร้คมเล่มหนึ่ง แต่เมื่ออยู่ในมือยอดฝีมือ กลับแสดงประสิทธิภาพที่ไม่ธรรมดาออกมาโจมตี +200
ป้องกัน +200
กำลังภายในเพิ่ม 100%
เลเวลเคล็ดกระบี่ +1
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: ไร้โลหิต!
ไร้โลหิต: ใช้ปราณกระบี่ผ่านอากาศ ดาเมจเพิ่ม 20%
……
[ชุดงามคุนหลุน (อาวุธล้ำค่า)] ชุดงามหรูหราที่ทำจากไหมของแดนซีอวี้และผ้าของเสฉวน ตรงจุดลมปราณเจ็ดจุดบนร่างกายฝังหยกคุนหลุนไว้เจ็ดก้อน มีผลบำรุงร่างกาย
ป้องกัน +300
พลังชีวิตสูงสุด +2000
กำลังภายในสูงสุด +2000!
[เงิน: 3250!]
……
ไอเทมดรอปจากเฝิงซีฟ่าน ไม่ว่าจะชิ้นไหนก็นับเป็นของดีที่ค่าสเตตัสล้ำเลิศ
แต่เรื่องแบ่งของกันยังไม่ต้องรีบตอนนี้
ในฐานะที่เป็นดันเจี้ยนหนึ่ง หลังจาก BOSS ตายแล้ว แผนที่นี้ก็จะจำกัดเวลาในการอยู่ต่อ ผู้เล่นที่ผ่านด่านอยู่ต่อในดันเจี้ยนได้เพียงสามนาทีหรือจะออกก่อนก็ได้ หรือไม่เมื่อหมดเวลาแล้วก็จะถูกส่งออกไปโดยอัตโนมัติ
ก่อนจะถึงตอนนั้น แน่นอนว่าต้องเก็บศพ BOSS ก่อน
ดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงจึงนำโลงไม้หนานมู่หนึ่งโลงและโลงไม้หวงฮว่าออกมาหกโลง แล้วเก็บศพเฝิงซีฟ่านรวมทั้งเด็กชายแฝดหก ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ ×1 ‘ตระหนักรู้วิชากำลังภายใน’ ×7!
[ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่] บันทึกการฝึก ‘หนึ่งกระบี่ไร้โลหิต’ ของยอดฝีมือสำนักคุนหลุน เฝิงซีฟ่าน ใช้เคล็ดกระบี่ที่กำหนดจะเพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 420000 แต้ม
ตระหนักรู้วิชากำลังภายใน: …ใช้แล้วจะเพิ่มค่าประสบการณ์วิชากำลังภายใน 420000 แต้ม
ดูจากตำราลับตระหนักรู้ที่ดรอปได้จากที่นี่ก็รู้แล้วว่าเฝิงซีฟ่านเป็นBOSS ที่มีความสามารถแต่ละด้านค่อนข้างเฉลี่ยกัน ค่าตบะของวิชากำลังภายในและเคล็ดกระบี่ล้วนสูงมาก ไม่มีแบ่งแยกสูงต่ำ
ถ้าจะพูดถึงข้อเสีย ก็คือขาดแคลนท่าไม้ตายที่มีประสิทธิภาพสูง
หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุนจัดเป็นทักษะพิเศษประเภทปะทุพลัง ต้องนับเป็นอีกอย่างหนึ่ง
ส่วน ‘ตระหนักรู้วิชากำลังภายใน’ จากเด็กชายแฝดหก แต่ละเล่มก็เพิ่มค่าประสบการณ์วิชากำลังภายในได้ 65000 แต้ม ผลลัพธ์ที่ได้จากหกเล่มเหมือนกันหมด ไม่ได้ดรอปไอเทมอย่างอื่น