ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 566 แยกดันห้าสอง
ตอนที่ 566 แยกดันห้าสอง
“แยกดันห้าสอง?” พอได้ยินศัพท์ใหม่ที่มาจากปากหวังอวี่เยียน เหวยเสี่ยวเป่าก็แสดงจิตวิญญาณอันล้ำค่าที่ไม่อายที่จะถามทันที ถามสาวงามผู้รอบรู้ข้างกายว่า “แม่นางหวังอธิบายได้หรือไม่ว่าแยกดันห้าสองคืออะไร ที่จริงไม่ใช่แค่ข้าที่ไม่เข้าใจ ข้าเชื่อว่าสหายหลายคนที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสดก็ไม่เข้าใจเช่นกัน แม่นางหวังได้โปรดให้ความรู้สักหน่อย”
หวังอวี่เยียนไม่ปฏิเสธเช่นกัน อธิบายทันทีว่า “แยกดันก็คือกันแยกกันดันป้อมไง พูดง่ายๆ ก็คือถ้าอยู่ในเวลาที่เหมาะสม ก็กระจายกำลังที่เคยรวมไว้ที่ศูนย์กลาง เท่ากับแบ่งกำลังบนสนามรบ บางครั้งการทำเช่นนี้อาจแสดงประสิทธิภาพที่คาดคิดไม่ถึงก็ได้”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หวังอวี่เยียนก็ชะงักเล็กน้อย ค่อยกล่าวต่อว่า “ข้าเพิ่งได้รับข้อความส่วนตัวมาจากผู้ชมท่านหนึ่ง ในนั้นวิเคราะห์กลยุทธ์แยกดันห้าสองไว้ละเอียด…
…ขอนอกเรื่องสักหน่อย ตอนที่ทุกคนกำลังดูวิดีโอ หากมีอะไรแปลกใหม่หรือมีความคิดเห็นส่วนตัว ก็กดปุ่มฝากข้อความที่ด้านล่างของหน้าจอเพื่อฝากข้อความไว้ได้เลย ระบบจะคัดเลือกจากคุณค่าของข้อความโดยอัตโนมัติ จะเลือกข้อความที่มีประโยชน์ต่อการถ่ายทอดสดมากรอกเข้าสมองข้าด้วยวิธีการถ่ายโอนข้อมูล…
…สำหรับผู้เล่นที่ฝากข้อความที่มีคุณภาพไว้ ระบบจะให้รางวัลเป็นค่าประสบการณ์กับค่าตบะ พวกเราจะเลือกข้อความที่มีคุณค่าที่สุดในนั้นแล้วอ่านออกมาตอนถ่ายทอดสด ให้ทุกคนที่กำลังรับชมถ่ายทอดสดได้ยินความเห็นของคุณ…
…เช่นนั้น ก่อนอื่นพวกเรามาดูข้อความจากผู้เล่นที่ชื่อจูเก๋อหว่านจวินกันดีกว่าค่ะ”
หวังอวี่เยียนชะงักไปครู่หนึ่ง เหมือนกำลังรับข้อมูลอะไรบางอย่างนั้น จากนั้นก็พูดต่อว่า “ตามที่ท่านผู้เล่นจูเก๋อหว่านจวินวิเคราะห์ ที่จริงสมาชิกฝ่ายเจ็ดประหลาดแห่งเจียงหนานมีพลังต่อสู้สูงทุกคน แต่เพราะพวกเขาให้ความร่วมมือกันอย่างรู้ใจเหมือนฝั่งสำนักฉวนเจินไม่ได้ เมื่อเจ็ดคนนี้อยู่ด้วยกันจึงไม่มีทางแสดงพลังต่อสู้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถึงขั้นสิ้นเปลืองพลังต่อสู้ไปเยอะด้วย…
…จากที่ย้อนฉายการต่อสู้ก่อนหน้านี้ให้ดู พวกเราก็มองออกแล้ว ว่าถึงแม้พวกเขาเจ็ดคนจะสู้กับศัตรูสิบห้าคน แต่ตอนที่ประมือกัน คนที่แสดงบทบาทได้จริงๆ มักจะมีเพียงสี่ถึงห้าคนเท่านั้น บางคนถึงขั้นถูกรบกวนจังหวะการโจมตีเพราะตำแหน่งยืนของสหายในทีม พอเป็นเช่นนี้ ประสิทธิภาพในการโจมตีของพวกเขาเจ็ดคนถึงสิ้นเปลืองไปแล้วสองคน ไม่ได้ประสิทธิภาพการโจมตีสูงสุดตามทฤษฎี…
…แต่ถ้าเยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวบุกโจมตีเดี่ยว แยกบุกโจมตีกับสหายคนอื่นๆ ก็จะแก้ไขปัญหานี้ได้ดีมาก” ขอบคุนจ้า
เหวยเสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆ ได้ยินแล้วตาเป็นประกายทันที “พอเป็นแบบนี้ พวกพี่ใหญ่เยี่ยก็จะพลิกสถานการณ์ที่ยังลำบาก กลับมาเหนือกว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้ สุดท้ายจะได้รับชัยชนะในการประลองสนามนี้สินะ?”
แม้หวังอวี่เยียนจะเคยชี้แนะไปแล้ว แต่ตอนที่บรรยายการต่อสู้ เหวยเสี่ยวเป่ากลับวางตัวไปทางฝั่งเยี่ยเว่ยหมิงโดยไม่รู้ตัว ไม่มีทางวางตัวเป็นกลางโดยสมบูรณ์ได้เลย
“เหมือนจะทำอย่างนั้นไมได้” หวังอวี่เยียนส่ายหน้าเล็กน้อย “สหายที่ชื่อจูเก๋อหว่านจวินคนนี้ยังฝากข้อความที่ตัวเองวิเคราะห์ไว้เป็นชุด ในจำนวนนั้นวิเคราะห์เรื่องความเร็วเฉลี่ยในการฆ่าศัตรูของทั้งสิบสี่คนไว้ด้วย เช่นกลยุทธ์การทิ้งอาวุธจากที่สูงของโหยวโหยวเพื่อให้ความร่วมมือกับการต่อสู้บนภาคพื้นดิน สุดท้ายบทสรุปก็คือ…
…ทีมเจ็ดประหลาดแห่งเจียงหนานแม้จะอาศัยกลยุทธ์แยกดันห้าสองมาพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้ได้สูงมาก แต่สุดท้ายก็ยังไม่เร็วเท่าการบุกของค่ายกลฟ้าดาวเหนือ หากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย สุดท้ายพวกเขาก็จะผ่านดันเจี้ยนนี้ช้ากว่าทีมของสำนักฉวนเจินไปประมาณหนึ่งนาที”
นางหยุดพักครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวเสริม “สำหรับการแข่งขันยึดดันเจี้ยน เวลาที่ต่างกันหนึ่งนาทีไม่ใช่น้อยๆ เลย หากพวกสหายเยี่ยต้องการพลิกสถานการณ์ จะต้องยากมากแน่นอน”
เมื่อได้ยินดังนั้น เหวยเสี่ยวเป่าก็เผยสีหน้ากังวลทันที ไม่สนใจเลยว่าคนอื่นจะรู้ว่าตัวเองเป็นพิธีกรที่ลำเอียง
ใครใช้ให้เขามียศถาบรรดาศักดิ์สูงส่งล่ะ
ข้าสะดวกจะลำเอียงอย่างนี้ แล้วเจ้าจะทำอะไรข้าได้ล่ะ
การต่อสู้ต่อจากนั้น ดำเนินไปอย่างที่ผู้เล่นจูเก๋อหว่านจวินวิเคราะห์ไว้จริงๆ ด้วย
เมื่อพวกเชิญร่ำสุราห้าคนประมือกับโรนินของด่านหน้า ฝั่งสำนักฉวนเจินกลับอาศัยความได้เปรียบของค่ายกลฟ้าดาวเหนือกวาดล้างลูกสมุนกระจอกหมดแล้ว ตอนนี้กำลังเริ่มล้อมโจมตี BOSS เล็กของด่านหน้า ฮิราคาวะ อิชชิน เลเวลหกสิบห้านั่นเอง!艾琳小說
ตอนที่ BOSS เลเวลหกสิบห้ากำลังเผชิญหน้ากับค่ายสังหารระดับค่ายกลฟ้าดาวเหนือ ต่อให้ต่อต้านอย่างไรก็ไม่ต่างหากตั๊กแตนห้ามรถ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาทีก็ล้มลงอย่างไม่เต็มใจท่ามกลางวงล้อมของทั้งเจ็ดคน หากเทียบกับมอนสเตอร์เล็กๆ ทั่วไป เขาอดทนได้นานกว่าครู่เดียวเท่านั้น
นี่คือการสังหารที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียว!
อีกด้านหนึ่ง ในที่สุดเยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวก็มาถึงจุดหมายของพวกเขาแล้ว ศัตรูกลุ่มที่สามของค่ายโรนิน…ด่านขนส่ง!
เนื่องจากเงื่อนไขการตัดสินแพ้ชนะของดันเจี้ยนนี้ก็คือต้องกำจัดศัตรูทุกคนให้หมด ดังนั้นเยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวจึงไม่ได้ใช้วิธีตัดคอหัวหน้าก่อนกับ BOSS คนสุดท้ายอย่างโฮโจ แต่พวกเขาเลือกด่านขนส่งที่พื้นที่ค่อนข้างเล็กแคบ ใช้ความได้เปรียบด้านจำนวนคนได้ยากมาเป็นจุดที่เน้นโจมตี
สองคนที่มาถึงด่านขนส่งก่อนเริ่มโจมตีพวกเขาอย่างไม่ลังเล โหยวโหยวเริ่มเบิกทางด้วยหินใหญ่สามก้อนและไหยาพิษสองใบ ระเบิดค่ายของศัตรูแหลกในรวดเดียว
ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ใช้ท่ามังกรบินอยู่สวรรค์จากข้างบนโจมตีคะมิมุระ นิอิ BOSS คนที่สองของค่ายโรนินจนบาดเจ็บ จากนั้นทั้งสองก็เริ่มเก็บเกี่ยวค่าพลังชีวิตของศัตรู โดยที่คนหนึ่งอยู่บนฟ้า คนหนึ่งอยู่บนพื้น คนหนึ่งโจมตีระยะไกล คนหนึ่งโจมตีระยะประชิด
ขณะเดียวกันนี้เอง ในดันเจี้ยนของฝั่งสำนักฉวนเจิน เครื่องบดเนื้อค่ายกลฟ้าดาวเหนือก็ขับมาถึงด่านขนส่งของค่ายโรนินแล้ว ในจำนวนนั้น ผู้เล่นคนหนึ่งที่ท่าทางคล้ายคุณชายผู้สง่างามนิดหน่อย แต่คล้ายนักพรตเต๋ามากกว่ากลับนำถังดินปืนขนาดเท่ากระบอกไฟฉายออกมาอันหนึ่ง หลังจากจุดไฟแล้วก็เล็งไปยังบริเวณที่มีศัตรูหนาแน่นของด่านหน้า
ฟิ้ว!~
บึ้ม!
หลังจากเกิดเสียงดังสะเทือนป่า กระสุนไฟที่ยิงจากถังดินปืนก็ระเบิดทันที เปลวเพลิงกระจายไปบนตัวโรนินที่อยู่รอบๆ เผาไหม้พวกเขาทันที พวกโรนินที่ถูกเผาร้องโอดครวญหาพ่อหาแม่ สถานการณ์ตรงนั้นเละเป็นโจ๊กหม้อหนึ่ง
เหวยเสี่ยวเป่าเห็นสถานการณ์แล้วอดสบถคำหยาบออกมาไม่ได้ “แม่งเอ๊ย นี่มันของเล่นอะไรกัน พวกเขากำลังโกงใช่ไหม!”
“นี่ไม่ได้โกง” หวังอวี่เยียนอธิบายอยู่ข้างๆ “ตามข้อมูลที่ได้จากระบบ ถังดินปืนนี่คือของที่ดรอปจากฮิราคาวะ อิชชิน BOSS ด่านหน้า ฝั่งสำนักฉวนเจินดรอปได้จากดันเจี้ยนนี้ แล้วก็นำมาใช้งานในดันเจี้ยนนี้ ถือเป็นการเล่นตามปกติโดยสมบูรณ์…
…แต่ดาเมจที่เกิดจากถังดินปืนใบนี้ไม่ได้สูงมาก สร้างประโยชน์ได้มากสุดก็แค่ทำให้กระบวนทัพของศัตรูวุ่นวาย ลดความยากในการบุกด่านได้ การที่พวกเขาเลือกใช้มันที่นี่ ทำให้กำจัดศัตรูที่ด่านขนส่งได้เร็วขึ้นจริงๆ”