ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 574 มังกรเงยหน้า!
ตอนที่ 574 มังกรเงยหน้า!
สำหรับความสามารถที่เยี่ยเว่ยหมิงเดากฎการสุ่มสมาชิกของทั้งสองฝ่ายได้ พวกเพื่อนในห้องประชุมส่งสายตาสอบถามเข้ามาพร้อมกัน
เยี่ยเว่ยหมิงไม่ปิดบังเช่นกัน เอ่ยตรงๆ เสียเลยว่า “ที่จริงกฎนี้ง่ายมาก ระบบไม่ได้สุ่มเลย แต่จัดลำดับผู้ประลองทั้งสองฝ่ายโดยอิงตามชื่อของอาจารย์แต่ละคน…
…สนามแรกก็คือข้า ผู้สืบทอดวิชาของศิษย์ลำดับเจ็ดของเจ็ดประหลาดแห่งเจียงหนานสู้กับศิษย์คนสุดท้ายจากเจ็ดศิษย์แห่งสำนักฉวนเจิน สนามที่สองสหายฉางสู้กับศิษย์ของหลิวชู่เสวียน ตอนหลังก็เรียงลำดับลงมาตามนี้…
…หากไม่เชื่อ พวกเจ้าก็ลองนึกย้อนดูสิ สถานการณ์จริงก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ…”
…เสพมัน เจ้าค่อยๆ เสพมัน!…
เอ่อ…
พอได้ฟังเยี่ยเว่ยหมิงพูดจาอย่างมีเหตุผลและหลักฐาน ทุกคนถึงได้กระจ่างในฉับพลัน
ตอนนี้เอง ในที่สุดการประลองก็เริ่มขึ้นแล้ว คู่ต่อสู้ของโหยวโหยว คนบินเหนือฟ้ากุมหมัดคารวะอย่างมีมารยาท ตอนที่คิดจะรายงานชื่อแซ่ตามอย่างหลายคนก่อนหน้านี้ กลับพบว่าโหยวโหยวใช้ท่าร่างถอยหลังไปแล้ว
เจ้าหมอนี่ก็ตอบสนองรวดเร็วเช่นกัน ตอนที่เพิ่งพบความผิดปกติ ก็ใช้ท่าร่างตามไปติดๆ ทันที ที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คือ วิชาตัวเบาของเขาเหนือกว่าโหยวโหยวอย่างเห็นได้ชัด แม้โหยวโหยวจะได้เปรียบที่เริ่มก่อน แต่ติดที่สังเวียนนี้ไม่ได้ใหญ่ สุดท้ายจึงหาโอกาสขี่อินทรีบินขึ้นฟ้าไม่ได้ อีกฝ่ายตามทันตั้งแต่อยู่บนพื้นและโบกดาบโจมตีอย่างดุดันแล้ว
เมื่อเห็นฉากนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ส่ายหน้าอย่างจนใจ แล้วกลับมานั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม
เขาไม่ได้สนใจการต่อสู้ต่อจากนั้นมากแล้ว ในเมื่อไม่อาจดึงระยะห่างออกจากกันได้ ก็แสดงว่าโหยวโหยวแพ้ศึกนี้แล้ว
แต่ความพ่ายแพ้ของสนามนี้ก็โทษนางไม่ได้ ถึงอย่างไรนางก็ทำตามที่เยี่ยเว่ยหมิงบอกตั้งแต่แรกแล้ว ระหว่างนั้นไม่มีความผิดพลาดใดๆ ข้อดีอย่างเดียวของการทำแบบนี้ ก็คือเมื่อโหยวโหยวอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ถูกฉากควบคุม ก็ยังพอเดิมพันได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะทำพลาดระหว่างโจมตีได้
แต่กุญแจสำคัญในการตัดสินแพ้ชนะไม่ได้อยู่ที่ตัวนางเลย อยู่ที่คู่ต่อสู้ต่างหาก
แต่ความคิดก็ได้พิสูจน์แล้ว ว่าคู่ต่อสู้ของนางไม่ได้โง่ ทั้งยังไหวตัวรวดเร็วสุดๆ ด้วย
ยามเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้เช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นเยี่ยเว่ยหมิงยืนอยู่ตรงนั้นแทนโหยวโหยว บางทีอาจจะคิดแผนชั่ว…แค่กๆ อาจจะคิดวิธีการที่ค่อนข้างแยบยลมาเอาชนะคู่ต่อสู้ก็ได้
แต่สำหรับสหายร่วมรบของเขาคนนี้ ปกติเยี่ยเว่ยหมิงไม่ขอให้คนอื่นทำได้ถึงระดับเขา ขอเพียงทำได้ตามระดับทั่วไปก็พอแล้ว
นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าปฏิบัติต่อตนเองอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างอะลุ่มอล่วย ยุติธรรมจิตใจงามไร้ความเห็นแก่ตัวบลาๆๆๆ…
สถานการณ์การต่อสู้ดำเนินไปตามที่เยี่ยเว่ยหมิงคาดเดาไว้ หลังจากคู่ต่อสู้เข้าประชิดตัวโหยวโหยว นางก็ไม่มีทางสู้กับยอดฝีมือสำนักฉวนเจินที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดได้เลย ค่าพลังชีวิตลดลงฮวบๆ ภายใต้การโจมตีอันดุดันของคู่ต่อสู้ ประมือกันไม่กี่กระบวนท่า พลังชีวิตของนางก็เหลือไม่ถึงหนึ่งในห้าแล้ว
ส่วนคู่ต่อสู้ของนาง ยังคงรักษาพลังชีวิตไว้ได้เกินครึ่ง!
ตอนนี้เอง โหยวโหยวกลับใช้วิธีการเล่นแบบที่ทุกคนคาดไม่ถึง
ขณะที่นางหลบกระบี่ที่โจมตีมาตรงหน้าได้และเผชิญกับฝ่ามือซ้ายที่โบกเข้ามาอย่างไม่จริงจังของคนบินเหนือฟ้า ไม่น่าเชื่อนางจะโยนไหยาพิษเพื่อรับมือแล้ว
เพล้ง!
ไหยาพิษจากกระเบื้องเคลือบไม่มีทางต้านฝ่ามือของยอดฝีมือฉวนเจินที่โจมตีมาตรงหน้าได้ ไหแตกละเอียดเป็นผุยผง
ชั่วพริบตาเดียว ฝุ่นควันก็ตลบฟุ้งขึ้นมา ปกคลุมทั้งสองไว้ในขอบเขตเล็กๆ โดยสิ้นเชิง
นี่ก็คืออาวุธโยนแบบใหม่ล่าสุดที่โหยวโหยวพัฒนาขึ้นมา…ระเบิดควัน!
ฟังดูเหมือนภาพยนตร์ไซไฟ แต่ที่จริงแล้วมีพื้นฐานมาจากไหยาพิษ เพียงใส่ระเบิดควันที่มีเฉพาะในญี่ปุ่นเพิ่มเข้าไปเท่านั้นเอง อาวุธประเภทนี้ หลังจากเชิญร่ำสุราเรียน ‘วิชาโล่หมอกควัน’ เป็นแล้วก็ผลิตได้จำนวนมาก โหยวโหยวซื้อมันมาจากเขาจำนวนหนึ่งแล้วติดตั้งไว้ที่ตัวเอง ถือเป็นนวัตกรรมเล็กๆ ทางด้านอาวุธที่ประสบความสำเร็จเช่นกัน
เดิมทีเยี่ยเว่ยหมิงนึกว่าการที่โหยวโหยวทำแบบนี้ เพียงเพื่อพิสูจน์ว่าตนไม่ใช่ลูกพลับอ่อนที่บีบง่าย เพราะสถานการณ์มาถึงขั้นนี้ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว
ทว่าฉากที่ทำให้ทุกคนคาดไม่ถึงกลับเกิดขึ้นในครู่ต่อมา!
ภายใต้การปกคลุมของหมอกควัน ทันใดนั้นทุกคนก็ได้ยินเสียงมังกรคำรามเบาๆ ดังมาจากหน้าจอถ่ายทอดสด ตามด้วยเสียงปืนต่อเนื่องหกนัด
ตอนที่หมอกควันสลายไป บนสังเวียนเหลือเพียงโหยวโหยวกับรอยเลือดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นางกำลังหย่อนยาถอนพิษเม็ดหนึ่งเข้าปาก
ผู้ชนะในการ PK สังเวียนที่ห้าในรอบที่สองของกิจกรรมประลองใหญ่หอหมอกพิรุณ…
ตัวแทนของเทพอาชาหันเป่าจวี เจ็ดประหลาดแห่งเจียงหนาน ศิษย์สำนักถังเหมิน…โหยวโหยว!
ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน ในหน้าจอถ่ายทอดสดก็มีเสียงตื่นเต้นของเหวยเสี่ยวเป่าดังมา “ชนะแล้ว! สาวงามที่มีนามว่าโหยวโหยวชนะแล้วท่านผู้ชม! นางชนะได้อย่างไรกันแน่ คาดว่าท่านผู้ชมมากมายคงสงสัยเหมือนข้า เช่นนั้นพวกเรามาฉายวิดีโอการประลองอีกครั้ง แล้วก็ปรับมุมให้เหมาะสม จะได้ดูว่าภายใต้หมอกควันที่ปกคลุมเกิดอะไรขึ้นกันแน่” 艾琳小說
สิ้นเสียงเหวยเสี่ยวเป่า หน้าจอถ่ายทอดสดก็เข้าสู่โหมดฉายซ้ำทันที
ภายใต้การช่วยเหลือสารพัดอย่างของระบบ หน้าจอฉายย้อนกลับไปยังฉากก่อนตัดสินแพ้ชนะอีกครั้ง ตอนที่โหยวโหยวใช้ระเบิดควันต้านฝ่ามือของคนบินเหนือฟ้า
เพราะฉายย้อนแบบสโลว์โมชั่น ทุกคนเห็นขั้นตอนการระเบิดของไหพิษและตอนที่ควันพิษถูกปล่อยออกมาจำนวนมากอย่างชัดเจน หลังจากระบบจัดการด้วยวิธีพิเศษบางอย่าง หมอกควันที่อยู่ในหน้าจอจึงเบาบางขีดสุด เบาบางถึงขั้นที่ทำให้ทุกคนรู้ว่ามีควันแต่กลับไม่บดบังสายตา
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทุกคนจะมองเห็นได้กระจ่างชัด แม้โหยวโหยวจะใช้ไหยาพิษต้านฝ่ามือของคนบินเหนือฟ้าได้แล้ว แต่ก็ยังบาดเจ็บเพราะฝ่ามือของอีกฝ่ายอยู่ดี พลังชีวิตลดลงหนึ่งในห้าจากก่อนหน้านี้ ถูกโจมตีจนพลังชีวิตเหลือปรมาณหนึ่งส่วนสิบ
ทว่าทั้งสองถูกพิษพร้อมกัน!
ตอนนี้บนฝ่ามือสองข้างของโหยวโหยวกลับมีคลื่นกำลังภายในรูปเกล็ดมังกรปรากฏขึ้นรางๆ
จากนั้นท่ามกลางสายตาประหลาดใจของทุกคน ศิษย์พี่หญิงใหญ่ของสำนักถังเหมินแทนที่จะถอยกลับบุกไปข้างหน้าหนึ่งก้าว คว้ากระบี่ที่คนบินเหนือฟ้ากุมอยู่แล้วแทงย้อนไปที่ข้อมือขวาของอีกฝ่าย
จากนั้นสองมือของนางก็จี้สกัดจุดบนตัวอีกฝ่ายต่อเนื่องหลายจุดอย่างรวดเร็ว ขณะที่โจมตีจนอีกฝ่ายถอยหลังต่อเนื่องสามก้าว นางก็ใช้วิธีสกัดจุดอีกฝ่ายให้ติดสถานะตัวแข็งชั่วคราวเช่นกัน
เมื่อเห็นฉากนี้ หวังอวี่เยียนก็เอ่ยทันทีว่า “นี่คือมังกรเงยหน้า! กระบวนท่าที่โหยวโหยวใช้ก็คือท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดใน ‘วิชามือคว้าจับสิบแปดสายของสกุลติง’…มังกรเงยหน้า!”
อาศัยท่ามังกรเงยหน้า โหยวโหยวก็เปลี่ยนจากแขกเป็นเจ้าบ้านทันที จากนั้นก็พลันกระโดดขึ้นมา แต่กลับกระโดดเพียงหนึ่งเมตรกว่า แล้วหมุนตัวในระดับเดียวกับพื้นอย่างรวดเร็วรอบหนึ่ง ระหว่างที่หมุนตัวก็ใช้ปืนนางแอ่นเหินอินทรีคู่ในมือนางก็ยิงต่อเนื่องหกนัด เกิดรูกระสุนหกนัดบนเอวของคนบินเหนือฟ้า
มังกรคลั่งหมุน!
ในบรรดากระสุนหกนัดนี้แฝงการโจมตีคริติคอลสองครั้ง อาศัยท่าไม้ตายที่ร้ายกาจไร้เทียมทานนี้โจมตี ทำให้คนบินเหนือฟ้าที่เหลือค่าพลังชีวิตอยู่ครึ่งหนึ่งกลายเป็นแสงสีขาวทันที
ผลแพ้ชนะถูกตัดสินแล้ว!
เมื่อเห็นฉากนี้ แม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ยกนิ้วหัวแม่มือให้โหยวโหยวที่เพิ่งถูกส่งตัวกลับมาเช่นกัน “ทำได้สวยงาม!”
ในการถ่ายทอดสด เหวยเสี่ยวเป่าที่เป็นนักอวยของเยี่ยเว่ยหมิงก็รักบ้านและอีกาบนหลังคาบ้าน[1]เช่นกัน เขาตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้นว่า “มังกรเงยหน้า ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นมังกรเงยหน้า! ผู้เล่นโหยวโหยวอาศัยท่ามังกรเงยหน้าตรึงคู่ต่อสู้ของนาง จากนั้นก็อาศัยท่าไม้ตายปลิดชีพเสียเลย เคลื่อนไหวเสร็จสรรพในอึดใจเดียว ทำได้สวยงาม!”
“วันนี้พวกเราพลิกชะตาครั้งใหญ่แล้ว ขนาดผู้เล่นโหยวโหยวเกือบจนตรอก แต่ก็ยังย้อนกลับมาสังหารได้สำเร็จอย่างเยี่ยมยอด ช่างเป็นการต่อสู้ที่เร้าใจมากจริงๆ!”
ภายใต้การปลุกปั่นที่จงใจของเหวยเสี่ยวเป่า ผู้เล่นทุกคนที่กำลังชมการประลองเริ่มตื่นเต้นแล้ว ถ้าตอนนี้เปิดให้ข้อความบนหน้าจอเด้งขึ้นมา เกรงว่าคงมีตัวหนังสือ ‘666’ นับไม่ถ้วนบังหน้าจอมิด บนหน้าจอถ่ายทอดสดไม่มีอย่างอื่นเลยนอกจากเลข ‘6’
ครู่ต่อมา ในห้องประชุมเตรียมต่อสู้ของทีมตัวแทนเจ็ดประหลาดแห่งเจียงหนาน บนใบหน้าแต่ละคนเผยรอยยิ้มตื่นเต้น
มีเพียงคนเดียวที่ไม่เป็นอย่างนั้น นั่นก็คือวั่งเหยียน
[1] รักบ้านและอีกาบนหลังคาบ้าน 爱屋及乌 หมายถึง รักใครก็รักคนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเขาด้วย