ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 584 ค่ายกลฟ้าดาวเหนือ
ตอนที่ 584 ค่ายกลฟ้าดาวเหนือ
แตกต่างกับที่ทุกคนคิด รางวัลของเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้เป็นไอเทมภารกิจเหมือนของเชิญร่ำสุรากับฉางซิงอวี่แต่อย่างใด แต่เป็นตำราลับสำเร็จรูปชุดหนึ่ง
ทั้งยังเป็นตำราลับระดับสุดยอดวิชาด้วย!
[ค่ายกลฟ้าดาวเหนือ(สุดยอดวิชา)] ค่ายกลที่คิดค้นโดยหวังชงหยาง บรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักฉวนเจิน อานุภาพไม่รู้จบ
เงื่อนไขการฝึก:
กำลังภายในสูงสุด 5000
ท่าร่าง 100
……
พออ่านข้อมูลแนะนำของตำราลับ ‘ค่ายกลฟ้าดาวเหนือ’ พวกเพื่อนในทีมก็พากันตะลึงค้าง
นี่คือสุดยอดวิชา?
ถ้าสิ่งนี้นับเป็นสุดยอดวิชาได้ เช่นนั้นจ็ดศิษย์แห่งสำนักฉวนเจินที่ถูกพวกเขาโจมตีอย่างอนาถก่อนหน้านี้ แบบนี้ไม่ใช่สุดยอดวิชาแบบเฉลี่ยต่อคนหรอกหรือ
เพราะรู้ว่าหากตนไม่อธิบายให้ชัดเจน คงไล่เด็กน้อยขี้สงสัยพวกนี้ไม่ไปแน่ เยี่ยเว่ยหมิงจึงส่งข้อความในช่องทีมอีก [พวกเจ้าเดาไม่ผิดหรอก ‘ค่ายกลฟ้าดาวเหนือ’ ของพวกเขาก็เป็นสุดยอดวิชาเหมือนกัน เพียงแต่แบ่งจากหนึ่งเป็นเจ็ดเท่านั้น แต่ละคนเชี่ยวชาญเฉพาะการเปลี่ยนแปลงตรงตำแหน่งดาวที่ตัวเองยืนเท่านั้น…
…แต่ตำราลับเล่มนี้ในมือข้า กลับรวมแก่นแท้การโคจรพลังและการแปรรูปทัพของทั้ง ‘ค่ายกลฟ้าดาวเหนือ’ กล่าวได้ว่า…]
“มีใครสนใจสุดยอดวิชานี้บ้าง…
…ทุกคนล้วนเป็นสหายที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ข้าจะขายให้ราคาถูกๆ หน่อยก็ได้ แต่ต้องรู้ไว้นะว่านี่คือสุดยอดวิชาพิเศษ ไม่นับเป็นวิชากำลังภายใน ไม่นับเป็นกระบวนท่า ไม่นับเป็นเคล็ดจิต ไม่กินพื้นที่คอลัมน์สกิล!”
พอพูดถึงตอนสุดท้าย แม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็รูัสึกว่าตัวเองทำงานเป็นพนักงานขายแล้ว
เชิญร่ำสุรา “เอ่อ คือ การประลองใหญ่จบลงแล้ว ข้านึกขึ้นได้ว่ายังมีธุระ อยู่ต่อไม่ได้แล้ว ลาก่อนนะ!”
“ข้าก็ต้องไปเช่นกัน…สหายเยี่ย รักษาตัวด้วย!” ฉางซิงอวี่กล่าว
ปีศาจน้อยยุทธภพ “…”
……
ผู้เล่นเชิญร่ำสุราออกจากทีมแล้ว!
ผู้เล่นฉางซิงอวี่…
……
แล้วก็ผ่านไปอย่างนี้ ทีมเล็กๆ ที่เคยคึกคัก หลังจากได้ยินว่าเยี่ยเว่ยหมิงเตรียมจะขายตำราลับ ‘ค่ายกลฟ้าดาวเหนือ’ คนก็หายเงียบในชั่วพริบตาเดียว เหลือเพียงโหยวโหยวที่ถามเขาด้วยสีหน้ากังวล “เยี่ยเว่ยหมิง เจ้าร้อนเงินหรือ”
“เปล่านี่!”
เยี่ยเว่ยหมิงส่งข้อความตอบในช่องทีมอย่างกลุ้มใจ [ตอนนี้ข้าต้องเยียวยาตัวเองอย่างสงบใจ เจ้ามีธุระอะไรก็ไปทำก่อนเถอะ จะว่าไปห้องประชุมนี่ก็เป็นทำเลที่ดีเหมือนกันนะ ถึงจะเป็นมิติส่วนตัวแค่ชั่วคราว แต่ตราบใดที่ข้าไม่ออกไป ก็ไม่มีใครบุกมารบกวนการเยียวยาตัวเองของข้าได้ ไม่หายไปไหนด้วย]
โหยวโหยวยังไม่ค่อยวางใจ เตรียมจะอยู่ดูแลเยี่ยเว่ยหมิงต่อ กระทั่งเยี่ยเว่ยหมิงย้ำอีกครั้งว่าต้องการเยียวยาตัวเองเงียบๆ คนเดียว แล้วก็มียากับอาหารครบครัน นางอยู่ต่อก็ช่วยอะไรไม่ได้ นางถึงได้บอกลาและจากไปอย่างกังวล
ครู่ต่อมา ทั้งห้องประชุมก็เหลือเยี่ยเว่ยหมิงอยู่เพียงคนเดียว เขามองห้องประชุมที่ว่างเปล่าปราดหนึ่ง แล้วก็มอง ‘ตำราลับระดับสุดยอดวิชา’ ในกระเป๋าอีกครั้ง บนใบหน้าเผยรอยยิ้มเจื่อนแห่งความจนใจเล็กน้อย
ประสิทธิภาพของ ‘ค่ายกลฟ้าดาวเหนือ’ ย่อมไม่ต้องพูดมากแล้ว แต่ต่อให้เขาเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งดวงดาวทั้งหมดคนเดียว แล้วจะทำอย่างไรได้ ใช้วิชาแยกร่างมาวางค่ายกลอย่างนั้นหรือ
นี่คือวิชาที่ต้องวางแผนและทำงานร่วมกัน ถ้ามีเพียงเขาคนเดียว ก็เป็นเพียงวิชาฆ่ามังกรที่ไม่รู้ว่าเรียนแล้วจะนำไปใช้ประโยชน์ที่ไหน
เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า แล้วย้ายสายตากลับมาบนคอลัมน์สกิลสามวิชาที่เพิ่งเพิ่มเลเวลในฐานะรางวัลภารกิจไปก่อนหน้านี้
[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชา)]
เคล็ดจิตระดับสูงของสำนักไท่ซาน อาศัยความสามารถในการอ่านใจคนที่ทรงพลังเพื่อรู้แผนการของศัตรูล่วงหน้า โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!
เลเวล: 10
ค่าประสบการณ์: …
โจมตี +110%
แม่นยำ +110%
คริติคอลดาเมจ +110%
โจมตีถูกจุดสำคัญเพิ่มโอกาสปลิดชีพ 30%!
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: ตาทิพย์
ตาทิพย์: มีโอกาส 10% ที่จะมองทะทุจุดอ่อนในกระบวนท่าของคู่ต่อสู้ และโจมตีเพื่อเอาชนะได้
……
[วรรณกรรม]
ทักษะอื่นล้วนด้อยค่า มีเพียงตำราที่สูงส่ง
เลเวล: 10
ค่าประสบการณ์: …
กำลังภายใน +60%
มีผลพิเศษสำหรับวิทยายุทธ์
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: ความสง่างาม 艾琳小說
ความสง่างาม: ทำให้ค่าความรู้สึกดีแรกพบของ NPC บางส่วนเพิ่ม 10% จะได้รับค่าความรู้สึกดีสองเท่าจาก NPC ตามความเหมาะสม!
……
[ฝีมือทำครัว]
อาหารคือสวรรค์ของประชาชน
เลเวล: 10
ค่าประสบการณ์: …
คุณภาพของอาหารที่ทำจะเพิ่มขึ้นเยอะมาก ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นเยอะมาก!
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: อาหารมหัศจรรย์
อาหารมหัศจรรย์: ตอนใช้เมนูอาหารและวัตถุดิบชั้นสูง มีโอกาสทำอาหารที่มีค่าสเตตัสถาวร!
……
ทักษะที่เยี่ยเว่ยหมิงเลือกเพิ่มเลเวล ล้วนเป็นทักษะที่ไม่อาจใช้แต้มค่าตบะหรือตำราลับตระหนักรู้เพิ่มเลเวลได้โดยตรง หรือไม่ก็เป็นทักษะพิเศษที่ค้างอยู่ที่เลเวลเก้าแต่ไม่มีทางก้าวหน้าได้สักที
ในจำนวนนั้น ทักษะที่เพิ่มเลเวลง่ายที่สุดเหมือนจะเป็นไท้ซัวเป็นไฉน?
นอกเหนือจากนี้ แม้แต่วิชาตัวเบา ‘ทะยานบันไดเมฆา’ ที่ค้างอยู่เลเวลเก้ามาตลอด เขายังทำใจใช้โอกาสเพิ่มเลเวลนี้กับมันไม่ได้เลย
หากพูดถึงประสิทธิภาพอย่างเดียว ในบรรดาสามทักษะที่เยี่ยเว่ยหมิงเพิ่มเลเวล ความสามารถที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดย่อมเป็น ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพการโจมตีรวมทั้งโจมตีคริติคอลจากพื้นฐานเดิม จากเดิมที่โจมตีถูกจุดสำคัญเพิ่มโอกาสปลิดชีพ 15% ตอนนี้เพิ่มเป็น 30% แล้ว เพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าเต็มๆ!
นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟ็กต์พิเศษตาทิพย์เพิ่มมาด้วย แม้ตอนนี้จะยังพิสูจน์ไม่ได้เพราะบาดเจ็บสาหัส แต่ตามที่บรรยายไว้ในข้อมูลแนะนำก็เหมือนจะไม่ธรรมดาเลย
เมื่อเทียบกันแล้ว ค่าความรู้สึกดีจาก NPC ของทักษะวรรณกรรม กับอาหารที่เพิ่มค่าสเตตัสถาวรได้ของทักษะฝีมือทำครัว ดูแล้วเหมือนดีงามมาก แต่กลับต้องรอให้มันแสดงผลลัพธ์ออกมาช้าๆ ระหว่างที่ใช้ชีวิตในเกม ไม่ได้มีผลกระทบต่อการเพิ่มความสามารถอย่างชัดเจน
ถ้าอยากเพิ่มความเร็วในการสะสมค่าความรู้สึกดีของ NPC อย่างน้อยเจ้าก็ต้องเจอ NPC ที่ต้องเพิ่มค่าความรู้สึกดีและบังเอิญมีไอเทมดรอปสอดคล้องกันก่อน
ส่วนอาหารที่เพิ่มขีดจำกัดค่าสเตตัสถาวร เงื่อนไขที่มีต่อเมนูอาหารและวัตถุดิบจะต้องเข้มงวดมากแน่นอน
ไม่ใช่เรื่องง่ายดายขนาดนั้น
หลังจากสรุปผลตอบแทนที่ได้อย่างง่ายๆ แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็โยนความคิดฟุ้งซ่านออกไปทันที กินยาน้ำค้างหยกเก้าดอกที่ซานเย่ว์ซื้อมาให้ก่อนหน้านี้หนึ่งเม็ด แล้วเริ่มตั้งสมาธิโคจรพลังรักษาบาดแผล
เดิมที เยี่ยเว่ยหมิงคิดว่าการรักษาบาดแผลเป็นเรื่องที่ง่ายมากสำหรับผู้เล่น แม้จะเป็นอาการบาดเจ็บสาหัสที่เกิดจากผลด้านลบของ ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ ก็ต้องใช้เวลานั่งปรับลมปราณหนึ่งชั่วโมงถึงจะหายดี แต่นี่เป็นสถานการณ์ที่ยังไม่ได้กินยาใดๆ หากกินยาแล้วก็จะฟื้นตัวเร็วขึ้น
แต่ครั้งนี้ ทั้งก่อนและหลังต่อสู้เยี่ยเว่ยหมิงกิน ‘ยาน้ำค้างหยกเก้าดอก’ สามเม็ด ‘ยาอู๋ฉาง’ ห้าเม็ด นอกจาก ‘ยาลูกกลอนโชคลาภอมตะ’ ที่ทำให้ค่าสเตตัสกลับมาเต็มภายในชั่วพริบตาเดียว ก่อนหน้านี้เขาก็ทุ่มเงินซื้อยารักษาบาดแผลระดับสูงมาเกือบหมดแล้ว
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังต้องใช้เวลาถึงสามวันเต็มๆ กว่าอาการบาดเจ็บสาหัสครั้งนี้จะกลับมาหายดีโดยสมบูรณ์
พอคิดทบทวนถึงยาและเวลาที่ตัวเองใช้ไปสำหรับการรักษาอาการบาดเจ็บ จู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็นึกเสียใจทีหลัง
หากรู้ตั้งแต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนที่ประลองก็ไม่ควรฝืนข่มอาการบาดเจ็บไว้เลย ฉางซิงอวี่ก็ยิ่งไม่ควรยื่นมือเข้ามาช่วยตนขวางการโจมตีของคนบินเหนือฟ้า
หากตอนนั้นตนถูกคนบินเหนือฟ้าปลิดชีพด้วยกระบี่เดียว ก็จะได้ไปโผล่ที่จุดฟื้นชีพพร้อมค่าสเตตัสที่สมบูรณ์ เพราะกติกาการประลองบอกไว้แล้วว่าไม่มีการลงโทษถ้าหากถูกฆ่าตาย
แบบนั้นไม่ดีหรอกหรือ
แต่ดูตอนนี้สิ?
เสียเวลาไปเฉยๆ ห้าวัน ทั้งยังเปลืองยาอันล้ำค่าไปตั้งมากมาย สิ่งที่ได้มามีเพียงการอวดเก่ง ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ดูเป็นการกระทำที่ตรงข้ามกับคำว่า ‘ตายเพื่อรักษาหน้า อยู่เพื่อรับกรรม’
หากเรื่องนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ข้าจะเลือกทนหรือเปล่า?
นี่ยังคงเป็นคำถาม!
เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า ทิ้งความคิดที่มิอาจกลายเป็นจริงได้ไปก่อน เขาลุกขึ้นยืน ขยับกระดูกและเส้นเอ็นที่ตึงแน่นนิดหน่อย จากนั้นก็ถูกส่งตัวออกจากห้องประชุมที่กำลังจะหายไป แล้วถือโอกาสเปิดช่องแชทที่ปิดมาตลอดระหว่างที่เยียวยาตัวเอง
ใครจะคิดว่าตอนที่เพิ่งเปิดช่องแชท ก็เห็นนกพิราบสีขาวกลุ่มใหญ่ บินเรียงกันบนฟ้าเป็นคำว่า ‘ขอบัตรรายเดือนเติมนิยาย’