ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 633 โอวหยางเค่อ เจ้าก่อเรื่องแล้ว!
ตอนที่ 633 โอวหยางเค่อ เจ้าก่อเรื่องแล้ว!
[คัมภีร์เทพสาดส่อง (สุดยอดวิชา)]
เลเวล: 8 (+1)
ค่าประสบการณ์: 0/10000000
พลังชีวิตสูงสุด +16000 (+2000)
กำลังภายในสูงสุด +16000 (+2000)
ความแข็งแกร่ง +800 (+100)
พละกำลัง +800 (+100)
ท่าร่าง +800 (+100)
ความว่องไว +800 (+100)
ความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตและกำลังภายในเพิ่มขึ้นเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างต่อสู้ ตอนปกติหรือตอนนั่งสมาธิก็จะเพิ่มขึ้นอย่างสอดคล้องกัน!
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: เทพสาดส่องสุกสกาว
เทพสาดส่องสุกสกาว: ต้านทานการโจมตีติดธาตุและติดสถานะพิเศษทั้งหมดเพิ่ม 200 แต้ม!
เมื่อเลเวลของวิชากำลังภายในเพิ่มขึ้น มองจากภายนอกจะเห็นได้ว่าค่าสเตตัสรายการต่างๆ ของเยี่ยเว่ยหมิงเพิ่มขึ้นมาก แต่ความจริงแล้ วความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตและกำลังภายในก็เพิ่มขึ้นมากจากพื้นฐานเดิมเช่นกัน!
แต่เมื่ออยู่ภายใต้เอฟเฟ็กต์สองชั้นของกระบี่รอยมังกร มันก็กลายเป็นการเพิ่มขึ้นที่วิปริตกว่าเดิม!
สิ่งที่แสดงออกอย่างชัดเจนที่สุดก็คือ เมื่อ ‘คัมภีร์เทพสาดส่อง’ ถึงเลเวลแปด ในที่สุดพลังชีวิตของเขาก็ไม่ลดลงอีก ถึงขั้นกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงอีกครั้งด้วย
ก่อนหน้านี้ยอดฝีมือทยอยลงมือคนแล้วคนเล่า ตอนนี้ไม่มีผู้อาวุโสคนอื่นออกมาเพิ่มจำนวนแล้ว!
หากคุมเชิงกันต่อไปตามจังหวะแบบนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอาศัยการโจมตีด้วยคลื่นเสียงของห้ายอดฝีมือเพิ่มเลเวลวิชากำลังภายในระดับสุดยอดวิชานี้ให้ถึงเลเวลเก้าในชั่วอึดใจเดียวได้หรือเปล่า
เยี่ยเว่ยหมิงอยากจะลองดู!
ต่อให้ทำอย่างนั้นไม่ได้ ขอแค่สะสมค่าประสบการณ์ของวิชากำลังภายในได้เพิ่มขึ้นสักหน่อยก็ยังดี
ที่จริงแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ตกอยู่ในสภาวะชะงักงัน เยี่ยเว่ยหมิงไม่เป็นฝ่ายยอมแพ้ก่อนแน่นอน ด้วยฐานะและอุดมการณ์ของพวกหวงเย่าซือ ต่อให้ดันทุรังต่อไป แต่ก็ไม่มีทางเป็นฝ่ายหยุดโจมตีก่อนแน่นอน
หากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย เยี่ยเว่ยหมิงจะอาศัยคลื่นเสียงของพวกเขาเพิ่ม ‘คัมภีร์เทพสาดส่อง’ จนถึงเลเวลเก้า ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ตราบใดที่กำลังภายในของยอดฝีมือเหล่านี้สนับสนุนให้พวกเขาโจมตีได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ทว่าระบบที่ทำได้ทุกอย่างเหมือนไม่อยากเห็นเยี่ยเว่ยหมิงโกงแบบนี้ต่อไปแล้ว
ดังนั้น ในช่วงเวลาสำคัญนี้ โอวหยางเค่อจึงเริ่มเล่นลูกไม้แล้ว
ท่ามกลางมลพิษทางเสียงที่เกินระดับเดซิเบลที่ห้ายอดฝีมือและเยี่ยเว่ยหมิงสร้างขึ้นมาพร้อมกัน คนที่ทรมานไม่ได้มีแค่เยี่ยเว่ยหมิงคนเดียวเท่านั้น แม้แต่ NPC รุ่นเล็กหลายคนที่อยู่ตรงนั้นก็ทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน
แต่พวกเขาอาศัยวิชาปิดหูปกป้องตัวเองได้ จึงไม่ได้อันตรายถึงขนาดนั้น
ในบรรดาพวกเขาสามคน ดันมีกัวจิ้งที่เคยดื่มเลือดงูและฝึก ‘คัมภีร์เก้าอิม’ มาก่อน แม้จะไม่ได้ทรมานกับมลพิษทางเสียงที่หกคนนี้ก่อขึ้น แต่กลับประคองสถานการณ์ได้ทั้งที่ไม่มีวิชาอะไรสำหรับใช้ปกป้องหูตนเอง ดูอวดเก่งกว่าทายาทห้ายอดฝีมืออย่างหวงหรงและโอวหยางเค่อหนึ่งระดับ
สำหรับสิ่งนี้ นอกจากหวงหรงจะแสดงออกว่าไม่ถือแล้ว ในใจยังชอบด้วยซ้ำ
พี่กัวจิ้งของข้าเจ๋งมาก!
ทว่าเมื่อโอวหยางเค่อเห็นกัวจิ้งอวดเก่งเช่นนี้ กลับรู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย
ขนาดข้าเป็นนายน้อยแห่งเขาอูฐขาวยังไม่อิสระสง่างามเช่นนี้เลย เจ้าเด็กหนุ่มรากหญ้าอย่างเจ้าถือสิทธิ์อะไร
ดังนั้น จู่ๆ เขาก็ปล่อยสองมือที่ปิดหูออก พลันพุ่งตัวมาข้างหน้า ใช้ ‘หมัดงูศักดิ์สิทธิ์’ ที่เป็นสุดยอดทักษะของตระกูลโจมตีที่แผ่นหลังของกัวจิ้ง
เดิมทีกัวจิ้งกำลังรวบรวมสมาธิต้านการโจมตีจากคลื่นเสียงของทั้งหกคน จู่ๆ พบว่าข้างหลังมีคนลอบโจมตี จึงหมุนตัวทันทีโดยไม่ทันได้คิด จากนั้นใช้สองมือตบไปด้านหลังพร้อมกัน
มือซ้ายใช้มังกรซ่อนกบดาน!
มือขวาใช้มังกรผยองได้สำนึก!
หมัดงูศักดิ์สิทธิ์ของโอวหยางเค่อตกลงบน ‘มังกรซ่อนกบดาน’ บนมือซ้ายของกัวจิ้งก่อน จึงกระตุ้นเอฟเฟ็กต์สะเทือนกลับของมันในชั่วพริบตาเดียว การโจมตีนี้สะเทือนสลายไป
กรรร!
หลังจากนั้น ‘มังกรผยองได้สำนึก’ บนมือขวาของกัวจิ้งก็พ่นออกมาตามกำลังภายในเช่นกัน ฟาดบนตัวโอวหยางเค่ออย่างแรง
กรร!
เมื่อถูกการโจมตีนี้ โอวหยางเค่อที่ลอบโจมตีไม่สำเร็จแต่กลับถูกเอาคืนก็สะเทือนถอยหลังทันที กระอักเลือดคำใหญ่ออกมาระหว่างที่ตัวอยู่กลางอากาศ เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บภายในไม่เบา
จากนั้น คุณชายโอวหยางชุดขาวพลิ้วไสวท่านนี้ก็ตกลงในท่า ‘คางคกทองก้นจ้ำเบ้า’ ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เงยหน้ามองฟ้าพร้อมเสียงดังตุ้บ
เหมือนคางคกตัวหนึ่งที่ตกลงพื้น สะบักสะบอมได้อีก!
“เค่อเอ๋อร์!”
เมื่อเห็นโอวหยางเค่อได้รับบาดเจ็บ โอวหยางเฟิงก็ไม่มีกะจิตกะใจจะดีดฉินอีกแล้ว เสียงคำรามเกรี้ยวกราดดังขึ้นทันที ตัวกระโดดขึ้นจากพื้นเข้าใส่กัวจิ้งราวกับคางคก
เมื่อเห็นกัวจิ้งที่เพิ่งจะถูกบีบให้อวดเก่งเล็กน้อยกำลังจะรับไฟโกรธที่มาจากโอวหยางเฟิง หงชีกงที่ยืนอยู่อีกฝั่งก็ไม่พอใจทันที เขาถลันตัวขึ้นมาแล้วเช่นกัน มาขวางอยู่ระหว่างกัวจิ้งกับโอวหยางเฟิงแล้ว เสียงมังกรคำรามดังแว่วอยู่ระหว่างสองฝ่ามือ พร้อมตะโกนว่า “โอวหยางเฟิง เจ้าคิดจะทำอะไร”
เมื่อเห็นหงชีกงมาขวางอยู่ตรงหน้า โอวหยางเฟิงก็ทำได้เพียงหยุดการโจมตีกะทันหัน แล้วยื่นมือชี้ไปยังกัวจิ้งที่อยู่ข้างหลัง ถามอย่างเดือดดาลว่า “เจ้าเด็กเปรต เหตุใดเจ้าจึงโจมตีเค่อเอ๋อร์ของข้า”
กัวจิ้งเป็นคนซื่อสัตย์ เมื่อถูกโอวหยางเฟิงถามเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
ตอนนี้หวงหรงที่เขี้ยวแหลมปากคมจึงก้าวขึ้นมาข้างหน้า ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหงชีกง โผล่ออกมาแค่ศีรษะ แล้วเถียงกลับตาต่อตาฟันต่อฟัน “ท่านตาบอดหรือ เมื่อครู่เจ้าตัวพิษนั่นลอบโจมตีพี่กัวจิ้งก่อนชัดๆ!”
เมื่อเห็นลูกสาวตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว หวงเย่าซือก็ไม่สบอารมณ์ทันที วางขลุ่ยหยกลงแล้วกล่าวเสียงต่ำ “หรงเอ๋อร์ อย่าเสียมารยาท”
ชั่วขณะนั้น ความสนใจของทุกคนถูกเบี่ยงเบนเพราะการลอบโจมตีครั้งเดียวของโอวหยางเค่อและการโจมตีกลับของกัวจิ้งแล้ว
เมื่อเห็นมารบูรพาและพิษประจิมหยุดโจมตีแล้ว อี้เติงก็หยุดสวดคาถาแล้วเช่นกัน แต่กลับยังยืนอยู่ข้างหลังเยี่ยเว่ยหมิง ไม่ได้จากไปไหน
ส่วนเฒ่าทารกเมื่อเห็นทุกคนไม่ประลองคลื่นเสียงกันแล้ว ก็เลิกหัวเราะทันที กระโดดสูงอย่างกลุ้มใจมาก “ไม่สนุกเลย ไม่สนุกเลย ข้าเพิ่งเข้าร่วมเมื่อครู่นี้เอง พวกเจ้าก็เลิกเล่นกันเสียแล้ว ไม่สนุกเลยจริงๆ!”
ชั่วพริบตาเดียว แรงกดดันบนตัวเยี่ยเว่ยหมิงก็หายไปหมดสิ้น!
ค่าประสบการณ์ของ ‘คัมภีร์เทพสาดส่อง’ เพิ่มขึ้นเร็วมากราวกับธนูไฟ แล้วกลับมาถึงจุดเยือกแข็งในชั่วพริบตาเดียวเช่นกัน
ขณะที่กำลังกลุ้มใจ เยี่ยเว่ยหมิงก็อดเตือนไม่ได้ว่า “เอ่อ คือ ข้ายังไม่ได้สะเทือนตายเพราะพวกท่านเสียหน่อย หรือไม่อย่างนั้น ผู้อาวุโสทั้งหลายลองพยายามอีกสักหน่อยดีไหม ลองดูว่าขีดจำกัดของข้าอยู่ตรงไหน”
เมื่อเห็นท่าทางไม่รู้จักพอของเยี่ยเว่ยหมิง หวงเย่าซือก็ขี้คร้านจะเปลืองคำพูดกับเขาแล้ว เพียงส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอแล้วก็ไม่มองเขาอีก
ขณะเดียวกัน เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นกะทันหันข้างหูเยี่ยเว่ยหมิง
[ติ๊ง! การประลองยุทธ์เลือกคู่หวงหรงคัพครั้งที่สอง การประลองกำลังภายในสนามแรกจบลงแล้ว คุณได้รางวัลชนะเลิศในการประลองสนามนี้ ได้รับคะแนนดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ได้รับคะแนนทั้งหมด 5 คะแนน!]
ยอดเยี่ยม!
เสียงแจ้งเตือนของระบบโผล่มาแล้ว แสดงว่าการประลองกำลังภายในสนามนี้จบลงแล้วโดยสมบูรณ์
ซึ่งเยี่ยเว่ยหมิงผู้ได้รางวัลชนะเลิศของการประลองสนามนี้ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกดีใจใดๆ ในใจกลับรู้สึกเศร้าที่สุดด้วยซ้ำ
ตั้งแต่พวกเขาสี่คนสะเทือนหูตาย อันดับหนึ่งก็คือของข้าอยู่แล้ว
ข้าต้องการแค่ห้าคะแนนนั้น
ไม่สิ!
นอกจากห้าคะแนนนั้น ยังมี ‘เพลงกวนกระแสทะเลคราม’ ของข้า เสียงกู่เจิงของข้า เสียงขลุ่ยของข้า เสียง…
อีกด้านหนึ่ง โอวหยางเค่อที่เพิ่งถูกโอวหยางเฟิงประคองให้ยืนขึ้นก็พลันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจากก้นบึงของหัวใจ เขาหันไปมอง แต่กลับพบว่าในมือเยี่ยเว่ยหมิงกำลังถือมีดสั้นเล่มหนึ่ง กำลังหมุนมีดอยู่ระหว่างนิ้ว มีดหมุนราวกับบินได้
ขณะเดียวกัน แววตาของคนกระบี่ที่มองนายน้อยโอวหยางก็เผยเจตนาสังหารอันเข้มข้นที่ไม่ได้ปิดบังแล้ว
เจ้าตัวดีโอวหยางเค่อ!
เจ้ารู้หรือเปล่าว่าการตัดวาสนาคนอื่นเสมือนการสังหารบุพการี
ข้าจะบอกเจ้าให้นะ
เจ้าก่อเรื่องแล้ว เจ้าก่อเรื่องใหญ่แล้ว!