ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 656 บทรักษาบาดเจ็บ
ตอนที่ 656 บทรักษาบาดเจ็บ
ถ้าอยากขยายผลประโยชน์ให้มากขึ้น บางครั้งก็ต้องจัดการกับพวกกระดูกแข็งที่มีคนหนุนหลังมากที่สุด!
ตัวอย่างเช่นเฮ่อเหลียนเถี่ยซู่
ในฐานะผู้บัญชาการให้กลุ่มอี้ผิ่นถังเล่นงานพรรคกระยาจกครั้งนี้ ขอเพียงควบคุมตัวเขาได้ ลูกน้องพวกนั้นของเขาก็จะเป็นฝ่ายมาติดกับดักที่สำนักมือปราบเทพเอง
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ หลังจากจับกุมเฮ่อเหลียนเถี่ยซู่และได้หลักฐานที่เพียงพอจะพิสูจน์ว่าเขาเป็นคนร้ายแล้ว เจ้าหมอนี่ก็จะราคาสูงเป็นพิเศษ ระหว่างที่ราชสำนักเจรจากับซีเซี่ยก็จะเป็นฝ่ายได้เปรียบมากขึ้น!
ส่วนเยี่ยเอ้อร์เหนียง
ที่จริงจะไม่พูดถึงความสัมพันธ์ทางฝั่งสี่คนโฉดก็ได้ ถึงอย่างไรในบรรดาสี่คนโฉด ยอดฝีมือที่แท้จริงก็มีเพียงต้วนเหยียนชิ่งเท่านั้น ยังไม่ต้องพูดถึงพวกพี่ใหญ่ของสำนักมือปราบเทพอย่างหวงโส่วจุน โหยวจิ้น แม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็มีวิธีควบคุมเขา ไม่จำเป็นต้องกังวลเลย
สำหรับเยี่ยเว่ยหมิง หรือสำนักมือปราบเทพ มูลค่าสูงสุดของนางยังคงมาจากเสวียนเปย!
ในฐานะที่เป็นหญิงชู้ของเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน เสวียนเปยจะต้องปกป้องนางอยู่แล้ว
อย่างที่ซานเย่ว์กังวลก่อนหน้านี้ สำนักมือปราบเทพไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์แย่ๆ กับเส้าหลินเพียงเพราะเยี่ยเอ้อร์เหนียงคนเดียว
แต่ถึงอย่างไรตอนนี้เยี่ยเอ้อร์เหนียงก็ทำผิด ทั้งยังถูกจับกลับมาขังคุกที่สำนักมือปราบเทพ ถ้าอยากจะให้สำนักมือปราบเทพปล่อยคน เส้าหลินก็ต้องแสดงความจริงใจสักเล็กน้อย
ถึงขั้นกล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเฮ่อเหลียนเถี่ยซู่หรือเยี่ยเอ้อร์เหนียง ขอเพียงใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม ประโยชน์ที่จะได้รับจากตัวพวกเขาสองคนก็เหนือกว่ามูลค่าจากตัวพวกเขาสองคนเสียอีก!
หากถามว่าการขายหญิงชายคู่นี้ได้ราคาเท่าไรกันแน่ นั่นก็เป็นเรื่องที่หวงโส่วจุนและราชสำนักต้องพิจารณา
ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา!
ขอเพียงพวกเยี่ยเว่ยหมิงนำผลงานส่วนนี้กลับสำนักมือปราบเทพ หวงโส่วจุนก็ย่อมนำรางวัลภารกิจที่น่าพึงพอใจออกมาให้พวกเขาอยู่แล้ว อย่างอื่นไม่ใช่เรื่องที่ผู้เล่นอย่างพวกเขาต้องกังวล
ผู้เล่นสามคนคุมตัว NPC ที่กระทำความผิดสองคนไปขึ้นรถม้ายังจุดพักม้าในหมู่บ้านมือใหม่ที่ใกล้วัดเทียนหนิงที่สุดเพื่อกลับเมืองหลวง จากนั้นตัวผู้ร้ายทั้งสองเข้าคุกทันที ตอนนี้ถึงได้แต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วไปพบหวงโส่วจุน ลูกพี่ของพวกเขาที่ห้องประชุม
หลังจากหวงโส่วจุนฟังพวกเขาบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งภารกิจให้ฟังแล้วก็พยักหน้าอย่างพอใจมาก “แม้พวกเจ้าจะไม่ได้ลงมือช่วยคนของพรรคกระยาจกเอง แต่ขอเพียงเรื่องนี้จบลงด้วยดี พวกเจ้าจะลงมือเองหรือไม่ก็ไม่สำคัญ สิ่งที่ยากกว่านั้นก็คือ พวกเจ้ากลับคิดออกว่าต้องจับตัวคนที่มีมูลค่าสูงสุดอย่างเฮ่อเหลียนเถี่ยซู่กับเยี่ยเอ้อร์เหนียงกลับมา ข้าพอใจในผลงานของพวกเจ้ามาก”
เยี่ยเว่ยหมิงกุมหมัดคารวะทันที “ล้วนเป็นเพราะมีผู้นำที่ดีอย่างหวงโส่วจุน”
“อย่ามาใช้มุกนี้เลย!” หวงโส่วจุนด่ากลั้วหัวเราะอย่างผ่อนคลาย จากนั้นก็ถามอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง “สำหรับคนที่ลอบสังหารคังหมิ่นคนนั้น พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร”
เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ได้ยินแล้วมองไปทางเยี่ยเว่ยหมิงอย่างสงสัยพร้อมกัน เยี่ยเว่ยหมิงตอบอย่างมั่นใจมากกว่า “ตัดผู้เล่นออกก่อนเลยขอรับ”
หวงโส่วจุนพยักหน้าโดยไม่ออกความเห็น สื่อว่าให้เขาพูดต่อไป
เยี่ยเว่ยหมิงพูดต่อด้วยท่าทางมั่นใจที่สุด “ดูจากความเร็วและแรงของหินก้อนนั้น อย่างน้อยประสิทธิภาพก็เหนือกว่า ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ของข้าสองเท่า!…
…อีกทั้งทันทีที่ผู้ลอบโจมตีคนนั้นทำสำเร็จ เฉียวเฟิงก็ไล่ตามไปทันที แต่กลับเจอคนของกลุ่มอี้ผิ่นถังใช้ ‘สายลมโศกา’ จับตัวทุกคนของพรรคกระยาจกไป เฉียวเฟิงจึงย้อนกลับมาไม่ทัน…
…สิ่งนี้กำลังบอกอะไรเรา…
…สิ่งนี้กำลังบอกว่า นอกจากผู้ลอบโจมตีจะใช้อาวุธลับที่ข้ากับเฉียวเฟิงไม่มีทางสกัดได้ ตอนที่เฉียวเฟิงไล่ตามโจมตี เขายังยืนหยัดได้เป็นเวลานานด้วย…
…แม้พลังฝีมือของเฉียวเฟิงจะเทียบกับหวงโส่วจุนไม่ติด แต่เกรงว่าในบรรดาคนหนุ่มของยุทธภพ ผู้ที่โดดเด่นเช่นนี้ก็มีน้อยจนนับนิ้วได้!”
หลังจากบรรยายเรื่องจริงที่ยืนยันได้ไปแล้ว ในที่สุดเยี่ยเว่ยหมิงก็สรุปว่า “สรุปจากสองข้อที่กล่าวมาข้างต้น อย่างน้อยข้าก็ยอมรับว่าข้าทำไม่ได้สักอย่าง…
…ไม่ใช่ว่าข้าน้อยโอ้อวดตัวเอง แต่ข้าไม่คิดว่าในบรรดาผู้เล่นปัจจุบันนี้ มีใครที่ทำสองอย่างที่กล่าวมาได้!”
หวงโส่วจุนพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาก็คิดเช่นกันว่าท่ามกลางผู้เล่นในปัจจุบันไม่มีใครเก่งกว่าเยี่ยเว่ยหมิง
จากนั้น หวงโส่วจุนก็ถามต่ออีก “แล้วทางด้านของ NPC เป็นอย่างไร เจ้าสงสัยใครหรือไม่”
“ไม่มีผู้ต้องสงสัยที่ชัดเจน ยืนยันได้เพียงทิศทางคร่าวๆ เท่านั้น” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “คังหมิ่นถูกลอบสังหารตอนกำลังจะบอกตัวตนของพี่ใหญ่ผู้นำ ข้าคิดว่าคนผู้นี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นนอกด่านเมื่อสามสิบปีก่อนแน่นอน ส่วนจะเป็นพี่ใหญ่ผู้นำผู้ลึกลับคนนั้นทำเองหรือไม่ ก็ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปตอนนี้”
หวงโส่วจุนพยักหน้า จากเบาะแสอันน้อยนิดตอนนี้ วิเคราะห์ได้ขนาดนี้ก็นับว่ายากมากแล้ว
ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่แก้ไขคดีได้เก่งอย่างซ่งฉือก็อาจวิเคราะห์ได้ไม่ดีเท่าเยี่ยเว่ยหมิงก็ได้
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ในเมื่อคลื่นลมทางฝั่งพรรคกระยาจกสงบลงแล้วชั่วคราว ก็ยังไม่ต้องรีบสืบความจริงเรื่องนี้ก็ได้
ถึงอย่างไรคังหมิ่นนั่นก็มีโทษที่สมควรตายอยู่แล้ว สำนักมือปราบเทพยังต้องรับหน้าที่กำกับดูแลยุทธภพทั้งหมด จำนวนคนก็ไม่พอให้ใช้งาน จะมีทรัพยากรมากมายขนาดนั้นไปสืบหาสาเหตุการตายโดยละเอียดละเอียดของสตรีที่ไม่สำคัญคนหนึ่งได้อย่างไร
สำหรับพวกลามกบางคนของพรรคกระยาจก คังหมิ่นนับเป็นการมีอยู่ที่ค่อนข้างพิเศษ แต่สำหรับคนของสำนักมือปราบเทพ นางจะเป็นหรือจะตายก็ไม่ได้สำคัญเลยสักนิด
“ในภารกิจครั้งนี้ พวกเจ้าสามคนแสดงฝีมือได้ไม่เลวเลย นี่คือรางวัลภารกิจของพวกเจ้า รับไปทำความเข้าใจเอาเอง” ระหว่างที่พูดก็โยนตำราลับสามเล่มออกมาให้พวกเยี่ยเว่ยหมิง
เยี่ยเว่ยหมิงรับเล่มของตัวเองไว้ จากนั้นมองที่หน้าปกแวบหนึ่ง เห็นด้านบนเขียนไว้ว่า ‘บทรักษาบาดเจ็บ’
[บทรักษาบาดเจ็บ (ระดับสูง)] บทรักษาบาดเจ็บ ใช้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ใช้เพื่อเพิ่มพลังได้ มีสรรพคุณในการรักษาอาการบาดเจ็บทั้งภายนอกภายสูงมาก เงื่อนไขการฝึก: ความแข็งแกร่ง 200 สติปัญญา 50 กำลังภายในสูงสุด 5000 แต้ม]
นี่คือรางวัลภารกิจจากหวงโส่วจุน มักจะเป็นรางวัลที่เรียบหรูแต่มีความหมายแฝง
ไม่เหมือนสุดยอดวิชาอย่างอื่น ที่ต้องมีคำว่า ‘คัมภีร์’ หรือ ‘ดั้งเดิม’ ที่ขาดไม่ได้คือคำว่า ‘พลัง’ หรือไม่ก็ ‘เคล็ด’ หรือ ‘ตำรา’ คำต่างๆ ที่ทำให้ดูสูงส่งเกินจริง
ของที่หวงโส่วจุนนำออกมาเรียบง่ายกว่าเยอะ
ตำรา ‘หลอมกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็น’ ก่อนหน้านี้ก็เป็นเช่นนี้ ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ ก็เหมือนกัน ดูเหมือนเป็นเพียงส่วนหนึ่งในสุดยอดวิชาเท่านั้น
แต่ความจริงแล้ว?
นี่คือส่วนหนึ่งของวิชาศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทานทั้งนั้น!
ดูจากกลยุทธ์ ‘วีรบุรุษยิงอินทรีสามเล่ม’ ที่อินปู้คุยให้มา ‘หลอมกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็น’ กับ ‘บทรักษาบาดเจ็บ’ ทั้งหมดล้วนมาจากส่วนแรกของ ‘คัมภีร์เก้าอิม’ หรือพูดได้อีกอย่างว่าพวกมันคือเคล็ดวิชาที่ใช้งานได้จริงที่สุด อีกทั้งในภายหลังยังมีโอกาสรวมเป็นหนึ่งด้วย รวมทั้งหมดให้กลายเป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทานที่ชื่อว่า ‘คัมภีร์เก้าอิม’
เป็นประเภทที่กินพื้นที่แถบสกิลเเพียงช่องเดียวเท่านั้น!
หลังจากเก็บตำราลับเข้ากระเป๋าอย่างพึงพอใจ เยี่ยเว่ยหมิง เฟยอวี๋และซานเย่ว์ก็กล่าวขอบคุณหวงโส่วจุนพร้อมกัน
หวงโส่วจุนเพียงพยักหน้าเบาๆ แล้วบอกว่า “เยี่ยเว่ยหมิงอยู่ก่อน พวกเจ้าสองคนมีธุระอะไรก็ไปทำ”
หลังจากอีกสองคนกล่าวอำลาและออกจากห้องประชุมไปแล้ว หวงโส่วจุนก็มองเยี่ยเว่ยหมิงที่กำลังทำหน้าสงสัยจากนั้นบอกว่า “เจ้าต้องสงสัยมากแน่ๆ ว่าข้าเรียกให้เจ้าอยู่ต่อคนเดียว เพราะมีเรื่องอะไรจะมอบหมายกันแน่”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่รอให้เยี่ยเว่ยหมิงแสดงท่าที ก็กล่าวอย่างเอื่อยเฉื่อยแล้วว่า “ตอนนี้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปหมดแล้ว หนึ่งดาบ เจ้าออกมาเถิด”