ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 108 :ขายดีกว่าที่คิดไว้
ตอนที่ 108 :ขายดีกว่าที่คิดไว้
ในตอนที่ลูกค้ากำลังถามถึง กุ้งอบน้ำมันของเจียงเสี่ยวไป๋ก็ถูกตักขึ้นจากกระทะพอดี
ถึงเวลานำป้ายโฆษณาที่เขียนไว้ออกมาติดแล้ว
อืม ครั้งนี้ไม่ต้องเอาป้ายโฆษณาไปตั้งตามริมทาง เขาจะตั้งป้ายแค่ในร้านก็พอ
“กุ้งอบน้ำมันหอม ๆ พร้อมเสิร์ฟแล้ว ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ขึ้นป้ายโฆษณาแล้วตะโกน
ลูกค้าทั้งในและนอกร้านต่างพากันกรูเข้ามาเพราะอยากรู้ว่ากุ้งเครย์ฟิชอบน้ำมันที่ร่ำลือนี้จะหน้าตาเป็นอย่างไร
“เมนูใหม่ กุ้งอบน้ำมันเลิศรส”
“จำกัดแค่ 50 ชุดเท่านั้น มาก่อนได้ก่อน”
เนื้อหาบนป้ายโฆษณานั้นเรียบง่ายมาก ไม่มีคำว่า ‘ลองชิมฟรี’ ไม่มีการส่งเสริมการขายในจำนวนมาก แต่กลับขายอย่างจำกัดเพียงแค่ 50 ชุด แตกต่างจากการออกเมนูใหม่ของร้านในก่อนหน้านี้
“เถ้าแก่ รีบยกกุ้งอบน้ำมันที่ว่านั่นออกมาเถอะ”
“ใช่แล้ว หอมมากเลย ชักจะน้ำลายสอแล้วสิ”
“เถ้าแก่ กุ้งอบน้ำมันขายชุดละเท่าไหร่ ? ”
“ทำไมครั้งนี้ถึงไม่ให้เราลองชิมแล้วล่ะ ? ”
“……”
ลูกค้าขาประจำหลายคนรู้ดีว่าเจียงเสี่ยวไป๋เป็นพ่อครัวประจำของร้านนี้ และเขาก็เป็นคนปรุงเมนูพะโล้แสนอร่อยเหล่านั้นเองกับมือ
ดังนั้น เมื่อพวกเขาเห็นเจียงเสี่ยวไป๋จึงพากันถาม
เจียงเสี่ยวไป๋ขอให้หวังผิงยกกุ้งอบน้ำมันออกมาและพูดอย่างใจเย็น “ทุกคนใจเย็น ๆ ก่อน กุ้งอบน้ำมันเป็นเมนูที่ฉันคิดค้นขึ้นมาเอง ในโลกนี้ยังไม่เคยมีใครได้ชิมมาก่อนเลย”
กุ้งอบน้ำมันอยู่บนโต๊ะตรงหน้าทุกคน ส่งกลิ่นหอมเข้มข้นยิ่งขึ้น
อีกทั้งกุ้งเครย์ฟิชสีแดงสดเป็นมันในกะละมังใหญ่ดูน่ากินมาก ทำให้ลูกค้าทุกคนต่างพากันตื่นเต้น
แบบนั้นก็เท่ากับว่าฉันจะได้กลายเป็นคนที่กินเมนูนี้เป็นคนแรกสุดน่ะสิ ?
ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องแย่งตำแหน่งคนแรกสุดในโลกมาให้ได้ !
“เถ้าแก่เนี้ย ขายอย่างไร ฉันจะซื้อเป็นคนแรก ! ”
“ฉันต่างหากที่จะซื้อเป็นคนแรก ! ”
“ฉันซื้อ ! ”
“……”
เจียงเสี่ยวไป๋ยกมือขึ้นเพื่อหยุดความตื่นเต้นของลูกค้า เขาอธิบายวิธีกินกุ้งอบน้ำมันก่อนเป็นอย่างแรง และสุดท้ายเขาก็พูดว่า “วันนี้เป็นการลองเปิดตลาด แต่ละชุดจะได้กุ้งขนาดกลางประมาณ 2 ชั่งครึ่ง เดิมทีขายชุดละ 5 หยวน แต่วันนี้คิดราคาพิเศษเท่าราคาขนาดเล็ก ขายแค่ชุดละ 3 หยวนเท่านั้น”
“ชุดละ 3 หยวน งั้นฉันซื้อ 1 ชุด ! ”
“3 หยวนไม่แพงเลย ฉันเอาด้วย”
“ฉันก็ด้วย”
“……”
ลูกค้าบางคนตะโกนบอกขอซื้อ บางคนที่เร็วหน่อยไม่พูดอะไรสักคำ พวกเขาแค่นับเหรียญสามเหรียญยัดใส่มือเจียงเสี่ยวไป๋ แล้วยกกะละมังสแตนเลสใส่กุ้งอบน้ำมันวิ่งไปที่โต๊ะอื่น
“บ้าเอ้ย ทำไมฉันคิดไม่ได้นะว่าแย่งซื้อมาให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
คนที่รู้ตัวเร็วบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด แล้วรีบควักเงินจ่ายเจียงเสี่ยวไป๋
ความเร็วของพวกเขานี้ แม้แต่เจียงเสี่ยวไป๋ยังไม่ทันได้ตอบสนองเลยด้วยซ้ำ
ทันใดนั้น หลายคนก็ควักเงินออกมายัดใส่มือเขา
“ลูกค้าทุกท่าน อย่าเพิ่งรีบร้อนจ่ายเงิน เพราะกระทะแรกทำได้แค่ 5 ชุดเท่านั้น……”
เจียงเสี่ยวไป๋รีบพูดขึ้นในทันที
“เถ้าแก่ รับเงินไปก่อนเถอะ รับเงินไปแล้วค่อยไปทำมาให้”
“แต่ในป้ายโฆษณาบอกว่าจำกัดแค่ 50 ชุดไม่ใช่หรือ”
“ใช่ ฉันขอจอง 1 ชุด”
“ฉันก็ขอจอง 1 ชุดเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ทัน 50 ชุดแรกแน่”
“ฉันก่อน ! ”
“ฉัน ! ”
“……”
ลูกค้าที่มามุงหน้าร้านมีไม่มากนัก รวมแล้วมีประมาณ 20 คนได้ แต่พวกเขากลับแย่งกันซื้อเพราะกลัวจะซื้อไม่ทัน
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเก็บเงินก่อนแล้วเขียนรายชื่อคนที่จ่ายเงิน
มีทั้งหมด 23 รายการด้วยกัน
กล่าวได้ว่าเกือบครึ่งหนึ่งของ 50 ชุด
หวังผิงที่ดูเหตุการณ์อยู่ด้านข้างยังรู้สึกทึ่งเช่นกัน
แต่เมื่อนึกถึงกลิ่นหอมอันเข้มข้นของกุ้งอบน้ำมันตอนที่เขายกออกมา เขาก็เข้าใจได้ในทันที
หากไม่ใช่เพราะมีลูกค้ารอซื้ออยู่หลายคน เขาจะต้องขโมยชิมสักตัวแน่นอน
แต่ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย
ในเมื่อขโมยกินไม่ได้ งั้นก็ซื้อกินเองสักกะละมังนึงไปเลยดีไหม ?
อืม ถึงอย่างไรก็มีตั้ง 50 ชุด
เขาซื้อกินเองสัก 1 ชุดคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง !
“ฉันซื้อด้วย 1 ชุด ! ”
หวังผิงตะโกน เขาหยิบเงิน 3 หยวนออกมาตบลงบนมือของเจียงเสี่ยวไป๋
หืม ? !
การกระทำของหวังผิงทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงจริง ๆ
ร้านของตัวเองแท้ ๆ อยากกินทำไมไม่บอก
จำเป็นต้องควักเงินซื้อด้วยหรือไง ?
“อร่อยมาก อร่อยมากเหลือเกิน ! ”
ลูกค้ารายล่าสุดที่คว้ากะละมังกุ้งอบน้ำมันมากินเองตอนนี้มีน้ำมันเลอะเต็มปาก แม้น้ำมันที่เปื้อนมือจะหยดลงมาเลอะเทอะเสื้อผ้าของเขา แต่เขาก็ยังอดเอ่ยชมไม่ได้
ผู้คนรอบข้างมองดูเขากินจนน้ำลายไหล
ไม่เคยเห็นใครกินได้อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย ?
“เถ้าแก่เนี้ย ฉันเร็วกว่า รีบยกมาให้ฉันเร็วเข้า”
“ใช่ ๆ ฉันด้วย รีบยกมาเร็วเข้า”
ลูกค้าบางรายทนไม่ไหวจึงเร่งเร้าพวกเขา
“อืม อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”
หวังผิงรีบวิ่งไปที่ครัวหลังบ้าน แล้วยกกุ้งอบน้ำมันอีก 4 ชุดออกมา
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นลูกค้าที่ได้กินเป็นชุดแรกโยนเปลือกกุ้งทิ้งลงบนพื้น บ้างก็ทิ้งลงบนโต๊ะ ทำให้บนพื้นและบนโต๊ะเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน เขาก็อดปวดหัวไม่ได้ จึงรีบไปยกกะละมังพลาสติกและกระดาษชำระมา
“ทิ้งเปลือกกุ้งลงในกะละมังพลาสติก”
“เวลาเลอะคราบน้ำมันให้ให้กระดาษชำระเช็ดมือ”
เขาเดินไปพูดกับทุกโต๊ะ ในที่สุดสถานการณ์ก็ดีขึ้น
“เถ้าแก่ พวกเรารู้แล้ว รีบไปทำกุ้งอบน้ำมันมาให้พวกเราเถอะ พวกเรายังไม่ได้กินเลย”
“ใช่แล้ว รีบไปทำกุ้งอบน้ำมันเถอะ ! ”
“ไปเถอะ พวกเราทุกคนรออยู่”
“……”
เมื่อถูกเร่งเร้าอีกครั้ง เจียงเสี่ยวไป๋จนปัญญา จึงให้หวังผิงรับรองลูกค้าในร้าน ส่วนเขาเข้าครัวไปทำกุ้งอบน้ำมันต่อ
และเป็นเพราะพะโล้ของเขาขายดีมาโดยตลอด จึงมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย
ทันทีที่ลูกค้าใหม่เดินเข้ามา พวกเขาก็ได้กลิ่นหอมของกุ้งอบน้ำมันและเห็นลูกค้าหลายโต๊ะกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยจึงพากันถาม
“พวกนายกินอะไรกันหรือ ? ทำไมมันหอมจัง ! ”
ลูกค้าที่กินกุ้งก็ตอบไปแบบคลุมเครือว่า “กุ้งเครย์ฟิชน่ะ เมนูนี้ชื่อกุ้งอบน้ำมัน นายไม่ได้อ่านป้ายโฆษณาพวกนั้นหรือ”
ลูกค้าใหม่ถูกดึงดูดด้วยกลิ่นหอมของกุ้งอบน้ำมันทันทีที่เข้าประตูมารวมถึงภาพการกินของลูกค้าหลาย ๆ คน พวกเขาจะสังเกตเห็นป้ายโฆษณาบนผนังที่ไหน ?
พอได้ยินจึงหันกลับไปมอง
“เมนูใหม่จริงด้วย ดูเหมือนจะอร่อยนะ ! ”
ลูกค้าที่กำลังกินอยู่พูดอย่างภาคภูมิใจว่า “อร่อยอย่าบอกใครเชียว ฉันไม่เคยกินอะไรที่อร่อยเท่านี้มาก่อน”
“งั้นชุดละเท่าไรล่ะ ? ”
“เถ้าแก่บอกว่ามันคือชุดขนาดกลาง ราคาเดิมคือ 5 หยวน แต่วันนี้ขายแค่ชุดละ 3 หยวนเท่านั้น”
ซี๊ด……
“3 หยวน แพงขนาดนั้นเชียว ! ”
“แพงตรงไหน อร่อยขนาดนี้คุ้มค่ากับราคาแล้ว ใครอยากซื้อรีบเลย เพราะวันนี้มีจำนวนจำกัดเพียง 50 ชุดเท่านั้น”
……
สถานการณ์ที่คล้ายกันนี้เกิดขึ้นกับลูกค้าใหม่เกือบทุกรายที่เข้ามา
หลินเจียอินและหวังผิงไม่ต้องแนะนำเท่าไหร่ ลูกค้าใหม่ก็จะไปถามลูกค้าเก่าที่นั่งกินอยู่และลูกค้าเก่าก็ไม่ลังเลที่จะให้คำแนะนำ
“ฉันเอา 1 ชุด ! ”
“ฉันด้วย ! ”
“……”
ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กุ้งอบน้ำมันได้ขายหมดแล้วทั้ง 50 ชุด
ในตอนนี้ กุ้งอบน้ำมันกะทะที่สองของเจียงเสี่ยวไป๋เพิ่งเสร็จ เขาจัดชุดให้ลูกค้าตามรายชื่อจ่ายเงิน ลูกค้าทั้งห้าคนนั้นรับไปนั่งกินด้วยความดีใจ
ในร้านมีเพียง 12 โต๊ะ และคนที่นั่งรอได้นั่งเต็มทุกโต๊ะแล้ว
ต่อให้มีลูกค้าใหม่อยากเข้ามานั่งกินผัดมันฝรั่งสักชามก็ยังไม่มีที่ว่างให้เลย
รอจนกระทั่งลูกค้าใหม่เหล่านั้นเห็นลูกค้าในร้านกำลังนั่งกินกุ้งอบน้ำมันอย่างเอร็ดอร่อย และได้กลิ่นหอมอันเข้มข้นของกุ้งอบน้ำมัน พวกเขาต่างก็พูดว่า “เถ้าแก่เนี้ย พวกเขากินอะไรกัน ทำไมมันหอมขนาดนี้ เอามาให้ฉันสัก 1 ชุดสิ”
“ต้องขอโทษด้วย วันนี้ขายหมดแล้ว”
หลินเจียอินอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ลูกค้าบางคนยังคงไม่เชื่อ แต่ลูกค้าหลายสิบคนที่นั่งรอในร้านต่างพูดว่า: “ขายหมดไปตั้งนานแล้ว พวกเราต่างก็จ่ายเงินก่อน กำลังรอเถ้าแก่มาเสิร์ฟเหมือนกัน”