ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 115 :ระบบสมาชิก
ตอนที่ 115 :ระบบสมาชิก
ในปี 1983 เศรษฐกิจในประเทศยังถูกควบคุมโดยรัฐบาล ยังไม่มีความคิดการตลาดแบบคนรุ่นหลัง
จึงไม่แปลกที่หลินเจียอินจะไม่รู้ว่าระบบสมาชิกคืออะไร
เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายอย่างอดทนว่า “ระบบสมาชิกเป็นรูปแบบธุรกิจอย่างหนึ่งที่ให้ลูกค้าฝากเงินล่วงหน้ากับร้านค้าจำนวนหนึ่ง โดยร้านจะออกบัตรสมาชิกให้ เมื่อลูกค้ามาซื้อของที่ร้านในอนาคตก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินสด ทางร้านสามารถหักเงินจากจำนวนเงินที่ลูกค้าฝากไว้ได้”
หลินเจียอินได้ยินแบบนั้นจึงถามด้วยความสงสัยว่า “ลูกค้าที่ไหนจะยอมจ่ายเงินก่อนทั้งที่ยังไม่ได้ของมา ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ “คุณดูสิ ยอดสั่งจองกุ้งอบน้ำมันจำนวน 417 รายการที่คุณได้มาล้วนเป็นยอดสั่งจองล่วงหน้าไม่ใช่หรือ ? ลูกค้ายังไม่ทันได้กินก็ยอมจ่ายเงินจองกันเข้ามาแล้ว”
หลินเจียอินเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อได้ในทันที เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นเป็นเพราะกุ้งอบน้ำมันมันอร่อยมากต่างหากล่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋จึงกล่าวว่า “ใช่ ตราบใดที่เมนูร้านของเราเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า การให้พวกเขาจ่ายเงินก่อนได้กินย่อมไม่ใช่ปัญหา”
หลังจากหยุดครู่หนึ่ง เขาก็พูดต่อ “ซึ่งแน่นอนว่าระบบสมาชิกที่ประสบความสำเร็จนั้นจะต้องวิน-วินกันทั้งร้านค้าและสมาชิกด้วย”
วิน-วิน !
คำศัพท์ใหม่มาอีกแล้ว เธอพอจะเข้าใจตัวคำศัพท์อยู่บ้าง แต่เธอไม่เข้าใจว่าจะทำอย่างไรให้วิน-วินทั้งสองฝ่ายอย่างที่เขาว่า
ดวงตาคู่สวยของหลินเจียอินกะพริบมองไปยังเจียงเสี่ยวไป๋ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเขาช่างรู้หลายสิ่งหลายอย่างเหลือเกิน
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าคุณต้องการให้ลูกค้ามาเป็นสมาชิก คุณต้องทำให้สมาชิกแตกต่างจากลูกค้าทั่วไป โดยการมอบสิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์บางอย่างแก่พวกเขา”
“ตัวอย่างเช่น หากทุกคนต่อคิวซื้อกุ้งอบน้ำมัน สมาชิกจะได้รับสิทธิพิเศษเหนือลูกค้าทั่วไป ลูกค้าทั่วไปซื้อกุ้งอบน้ำมันในราคาชุดละ 5 หยวน ในขณะที่สมาชิกอาจจ่ายเพียง 4.5 หยวนหรือ 4 หยวน”
“หรือจะเป็นโปรโมชั่นอื่น ๆ ที่จะทำให้สมาชิกรู้สึกแตกต่างจากลูกค้าทั่วไป”
หลินเจียอินได้ยินก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“หากราคาสมาชิกถูกกว่า ในฐานะเจ้าของร้าน มันจะคุ้มค่าสำหรับเราหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มแล้วพูดว่า “แต่ร้านค้าสามารถล็อคลูกค้าได้ล่วงหน้า ทั้งยังได้เงินมาล่วงหน้าด้วย สำหรับร้านค้าแล้ว ระบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้รายได้ของร้านมีเสถียรภาพเท่านั้น แต่ยังทำให้ร้านค้าได้รับเงินจำนวนมากอีกด้วย ซึ่งคุ้มค่ามาก”
หลินเจียอินพยักหน้าแล้วแย้มยิ้มออกมา ระบบสมาชิกที่เขาพูดถึงนี้ฟังดูดีเลยทีเดียว
“งั้นเราทำระบบสมาชิกดีไหม ? ” หลินเจียอินมองเจียงเสี่ยวไป๋แล้วลองถามหยั่งเชิงเขา
“ได้สิ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบรับ “ผมเชื่อฟังเมีย”
เอ่อ……
หลินเจียอินถึงกับกุมขมับ ผู้ชายคนนี้เกินจะเยียวยาแล้ว เห็นกันอยู่ว่ามันคือความคิดของเขาเอง แต่กลับเอาแต่บอกว่ามันคือคำพูดของเธอ
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็มีความสุขมาก
“งั้นคุณทำแผนของระบบสมาชิกแล้วกัน ! ”
ใบหน้าสวยของหลินเจียอินเผยให้เห็นความจริงจัง เธอใช้มาดของผู้จัดการสั่งงานเจียงเสี่ยวไป๋
“รับทราบครับเมีย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ทำท่าตะเบ๊ะเหมือนทหารแล้วพูดรับคำของเธอเสียงดัง
พูดจบ เขาก็หัวเราะพลางพูดว่า “เมียจ๋า ถ้าผมวางแผนงานเสร็จแล้ว คุณพอจะมี……รางวัลอะไร……ให้ผมไหม ? ”
หลินเจียอินรู้สึกขบขันกับท่าทีของเขา
“รางวัลน่ะมี ! ”
ในใจของเจียงเสี่ยวไป๋เกิดความร้อนรุ่มขึ้นมาทันที เขามองเธอด้วยสายตาคาดหวัง
ทว่าหลินเจียอินหัวเราะ แล้วพูดว่า “ถ้าทำได้ดี ฉันจะให้โบนัสคุณอีก 50 หยวน”
อ่า !
เจียงเสี่ยวไป๋ทุกข์ระทมในใจทันที
เขาต้องมอบเงินทั้งหมดของตัวเองให้เธออยู่ดี การที่เธอให้โบนัสเขา นั่นไม่เท่ากับว่าให้โบนัสตัวเองหรอกหรือ
เปลี่ยนรางวัลได้ไหม
อย่างเช่น……ให้เขาขึ้นคร่อมเธออะไรเทือกนั้น !
หรือไม่ก็จุ๊บแก้มเขาสักทีก็ได้ !
“คุณค่อย ๆ คิดไปนะ ฉันจะไปดูหน้าร้านแล้ว ! ”
แต่ในตอนนี้ หลินเจียอินกลับเดินออกไปอย่างมีความสุข ทิ้งท้ายไว้เพียงประโยคนี้เท่านั้น
ตอนนี้ยังไม่เย็นมาก เพิ่งจะบ่ายสี่โมง
สองวันนี้เขายุ่งกับการทำเมนูกุ้งอบน้ำมันจนไม่มีเวลาอยู่กับลูกสาว เจียงเสี่ยวไป๋จึงเรียกเจียงชานและหวังกังมา จากนั้นก็เล่นหมากรุกกับเด็กน้อยทั้งสองคน
ตอนนี้เด็กทั้งสองกำลังฝึกเทคนิคการกินหมากขั้นพื้นฐาน
หมากรุกมีวิธีการกินหมากขั้นพื้นฐาน 22 วิธี ยกตัวอย่างเช่น กลยุทธ์ปืนใหญ่ปิดล้อม [1] , กลยุทธ์ปืนใหญ่คู่ [2] , กลยุทธ์ปืนใหญ่หลังม้า [3] , กลยุทธ์รถศึกร่วมปืนใหญ่ [4] , กลยุทธิ์สองรถศึกเดินสลับ [5] , กลยุทธ์วางม้าตกปลา [6] , กลยุทธ์ม้าโยง [7]
ในวิธีการกินหมากแต่ละวิธีนี้ ยังสามารถฝึกการเดินหมาก 1 ทีรุกจน การเดิน 2 ทีรุกจน และการเดิน 3 ทีรุกจนได้
นอกจากนี้ยังมีวิธีการกินหมากของอีกฝ่ายแบบเดินไม่ต่อเนื่องอีกด้วย
หลายคนสอนหมากรุกตั้งแต่เริ่มต้น แต่อันที่จริงแบบนั้นเรียกว่าสอนไม่เป็น
พูดตรง ๆ มันแค่สอนให้คนเล่นหมากรุกเท่านั้น
แต่เจียงเสี่ยวไป๋แตกต่างออกไป
เขาเริ่มต้นด้วยการสอนเทคนิคการกินหมากขั้นพื้นฐานเพื่อฝึกการสังเกต การคำนวณ และการรับรู้เรื่องพื้นที่ของเด็กทั้งสอง ให้เด็กทั้งสองเข้าใจถึงความสำคัญของการเรียนรู้กฎเกณฑ์
เจียงชานและหวังกังเพิ่งเรียนถึงการเดินหมาก 2 ทีรุกจน เจียงเสี่ยวไป๋เองก็ตั้งใจอธิบายให้พวกเขาฟังอย่างใจเย็น
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงกว่าแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋พาหลินเจียอินและเจียงชานกลับบ้านเหมือนอย่างทุกที
พวกเขาไม่ได้ไปที่ไซต์งานก่อสร้างมาสองสามวันแล้ว ตอนนี้พื้นที่ไซต์งานก่อสร้างเปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว
ถนนที่เขาให้สร้างเชื่อมกับถนนลูกรังมีหน้ากว้าง 12 เมตรแล้ว สองข้างทางของถนนถูกขุดเป็นคูน้ำ รวมถึงมีการเว้นพื้นที่สีเขียวไว้ปลูกต้นไม้ตามความต้องการของเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋ดูแล้วก็ค่อนข้างพอใจ
เขาไปหาจวงปี้เฉิงแล้วถามไถ่ถึงสถานการณ์ของคนงาน เมื่อรู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมาก
“เถ้าแก่เจียง นี่คือข้อมูลขนาดที่คุณต้องการ”
จวงปี้เฉิงนำขนาดที่เขาวัดภูมิประเทศของเนินดินและปากทางเข้าถ้ำให้แก่เจียงเสี่ยวไป๋
“ลำบากคุณแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋รับข้อมูลมา เขาเปิดอ่านครู่หนึ่งแล้วถามจวงปี้เฉิงอีกเล็กน้อย ถึงได้กลับบ้านไป
เมื่อกลับมาถึงบ้านและกำลังจะทำอาหารเย็นนั้น เขาเพิ่งนึกได้ว่าเมื่อวานตอนที่ทำกุ้งอบน้ำมันให้พวกหูฉางจวิน เขาเห็นว่าน้ำมันที่พวกหูฉางจวินนำมาด้วยช่างน้อยนิดจริง ๆ เขาจึงใช้น้ำมันพืชที่เหลืออยู่ที่บ้านเล็กน้อยผสมลงไปด้วย ซึ่งตอนนี้มันหมดแล้ว
วันนี้ขาลืมแวะซื้อเลย
แต่ไม่เป็นไร
เพราะน้ำมันหมูที่เขาซื้อมาเจียวกากหมูรอบที่แล้วยังเหลือเยอะ ไม่กระทบต่อการทำอาหารของเขาเลย
หลังจากทำอาหารเมนูง่าย ๆ กินกันในครอบครัวแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็เริ่มออกแบบแปลนบ้านหลังใหม่
ก่อนหน้านี้ เขาแค่คิดรูปแบบและผังบ้านคร่าว ๆ เท่านั้น
แต่ตอนนี้เขามีแผนที่ภูมิประเทศและข้อมูลขนาดต่าง ๆ แล้ว เขาจึงสามารถร่างแปลนบ้านลงกระดาษได้เสียที
ชาติก่อน เขามีทรัพย์สินมูลค่านับหมื่นล้าน ในเครือบริษัทของเขามีอุตสาหกรรมมากมาย และยังได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วย
หนึ่งในนั้นมีโครงการที่มีชื่อว่า “Oriental Royal Garden”
เป็นโครงการวิลล่าสไตล์จีนแท้สุดหรู
ในตอนนั้น เขาลงงานทุกอย่างด้วยตนเองตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ การก่อสร้าง ไปจนถึงการตกแต่ง
ดังนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักออกแบบมืออาชีพ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลยที่จะออกแบบบ้านให้ตนเองสักหลังด้วยความทรงจำของเขาจากชาติที่แล้ว
ตามลักษณะภูมิประเทศ เขาแบ่งการปลูกสร้างทั้งหมดออกเป็นห้าส่วน แท่นระเบียงที่สร้างยื่นออกไปตรงผิวน้ำนับเป็นส่วนที่หนึ่ง ส่วนที่สองคือทางรถและทางเท้าที่สร้างขึ้นวนรอบเนินดิน ด้านบนเนินดินคือพื้นที่สำหรับตัวบ้านหลัก ซึ่งจะสร้างเป็นสไตล์จีนเก่าแก่
เขาตั้งใจจะสร้างบ้านแบบเรือนสี่ประสานที่มีทางเข้าสองทาง สวนหลังบ้านตั้งอยู่บริเวณต้นหนานมู่ยักษ์พอดี
ถัดไปด้านหลัง ตำแหน่งของปากทางเข้าถ้ำจะสูงกว่าเล็กน้อย ต้องทำบันไดขึ้นไป จากนั้นเขาจะสร้างบ้านเป็นแถวที่ปากถ้ำ สันกระเบื้องบนหลังคาบ้านจะเชื่อมต่อโดยตรงกับปากถ้ำ ทำให้ตัวบ้านอยู่ในถ้ำครึ่งหนึ่ง แบบนี้จะทำให้ในตัวบ้านจะอากาศอบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นสบายในฤดูร้อน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกลมและฝนรบกวน
เมื่อแบบร่างในหัวชัดเจนขนาดนี้ เจียงเสี่ยวไป๋จึงร่างแปลนออกมาอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนัก ภาพร่างก็ปรากฏบนกระดาษ
จากนั้นเขาก็ไม่ได้วาดอีก เพราะเขาตั้งใจจะไปที่เฉินเจียวโกวเพื่อเดินดูโถงบรรพบุรุษและบ้านตระกูลเฉินก่อน เขาตั้งใจจะไปดูคานไม้ วงกบประตู หน้าต่าง และอื่น ๆ ตั้งใจจะเก็บโครงสร้างเดิมบางส่วนไว้เพื่อใช้ของเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด
หลังจากไปดูแล้ว เขาถึงค่อยวาดแปลนที่สมบูรณ์อีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะประหยัดเวลาได้เยอะแล้ว
อีกอย่าง มีเรื่องให้เขาต้องทำอีกมากมาย ไม่ได้มีแค่เรื่องร่างแปลนบ้านใหม่เท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น แผนระบบสมาชิกที่ภรรยาให้เขาทำ
เขาไม่กล้าชักช้า เพราะกลัวภรรยาจะบ่น
[1] ปืนใหญ่ปิดล้อม (天地炮) คือรูปแบบการเดินหมากที่เบี้ยปืนใหญ่หนึ่งตัวสามารถตรึงเบี้ยทหารและเบี้ยม้าตรงกลางกระดานของอีกฝ่ายได้ และเบี้ยปืนใหญ่อีกตัวสามารถตรึงเบี้ยทหารและเบี้ยช้างตัวล่างของคู่ต่อสู้ได้
[2] ปืนใหญ่คู่ (重炮) คือรูปแบบการเดินหมากที่เบี้ยปืนใหญ่ทั้งสองตัวอยู่เรียงกันหน้าหลังในแนวกลาง
[3] ปืนใหญ่หลังม้า (马后炮) เป็นการวางเบี้ยปืนใหญ่ไว้ด้านหลังเบี้ยม้า ใช้เบี้ยม้าปิดทางถอยของเบี้ยองครักษ์คู่ต่อสู้ และใช้เบี้ยปืนใหญ่กินเบี้ยองครักษ์
[4] กลยุทธ์รถศึกร่วมปืนใหญ่ (夹车炮) เป็นการวางเบี้ยรถศึกและเบี้ยปืนใหญ่ในแนวหน้าและหลังเพื่อกินหมากของคู่ต่อสู้
[5] สองรถศึกเดินสลับ (双车错) เป็นการเดินเบี้ยรถศึกสองตัวที่อยู่ฝั่งเดียวกันในลักษณะสลับกันไปมา เพื่อสร้างความสับสนให้คู่ต่อสู้
[6] กลยุทธ์วางม้าตกปลา (钓鱼马) เป็นการเดินเบี้ยม้าไปที่ตำแหน่ง 3.7 หรือ 7.7
[7] กลยุทธ์ม้าโยง (八角马) เป็นการวางเบี้ยม้าไว้ที่มุมใดก็ได้ของตำแหน่งพระราชวังของคู่ต่อสู้ เพื่อวางเป็นแนวทแยงกับเบี้ยองครักษ์ของคู่ต่อสู้ เป็นการจำกัดการเคลื่อนที่ของหมากฝั่งตรงข้าม แล้วอาศัยจังหวะที่แก้เกมได้ยากแบบนี้ใช้เบี้ยตัวอื่นกินเบี้ยของคู่ต่อสู้