ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 118 :ยุ่งจนปลีกตัวแทบไม่ได้
ตอนที่ 118 :ยุ่งจนปลีกตัวแทบไม่ได้
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่คิดว่าฟู่เต๋อเจิงจะมีวิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลมขนาดนี้ แถมยังหยิบยกแนวคิดเรื่องทำให้ชิงโจวกลายเป็นเมืองแห่งกุ้งเครย์ฟิชขึ้นมาด้วย
เขาจำได้อย่างชัดเจนว่า ในอนาคตมีเมืองแห่งหนึ่งในมณฑลตอนกลางของประเทศจีนที่ยกเอากุ้งเครย์ฟิชมาเป็นอุตสาหกรรมหลักและพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งกุ้งเครย์ฟิชอย่างแท้จริง
เพียงแต่ที่นั่นไม่ใช่ชิงโจว
ตอนนี้เขากลับมาเกิดใหม่ เขาได้นำตำหรับการกินกุ้งเครย์ฟิชให้อร่อยมาสู่ความเป็นจริงล่วงหน้า ทั้งยังเกิดขึ้นในชิงโจวเป็นที่แรก ควบคู่ไปกับการมองการณ์ไกลของผู้นำอย่างฟู่เต๋อเจิง ทำให้พอคาดการณ์ได้ว่าชิงโจวจะได้กลายเป็นเมืองแห่งกุ้งเครย์ฟิชอย่างแท้จริง
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ต่อต้านเรื่องนี้
แต่เขามีความคิดของเขา
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เขาก็พูดว่า “ท่านประธาน ความคิดของคุณดี แต่การจะพัฒนาให้กุ้งเครย์ฟิชกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักได้ต้องใช้เวลา”
“ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังเถอะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ปฏิเสธความคิดของฟู่เต๋อเจิง เพียงแต่ตอนนี้เขายังไม่เต็มใจที่จะเป็นที่รู้จักมากเกินไป
“ทำไมถึงต้องไว้คุยกันทีหลังล่ะ ? ”
“นี่มันเรื่องดีเลยนะ ! ”
ฟู่เต๋อเจิงพูดอย่างร้อนรน
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เพราะตอนนี้เขามีวิธีทำและเทคนิคการกินกุ้งเครย์ฟิชอยู่ในมือก็จริง แต่เขายังไม่มีความสามารถพอที่จะควบคุมตลาดและทรัพยากรที่ใหญ่ขึ้น ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงสะสมมันอย่างช้า ๆ
ซึ่งเขาจะเป็นคนควบคุมจังหวะนี้เอง
แน่นอนว่าเขาไม่เย่อหยิ่งพอที่จะคิดว่าหากไม่มีเขา ก็จะไม่มีใครทำกุ้งอบน้ำมันได้
เพราะประเทศนี้ไม่เคยขาดผู้บุกเบิกอยู่แล้ว
ชาติที่แล้ว วิธีการกินกุ้งเครย์ฟิชไม่ได้ถูกคิดค้นโดยเขา
แต่นั่นมันคือเรื่องในอีกสิบปีให้หลัง
ตอนนี้เขาจึงไม่รีบร้อน
ต่อให้ฟู่เต๋อเจิงจะสรรหาคำใดมาโน้มน้าวเขาก็ไม่เป็นผล สุดท้ายฟู่เต๋อเจิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปด้วยความผิดหวัง
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ ฟู่เต๋อเจิงก็ยังคงเขียนบทความประชาสัมพันธ์เรื่องนี้อยู่ดี
ในบทความนั้นสั้นมาก เขาไม่ได้เอ่ยถึงเจียงเสี่ยวไป๋ เนื้อหาของบทความอิงจากปรากฏการณ์อันน่าทึ่งในเมืองชิงโจวที่มีลูกค้าหลงรักเมนูกุ้งอบน้ำมันเป็นจำนวนมาก มีการบอกที่ตั้งของร้านอร่อยสามมื้อไว้ในบทความด้วย ทำให้บทความนี้สร้างกระแสโฆษณาให้แก่เจียงเสี่ยวไป๋ได้เป็นอย่างดี
ทำให้กุ้งอบน้ำมันที่เป็นที่นิยมอยู่แล้วได้รับความนิยมยิ่งขึ้นหลังจากฟู่เต๋อเจิงเขียนบทความออกมา ตอนนี้จึงมีลูกค้ามาต่อคิวยาวเหยียดที่ด้านหน้าร้านอร่อยสามมื้อทุกวัน
และลูกค้าที่แวะเวียนมาที่ร้านหลังจากได้อ่านหนังสือพิมพ์ก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าร้านนี้ไม่เพียงแต่ขายกุ้งอบน้ำมันเท่านั้น แต่ยังมีเมนูตุ๋นพะโล้มากกว่าสิบชนิดอีกด้วย แม้แต่ผัดมันฝรั่งถ้วยละ 4 เหมาก็ยังอร่อยมากเช่นกัน
ชื่อเสียงของร้านอร่อยสามมื้อจึงเป็นที่โด่งดังไปทั่วเมืองชิงโจวอย่างรวดเร็ว ทำให้กิจการของร้านเฟื่องฟูยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อลูกค้าที่เข้ามาซื้อมีจำนวนมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้ปริมาณกุ้งเครย์ฟิชไม่เพียงพอต่อความต้องการ จนลูกค้าหลายคนเริ่มบ่น
“พวกคุณเปิดร้านทำการค้า ทำไมถึงไม่เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม ? ”
“ตลอดสามวันมานี้ ฉันมาที่ร้านนี้สองรอบแล้วนะ แต่ก็ยังซื้อไม่ทัน”
“คุณยังดี ฉันมาสามรอบแล้วยังไม่เคยซื้อทันสักรอบ ! ”
“ฮ่าฮ่า นั่นเป็นเพราะพวกคุณไม่รู้เอง วันแรกที่ฉันมาซื้อก็ไม่ทันคนอื่นเหมือนกัน ฉันเลยทำบัตรสมาชิก วันนี้ถึงได้กิน”
“บัตรสมาชิก ? มันคืออะไรหรือ ? ”
“เถ้าแก่ เมื่อไหร่จะขายมากกว่านี้ ? ”
“……”
เรื่องนี้ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋จนใจไม่น้อย
ใครจะไปรู้ว่าฟู่เต๋อเจิงจะใช้ไม้นี้ ?
เพียงแต่แบบนี้มันทำให้แผนการของเขาต้องเสียระบบ บางเรื่องจึงต้องดำเนินการล่วงหน้าแล้ว
……
กลับมาถึงเจียงวาน
เดิมทีเขาเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดมาทั้งวันแล้ว พอกลับมาบ้านก็คิดว่าจะได้พักผ่อน
แต่เขาไม่คิดเลยว่าที่บ้านจะยิ่งทำให้เขาเหนื่อยกว่าเดิมเสียอีก
“เสี่ยวไป๋ ช่วยฉันทำกุ้งอบน้ำมันสักกระทะได้ไหม”
“ช่วยทำให้ฉันด้วย ดูสิ ฉันเอาน้ำมันมาแล้ว”
“เสี่ยวไป๋ ที่บ้านของฉันมีน้ำมันน้อย ไม่ต้องทำกุ้งอบน้ำมันแล้ว ฉันได้ยินมาว่านายทำกุ้งกระเทียมเป็นด้วย เดี๋ยวฉันจะไปเอากระเทียมมาให้……”
“พี่เสี่ยวไป๋ กุ้งเครย์ฟิชต้องฆ่าอย่างไรหรือ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนทำเอง พี่แค่ปรุงให้ฉันก็พอแล้ว”
“พี่เสี่ยวไป๋ ฉันผ่าฟืนมาให้พี่ 10 มัด เป็นไม้ฮวาหลีทั้งนั้น ฉันขนไปไว้แถวร่องน้ำหลังบ้านพี่แล้ว”
“เสี่ยวไป๋……”
“……”
บรรดาเพื่อนบ้านในหมู่บ้านต่างพากันนำกุ้งเครย์ฟิชที่จับได้มาให้เจียงเสี่ยวไป๋ช่วยทำเมนูอาหารให้กิน
บางคนถึงกับไปผ่าฟืนมาให้เขา เพราะกังวลว่าฟืนที่บ้านของเขาจะมีไม่เพียงพอ
ทำเอาเขาถึงกับปฏิเสธไม่ลง
ใครใช้ให้วันนั้นเขาทำให้พวกหูฉางจวินกันล่ะ ทุกคนต่างก็เป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงกันทั้งนั้น เขาจะเลือกช่วยแค่คนบางกลุ่ม แต่ไม่ช่วยคนอื่นไม่ได้
ชาวจีนไม่ได้กังวลเรื่องความขาดแคลน แต่กังวลถึงความไม่เท่าเทียมกัน
เจียงเสี่ยวไป๋จนใจ จึงต้องทำให้พวกเขา
ทว่าเขาไม่ต้องทำอย่างอื่นนอกจากปรุงรสอาหารให้ เพราะพวกที่นำกุ้งมาอาสาเป็นคนฆ่ากุ้งเอง อีกทั้งพวกเขายังเตรียมน้ำมันมาอย่างเพียงพอ จึงไม่ต้องให้เขาเอาน้ำมันที่บ้านมาเพิ่มให้
ถึงขั้นมีบางคนมาช่วยจุดไฟให้เขาด้วย
ทำเอาเจียงเสี่ยวไป๋ถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
แต่ปัญหาไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น
“เสี่ยวไป๋ เริ่มรับซื้อกุ้งตอนไหนหรือ ? ”
“เสี่ยวไป๋ นายรับซื้อกุ้งเครย์ฟิชราคาชั่งละ 3 เหมาใช่ไหม ? ”
“เสี่ยวไป๋ นายน่าจะรับซื้อกุ้งเครย์ฟิชแต่เนิ่น ๆ นะ อีกไม่กี่วันก็ต้องลงกล้าดำนาแล้ว”
“รีบรับซื้อเถิด พวกเราจับกุ้งเครย์ฟิชขายแล้วก็จะดำนาเลย”
“ใช่แล้ว ก่อนที่นายจะรับซื้อ พวกเราทำได้แต่จับมันฆ่าแล้วโยนทิ้ง มันน่าเสียดายจริง ๆ ”
“……”
มีเพื่อนบ้านหลายคนมาขอให้เขาทำเมนูกุ้งเครย์ฟิชให้กิน แต่ส่วนใหญ่มาถามเขาว่าเมื่อไหร่จะรับซื้อกุ้งเครย์ฟิช
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ชาวบ้านในหมู่บ้านนับร้อยคนนอกจากครอบครัวของหลิวซือกั๋วแล้ว ทุกคนต่างก็แวะเวียนมาหาเขาที่บ้านกันทั้งนั้น
เวลามีคนมาเยี่ยมเยือน พวกเขาไม่เพียงแค่พูดไม่กี่คำก็จากไป แต่ส่วนใหญ่มักจะคุยกันแบบสบาย ๆ และสนทนากันยาว
โดยทั่วไป หากไม่เลยช่วงเที่ยงคืนไป เจียงเสี่ยวไป๋ก็อย่าหวังว่าจะได้นอนหลับ
เขายุ่งมากจนไม่มีเวลาเขียนแปลนบ้านใหม่ด้วยซ้ำ และทีมงานก่อสร้างของจวงปี้เฉิงยังทำงานได้เร็วมาก ถนนยาวกว่า 500 เมตรเกือบจะเสร็จแล้ว และขั้นตอนต่อไปคือการก่อสร้างบนเนินดิน
จวงปี้เฉิงมาหาเจียงเสี่ยวไป๋ และพูดว่า “เถ้าแก่เจียง คุณบอกว่าคนจากชิงโจว โรด แอนด์ บริดจ์ คอมพานีจะมาสร้างแท่นระเบียงริมน้ำให้ ตอนนี้พวกเขาต้องเริ่มก่อสร้างได้แล้ว ไม่อย่างนั้นงานทางฝั่งของพวกผมจะต้องชะงักไปด้วย”
“ได้ ! เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปหาผู้อำนวยการชิว”
เจียงเสี่ยวไป๋รับปาก เขาคุยกับจวงปี้เฉิงถึงความคืบหน้าการก่อสร้างแล้วไปส่งเขา
วันต่อมา เขามาหาชิวเสี่ยวหยุนที่ชิงโจว โรด แอนด์ บริดจ์ คอมพานี เขานำกุ้งอบน้ำมันมาให้ชิวเสี่ยวหยุน ถือเป็นของขวัญพบหน้ากัน ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสบาย ๆ
สำหรับชิวเสี่ยวหยุนแล้ว แค่เจียงเสี่ยวไป๋ต้องการแบบไหนย่อมบอกเขาได้เสมอ หลังจากพูดคุยรายละเอียดกันแล้ว เขาก็รีบจัดทีมก่อสร้างตามเจียงเสี่ยวไป๋ไปที่เจียงวานทันที
แน่นอนว่าราคาที่เจียงเสี่ยวไป๋เสนอให้เขาค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน
ทีมงานก่อสร้างชุดนี้มีทั้งหมด 12 คน หัวหน้าทีมชุดนี้มีชื่อว่าเหลียงซือฮุย เขาเป็นชายร่างสูงใหญ่ หน้าตาหยาบกร้าน แต่พูดจาสุภาพและทำงานเป็นระบบ
หลังจากฟังความต้องการของเจียงเสี่ยวไป๋แล้ว เขาก็ให้คนมาวัดระดับความลึกของแม่น้ำ ตรวจสอบสภาพทางธรณีวิทยาของก้นแม่น้ำ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วถึงได้ตกลงที่จะเริ่มงานก่อสร้าง
“ต้องรบกวนหัวหน้าเหลียงแล้ว ตอนบ่ายผมกลับมาแล้วจะเลี้ยงกุ้งอบน้ำมันพวกคุณ”
เจียงเสี่ยวไป๋มอบหมายงานให้เหลียงซือฮุยเสร็จ เขาก็รีบกลับไปยังเมืองชิงโจว
เขาทำเมนูพะโล้เสร็จแล้วถึงได้เจียดเวลามาจัดการเรื่องนี้ ทำให้วันนี้ร้านของเขาต้องเลื่อนเวลาขายกุ้งอบน้ำมันออกไป คาดว่าลูกค้าคงรออย่างใจจดใจจ่อแล้ว
“เดี๋ยวนี้ไม่เริ่มขายตอน 11 โมงแล้วหรือ ? ทำไมวันนี้ยังไม่เริ่มเปิดขายอีก ? ”
“ใช่แล้ว วันนี้ฉันตั้งใจมาสั่งเร็วเลยนะ”
“นี่ก็ใกล้จะเที่ยงวันแล้ว ทำไมยังไม่เห็นพ่อครัวเจียงกลับมาอีก ? ”
“เถ้าแก่ จะเริ่มขายตอนไหน ? ”
“……”
เป็นอย่างที่คาดไว้ เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋กลับมาที่ร้าน ตอนนี้ได้มีลูกค้ามากมายรออยู่ทั้งในและนอกร้าน บรรดาลูกค้ารอจนเริ่มหมดความอดทนและพูดจาบ่นเสียงดัง