ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 119 :แผนในอนาคตของเจียงเสี่ยวไป๋
ตอนที่ 119 :แผนในอนาคตของเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋รีบไปที่ครัวหลังร้านแล้วเริ่มทำกุ้งอบน้ำมันทันที
ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะงานยุ่งทั้งวัน กระทั่งถึงช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. หลังจากขายกุ้งอบน้ำมันชุดสุดท้ายหมดแล้ว เขาถึงได้มีเวลาหยุดพักหายใจ
“แค่คุณทำกุ้งอบน้ำมันอยู่คนเดียวจนเกือบไม่ทันลูกค้านั้นว่าแย่แล้ว แต่เวลาที่คุณไม่อยู่ที่ร้าน กิจการของร้านไม่สามารถดำเนินต่อไปได้จริง ๆ ”
ระหว่างทางกลับบ้าน หลินเจียอินพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
เธอคิดเกี่ยวกับปัญหานี้มาหลายวันแล้ว แต่ยังไม่เคยได้พูดคุยกับเจียงเสี่ยวไป๋เป็นจริงเป็นจังเสียที ดังนั้นเธอจึงใช้เรื่องในวันนี้พูดคุยกับเขา
เจียงเสี่ยวไป๋ขี่มอเตอร์ไซค์ไปด้วยพลางพูดคุยไปด้วย “อีกสักสองวันผมจะสอนหลัวเจาตี้และเฝิงเยี่ยนหงทำกุ้งอบน้ำมันแล้ว เดี๋ยวสถานการณ์ก็ดีขึ้น”
หลินเจียอินได้ยินแบบนั้นจึงถามด้วยความสงสัย “ในเมื่อคุณตั้งใจจะสอนพวกเธออยู่แล้ว ทำไมถึงไม่รีบสอน ต้องรออีกสองวันทำไม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบอย่างจนใจว่า “วิธีทํากุ้งอบน้ำมันเรียนรู้ได้ไม่ยาก แต่จุดสำคัญที่ทำให้มันอร่อยก็คือเครื่องปรุงที่ผมผสม หลายวันมานี้งานที่ร้านยุ่งมาก พอกลับถึงบ้านก็ถูกเพื่อนบ้านมารบกวนอีก ผมเลยไม่มีเวลาทำถุงเครื่องปรุงสูตรพิเศษสำหรับกุ้งอบน้ำมันเลย”
“ถุงเครื่องปรุงพิเศษสำหรับกุ้งอบน้ำมันงั้นหรือ ? ”
หลินเจียอินได้ยินแบบนั้นก็ดีใจมาก จึงพูดว่า “มันเหมือนกับซอสสูตรลับที่คุณใช้ทำผัดมันฝรั่งหรือเปล่า ? ”
“คล้ายกัน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าแล้วอธิบายต่ออีกว่า “ไม่ว่าใครก็สามารถทำมันฝรั่งได้ แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้มันอร่อยก็คือการใส่ซอสสูตรลับที่ผมคิดค้นขึ้นมา หลังจากที่ผมทำถุงเครื่องปรุงรสกุ้งอบน้ำมันเสร็จแล้ว ผมจะสอนพวกเธอทำ คิดว่ารสชาติน่าจะคล้ายกัน”
หลินเจียอินที่ได้ยินจึงรู้สึกวางใจขึ้นไม่น้อย
เธอเป็นกังวลว่าคนอื่นอาจทำรสชาติออกมาได้ไม่เหมือนของเจียงเสี่ยวไป๋ แต่ตามที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดมา ขอเพียงแค่มีถุงเครื่องปรุงรสสูตรพิเศษสำหรับกุ้งอบน้ำมันที่ว่านั้น เธอก็ไม่ต้องกังวลปัญหานี้อีกแล้ว
เมื่อมีคนสามารถทำกุ้งอบน้ำมันได้มากขึ้น มันไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจของร้านดำเนินไปได้ด้วยดีเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้เจียงเสี่ยวไป๋เบาแรงไปได้เยอะ
ระยะนี้เธอเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ลำบากมาก เขาทั้งต้องทำพะโล้ ทำกุ้งอบน้ำมัน และยังต้องคอยพะวงกับการสร้างบ้านใหม่และปรับปรุงร้านใหม่ พอกลับบ้านก็ต้องทำตามความต้องการของพวกเพื่อนบ้านอีก กว่าจะได้นอนก็ดึกดื่นค่อนคืนไปแล้ว
เขาไม่มีเวลาพักผ่อนเลย
เธอสงสารเขามาก
อืม วันนี้กลับไป เธอจะต้องขวางไม่ให้คนอื่นมารบกวนเขา ต้องให้เขาพักผ่อนให้ได้
หลินเจียอินตัดสินใจแล้ว
แต่สุดท้าย ความคิดของเธอก็ต้องถูกปัดตกไป
เพราะต่อให้เย็นนี้ไม่มีใครมารบกวนเจียงเสี่ยวไป๋ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่มีเวลาพักผ่อนอยู่ดี
ในตอนกลางวัน เขารับปากไว้แล้วว่ากลับไปจะเลี้ยงกุ้งอบน้ำมันพวกเหลียงซือฮุย ซึ่งเขาจะเชิญเหลียงซือฮุยมาแค่คนเดียวคงไม่เหมาะสม
เพราะครั้งนี้มีทีมงานจากชิงโจว โรด แอนด์ บริดจ์ คอมพานีมาทั้งหมด 12 คน เขาต้องเชิญทุกคนมา
และหากเขาเชิญคนทางฝั่งของชิงโจว โรด แอนด์ บริดจ์ คอมพานีมา เขาจะไม่เชิญทีมงานของจวงปี้เฉิงมาได้หรือ ?
ทีมงานก่อสร้างทั้งสองทีมมีเกือบ 70 คน และคนงานไม่ได้กินอย่างละเมียดละไมเหมือนลูกค้า
คนเยอะขนาดนั้น ต้องมีกุ้งอย่างน้อย 100 กว่าชั่งถึงจะพอกิน
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกปวดหัวเหมือนกัน
แต่บางเรื่องเป็นสิ่งที่เขาต้องทำ
ตัวอย่างเช่น การทำให้คุณภาพชีวิตของคนงานดีขึ้นและปล่อยให้พวกเขาได้เพลิดเพลินกับอาหารมื้อใหญ่หลังจากทำงานหนักบ้าง
โชคดีที่ก่อนเข้าเมือง เขาได้บอกเจียงเสี่ยวเฟิงให้เตรียมกุ้งเครย์ฟิช 200 ชั่งและฆ่าพวกมันล่วงหน้า เขากลับมาแล้วจะได้ทำเลย
ค่ำคืนนี้ ริมฝั่งแม่น้ำชิงเจียงในเจียงวานมีชีวิตชีวามาก
คนงานจากทีมก่อสร้างสองทีมก่อกองไฟบนพื้นถนนอันกว้างขวาง พวกเขาดื่มเหล้า กินกุ้งเครย์ฟิชอบน้ำมัน และพูดคุยเสียงดัง
“พวกนายดูสิ เถ้าแก่เจียงสร้างถนนกว้างใหญ่มาก แต่ยังไม่เปิดให้รถสัญจร งั้นเรามาจัดงานเลี้ยงตรงนี้กันเถอะ”
“ทำงานก่อสร้างมานานหลายปี เถ้าแก่ที่ใจดีที่สุดก็คือเถ้าแก่เจียงนี่แหละ”
“ใช่แล้ว บางครั้งเขาก็ซื้อเนื้อมาให้พวกเราทำอาหารกิน ถือเป็นวัตถุดิบที่ดีที่สุดตั้งแต่เราทำงานก่อสร้างมาเลย”
“อย่าลืมล่ะว่าเขายังเอาบุหรี่มาให้พวกเราถึง 2 รอบ และทุกครั้งที่ให้ก็มักจะซื้อมาให้เป็นแถวเชียวนะ”
“คนกินปากนุ่ม คนรับมือสั้น [1] พวกเราต้องตั้งใจทำงานและคอยระวังรายละเอียดต่าง ๆ ของงานให้ดี”
“ใช่แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันคงรู้สึกผิดต่อกุ้งที่กินไปวันนี้แน่นอน”
“เฮ้อ จะว่าไปเถ้าแก่เจียงเขาก็เก่งเหมือนกันนะ รู้จักเปลี่ยนแมลงที่ทำลายกล้าข้าวให้เป็นกุ้งเครย์ฟิชรสเลิศได้น่ะ”
“คนเขามีความสามารถ พวกเรารีบกินเถอะ”
“……”
คนงานหลายสิบคนพูดคุยกันขณะกินดื่ม ทุกคนต่างชื่นชมเจียงเสี่ยวไป๋
จวงปี้เฉิงก็เข้ากันได้ดีกับเหลียงซือฮุยเช่นกัน ทั้งสองคุยกันอย่างมีความสุข ดูเหมือนจะเสียดายที่มาเจอกันช้าไป
การทำความคุ้นเคยกันของทั้งคู่จะช่วยวางรากฐานสำหรับความร่วมมือในภายหลัง
แน่นอนว่านี่คือเรื่องในอนาคต
……
สองวันต่อมา เจียงเสี่ยวไป๋ซื้อเครื่องเทศกลับมาล็อตใหญ่ พอเขากลับมาบ้านในตอนบ่ายแก่ ๆ เขาก็เริ่มเตรียมเครื่องปรุงสูตรเฉพาะสำหรับกุ้งอบน้ำมัน
แน่นอนว่าเขาไม่มีซองใส่เครื่องปรุง ไม่มีเครื่องสูญญากาศหรือเครื่องซีล ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำซองเครื่องปรุงรสได้
นี่คือสิ่งที่เขาต้องพิจารณาในขั้นตอนต่อไป
ตอนนี้ เขาแค่ทำเครื่องปรุงรสพิเศษสำหรับกุ้งเครย์ฟิช แล้วใส่มันลงในถังใบใหญ่ เพื่อนำไปใช้ในร้านของเขา
“ทำไมคุณถึงผสมมันให้เหมือนซอส แทนที่จะแบ่งเป็นชุดเล็ก ๆ ล่ะ ? ”
หลินเจียอินที่ยืนอยู่ด้านข้างคอยดูเขาเตรียมเครื่องปรุงรสเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เจียงเสี่ยวไป๋จึงอธิบายให้เธอฟัง “ที่จริงผมจะเตรียมเครื่องปรุงรสเป็นชุดเล็ก ๆ ก็ได้ แต่ถ้าผมทำแบบนั้น หนึ่งคือมันยุ่งยากมาก สองคือเก็บเป็นความลับได้ยาก”
“เก็บเป็นความลับหรือ ? ”
หลินเจียอินถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าแล้วพูดว่า “ในอนาคต กุ้งอบน้ำมันคงได้รับการส่งเสริมเป็นวงกว้างอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นคงมีคนทำกุ้งอบน้ำมันขายเยอะมาก ถ้าผมแบ่งส่วนผสมออกเป็นชุดเล็ก ๆ โดยตรงอาจทำให้สูตรหลุดได้ ธุรกิจของเราก็จะได้รับผลกระทบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องผลกระทบต่อการพัฒนาของร้านเราในอนาคตเลย”
หลินเจียอินยิ่งฟังก็ยิ่งสงสัย “ในอนาคตยังจะมีการพัฒนาอีกหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มรับ “ในอนาคตหากมีคนอยากทำเมนูกุ้งอบน้ำมัน พวกเขาที่ไม่รู้สูตรความอร่อยของเราก็จะไม่สามารถทำรสชาติแบบเดียวกับพวกเราได้”
จากนั้น เขาเปลี่ยนน้ำเสียงและพูดว่า “และในวันหน้า ผมจะทำให้กุ้งอบน้ำมันเป็นแบรนด์ของร้านเราเอง กุ้งอบน้ำมันที่ร้านของเราจะเป็นรสชาติดั้งเดิมและของแท้ อีกด้านหนึ่ง พวกเราจะขายเครื่องปรุงรสกุ้งอบน้ำมันแบบสำเร็จรูปด้วย”
เครื่องปรุงรสสำเร็จรูป !
ดวงตาคู่งามของหลินเจียอินเป็นประกาย เธอพูดอย่างตื่นเต้นว่า “งั้นหมายความว่าต่อไปนี้หากมีใครอยากเปิดร้านขายกุ้งอบน้ำมัน พวกเขาก็ยังต้องใช้เครื่องปรุงรสสำเร็จจากพวกเราน่ะสิ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า แล้วพูดด้วยรอยยิ้มบาง “ไม่ใช่แค่นี้เท่านั้นนะ คนที่อยากทำกุ้งอบน้ำมันกินที่บ้านก็ยังสามารถซื้อเครื่องปรุงจากเราได้เช่นกัน”
“พระเจ้า ทำตลาดได้อีกไกลเลย ! ”
หลินเจียอินตื่นเต้นมากจนเกือบจะคว้าแขนของเจียงเสี่ยวไป๋แล้วกระโดดโลดเต้นขึ้นมา
การได้เห็นภรรยาตื่นเต้น มันทำให้เจียงเสี่ยวไป๋มีความสุขเช่นกัน
ความนิยมของกุ้งเครย์ฟิชหยุดไม่อยู่แล้ว เขาเองก็ทำขายร้านเดียวไม่ไหว ฉะนั้นเขาจึงเริ่มจากจุดหลักของมัน โดยทำเครื่องปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับกุ้งอบน้ำมันโดยเฉพาะ
และในอนาคต การขายเครื่องปรุงรสสำเร็จรูปสำหรับกุ้งอบน้ำมันจะกลายเป็นธุรกิจหลักของเขา
ด้วยวิธีนี้ ตราบใดที่มีคนกินกุ้งอบน้ำมัน เมื่อนานวันเข้า ผู้คนก็ต้องมาเลือกซื้อเครื่องปรุงรสจากเขาซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิม โอกาสทางการตลาดจะมีสูงมาก
“ไม่คิดเลยว่าคุณจะมองการณ์ไกลขนาดนี้ ! ”
หลังจากสงบอารมณ์แล้ว ดวงตาคู่งามของหลินเจียอินมองไปที่สามีของตนเองอย่างมีความสุขและเอ่ยชมเขา
ผมมองการณ์ไกลงั้นหรือ ?
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ
สิ่งเหล่านี้ล้วนได้รับการพิสูจน์มาจากการพัฒนาของคนรุ่นหลัง เขาก็แค่นำมาใช้ก่อนเท่านั้น
หากไม่ใช่เป็นเพราะเขาได้กลับมาเกิดใหม่ เขาก็คงไม่มองการณ์ไกลแบบนี้
การได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งช่างดีจริง ๆ
เจียงเสี่ยวไป๋มองหลินเจียอินด้วยแววตาที่เปี่ยมรัก ในใจของเขามีความสุขมาก
[1] คนกินปากนุ่ม คนรับมือสั้น(吃人家的嘴短, 拿人家的手软)หมายถึง เมื่อรับของเขามาแล้ว ควรรู้จักเกรงใจหรือทำตามคำขอของเขาบ้าง