ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 141 :คนสวย เราพบกันกันอีกแล้ว
ตอนที่ 141 :คนสวย เราพบกันกันอีกแล้ว
“เห็นตรงนั้นไหม ? ”
หลินเจียอินชี้ออกไปนอกประตู แล้วพูดว่า “รถด้านนอกนั้นก็ซื้อโดยพี่รองของเธอ”
นอกประตู บนถนนมีรถจอดอยู่สามคัน ได้แก่ รถจี๊ปเทียนจิงหนึ่งคัน และรถบรรทุกขนาดเล็กรุ่น 130 คันอีกสองคัน
นี่พี่รองของเธอซื้อรถยนต์ได้แล้ว
และไม่ใช่แค่หนึ่งคัน แต่ซื้อถึงสามคัน !
เจียงเสี่ยวชิงตกใจจนอ้าปากค้าง
“ตอนนี้บ้านของเราก็ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และน่าจะแล้วเสร็จในเดือนหน้า”
“เรายังได้รับจัดสรรที่ดิน 100 หมู่ทางตอนใต้ของเมืองด้วย จะเริ่มสร้างโรงงานในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว”
หลินเจียอินเล่าถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
เจียงเสี่ยวชิงฟังแล้วก็ทั้งตกใจและสับสนงุนงงในคราวเดียวกัน
เธอได้ฟังเรื่องราวหลายอย่างจากปากของพี่สะใภ้ เด็กสาวรู้สึกเหมือนกำลังฟังนิทาน มันทำให้ความเข้าใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“ทั้งหมดนี้คือเงินที่พี่รองของเธอหามาด้วยฝีมือการตุ๋นพะโล้และกุ้งอบน้ำมันของเขา”
หลินเจียอินมองไปที่เจียงเสี่ยวชิง และพูดย้ำ “พี่รองของเธอเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ เลิกปฏิบัติต่อเขาเหมือนเมื่อก่อนเถอะ ตอนนี้เขาดูแลครอบครัวดีมาก”
เจียงเสี่ยวชิงยังคงเงียบ และกินกุ้งอบน้ำมันอย่างเงียบ ๆ
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เงยหน้าขึ้นและถามว่า “พี่สะใภ้ ทำไมจู่ ๆ พี่รองถึงเปลี่ยนเป็นคนมากความสามารถได้ขนาดนี้ ? ”
ตอนนี้ เธอยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาได้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ
แม้ในหนังสือจะบอกว่า คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้
แต่นั่นต้องใช้สภาพแวดล้อมและเวลาที่เหมาะสม
หลินเจียอินส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม และพูดว่า “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
คำถามนี้ เธอเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไรเหมือนกัน
เช่นเดียวกับเจียงเสี่ยวชิง เธอรู้สึกเหลือเชื่อกับเรื่องราวที่ได้รับรู้และรู้สึกราวกับว่าตัวเองอยู่ในความฝัน
แต่เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ความฝัน
มันคือเรื่องจริง
“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตราบใดที่เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น นั่นไม่ใช่เรื่องดีหรือ ? ”
หลินเจียอินกล่าวอย่างจริงจัง
“ก็จริง ! ”
เจียงเสี่ยวชิงพึมพำและพยักหน้ารับ
หลินเจียอินยิ้มและพูดว่า “รีบกินข้าวเถอะ เดี๋ยวให้พี่รองพาเธอกลับไปส่งบ้าน”
เจียงเสี่ยวชิงเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าของเธอแดงขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า “พี่สะใภ้ พี่ให้เงินค่ากินค่าใช้จ่ายฉันมา 5 หยวนก่อนได้ไหม ฉันไม่กลับบ้านแล้ว แล้วพี่กลับบ้านแล้วค่อยไปเอาคืนที่พ่อฉัน”
นักเรียนชั้น ม.6 จะมีวันหยุดเดือนละครั้ง ซึ่งให้พวกเขากลับบ้านไปรับเงินค่าครองชีพจากคนที่บ้าน
ปกตินักเรียนจะกินอาหารในโรงอาหารของโรงเรียน ค่าอาหารเช้าตกมื้อละ 3 เจี่ยว อาหารกลางวันและอาหารเย็นตกมื้อละ 5 เจี่ยว รวมแล้วค่าข้าวหนึ่งวันประมาณ 1.3 เหมา
หนึ่งเดือนก็ประมาณ 4 หยวนกว่า
ครอบครัวที่มีฐานะการเงินดีหน่อยอาจให้เงิน 4.5-5 หยวนเพื่อให้ลูก ๆ มีค่าขนมเหลือนิดหน่อย
หากลูก ๆ จำเป็นต้องซื้อปากกาหรือสมุด พวกเขามักจะบอกล่วงหน้า
นี่ก็เดือนมิถุนายนแล้ว และจะมีการสอบเข้าวิทยาลัยในเดือนกรกฎาคม
เจียงเสี่ยวชิงจึงไม่อยากกลับบ้าน
หลินเจียอินคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้น เธออยู่ที่นี่และนั่งเล่นที่นี่อีกสักหน่อยแล้วกัน”
พูดแล้ว เธอก็หยิบธนบัตรสิบหยวนออกมา 1 ใบและนับธนบัตรใบละหนึ่งหยวนอีก 10 ใบ พร้อมทั้งยื่นเงินทั้งหมดให้เจียงเสี่ยวชิง
“พี่สะใภ้ นี่มันมากเกินไปแล้ว ! ”
“ฉันต้องการแค่……5 หยวน”
เจียงเสี่ยวชิงมองดูเงิน 20 หยวนในมือของเธอแล้วรีบพูด
เธอมักได้รับเงินค่าครองชีพเดือนละ 4.5 หยวนจากครอบครัว และเธอไม่ได้ใช้เงินที่โรงเรียนมากนัก ดังนั้นมันจึงเกินพอ
ครั้งนี้ใกล้จะเรียนจบมัธยมปลายแล้ว เพื่อนร่วมชั้นของเธอบางคนเริ่มซื้อสมุดโน้ตสวย ๆ ให้เพื่อน ๆ ใช้เขียนข้อความให้กัน
เธอต้องการซื้อหนึ่งเล่มด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอจึงขอเงินเพิ่มเป็น 5 หยวน
หลินเจียอินกล่าวว่า “พี่สะใภ้ให้ เธอก็เก็บเอาไว้เถอะ ถ้ากินอาหารที่โรงเรียนไม่อิ่มก็ซื้อขนมกินบ้าง”
แต่เจียงเสี่ยวชิงยืนกรานว่า “พี่สะใภ้ มันมากเกินไป ฉันใช้ไม่หมด”
หลินเจียอินตอบว่า “เก็บไว้เถอะ ต้องการซื้ออะไรก็ซื้อ แต่ก่อนครอบครัวของเรายากจน เราจึงไม่มีทางเลือก แต่ตอนนี้พี่รองและพี่สามารถหาเงินได้ทุกวัน อีกทั้งพ่อกับแม่เขาก็ยังสามารถหาเงินได้หลายสิบหยวนต่อวัน ดังนั้นนี่เป็นเพียงเงินจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น”
ห๊ะ ?
เจียงเสี่ยวชิงอุทานด้วยความไม่เชื่อ “พ่อกับแม่สามารถหาเงินได้วันละหลายสิบหยวนเลยหรือ ? ”
ในอดีต พ่อกับแม่ของเธอทำงานหนักตลอดทั้งเดือน แต่ก็หาเงินได้ไม่กี่หยวนก็ถือว่าดีแล้ว บางครั้งค่าใช้จ่ายในบ้านมากเกินไป พ่อแม่ของเธอไม่สามารถหาเงินได้ทัน ก็เป็นพี่สะใภ้ของเธอที่ช่วยจัดการเรื่องค่าครองชีพให้เธอ
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้พ่อแม่ของเธอมีรายได้หลายสิบหยวนในวันเดียว
เดิมทีเธอมีความกังวลอยู่บ้าง เพราะเธอจะเข้ามหาวิทยาลัยปีนี้ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าที่บ้านจะมีเงินเพียงพอที่จะส่งเธอเรียนต่อหรือเปล่า
ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องกังวลแล้ว
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอรู้สึกโล่งใจอย่างมาก
“ขอบคุณค่ะ พี่สะใภ้ ! ”
หลินเจียอินลูบหัวเธอแล้วพูดว่า “ไม่ต้องเกรงใจ รีบไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวพี่กลับมา”
“อื้อ พี่สะใภ้ไปทำงานเถอะ หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว ฉันจะไปหาชานชาน”
หลินเจียอินพยักหน้าและไปหาเจียงเสี่ยวไป๋ที่ห้องครัว
“ฉันให้เงินเสี่ยวชิง 20 หยวน ดังนั้นเธอจะไม่กลับเจียงวานแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมจะไปที่ห้างสรรพสินค้าและซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เธอสักหน่อย”
หลินเจียอินยิ้ม แสดงว่าเธอมีความคิดแบบเดียวกัน
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอมาหาเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋ขับรถไปที่ห้างสรรพสินค้าอย่างรวดเร็ว และเริ่มต้นด้วยการซื้อเสื้อผ้าให้กับเจียงเสี่ยวชิง
“เฮ้ คนสวย เราพบกันอีกแล้ว ! ”
เมื่อเห็นพนักงานขายสาวคนเดิมครั้งที่แล้ว เจียงเสี่ยวไป๋เอ่ยทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม
พนักงานขายสาวก็ประทับใจเจียงเสี่ยวไป๋เช่นกัน เขาหน้าตาดีและใจกว้าง ขนาดเธอยังแอบเผลอใจปลื้มเขาไม่น้อย
แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าลูกสาวเขาจะ 5 ขวบแล้ว
“โอ้ คุณมาซื้อเสื้อผ้าอีกแล้วหรือคะ ? ”
พนักงานขายสาวฝืนยิ้มแล้วพูดขึ้น
“ใช่ ครั้งนี้ซื้อให้น้องสาวของผม เธอเรียนมัธยมปลาย สูงประมาณ 165 เซนติเมตร เธอผอมกว่าคุณนิดหน่อย คุณช่วยผมเลือกเสื้อผ้าสักสองชุดให้เธอหน่อยได้ไหม”
เจียงเสี่ยวไป๋บอกออกมาตามตรง
พนักงานขายสาวพยักหน้ารับและยิ้มอย่างขมขื่นในเวลาเดียวกัน
ครั้งล่าสุดที่เขามาซื้อเสื้อผ้า เขาขอให้เธอช่วยเลือกเสื้อผ้าให้เช่นกัน แต่ตอนนั้นเขาบอกว่าคนที่เขาจะซื้อให้ทั้งสูงและหน้าอกใหญ่กว่าของเธอ !
คราวนี้เขาบอกว่าน้องสาวของเขาผอมกว่าฉัน !
คุณยังทิ้งศักดิ์ศรีไว้ให้ฉันอีกหรือ ?
“อ้อ แล้วก็รบกวนคุณช่วยเลือกกระโปรงให้เธอสัก 2 ตัวด้วย”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของพนักงานขาย เขาเหลือบมองเสื้อผ้าที่จัดแสดงและกล่าวเสริม
“ได้ค่ะ ! ”
พนักงานขายสาวถึงกับพูดไม่ออก แต่ก็ตอบตกลง เธอจงใจเลือกตัวที่มีราคาแพง
ถ้าเธอไม่ทำให้เขาจ่ายเงินเพิ่มอีกสักหน่อย เธอคงโกรธและหงุดหงิดมาก !
พนักงานขายสาวรีบหยิบเสื้อผ้าผู้หญิง 2 ชุด กางเกงผู้หญิง 2 ตัว และกระโปรง 2 ตัวออกมาอย่างรวดเร็ว
ด้วยความขุ่นเคือง เธอหยิบชุดชั้นในอีก 2 ชุดและรองเท้าสีขาวมาอีก 2 คู่
ถึงเขาจะไม่ได้บอก แต่เธอก็จะเลือกให้เขา
หากเขาตัดสินใจก็คงต้องจ่ายหนัก แต่หากเขาไม่ซื้อค่อยเอาไปเก็บคืน !
เมื่อคิดว่าจะทำให้ผู้ชายปากดีคนนี้ใช้จ่ายเงินเกินความจำเป็น พนักงานขายสาวก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก พร้อมรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ
ในที่สุดเธอก็สามารถแก้แค้นได้
“โอ้ คุณคิดได้รอบคอบมาก ! ”
“ขอบคุณครับ ! ”
โดยไม่คาดคิด เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋เห็นชุดชั้นใน กางเกงชั้นในและรองเท้าสีขาวเหล่านั้น เขาไม่เพียงแต่ไม่ปฏิเสธ แต่ยังกล่าวขอบคุณเธออีกด้วย
พนักงานขายสาวรู้สึกสับสนเล็กน้อย รู้สึกเหมือนเธอได้ทำความดีด้วยใจที่ชั่วร้าย
เฮ้อ…นี่เธอเลือกชุดราคาถูกเกินไปหรือ !
แต่เมื่อคิดว่าเธอได้เลือกชุดที่แพงที่สุดแล้ว มันก็ได้ช่วยระบายความคับข้องใจให้เธอได้บ้าง
“ก็ไม่เลว ผมไม่คิดว่ารสนิยมของคุณจะดีขนาดนี้ เสื้อผ้าและชุดที่คุณเลือกนั้นเหมาะสำหรับน้องสาวของผมมาก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ชมอีกครั้ง
เอ่อ…
พนักงานขายสาวอารมณ์เสียและกัดฟันพูดว่า “รวมเป็นเงิน 250 หยวนค่ะ ! ”
“ครับ ขอบคุณมาก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋นับธนบัตรสิบหยวน 25 ใบอย่างรวดเร็ว และส่งให้กับพนักงานขายสาวสวย
ท่าทางที่ไร้กังวลของเขา ทำให้ดูเหมือนเขาไม่ได้จ่ายเงิน 250 หยวน แต่เหมือนโยนปึกกระดาษให้เธออย่างไม่ได้ตั้งใจมากกว่า
ชายคนนี้ดูเหมือนจะร่ำรวยมากกว่าที่เธอคิด !