ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 149 :ปล่อยแกะตัวเดียวได้ ย่อมปล่อยทั้งฝูงได้เช่นกัน[1]
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 149 :ปล่อยแกะตัวเดียวได้ ย่อมปล่อยทั้งฝูงได้เช่นกัน[1]
ตอนที่ 149 :ปล่อยแกะตัวเดียวได้ ย่อมปล่อยทั้งฝูงได้เช่นกัน[1]
โครงการร้านแฟรนไชส์แบรนด์ที่สองที่หลินเจียอินเปิดตัวคือ ‘ร้านพะโล้’
“รับสมัครนักลงทุนเปิดแฟรนไชส์ร้านพะโล้ด้วยหรือนี่ ? ”
“พะโล้ก็ขายดีเหมือนกัน หากเราเปิดร้านแฟรนไชส์นี้ รับรองเลยว่าทำกำไรได้แน่นอน”
“ที่จริงก็พิจารณาได้เหมือนกันนะ”
“อืม ฉันคิดว่าได้นะ ! ”
“ผู้จัดการหลิน แฟรนไชส์ร้านพะโล้มีเงื่อนไขอะไรบ้าง ? ”
“ผู้จัดการหลิน มีสอนเทคนิคทำพะโล้ด้วยไหม ? ”
“ผู้จัดการหลิน……”
“……”
ไม่นาน หลายคนก็เริ่มพูดถึงเรื่องนี้ และมีบางคนถามโพล่งออกมาตรง ๆ
หลินเจียอินกล่าวว่า “ขณะนี้ร้านพะโล้รับสมัครแฟรนไชส์เฉพาะในเมืองชิงโจวเท่านั้น และการเข้าร่วมเป็นแฟรนไชส์มีเงื่อนไขไม่เคร่งครัดเหมือนร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเหอ นอกจากนี้เรายังยกเว้นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุนกับเราด้วย ! ”
ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง
“ผู้จัดการหลิน ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์จริงหรือ ? ”
“ผู้จัดการหลิน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง คุณพูดมาได้เลย”
“ผู้จัดการหลิน ผมเปิดแฟรนไชส์ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเหอแล้ว ยังสามารถเปิดแฟรนไชส์ร้านพะโล้ได้อีกไหม ? ”
“ผู้จัดการหลิน แฟรนไชส์ร้านพะโล้มีโควต้าเท่าไหร่ ? ”
“ผู้จัดการหลิน ผมขอหนึ่งโควต้า”
“ผู้จัดการหลิน……”
“……”
เมื่อได้ยินว่าไม่มีค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ ทุกคนทั้งประหลาดใจและดีใจ พวกเขาถามคำถามจนหลินเจียอินตอบไม่ทัน
หลินเจียอินกล่าวว่า “แฟรนไชส์ร้านพะโล้รับแค่ 20 แห่งก่อน”
นี่คือการตัดสินใจของเธอหลังจากพูดคุยกับเจียงเสี่ยวไป๋
ในเวลานั้น เจียงเสี่ยวไป๋ยังชื่นชมเธอว่าเก่งมากด้วย
เขาบอกเธอว่า ‘ปล่อยแกะตัวเดียวได้ ย่อมปล่อยทั้งฝูงได้เช่นกัน’
ร้านพะโล้เปิดเป็นแฟรนไชส์ได้เช่นกัน ไม่มีปัญหาแน่นอน
เพียงแต่ว่ารูปแบบของแฟรนไชส์ร้านพะโล้และร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเหอมีความแตกต่างกัน
ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเหอมีการสอนเทคนิคการทำอาหารด้วยกุ้งเครย์ฟิชให้ แต่ร้านพะโล้ไม่ได้สอนเทคนิคตรงส่วนนี้ เนื่องจากเทคนิคตุ๋นพะโล้ค่อนข้างยาก เจียงเสี่ยวไป๋จึงใช้วิธีจัดส่งแบบครบวงจร ร้านแฟรนไชส์ไม่ต้องตุ๋นพะโล้เอง มีหน้าที่แค่ขายให้เท่านั้น
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแฟรนไชส์ร้านพะโล้ถึงไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
อำนาจการกำหนดราคาไม่ได้อยู่ในมือของผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการขายและรับส่วนต่างจากการขายเท่านั้น
สำหรับผู้ที่รับสิทธิ์เปิดแฟรนไชส์ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเหอในเขตเมืองชิงโจวอยู่แล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องเปิดแฟรนไชส์ร้านพะโล้อีก เพราะพวกเขาสามารถขายพะโล้ในร้านของพวกเขาได้ ซึ่งก็เหมือนกับร้านกุ้งอบน้ำมันชินเจียงในตอนนี้
ซึ่งอันที่จริงก็เทียบเท่ากับการมีแฟรนไชส์พะโล้อยู่ในร้านเช่นกัน
เฉิงจิ้งและคนอื่นรวมเจ็ดคนที่ได้รับสิทธิ์เปิดแฟรนไชส์กุ้งอบน้ำมันในเขตเมืองชิงโจวต่างดีใจมาก พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าหลังจากที่พวกเขาได้รับสิทธิ์เปิดแฟรนไชส์กุ้งอบน้ำมันในเขตเมืองชิงโจวแล้ว พวกเขายังสามารถขายพะโล้ได้อีกด้วย
มีช่องทางทำเงินเพิ่มมาอีกหนึ่งช่องทาง ช่างเป็นเรื่องดีจริง ๆ
ส่วนบรรดาผู้ที่ได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเหอในเขตอำเภออื่นต่างผิดหวังเล็กน้อย
เพราะพวกเขาขายได้แค่กุ้งอบน้ำมัน ไม่สามารถขายพะโล้ได้
ในเวลาไม่ถึง 10 นาที ก็มีผู้จองรับสิทธิ์เปิดแฟรนไชส์ร้านพะโล้ครบทั้ง 20 แห่งแล้ว ส่วนผู้ที่แย่งชิงสิทธิ์เปิดแฟรนไชส์ทั้ง 2 ร้านมาไม่ได้ต่างเสียดายมากที่ตนเองลงมือช้าเกินไป
สรุปแล้วการขายแฟรนไชส์ในวันนี้ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่เลยทีเดียว
เหล่านักลงทุนจำนวน 80 กว่าคนในที่นี้มี 60 กว่าคนที่ได้กลายเป็นพันธมิตรรับสิทธิ์เปิดร้านแฟรนไชส์ไป และมีเพียง 10 กว่าคนเท่านั้นที่ไม่ได้อะไรกลับไปเลย
กระทั่งเหล่านักลงทุนทยอยกลับไปหมดแล้ว หลินเจียอินถึงแสดงสีหน้าตื่นเต้นดีใจออกมา
เพราะวันนี้เธอเก็บค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ได้มากถึง 21,000 หยวน อีกทั้งยังไม่ต้องจ่ายต้นทุนอะไรด้วย
แน่นอนว่าที่เธอดีใจที่สุดก็คือการเปิดร้านแฟรนไชส์กุ้งอบน้ำมันในเขตอำเภออื่น ๆ รวมถึงแฟรนไชส์ร้านพะโล้ เพราะนี่คือความคิดของเธอเอง
ความคิดของเธอใช้ได้จริง แบบนี้มันน่าดีใจกว่าทำกำไรได้เสียอีก
ยิ่งไปกว่านั้น แนวคิดนี้ยังให้ผลกำไรอีกด้วย
มันสามารถทำกำไรได้มากกว่าความคิดเปิดร้านแฟรนไชส์กุ้งอบน้ำมัน 10 ร้านในเขตเมืองของเจียงเสี่ยวไป๋ แถมยังสามารถขยายธุรกิจไปได้ไกลกว่าตั้งหลายเท่า
“ที่จริงฉันก็มีหัวทางธุรกิจเหมือนกันนะเนี่ย ! ”
หลินเจียอินกำหมัดแน่น เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตนเอง
“ขอแสดงความยินดีกับผู้จัดการหลินที่ขายแฟรนไชส์ได้สำเร็จ ! ”
“ขอแสดงความยินดีกับผู้จัดการหลิน ! ”
“ขอแสดงความยินดีกับผู้จัดการหลิน ! ”
“……”
พนักงานในร้านทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างแสดงความยินดีกับหลินเจียอินด้วยรอยยิ้ม ซึ่งรอยยิ้มของเธอสดใสกว่าดอกโบตั๋นในฤดูใบไม้ผลิเสียอีก
“เมียจ๋า ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยที่ประสบความสำเร็จในการขายแฟรนไชส์วันนี้ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยังมาแสดงความยินดีกับเธอเช่นกัน
“ฉันเก่งใช่ไหมล่ะ ! ”
หลินเจียอินพูดอวดตัวเองต่อหน้าเจียงเสี่ยวไป๋เป็นครั้งแรก
ว่ากันว่าผู้หญิงที่มั่นใจนั้นสวยที่สุด หน้าตาที่สดใสของหลินเจียอินในตอนนี้ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋คลั่งไคล้
“เมียของผม ต้อง……เก่งอยู่แล้ว ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กลืนน้ำลายพูดอย่างยากลำบาก
ใช่แล้ว ทั้งสวยและมีความสามารถ !
นี่คือถึงจะเรียกว่าสวยสมบูรณ์แบบที่สุด ไม่อย่างนั้นสวยแต่ไม่มีความสามารถก็ไร้ประโยชน์ !
หลินเจียอินยิ้มแก้มปริ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มองออกถึงความผิดปกติของสีหน้าและคำพูดเจียงเสี่ยวไป๋ ดูเหมือนเธอจะได้ยินความหมายอื่นจากในคำพูดของเขาด้วย
“ชิ ! ”
“คนทะลึ่ง ! ”
เธอบิดตัวไปมาแล้ววิ่งหนีไป
ปล่อยให้เจียงเสี่ยวไป๋อยู่คนเดียวในสนามหญ้าอย่างหดหู่
“ช่างเถอะ วันเวลายังอีกยาวไกล ! ยังอีกยาวไกล ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ปลอบใจตัวเอง แล้วถึงไปโทรหารองนายกเทศมนตรีจาง
คุณบอกว่าร้านแฟรนไชส์กุ้งอบน้ำมัน 10 ร้านยังน้อยไป ตอนนี้มีร้านเปิดพร้อมกัน 45 ร้านบวกร้านที่เจียงเสี่ยวไป๋ดำเนินการเองอีก 5 ร้าน รวมทั้งหมดเป็น 50 ร้านแล้ว
คงไม่นับว่าน้อยแล้วใช่ไหม
เป็นอย่างที่คาดไว้ เมื่อได้ยิน รองนายกเทศมนตรีจางก็มีความสุขมาก
“เสี่ยวเจียง คุณทำได้ดีมาก แต่คนหนุ่มสาวน่ะต้องมีความกล้าบ้าบิ่นหน่อย จะได้ก้าวไปได้เร็วขึ้น ! ”
หลังจากกดวางสายไป เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกราวกับตนเองหาความวุ่นวายใส่ตัวเข้าแล้ว
ทว่าจู่ ๆ ตอนนี้เขาก็มีร้านเพิ่มขึ้นอีกหลายแห่งในคราวเดียวกัน เขาไม่อาจล่าช้าเรื่องก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องปรุงรสกุ้งอบน้ำมันสำเร็จรูปได้อีกแล้ว
เช่นนั้นหากต้องให้เขาผสมเครื่องปรุงรสลงในหม้อแล้วจัดส่งให้ทีละร้าน มีหวังเขาได้เหนื่อยตายก่อนพอดี
นอกจากนี้ หากแฟรนไชส์ร้านพะโล้เปิดทำการขึ้นมา ปริมาณความต้องการพะโล้ในแต่ละวันจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เขาจะต้องเร่งพัฒนาฝีมือการตุ๋นพะโล้ของเฝิงเยี่ยนหงและหลัวเจาตี้ให้เร็วที่สุด
โชคดีที่ตอนนี้พวกเธอสองคนมีพื้นฐานที่ดี ในอนาคตพวกเธอสามารถทำเองได้แล้ว
ช่วงนี้ หลินเจียอินก็งานยุ่งเช่นกัน
เพราะหลังจากที่แฟรนไชส์สามแห่งสุดท้ายในเมืองชิงโจวได้รับการยืนยันแล้ว พนักงานจำนวนมากในร้านแฟรนไชส์แต่ละแห่งก็จะมาเรียนรู้งานที่ร้านหลายร้อยคนในคราวเดียว ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้เธองานรัดตัว
แต่นี่เป็นเรื่องเล็กน้อย ในเมื่อมีพนักงานเป็นจำนวนมาก ก็สามารถแบ่งการทำงานออกเป็น 2 กะได้
ดังนั้นเวลาทำงานของพนักงานจึงเปลี่ยนเป็น 07.00 น. – 14.00 น. แล้วเปลี่ยนกะตอน 15.00 น.
ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจร้านอาหารยามดึกจึงเริ่มต้นขึ้นด้วย
เดือนมิถุนายนอากาศเริ่มร้อนขึ้น มีผู้คนจำนวนมากออกไปทำกิจกรรมในเวลากลางคืน
การกินกุ้งอบน้ำมันและดื่มเบียร์ในตอนกลางคืนค่อย ๆ กลายเป็นกระแสในหมู่คนหนุ่มสาวของเมืองชิงโจว ทำให้กิจการร้านอาหารยามดึกไม่ได้ด้อยไปกว่าตอนกลางวันเลย
สิ่งนี้ทำให้ผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ไปต่างดีอกดีใจ ทุกคนเตรียมพร้อมและแทบรอไม่ไหวที่จะเปิดร้านทันที
ทว่าหลินเจียอินมีข้อกำหนดในการเปิดร้านค่อนข้างสูง เธอบอกเทคนิคลับที่จะช่วยให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ประสบความสำร็จก็คือ: ทำเล ! ทำเล ! และทำเล !
ดังนั้น หลังจากที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์เลือกทำเลได้แล้ว หลินเจียอินจะต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ และเริ่มตกแต่งร้านได้ก็ต่อเมื่อได้รับการยืนยันว่าไม่มีปัญหาแล้วเท่านั้น
และมาตรฐานการตกแต่งร้านก็เข้มงวดมากเช่นกัน ร้านแฟรนไชส์จะต้องมีประตูเหมือนร้านเดิม มีการตกแต่งและมาตรฐานการบริการไปในทิศทางเดียวกัน
หลินเจียอินแนะนำจวงปี้เฉิงและช่างไม้ถานให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ทุกคน
เพราะร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงถูกตกแต่งโดยจวงปี้เฉิงผู้มากประสบการณ์ ส่วนโต๊ะและเก้าอี้ทั้งหมดทำโดยช่างไม้ถานซึ่งได้มาตรฐานแน่นอน
ช่วงหลายวันมานี้ จวงปี้เฉิงและช่างไม้ถานต่างตกตะลึง เพราะจู่ ๆ ก็มีงานเข้ามาหาพวกเขาถึงที่เยอะขนาดนี้ ทั้งสองทั้งตกใจและดีใจในคราวเดียวกัน
แม้ว่าจวงปี้เฉิงจะจ้างคนงานใหม่จำนวนมากในช่วงนี้ แต่จู่ ๆ ก็มีงานเข้ามามากมายจนเขาทำไม่หวาดไม่ไหว ฉะนั้นเขาจึงรับงานแค่บางส่วนเท่านั้น
เพราะเขายังสร้างบ้านใหม่ของเจียงเสี่ยวไป๋ไม่เสร็จ นอกจากนี้เขายังมีโปรเจ็กต์ใหญ่อย่างการสร้างโรงงานของเจียงเสี่ยวไป๋รอเขาอยู่ เขาไม่มีแรงเหลือไปทำอย่างอื่นแล้วจริง ๆ
สถานการณ์ทางฝั่งช่างไม้ถานดีขึ้นมาหน่อย เพราะเขารับงานทำชุดโต๊ะและเก้าอี้ของร้านแฟรนไชส์ทั้ง 45 ร้านมาทั้งหมด
อีกอย่าง ชุดโต๊ะและเก้าอี้กว่า 2,000 ชุดนี้จะถูกขายให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ของเจียงเสี่ยวไป๋
ช่างไม้ถานยิ้มแก้มปริ ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเปิดโรงงานเฟอร์นิเจอร์ได้แล้ว
[1] ปล่อยแกะตัวเดียวได้ ย่อมปล่อยทั้งฝูงได้เช่นกัน (一只羊是放, 一群羊也是放) หมายถึง หากทำเรื่องหนึ่งได้ ย่อมสามารถทำอีกเรื่องที่คล้ายคลึงไปพร้อมกันได้