ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 187 :ผมต้องการซื้อ
ตอนที่ 187 :ผมต้องการซื้อ
โรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกชิงโจว ผลิตฟิล์มโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำและฟิล์มพลาสติกไนลอนเป็นหลัก ครั้งหนึ่งกิจการของพวกเขาเคยเจริญรุ่งเรืองมาก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการบริหารจัดการที่ไม่ดี ตอนนี้จึงจวนจะปิดตัวลงแล้ว
หลังจากทราบสถานการณ์แล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็กลับไปที่ร้านของเขา
“พี่ นี่คือเครื่องปรุงรสกุ้งอบน้ำมันสำเร็จรูปสูตรลับเฉพาะที่ผลิตโดยโรงงานผลิตเครื่องปรุงรสใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นเครื่องปรุงรสที่เขานำกลับมาให้เฝิงเยี่ยนหง เธอจึงถาม
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและพูดว่า “ลองใช้เครื่องปรุงรสนี้ทำกุ้งอบน้ำมันแล้วชิมดูว่ารสชาติเป็นยังไง”
“ได้เลย ! ”
เฝิงเยี่ยนหงเตรียมส่วนเล็ก ๆ ทันที
ทั้งสองคนได้ชิมรสชาติแล้ว และพบว่ารสชาติไม่แตกต่างกันมากนัก
มันได้ผล !
เจียงเสี่ยวไป๋เองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน เครื่องปรุงรสกุ้งอบน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตโดยอุปกรณ์เครื่องจักรไม่ได้แย่ไปกว่าสิ่งที่เขาทำด้วยมือ จากนี้ไป เขาสามารถฝึกอบรมคนงานและเริ่มการผลิตจำนวนมากได้
ด้วยวิธีนี้ เขาจะได้ไม่ต้องปรุงเครื่องปรุงเองทุกวัน
“หลังจากบรรจุบรรจุภัณฑ์เสร็จ ก็สามารถออกสู่ตลาดได้”
เจียงเสี่ยวไป๋ยกยิ้มมุมปาก เมื่อเครื่องปรุงรสกุ้งอบน้ำมันสำเร็จรูปสูตรลับเฉพาะออกสู่ตลาด อุตสาหกรรมกุ้งก็จะเริ่มพัฒนาอย่างแท้จริง
หากเขาบอกข่าวนี้กับรองนายกเทศมนตรีจาง เช่นนั้นสิ่งที่เขาจะร้องขอคงไม่มากเกินไปสินะ !
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงโทรหารองนายกเทศมนตรีจาง
“รองนายกเทศมนตรีจาง สวัสดีครับ ผมเจียงเสี่ยวไป๋ ! ”
“เฮ้ คุณกลับจากบ้านพ่อตาของคุณแล้วหรือ? ทำไมไม่อยู่ต่ออีกสักสองสามวันล่ะ ? ” รองนายกเทศมนตรีจางหัวเราะพูดแซวเขาจากปลายสาย
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างจริงจังว่า “โรงงานผลิตเครื่องปรุงรสพร้อมสำหรับการผลิตแล้ว ดังนั้นผมจึงรีบกลับ ผมไม่กล้าชะลอโครงการใหญ่ของคุณที่ต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้งเครย์ฟิช”
รองนายกเทศมนตรีจางกลอกตา: ถ้าฉันเชื่อเด็กคนนี้ ฉันคงไม่ต้องใช้แซ่จางแล้ว
เขาขอที่ดิน 100 หมู่ไป แต่สุดท้ายแล้วกลับสร้างโรงงานผลิตขนาด 100 ตารางเมตรและโกดัง 2 แห่ง หลังละ 200 ตารางเมตรเท่านั้น พื้นที่ทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งหมู่ด้วยซ้ำ ไม่ต่างจากโรงงานผลิตเล็ก ๆ ตอนนี้กลับมาคุยกับฉันเกี่ยวกับการพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้งเครย์ฟิชน่ะหรือ ?
“พูดมา คุณมีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับฉัน ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางไม่อยากฟังคำพูดประจบประแจงของเจียงเสี่ยวไป๋ จึงถามออกไปโดยตรง
เจียงเสี่ยวไป๋ชะงักไปเล็กน้อย จากน้ำเสียงของรองนายกเทศมนตรีจาง ดูเหมือนว่าท่านนายกจะไม่พอใจกับการก่อสร้างโรงงานผลิตเครื่องปรุงรสของเขา
แต่เขาไม่รีบร้อนและพูดว่า “ตอนนี้คุณสะดวกหรือเปล่าครับ ? ผมต้องการรายงานให้คุณทราบเกี่ยวกับแผนการในอนาคตด้วยตนเอง”
รองนายกเทศมนตรีจางกลอกตาอีกครั้ง และคิดว่าเด็กคนนี้เป็นเหมือนแมลงวัน จะตอนนี้หรือหลังจากนี้มันแตกต่างกันตรงไหน ?
“งั้นก็มาสิ ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางพูดอย่างช่วยไม่ได้
“ครับ ผมจะไปถึงในอีก 10 นาที”
หลังจากพูดอย่างนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็กล่าวเสริมว่า “คุณอยากให้ผมนำกุ้งอบน้ำมันไปให้คุณไหม ? ”
“นี่มันเวลาทำงาน ! จะเอามาทำไม ? ” รองนายกเทศมนตรีจางพูดอย่างไม่สบอารมณ์และวางสายไป
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและให้ห้องครัวแพ็คกุ้งอบน้ำมันสองกล่องให้เขา จากนั้น เขาจึงขับรถไปที่เทศบาลเมืองชิงโจว
กล่องหนึ่งสำหรับติงจวิ้นเจี๋ย และอีกกล่องหนึ่งหรับรองนายกเทศมนตรีจาง
“ผมบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเอาอะไรมาให้ผมตอนทำงาน ! ” รองนายกเทศมนตรีจางกล่าวขณะมองไปที่กุ้งอบน้ำมัน
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไหน ๆ ผมก็นำติดมาแล้ว คุณค่อยกินมันหลังเลิกงานได้ กุ้งอบน้ำมันนี้ไม่จำเป็นต้องกินตอนร้อน ๆ ”
รองนายกเทศมนตรีจางส่ายหัว เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีกแล้วถามว่า “บอกผมหน่อยสิ คุณมีแผนอะไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ปรับสีหน้าของเขาและอธิบายจุดประสงค์ของเขาให้ฟัง
อันดับแรก เขาอธิบายเหตุผลของการก่อสร้างโรงงานผลิตขนาดเล็ก สาเหตุหลักก็คือกุ้งเครย์ฟิชมีตามฤดูกาล และหลังจากเดือนตุลาคมก็จะสิ้นสุดฤดูกาล หากพวกเขาสร้างโรงงานผลิตขนาดใหญ่ พวกเขาจะไม่สามารถผลิตอะไรได้เลยในปีนี้
นี่คือความจริง
รองนายกเทศมนตรีจางพยักหน้าและดูเหมือนจะมีท่าทีผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“ในเมื่อเป็นผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาล แล้วคุณเปิดร้านแฟรนไชส์จำนวนมากขนาดนี้ แล้วช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า ร้านค้าเหล่านั้นจะดำเนินธุรกิจได้อย่างไร ? ” รองนายกเทศมนตรีจางถามขึ้น
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ผมมีแผนสำหรับเรื่องนี้ ผมไม่ปล่อยให้ร้านที่เปิดอยู่ไม่มีของขายช่วงเวลานั้นแน่นอน”
รองนายกเทศมนตรีจางหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “จริงหรือ ? กับผมยังเก็บเป็นความลับอีกหรือไง ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ เพียงแต่บอกไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อถึงเวลาคุณจะรู้เอง”
รองนายกเทศมนตรีจางไม่ได้กดดันถามอะไรอีก และพูดเข้าประเด็นหลักว่า “คุณคงไม่ได้มาที่นี่แค่เพื่ออธิบายว่าทำไมโรงงานผลิตเครื่องปรุงรสจึงยังไม่ก่อสร้างให้เป็นโรงงานใหญ่อย่างเป็นทางการใช่ไหม ? หากคุณมีเรื่องจะหารือก็พูดมาเถอะ ผมไม่มีเวลาที่จะฟังคุณพูดนานหรอกนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋เกาหัวแล้วพูดว่า “รองนายกเทศมนตรีจาง คุณเข้าใจผมผิด ผมมาเพื่อหารือเกี่ยวกับโรงงานเครื่องปรุงรสจริง ๆ การทำให้โรงงานเครื่องปรุงรสดำเนินการตามแผนจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของชิงโจวด้วย”
“เอาล่ะ เอาล่ะ ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางยกมือขึ้นเพื่อหยุดเขาแล้วพูดว่า “เข้าประเด็นซะ”
ทุกครั้งที่พวกเขาคุยกับเจียงเสี่ยวไป๋ จะมีคำทักทายและคำพูดที่สุภาพมากมาย แต่ดูเหมือนไม่ได้นำไปสู่เรื่องอะไรที่สำคัญเลย
“ผมอยากซื้อโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกชิงโจว ! ”
“อะไรนะ ? พูดอีกครั้งสิ ! ” รองนายกเทศมนตรีจางคิดว่าเขาได้ยินผิด จึงมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยสีหน้างุนงง
ฉันบอกแล้วว่าให้พูดตรงประเด็น ไม่ใช่พูดเรื่อยเปื่อย
เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโรงงานผลิตเครื่องปรุงรสหรือ ? ทำไมจู่ ๆ ถึงเอ่ยถึงโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกขึ้นมา ?
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างมั่นใจว่า “คุณได้ยินถูกแล้ว ผมกำลังวางแผนที่จะซื้อโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกชิงโจว”
รองนายกเทศมนตรีจางหัวเราะ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า “แม้ว่าโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกชิงโจวกำลังจะปิดตัวลง แต่ก็ยังเป็นรัฐวิสาหกิจ คุณซึ่งเป็นนักธุรกิจเอกชนคิดว่าจะสามารถซื้อกิจการของรัฐวิสาหกิจได้หรือ ? คุณคิดว่ามันเป็นไปได้หรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “รองนายกเทศมนตรีจาง อย่างที่คุณพูด โรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกชิงโจวใกล้จะปิดตัวลงแล้ว”
“เมื่อโรงงานปิดตัวลง คุณจะทำอย่างไรกับคนงานเหล่านั้น ? ”
“นอกจากเพิ่มภาระทางการเงินแล้ว ยังมีทางเลือกอื่นอะไรอีกบ้าง ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังเรื่องนี้ แต่ก็ตระหนักดีว่าไม่เคยมีใครขายกิจการของรัฐมาก่อน
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวต่อว่า “หากขายโรงงานให้ผม ผมไม่เพียงแต่สามารถฟื้นฟูโรงงานและแก้ไขปัญหาการจ้างงานให้กับคนงานได้เท่านั้น แต่รัฐบาลก็ไม่ต้องรับภาระทางการเงินด้วย นอกจากนี้เมื่อโรงงานสามารถสร้างรายได้ ก็จะจ่ายภาษีให้กับเมือง นี่ไม่ใช่ว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายหรือ”
รองนายกเทศมนตรีจางขมวดคิ้วและนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
“ก่อนหน้านี้ คุณสนใจทำโรงงานผลิตเครื่องปรุงรส แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงอยากซื้อโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกขึ้นมาล่ะ ? ” รองนายกเทศมนตรีจางเลิกคิ้วถามพร้อมกับจ้องมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋
ทั้งสองเรื่องนี้ไม่มีความเชื่อมโยงที่ชัดเจน และไม่แปลกที่เขาจะสับสน
ดูเหมือนว่าเจียงเสี่ยวไป๋รู้ว่ารองนายกเทศมนตรีจางจะถามอะไร เขาจึงตอบไปว่า “ผมแค่อยากผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับธุรกิจของตัวเอง”
“บรรจุภัณฑ์ ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางยิ่งสับสนมากขึ้น
“เพื่อขยายตลาดเครื่องปรุงรสกุ้งอบน้ำมันสำเร็จรูปเข้าสู่ตลาดระดับประเทศ เราต้องการบรรจุภัณฑ์ของเราเอง”
“ปัจจุบัน การใช้พลาสติกเป็นบรรจุภัณฑ์ยังไม่แพร่หลาย แต่ก็ยังมีให้พบเห็น เช่น ซองผงซักฟอกที่ผลิตโดยชิงโจวเคมีภัณฑ์”
อย่างไรก็ตาม โรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกชิงโจวมุ่งเน้นในการผลิตวัตถุดิบสำหรับฟิล์มพลาสติกเป็นหลัก เช่น ฟิล์มเรือนกระจกและฟิล์มคลุมดิน
ดวงตาของรองนายกเทศมนตรีจางเป็นประกาย “ตามความคิดของคุณ หากโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกชิงโจวเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ ก็อาจมีโอกาสที่จะฟื้นตัวใช่ไหม”
เจียงเสี่ยวไป๋ ส่ายหัว “การปิดตัวลงของโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกชิงโจวไม่ได้เกิดจากปัญหาของผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ เทคโนโลยี การจัดการ และอื่น ๆ อีกมากมาย และการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมด”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เขาพูดต่ออีกว่า “นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ที่ผมกำลังพูดถึงไม่มีอยู่ในตลาดในปัจจุบัน ทีมงานของพวกเขาจะสามารถผลิตมันออกมาได้เองงั้นหรือ ? ”
คำพูดของเขาเหมือนเป็นน้ำเย็นที่ราดลงบนความกระตือรือร้นของรองนายกเทศมนตรีจาง
“คุณสามารถทำมันได้ ? ” รองนายกเทศมนตรีจางถาม
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและพูดอย่างหนักแน่นว่า “ใช่ ผมทำได้ ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางหรี่ตาลง จ้องมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋อย่างตั้งใจ
ผัดมันฝรั่ง !
พะโล้ตุ๋น !
กุ้งเครย์ฟิช !
ธุรกิจแฟรนไชส์ !
โรงงานผลิตเครื่องปรุงรส!
แผน ‘ใช้ไฟดับไฟป่า’ ที่ภูเขาชิ่งหยุน ในอำเภอเจี้ยนหยาง !
นอกจากนี้เขายังเปิดเผยแผนการหลอกลวงของเฉินกังเซิง
การกระทำต่าง ๆ ที่เจียงเสี่ยวไป๋ทำนั้นได้แว่บขึ้นมาในใจของรองนายกเทศมนตรีจางทีละเรื่อง เขารู้สึกไม่เข้าใจเจียงเสี่ยวไป๋มากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่รู้ว่าตนเองควรเชื่อสิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดหรือไม่
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่
“เรื่องการซื้อโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกของคุณ ผมตัดสินใจเองไม่ได้ ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “อย่างไรก็ตาม ผมสามารถหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นเพื่อหารือในที่ประชุมได้”