ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 188 :เจตนาที่แท้จริง
ตอนที่ 188 :เจตนาที่แท้จริง
แค่รองนายกเทศมนตรีจางจะนำเรื่องนี้ไปหารือในที่ประชุม เพียงเท่านี้เจียงเสี่ยวไป๋ก็พอใจมากแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์ในทันทีก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เขาคาดว่าการเข้าซื้อโรงงานคงเป็นไปไม่ได้
ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือ เทศบาลเมืองชิงโจวอาจจะยอมให้เขาเช่าโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติก
แต่ในการเจรจาธุรกิจ ไม่ว่าใครต่างก็ต้องการราคาสูงทั้งนั้น สุดท้ายแล้วถึงค่อยต่อรองราคาให้สมเหตุสมผล
แต่ถ้าเขาพูดถึงเรื่องขอเช่าโดยตรง ไม่พูดถึงเรื่องการเข้าซื้อเลย สุดท้ายเขาอาจล้มเหลว และคงไม่สามารถขอเช่าได้เลยด้วยซ้ำ
สิ่งนี้เรียกว่า ‘ร้องขอสิ่งสูงสุดมักได้สิ่งกลาง ๆ ; ร้องขอสิ่งกลาง ๆ มักได้สิ่งต่ำกว่า; ร้องขอสิ่งเล็กน้อย มักไม่ได้อะไรเลย’
ซึ่งเขาไม่ได้ตั้งใจจะซื้อโรงงานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เพราะเขารู้ดีว่าด้วยนโยบายและสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศ มันเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม เขายังทราบด้วยว่าประเทศจีนได้เริ่มใช้ระบบการทำสัญญาและดำเนินการรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ปี 1978 ดังนั้นหากผู้นำประจำเขตเมืองหารือเกี่ยวกับอนาคตของโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติก พวกเขาจะพิจารณานโยบายนี้โดยธรรมชาติ
หลังจากหารือเกี่ยวกับโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกแล้ว รองนายกเทศมนตรีจางก็เห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋ยังคงนั่งอยู่ และไม่แสดงท่าทีว่าจะออกไป เขาจึงขมวดคิ้วถาม “มีอะไรอีกไหม ? ”
“มี ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบอย่างเฉียบขาด
รองนายกเทศมนตรีจางลูบหน้าผากของเขา โดยตระหนักว่าเขาได้ถามคำถามที่ไม่ควรถาม ที่จริงเขาควรจะพูดเพียงว่า “ไปได้แล้ว”
“มีอะไรจะพูดก็พูดมาสิ ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก หลังจากคำพูดของเขา เขาก็หยิบถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมาและจิบเพื่อดับไฟในใจ
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ผู้นำมักจะพูดจาอย่างใกล้ชิดกับผู้คนเสมอ ดังนั้นผมจะพูดตรง ๆ ผมต้องการที่ดิน 500 หมู่ด้วย ! ”
ฟู่……แค่ก ๆ !
รองนายกเทศมนตรีจางพ่นน้ำชาที่เขาดื่มไปเมื่อครู่นี้ออกมา ตามด้วยอาการไอเพราะสำลักอยู่หลายครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน รองนายกเทศมนตรีจางก็สามารถสงบสติอารมณ์ได้ในที่สุด
เขาพูดด้วยความโกรธว่า “ครั้งที่แล้วคุณใช้ที่ดินเพียง 1 หมู่จาก 100 หมู่ ตอนนี้มาขอ 500 หมู่ คุณคิดว่าที่ดินได้มาฟรี ๆ หรือไง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดกับตัวเองว่าทุกวันนี้ที่ดินก็ได้มาฟรีจริง ๆ นั่นแหละ
ถ้าไม่ถือโอกาสขอเพิ่ม แบบนี้ก็น่าเสียดายแย่น่ะสิ ?
เขากล่าวเสริมว่า “รองนายกเทศมนตรีจาง ผมต้องการพื้นที่ 500 หมู่นี้เพื่อสร้างโรงงานขนาดใหญ่ หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ ก็จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองเราได้มากกว่าธุรกิจกุ้งเครย์ฟิช”
รองนายกเทศมนตรีจางกลอกตาแล้วพูดว่า “คุณเป็นคนคุยโวมาก แถมยังกล้าที่จะยื่นคำร้องด้วย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม เมื่อเห็นรองนายกเทศมนตรีจางเริ่มใจร้อนเล็กน้อย เขาไม่กล้าพูดตลกอีกและพูดทันทีว่า “กุ้งเครย์ฟิชเป็นผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาล แต่นอกจากกุ้งแล้ว ชิงโจวยังมีทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ เช่น ถั่วเหลือง ผมวางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เพื่อแปรรูปถั่วเหลืองเป็นนมถั่วเหลือง ฟองเต้าหู้ เต้าหู้แห้ง เต้าหู้ยี้ เต้าหู้ชีส เต้าเจี้ยว และล่าเถียว”
รองนายกเทศมนตรีจางซึ่งเดิมทีกำลังหงุดหงิดได้มองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความประหลาดใจ คำพูดของเด็กคนนี้ดู…….ค่อนข้างสมเหตุสมผล
นมถั่วเหลือง ฟองเต้าหู้ เต้าหู้แท่ง เต้าหู้แห้ง เต้าหู้ยี้…….
มันเป็นความจริงที่ว่าถั่วเหลืองลูกเล็ก ๆ สามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ได้อีกมากมาย เพียงแต่ฟองเต้าหู้ เต้าหู้แห้ง และล่าเถียวอะไรนั่น เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
แต่มีเรื่องตลกที่มักพูดกันว่า: ธุรกิจที่ดีที่สุดในโลกคือธุรกิจเต้าหู้
เรื่องตลกนั้นเล่าไว้ว่า: ฉันจะลาออกจากงาน ฉันจะทำเต้าหู้ การทำเต้าหู้ปลอดภัยที่สุด ! ถ้ามันแข็งก็คือเต้าหู้แห้ง ถ้าเป็นน้ำก็คือเต้าฮวย ถ้ามันบางก็คือฟองเต้าหู้ ถ้ามันสุกก็เป็นนมถั่วเหลือง เสียก็ยังเป็นเต้าหู้เหม็น ได้กำไรแน่นอน ! ”
และดังที่เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวไว้ กุ้งเครย์ฟิชเป็นผลิตภัณฑ์ตามฤดูกาลที่สามารถขายได้เพียงประมาณครึ่งปีเท่านั้น แต่ถั่วเหลืองนั้นแตกต่างกัน สามารถกักตุนได้ในปริมาณมากหลังการเก็บเกี่ยว และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองสามารถผลิตได้ตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ เมืองชิงโจวเองยังมีปริมาณเพราะปลูกถั่วเหลืองเป็นจำนวนมากอีกด้วย
หากเขาก่อตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองแล้ว เขาสามารถสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่นให้ปลูกถั่วเหลืองเพิ่มรายได้ สร้างงานให้กับคนงาน และส่งเสริมเศรษฐกิจของเมือง
การจัดตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองถือเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ !
ดวงตาของรองนายกเทศมนตรีจางเป็นประกายด้วยความกระตือรือร้น
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รองนายกเทศมนตรีจางก็กล่าวว่า “ความคิดของคุณในการตั้งโรงงานแปรรูปถั่วเหลืองนั้นดี แต่โรงงานผลิตเครื่องปรุงรสของคุณอาจไม่ต้องการที่ดินมากนัก ทำไมไม่สร้างโรงงานทั้งสองแห่งในพื้นที่เดียวกันล่ะ……”
เจียงเสี่ยวไป๋ขัดจังหวะอย่างเร่งรีบ “แต่ละโครงการแยกจากกัน เราจะผสมมันเข้าด้วยกันได้อย่างไร ? ”
เป้าหมายในตอนนี้ของเขาคือการครอบครองที่ดินฟรียังไงล่ะ !
ถ้าเขาจะตั้งโรงงานแปรรูปถั่วเหลืองบนที่ดินที่จัดสรรให้กับโรงงานผลิตเครื่องปรุงรส เขาก็คงไม่จำเป็นต้องมาที่นี่เพื่อเจรจากับรองนายกเทศมนตรีโดยเฉพาะหรอก
ครั้งที่แล้ว ตอนที่เขาก่อตั้งโรงงานปรุงรส เขาขอที่ดิน 100 หมู่ เพราะตอนนั้นเงินไม่พอ
แต่ตอนนี้เขามีเงินในมือมากกว่า 3 ล้านหยวน และที่ดิน 100 หมู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของเขา เขาจึงขอที่ดิน 500 หมู่
แน่นอนว่าเขาไม่ได้เรียกร้องมากเกินไป
เมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากหารือเกี่ยวกับแผนการตั้งโรงงานกับเฉินหยวนเฉา เขาก็คิดถึงโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง แม้ว่าเขาอาจไม่ต้องการที่ดิน 500 หมู่ในทันที แต่เขาคาดการณ์ว่าภายในไม่กี่ปี ขนาดของโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองจะเติบโตขึ้นอย่างมาก และที่ดิน 500 หมู่จะกลายเป็นข้อกำหนดขั้นพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม ที่ดิน 500 หมู่ไม่ใช่เรื่องเล็ก และรองนายกเทศมนตรีจางก็ไม่เต็มใจที่จะมอบให้เขาง่าย ๆ หลังจากเจรจามานานกว่าครึ่งชั่วโมง ในที่สุดรองนายกเทศมนตรีจางก็ตกลงมอบที่ดิน 200 หมู่ให้กับเจียงเสี่ยวไป๋
”หากเป็นแบบนี้ ผมจะไปที่เจี้ยนหยางเพื่อก่อตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองที่นั่น ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด
รองนายกเทศมนตรีจางผงะ ชายหนุ่มคนนี้เริ่มแสดงท่าทีดื้อรั้นใส่เขาแล้วหรือ
แต่ต้องบอกว่ากลยุทธ์นี้ค่อนข้างได้ผล
รองนายกเทศมนตรีจางทราบดีว่าพ่อตาของเจียงเสี่ยวไป๋คือหลินต้าเหว่ย เป็นนายอำเภอเจี้ยนหยาง
แม้ว่าเจี้ยนหยางจะเป็นอำเภอภายใต้เขตอำนาจของชิงโจว และเขาเป็นผู้บังคับบัญชาของหลินต้าเหว่ย แต่ก็ไม่เหมาะสมหากเขาจะเข้าไปแทรกแซงงานของนายอำเภอ
ถ้าเจียงเสี่ยวไป๋ลงทุนในอำเภอเจี้ยนหยาง หลินต้าเหว่ยอาจพิจารณายกที่ดิน 500 หมู่ให้แก่เขา
มันน่าปวดหัวจริง ๆ !
รองนายกเทศมนตรีจางนวดหน้าผากของเขา
“เอาล่ะ ฉันจะลองคิดดู” ในที่สุด รองนายกเทศมนตรีจางก็ยอมจำนน แต่ไม่ได้ให้คำตอบโดยตรง
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม เขารู้ว่าการอนุมัติที่ดินอุตสาหกรรม 500 หมู่แตกต่างจากการขายรัฐวิสาหกิจ รองนายกเทศมนตรีจางสามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง เขาจึงกล่าวว่า “นายกเทศมนตรีจาง ยังไงรบกวนคุณแจ้งให้ผมทราบโดยเร็วที่สุดนะครับ ตอนนี้ก็เดือนกรกฎาคมแล้ว และฤดูเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองคือช่วงปลายเดือนกันยายน ผมอยากให้โรงงานแปรรูปถั่วเหลืองเปิดดำเนินการก่อนเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในปีนี้”
“ด้วยวิธีนี้ เกษตรกรของชิงโจวจึงจะสามารถขายถั่วเหลืองได้ในปีนี้ ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางมองดูเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความสงสัย แล้วพูดว่า “คุณคงไม่ได้วางแผนที่จะสร้างโรงงานชั่วคราวใช่ไหม ? ”
“ไม่ ไม่ ไม่ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า “โดยรวมแผนนี้มีการแบ่งระยะการก่อสร้าง แม้ว่าคุณจะให้ที่ดิน 1,000 หมู่แก่ผม แต่ผมก็จะสร้างโรงงานให้เสร็จตามแผนในปีนี้ ! ”
รองนายกเทศมนตรีจางแทบจะกระอักเลือดเก่าออกมา
ตอนแรกเขาต้องการที่ดิน 500 หมู่ และเมื่อเขาไม่เห็นด้วย เขาก็หันไปใช้วิธีดื้อรั้น แต่ตอนนี้รองนายกเทศมนตรีจางเพิ่งยอมจำนนไป จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนคำพูดขอเป็น 1,000 หมู่แล้ว !
มีใครหน้าด้านแบบนี้บ้างไหม ?
“ถ้าอย่างนั้นฉันควรให้คุณ 10,000 หมู่ไปเลยไหม ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางกล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“ได้สิครับ รองนายกเทศมนตรีจาง คุณต้องรักษาคำพูดนะ คำพูดของคุณมีค่าดั่งทองคำนะครับ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋เห็นด้วยโดยไม่ลังเล
ไม่ว่ารองนายกเทศมนตรีจางจะอารมณ์ดีแค่ไหน แต่ก็เกือบจะสบถออกมา
เจ้าเด็กคนนี้ไม่เข้าใจภาษามนุษย์หรือ ?
ในสิ่งที่ฉันพูด ฉันบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะให้ที่ดิน 10,000 หมู่แก่นายน่ะ ?
คนหนุ่มสาวทุกวันนี้ไม่รู้จักคำนึงถึงสถานการณ์ ไม่ว่าคำพูดอะไรล้วนกล้าพูดออกมาทั้งนั้น ?
เขามั่นใจได้เลยว่าถ้าเขาบอกจะให้ที่ดิน 10,000 หมู่ ผู้ชายคนนี้จะต้องรับไว้แน่นอน
เพราะเขาสังเกตเห็นว่าตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋พูด แสงในแวววาวของเขาแตกต่างออกไป มันเป็นประกายแห่งความตื่นเต้นและความอยากเป็นเจ้าของ