ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 28 :ไม่อร่อยไม่คิดเงิน
ตอนที่ 28 :ไม่อร่อยไม่คิดเงิน
“พูดถึงของอร่อยอะไรกันหรือ?”
ในตอนที่หวังผิงกับภรรยากำลังเอ่ยชมไม่ขาดปาก ทั้งยังขอเบิ้ลอีกชามจากเจียงเสี่ยวไป๋ หญิงสาวผมสั้นอายุประมาณ 26-27 ปีคนหนึ่งเดินเข้ามาพอดีจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“พี่เจินนี่เอง ฉันบอกว่าผัดมันฝรั่งของพี่ชายของสามีฉันอร่อยมากเหลือเกิน”
คราวนี้เฝิงเยี่ยนหงยอมเรียกเขาว่าพี่ชายเสียที เธอเอ่ยชมผัดมันฝรั่งของเจียงเสี่ยวไป๋ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หญิงสาวที่มามีชื่อว่าเหอเหม่ยเจิน เป็นลูกค้าประจำของร้านน้ำชา
“ผัดมันฝรั่งจะไปอร่อยขนาดนั้นได้อย่างไร เยี่ยนหง เธออย่ามาหลอกฉันเลย”
เหอเหม่ยเจินและเฝิงเยี่ยนหงคุ้นเคยกันดี เธอเหลือบมองมันฝรั่งในกระทะที่ถูกทอดไว้เป็นสีเหลืองทอง แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เธอเองก็ใช่ว่าจะไม่เคยกินผัดมันฝรั่งเสียหน่อย เธอกินจนหน้าจะเป็นลูกมันฝรั่งอยู่แล้ว
“พี่เจิน มันไม่เหมือนกันจริง ๆ ”
เฝิงเยี่ยนหงยังคงโบกมือปัด
ก่อนกินเธอก็คิดแบบนี้เหมือนกัน แต่หลังจากกินแล้ว เธอถึงได้รู้ว่าที่แท้ผัดมันฝรั่งอร่อยแบบนี้นี่เอง
“พี่เจิน ลองสักชามแล้วจะรู้”
เฝิงเยี่ยนหงรีบแนะนำอย่างกระตือรือ
“ได้สิ ผัดมันฝรั่งของคุณราคาชามละเท่าไรล่ะ ? ”
เหอเหม่ยเจินนึกว่าเฝิงเยี่ยนหงกำลังช่วยโฆษณาร้านของพี่ชายสามี จึงไม่อยากปฏิเสธออกไปตามตรง เธอยิ้มแล้วเดินไปถามเจียงเสี่ยวไป๋
“ชามละ 3 เหมา”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม
“อะไรนะ ? ”
เหอเหม่ยเจินตกตะลึง แล้วพูดอย่างโมโห “ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม ผัดมันฝรั่งราคาชามละ 3 เหมาเลยหรือ ? ”
แม้แต่เฝิงเยี่ยนหงและหวังผิงยังตกตะลึง
ชามปากกว้างแบบนี้ใส่ผัดมันฝรั่งได้ไม่ถึงครึ่งชั่งด้วยซ้ำ เจียงเสี่ยวไป๋ขายตั้งชามละ 3 เหมาเชียวหรือ
“นี่ขายเอากำไรเกินควรไปแล้ว”
เหอเหม่ยเจินพูดอย่างไม่พอใจ ตอนแรกเธอตั้งใจจะไว้หน้าเฝิงเยี่ยนหง เลยจะยอมควักเงินสัก 2-3 เจี่ยวช่วยซื้อสักชาม ต่อให้ไม่อร่อยก็ไม่เป็นไร
ใครจะไปคิดว่ามันจะไม่ใช่ราคาแค่ 2-3 เจี่ยว
แต่ราคาสูงถึง 3 เหมา
แพงกว่าข้าว 1 ชั่งตั้ง 3 เท่า
ด้วยราคาที่แพงขนาดนี้ มีแต่คนที่สมองมีแต่น้ำเท่านั้นแหละถึงจะซื้อกิน
“เอาแบบนี้แล้วกัน คุณลองกินดูก่อน ถ้าไม่อร่อยไม่คิดเงิน” เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยรอยยิ้ม
เหอเหม่ยเจินพูดว่า “คุณพูดเองนะ ไม่ใช่ว่าพอถึงเวลานั้นมาบอกให้ฉันจ่ายเงินทีหลังไม่เอานะ”
เธอยังคงไม่เชื่อว่าผัดมันฝรั่งมันจะอร่อยขนาดนั้นได้อย่างไร ?
อืม ต่อให้อร่อย ฉันก็จะบอกว่าไม่อร่อย
คิดจะมาหลอกเอาเงินฉัน ฝันไปเถอะ !
“ได้”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบรับอย่างไม่ลังเล เขานำชามใบใหม่ออกมาแล้วตักมันฝรั่งใส่ไปครึ่งชาม จากนั้นเทลงหม้อกระเบื้องเคลือบ ใส่ซอสสูตรลับ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่หัวไชเท้าดองหั่นฝอยแล้วคลุกเคล้าอีกรอบถึงตักใส่ชามเหมือนเดิม โรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชีซอย ถึงยื่นให้เหอเหม่ยเจิน
“น้องสะใภ้ ช่วยเอาตะเกียบให้คนสวยท่านนี้คู่นึงสิ” เจียงเสี่ยวไป๋หันไปไหว้วานเฝิงเยี่ยนหง
ภายในร้านน้ำชาของหวังผิงมีชามและตะเกียบถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย
เหอเหม่ยเจินไม่ได้ยืนอยู่ด้านนอกนานนัก เธอถือชามใส่ผัดมันฝรั่งเข้าไปนั่งในร้านน้ำชา จากนั้นก็สั่งชาหลงจิ่งอีกหนึ่งกา
ผัดมันฝรั่งชามนี้มีกลิ่นหอมมาก ดูน่ากินไม่น้อย เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะอร่อยหรือเปล่า?
เหอเหม่ยเจินเอาตะเกียบมาคีบผัดมันฝรั่งเข้าปากอย่างช้า ๆ
และทันใดนั้นเอง
เธอก็ตัวแข็งทื่อเป็นก้อนหิน
พระเจ้า นี่มันใช่ผัดมันฝรั่งจริง ๆ หรือเปล่า ?
มันจะอร่อยเกินไปแล้ว !
เรียกได้ว่ามันคืออาหารโอชะที่เธอไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน
ชิ้นที่หนึ่ง ชิ้นที่สอง ชิ้นที่สาม……
ชิ้นแล้วชิ้นเล่า……
ผัดมันฝรั่งหนึ่งชามถูกกินเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว แม้แต่เครื่องปรุงรสที่อยู่ในชามยังถูกเลียจนไม่เหลือเช่นเดียวกัน ทำให้ในชามดูสะอาดราวกับเพิ่งล้างไปใหม่ ๆ
ไม่ได้ ยังกินไม่อิ่มเลย
ต้องกินอีกชาม
เมื่อนึกถึงความอร่อยเกินบรรยายของผัดมันฝรั่ง เหอเหม่ยเจินทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอจึงเดินไปที่แผงของเจียงเสี่ยวไป๋พร้อมชามเปล่า “เถ้าแก่ เอามาอีกชาม”
“ได้เลย แต่ราคาชามละ 3 เหมานะ” เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่เป็นไร 3 เหมาก็ 3 เหมา”
เหอเหม่ยเจินพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ผัดมันฝรั่งรสชาติอร่อยขนาดนี้ อย่าว่าแต่ชามละ 3 เหมาเลย ต่อให้ราคา 5 เหมาก็ยอมจ่าย
“รอสักครู่นะ เดี๋ยวผมทำให้”
หลังรับชามเปล่ามาจากมือของเหอเหม่ยเจิน เจียงเสี่ยวไป๋จึงคีบผัดมันฝรั่งใส่ลงไปในหม้อกระเบื้องเคลือบ
หลังจากลองสองครั้ง เจียงเสี่ยวไป๋เริ่มรู้แล้ว
ชามปากกว้างหนึ่งชามสามารถใส่มันฝรั่งได้ 15-16 ชิ้น ดังนั้นเขาจึงสามารถคีบไปผสมในหม้อกระเบื้องเคลือบได้เลย ไม่ต้องคีบใส่ชามก่อนแล้วค่อยคีบใส่หม้อสลับกันไปมาอีกแล้ว
“เถ้าแก่ แถมให้หน่อยได้ไหม มันอร่อยมากเลย”
เหอเหม่ยเจินพูดอย่างอดใจไม่ไหว
“ได้เลย ไม่มีปัญหา”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ใช่คนงกเช่นกัน เขาแถมให้เธอไปหลายชิ้นจนเต็มชาม
“นี่คืออะไรหรอ ทำไมหอมจัง ? ”
ในตอนนี้เอง ได้มีคนเดินผ่านหน้าร้านเห็นเจียงเสี่ยวไป๋กำลังคลุกผัดมันฝรั่งพอดี พวกเขาทำจมูกฟุดฟิดแล้วหยุดดมกลิ่น
สาเหตุที่เจียงเสี่ยวไป๋เลือกตั้งแผงขายของกินเล่นหน้าร้านน้ำชาของหวังผิงเพราะถูกใจทำเลที่ตั้งของร้าน
เลยร้านน้ำชาไปทางซ้ายมือ 100 เมตรเป็นโรงเรียนมัธยมชั้นนำของเมืองชิงโจว ไปทางฝั่งขวาคือสถานีโทรทัศน์ชิงโจว ฝั่งตรงข้ามเป็นศูนย์วัฒนธรรม เยื้องออกไปทางฝั่งตรงข้ามเป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารชิงโจว
ที่นี่ไม่เพียงแต่มีผู้อยู่อาศัยรายล้อมจำนวนมากเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาอีกด้วย
แบบนี้ไม่ได้เป็นการดึงดูดผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาตั้งแต่ต้นหรือ ?
หนุ่มสาววัยรุ่นสี่คนที่เดินเข้ามาดูเหมือนจะเป็นคู่รักสองคู่
“ตอนแรกฉันก็นึกว่าอะไร ที่แท้ก็เป็นผัดมันฝรั่งนี่เอง” หญิงสาวมัดผมหางม้าสวมชุดกระโปรงลายดอกไม้เห็นว่าของกินที่อยู่ในกระทะก้นแบนคือผัดมันฝรั่ง ก็ทำหน้าผิดหวัง
“ใช่แล้ว ผัดมันฝรั่งไม่เห็นน่าอร่อยเลย ไปกันเถอะ”
ชายสวมแว่นตาข้างเธอพยักหน้าเห็นด้วยและพูดอย่างประจบประแจงว่า “เดี๋ยวพวกเราไปซื้อเนื้อหมูสัก 2 ชั่งจากร้านขายเนื้อ ตอนบ่ายไปกินหม้อไฟที่บ้านของฉันกัน”
“แต่ทำไมผัดมันฝรั่งถึงได้หอมขนาดนี้ล่ะ ? ”
“ใช่ ดูสิ ดูเหมือนว่าจะมีเครื่องปรุงรสผสมอยู่ในชามนั้นด้วยนะ”
หนุ่มสาวอีกคู่กลับสังเกตเห็นถึงความไม่ปกติ ชายหนุ่มคนนั้นดวงตาเฉียบคมยิ่งกว่า เพราะเขาเห็นผัดมันฝรั่งชามใหญ่ในมือของเหอเหม่ยเจิน
เหอเหม่ยเจินกำลังจะเดินเข้าไปในร้านน้ำชา เมื่อเธอได้ยินเสียงพูดคุยของพวกเขาจึงหันกลับไปพูดว่า “ตอนแรกฉันก็เหมือนพวกเธอนั่นแหละ คิดว่าผัดมันฝรั่งไม่อร่อย พูดออกไปพวกเธอคงไม่เชื่อ แต่ฉันกินไปหนึ่งชามแล้วยังไม่พอเลย นี่เบิ้ลชามที่สองแล้วเนี่ย”
“จริงหรือเปล่า ? ”
หญิงสาวในชุดกระโปรงลายดอกถามด้วยความสงสัย
“จริงสิ ! ”
เหอเหม่ยเจินพยักหน้ายืนยัน แล้วพูดต่ออีกว่า “ไม่เชื่อก็ลองดูได้ เถ้าแก่บอกแล้วว่าไม่อร่อยไม่คิดเงิน”
“จริงหรือ งั้นลองหน่อยดีไหม ? ”
“อืม ลองดูเถอะ เพราะกลิ่นมันหอมมากเลยนะ”
คู่รักหนุ่มสาวที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้นมา
เมื่อเห็นว่าคู่เพื่อนของตนเองพูดมาขนาดนี้แล้ว หญิงสาวในชุดกระโปรงลายดอกและชายหนุ่มสวมแว่นตาจึงตกลงจะลองกินด้วย
ทว่าชายหนุ่มสวมแว่นตาค่อนข้างระมัดระวังตัว เขาถามเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “เถ้าแก่ ถ้าไม่อร่อยไม่ต้องจ่ายเงินใช่ไหม ? ”
“ลองกินดูก่อนเถอะ ถ้าไม่อร่อย กินแล้วสามารถเดินออกไปได้เลย ไม่ต้องจ่ายเงิน” เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างมั่นใจ
ตอนนี้รสชาติของผัดมันฝรั่งได้รับการการันตีจากหวังผิง เฝิงเยี่ยนหง และเหอเหม่ยเจินแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋จึงไม่กังวลอะไรเลยสักนิด
อีกอย่าง ต่อให้เป็นยุคสมัยที่เต็มไปด้วยอาหารอร่อย แต่ซอสสูตรลับที่เขาปรุงขึ้นมาเองนั้นก็ยังได้ชื่อว่าอร่อยสุดยอด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในยุคต้นปี 80 ที่ผู้คนไม่มีโอกาสแม้แต่จะกินข้าวให้อิ่มท้อง มันจะต้องถือเป็นอาหารโอชะสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน
จะมีใครบ้างที่ได้กินแล้วบอกว่ามันไม่อร่อย ต่อให้ตัดหัวเจียงเสี่ยวไป๋ทิ้ง เขาก็ไม่เชื่อหรอก
“ตกลง งั้นเอามาให้พวกเราอย่างละชาม”
ชายหนุ่มสวมแว่นตาพูด
“ตกลง แต่ถ้าอร่อยต้องจ่ายมาชามละ 3 เหมานะ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าอร่อยจริง เดี๋ยวเพิ่มเงินให้อีก 1.2 หยวนเลยเป็นไง ? ”
ถึงอย่างไรเจ้าของร้านก็เป็นคนบอกเองว่าถ้าไม่อร่อยไม่ต้องจ่ายเงิน ในเมื่อไม่มีอะไรให้ต้องกลัว เขาจึงพูดอย่างบ้าบิ่น
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาคลุกผัดมันฝรั่งใส่ชามสี่ชามอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ให้พวกเขาเข้าไปนั่งกินในร้านน้ำชา
ระหว่างนี้ กลิ่นหอมเข้มข้นของซอสสูตรลับได้ดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้เดินเข้ามา