ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 303 :วาทศิลป์
ตอนที่ 303 :วาทศิลป์
หากเป็นเมื่อก่อน เจียงเสี่ยวไป๋คงไม่สามารถตอบคำถามของหลินต้าเหว่ยได้
แต่ตอนนี้ โรงงานฟิล์มพลาสติกของเขามียอดสั่งซื้อจริงเข้ามาเกือบสี่ล้านหยวนแล้ว
“พ่อครับ ผมเป็นคนทำสัญญาเหมาโรงงานฟิล์มพลาสติกชิงโจว พ่อรู้ใช่ไหม ? ”
หลินต้าเหว่ยพยักหน้า แน่นอนว่าเขารู้เรื่องนี้
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ผมเพิ่งเข้ามารับช่วงต่อไม่ถึง 2 เดือนเท่านั้น แต่ในเดือนสิงหาคมทางโรงงานมียอดสั่งซื้อเข้ามาสี่ล้านแล้ว พ่อลองคิดดูว่าผมจะสามารถขยายโรงงานฟิล์มพลาสติกได้ใหญ่แค่ไหนในอนาคต ? ”
“สี่ล้านในหนึ่งเดือน ! ”
หลินต้าเหว่ยประหลาดใจมาก และมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความไม่เชื่อ
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “สำหรับผม โรงงานฟิล์มพลาสติกเป็นเพียงบริการเสริมสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ของผม ผมไม่ได้คาดหวังว่ามันจะทำเงินได้ การทำกำไรเพียงเล็กน้อยเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น ! ”
ยอดขายสี่ล้านในหนึ่งเดือน แค่กำไรเพียงเล็กน้อยหรือ ?
แถมยังมองว่าเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น ?
หลินต้าเหว่ยแทบจะกระอักเลือดออกมา
เขารู้ดีว่ายอดขนาดนี้เพียงพอที่จะติดอันดับหนึ่งในสามอุตสาหกรรมทำเงินในเมืองชิงโจว ซึ่งเหนือกว่ากิจการทั้งหมดในอำเภอเจี้ยนหยาง รวมถึงโรงงานบุหรี่เจี้ยนหยางด้วย
น่าเหลือเชื่อจริง ๆ
หลินต้าเหว่ยขมวดคิ้วและมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “โรงงานเมล็ดแตงโมจินเคอขนาดเล็กของลูกสามารถทำเงินได้เดือนละสี่ล้านหยวนไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา ๆ และพูดอย่างหนักแน่นว่า “ในอีกสามเดือน ยอดขายของโรงงานเมล็ดแตงโมจินเคอจะเกินสิบล้านต่อเดือนอย่างแน่นอน”
หลินต้าเหว่ยตกตะลึง
ขายได้เดือนละสิบล้าน แบบนี้ต้องขายมากขนาดไหนกัน ?
ต่อให้รวบรวมเมล็ดแตงโมในเจี้ยนหยางทั้งหมดในปีนี้ก็คงไม่เพียงพอ !
แต่เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างมั่นใจว่า “แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินงานของบริษัทโลจิสติกส์ของผม ไม่เช่นนั้นผมจะไม่สามารถรวบรวมเมล็ดแตงโมเพื่อนำมาผลิตได้ และผมก็ไม่สามารถนำเมล็ดแตงโมส่งขายตามที่ต่าง ๆ ตามเป้าหมายได้ด้วย”
แน่นอนว่าหลินต้าเหว่ยเข้าใจเหตุผลนี้ดี
เขาเป็นคนเด็ดขาด เขาโบกมือแล้วพูดว่า “ลูกไม่ต้องพูดแล้ว ลูกสามารถนำรถบรรทุกขนาดใหญ่ทั้ง 5 คันไปใช้ในการขนส่งได้ แต่โครงการที่ลูกพูดถึงจะต้องตั้งในนิคมอุตสาหกรรม”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา ๆ ไม่คิดว่าเขาจะยังไม่เปิดเผยแผนการทั้งหมดด้วยซ้ำ แต่พ่อตาของเขาก็ยอมแล้ว
ไม่ใช่นิสัยของเขาที่จะยอมแพ้อะไรง่าย ๆ เลย
“ในเมื่อพ่อเอ่ยปากแล้ว งั้นโครงการนั้นก็ต้องตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแน่นอน”
“เพราะถึงอย่างไรเราก็คือครอบครัว ! ”
“น้ำปุ๋ยที่อุดมสมบูรณ์อย่าปล่อยให้ไหลเข้านาคนอื่น ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
มุมปากของหลินต้าเหว่ยกระตุกอย่างแรง
ก่อนหน้านี้ใครเคยกล่าวไว้ว่าผู้นำในเจี้ยนหยางมีทัศนคติการบริการที่ไม่ดี และควรย้ายกิจการไปยังชิงโจว ?
ใครบอกว่าโครงการนี้สามารถขอที่ดินหลายร้อยหมู่จากรองนายกเทศมนตรีจางได้ ?
ตอนนี้เขาเข้าใจลูกเขยของเขาอย่างถ่องแท้แล้ว ที่จริงเจ้าหนุ่มคนนี้ก็แค่ไม่ยอมเสียเปรียบ !
หลังจากตกลงกันแล้ว ต่อไปคงจะมีความต้องการอะไรที่จะขอใช่ไหม ?
หลินต้าเว่ยโบกมือแล้วกล่าวว่า “ว่ามาเลย ที่พูดถ้อยคำดี ๆ มากมาย เพราะลูกยังมีคำขออะไรใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “พ่อรู้จักผมดีจริง ๆ ! ”
คำขอของเขาไม่ได้มากเกินไป เขาขอให้หลินต้าเหว่ยช่วยอนุมัติการซื้อรถบรรทุกขนาดเล็กรุ่น 130 คันจำนวน 2 คัน
ซึ่งหลินต้าเหว่ยก็ตอบตกลง
รถบรรทุกใหญ่รุ่น 140 ไม่สามารถอนุมัติได้ในปีนี้ แต่รถบรรทุกรุ่น 130 ยังขออนุมัติได้
เมื่อตกลงตามเงื่อนไขแล้ว หลินต้าเหว่ยจึงกล่าวว่า “เล่ารายละเอียดโครงการใหม่ของลูกให้พ่อฟังหน่อย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “พ่อครับ ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เย็นนี้ผมจะทำหัวปลาหม้อไฟให้ชิม แล้วเราค่อยคุยกันในมื้อเย็น ส่วนตอนนี้ผมขอให้รถบรรทุกใหญ่ 5 คันนั้นไปส่งเมล็ดแตงโม 5 รสที่ชิงโจวก่อน”
“ได้ ! ”
แม้ว่าหลินต้าเหว่ยจะกระตือรือร้นที่จะได้ยินเกี่ยวกับโครงการใหม่ แต่เขาก็ตอบตกลง
ขณะที่หลี่ซิ่งฮวากลับมาที่สำนักงาน หลินต้าเหว่ยก็สั่งให้เขาไปกับเจียงเสี่ยวไป๋เพื่อไปรับรถบรรทุก
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋จากไป รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของหลินต้าเหว่ย
หัวปลาหม้อไฟ ฉันยังไม่ได้ลองเลย !
เขาจะตั้งตารอคอยมัน !
เขาอดไม่ได้ที่จะรำพึงรำพันว่าลูกสาวของเขาโชคดีขนาดไหนที่ได้พบสามีเช่นนี้ คนที่ทั้งมีความสามารถในการทำธุรกิจและมีทักษะในการทำอาหาร
ในเวลาเดียวกัน เขายังรู้สึกผิดที่เคยมองลูกเขยของเขาว่าเป็นคนไม่ได้เรื่องมาโดยตลอด
ไม่อย่างนั้นสิ่งต่าง ๆ คงไม่เป็นแบบนั้นมาตลอดหลายปี……
“ใช่ ฉันควรชดเชยให้เขาสักหน่อย ! ”
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลินต้าเหว่ยก็พึมพำกับตัวเองแล้วหยิบโทรศัพท์สำนักงานขึ้นมาและกดโทรออกหาสายหนึ่ง
……
ทางด้านเจียงเสี่ยวไป๋ กระบวนการรับรถบรรทุกดำเนินไปอย่างราบรื่น เขาไม่เพียงแต่ได้รับรถบรรทุกรุ่น 140 จำนวน 5 คันเท่านั้น แต่เขายังได้รับเงินคืนอีก 280,000 หยวนอีกด้วย
ในตอนแรก หลินต้าเหว่ยได้อนุมัติการซื้อรถบรรทุกจำนวน 10 คัน เจียงเสี่ยวไป๋ได้ชำระเงินล่วงหน้าทั้งหมดแล้ว
เนื่องจากตอนนี้เขาได้รับรถบรรทุกเพียง 5 คัน จึงต้องคืนเงินที่เหลือให้
ก่อนจะกลับไป หลี่ซิ่งฮวาก็ได้พูดสั่งหลี่ซิ่งเซี่ยว่า “จากนี้ไป นายต้องเชื่อฟังเถ้าแก่เจียงและตั้งใจทำงานกับเขาให้ดี”
หลี่ซิ่งเซี่ยตอบว่า “พี่ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ทำให้พี่ลำบากใจ”
หลี่ซิงฮวาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แล้วพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “พี่เจียง ผมฝากน้องชายของผมกับคุณด้วย ถ้าเขาไม่ฟัง คุณตีเขาได้เลย”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเสียงแห้ง ดูเหมือนว่าผู้คนยังคงเชื่อในสุภาษิตที่ว่า ‘วินัยจะทำให้เด็กมีความประพฤติดี’ พวกเขาไม่เพียงสอนลูก ๆ ด้วยการตีเท่านั้น แต่ยังฝากฝังเรื่องนี้ให้กับผู้อื่นด้วย
อย่างไรก็ตาม เจียงเสี่ยวไป๋ไม่มีนิสัยชอบลงโทษทางร่างกาย เขากล่าวว่า “บริษัทควบคุมผู้คนผ่านระบบและกฎเกณฑ์ ไม่ใช่ลงโทษด้วยการตีหรือการดุด่า”
หลี่ซิ่งฮวาตอบว่า “อย่างไรก็ตาม ผมฝากเขาไว้กับคุณแล้ว ดังนั้นคุณจัดการเขาได้ตามที่เห็นสมควร”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและเห็นด้วย จากนั้นเขาก็ถามหลี่ซิ่งเซี่ยว่า “นายรู้จักโรงงานเมล็ดแตงโมจินเคอในนิคมอุตสาหกรรมเจี้ยนหยางไหม?”
หลี่ซิ่งเซี่ยพยักหน้ารับ “ครับ ผมรู้ ครอบครัวของผมอยู่ทางตะวันออกของเมือง และผมก็ไปดูพิธีเปิดในวันนั้นด้วย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เอาล่ะ ฉันมีงานให้พวกนายทำ นำรถบรรทุกทั้ง 5 คันนี้ไปที่โรงงานเมล็ดแตงโมจินเคอและตามหาผู้จัดการโรงงานที่ชื่อเจียงเสี่ยวเฟิง หลังจากนั้นให้ทิ้งรถบรรทุกคันหนึ่งไว้กับเขา แล้วขับรถบรรทุกที่เหลืออีก 4 คันซึ่งบรรทุกเมล็ดแตงโม 5 รสไปชิงโจว เพื่อส่งสินค้าให้ที่ร้านโยวผิ่น ให้กับคนที่ชื่อหลี่ลี่”
หลี่ซิ่งเซี่ยจดจำรายละเอียด จากนั้นมุ่งหน้าไปยังโรงงานเมล็ดแตงโมจินเคอพร้อมจู้ตงเฟิงและคนอื่น
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋ส่งหลี่ซิ่งฮวากลับไปที่ทำการอำเภอ เขาก็ไปที่ตลาดสดเพื่อซื้อปลาและผัก ก่อนที่จะกลับไปที่บ้านพ่อตา
“แม่ครับ ช่วยโทรหาพี่ใหญ่ให้หน่อยครับ บอกพวกเขาให้มาทานอาหารเย็นกับเราที่นี่”
ทันทีที่เขาเข้าไปในบ้าน เจียงเสี่ยวไป๋ก็พูดขึ้น
หลิวอี้ถิงหยิบวัตถุดิบจากมือของเจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “แม่โทรหาพวกเขา พวกเขาเลิกงานไปรับเด็ก ๆ แล้วจะมาที่นี่”
“ครับ งั้นผมจะไปเตรียมปลา”
พูดจบ เขาก็เดินถือปลาเข้าไปในครัว
หลิวอี้ถิงก็ตำหนิเขา “เจ้าลูกคนนี้ ทำไมไม่พักก่อน ไม่ต้องรีบร้อนหรอก”
ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความรัก
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มแล้วพูดว่า “แม่ครับ ผมไม่เหนื่อยหรอก การได้ทำอาหารให้แม่ทาน ทำให้ผมมีความสุขมากกว่าสิ่งอื่นใด”
หลิวอี้ถิงรู้สึกอบอุ่นใจ เธอเริ่มพอใจในลูกเขยคนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
เจียงเสี่ยวไป๋ซื้อปลาไนตัวเล็กรวมหลายสิบตัว เขาฆ่าปลา แยกหัวและตัวปลา ทำความสะอาด และทำการหมัก
เขาซื้อมาจำนวนมาก วันนี้เขาไม่ได้ตั้งใจจะกินทั้งหมด เขาตั้งใจจะทำลูกชิ้นปลารสเผ็ดให้พ่อตากินกับเครื่องดื่ม ส่วนหัวปลา เขาจะนำมาทำหม้อไฟ
จากนั้น เขาก็ยุ่งอยู่ในครัวเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
“ป่าป๊าคะ หัวปลาหม้อไฟพร้อมหรือยังคะ ? ”
เจียงชานมายืนที่ประตูครัวแล้วถามอย่างกระตือรือร้น น้ำลายของเธอแทบจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ
“แมวน้อยจอมตะกละ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “จะเร็วขนาดนั้นได้อย่างไร ป่าป๊าเพิ่งเตรียมทุกอย่างเสร็จ”