ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 331 :โชคใหญ่
ตอนที่ 331 :โชคใหญ่
จู่ ๆ เจียงเสี่ยวไป๋ก็เกิดสนใจ และเดินเข้าไปดูอย่างรวดเร็ว
เข้าไปมองใกล้หน่อย เขาก็เห็นของที่วางอยู่บนเสื่อน้ำมัน ซึ่งมีประมาณ 30-40 ชิ้นเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ขนาดเล็ก แต่มีหลายประเภท มีทั้งสัมฤทธิ์ เครื่องลายคราม หยก และแผ่นไม้แกะสลัก
“สหาย นี่เป็นของเก่าที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของเรา ถ้าชอบ ก็เลือกดูได้ตามชอบเลย”
ในตรอกนี้ไม่มีใคร ชายชราที่เป็นเจ้าของแผงเห็นเจียงเสี่ยวไป๋จึงพูดอย่างกระตือรือร้น
เจียงเสี่ยวไป๋เม้มริมฝีปาก เขาไม่ได้สนใจคำพูดเจ้าของแผงเลยแม้แต่น้อย แต่นั่งยอง ๆ อยู่หน้าแผงและเริ่มพิจารณาดูสินค้าอย่างระเอียด
จากมุมมองของเขา ของตามแผงลอยริมถนนพวกนี้จะต้องเป็นของเก่าอยู่แล้ว
เพราะยุคนี้ เทคโนโลยีไม่ได้ทันสมัยมากพอที่จะปลอมแปลงของเก่าขึ้นมา
แต่ไม่ต้องตรวจสอบอะไรมากมาย แค่มองด้วยตาก็เห็นได้ชัดว่าของทั้งหมดนี้เป็นสิ่งของที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ และดูเหมือนไม่ใช่ของมีค่าอะไร
สีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ชายชราที่เป็นเจ้าของแผงขายมองดูเขา แล้วพูดว่า “สหาย ของที่ฉันเอามาขายล้วนแต่เป็นของเก่า ๆ แม้ว่าจะไม่ได้วางไว้ในพิพิธภัณฑ์ แต่ของเหล่านี้ก็ยังคงเป็นสมบัติเก่าแก่ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา ๆ ชายชราคนนี้กล้าพูดออกมาได้อย่างไรว่าแม้จะไม่ได้เอาไปวางไว้ในพิพิธภัณฑ์ แต่มันก็เป็นสมบัติเก่าแก่ !
เขาไม่อยากพูดอะไรอีกและกำลังจะลุกขึ้นเพื่อเดินออกไป แต่ทันใดนั้น เขาก็เหลือบไปเห็นชามเครื่องปั้นสีดำอันเล็ก ๆ วางข้างหม้อทองแดง ซึ่งมันดึงดูดเขามาก
ชามใบนี้มีขนาดเล็ก สีดำสนิท ถูกวางไว้ข้างหม้อทองแดงรมดำที่ไม่โดดเด่นมากนัก หากไม่สังเกตดี ๆ ก็อาจจะมองข้ามไปได้
เมื่อเห็นของสิ่งนี้ เขาก็ไม่รีบที่จะออกไปอีก และหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความใจเย็น ก่อนจะวางมันลงไปอีกครั้ง
ประมาณ 4-5 นาทีต่อมา เขาก็ย้ายไปหยิบหม้อทองแดงรมดำขึ้นมา และชมว่า “หากซื้อไปต้มน้ำก็คงจะดีไม่น้อย ! ”
เจ้าของแผงยิ้มและพูดว่า “ใช่ ๆ มันใช้ต้มน้ำได้ดีเลยทีเดียว ร้อนเร็วมาก ถ้าคุณชอบ จ่ายมาแค่ 1 หยวนก็เอาไปได้เลย”
เจียงเสี่ยวไป๋แสร้งทำเป็นว่ายังไม่สนใจเท่าไหร่ เขาส่ายหัวและพูดว่า “มันดำเกินไป ทำความสะอาดยาก”
พูดแล้ว เขาก็วางมันลงอีก
ผู้เฒ่าเจ้าของร้านดูผิดหวังและคิดกับตัวเองว่าหม้อทองแดงมันเก่าแล้ว จะไม่ให้มันดำได้อย่างไร ?
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋วางหม้อทองแดงลง เขาก็หยิบชามสีดำอันเล็ก ๆ ข้าง ๆ ขึ้นมา มันค่อนข้างหนักเล็กก่อนจะมองดูอย่างละเอียด ซึ่งทุกอย่างดูสมบูรณ์ดี รูปร่างได้สัดส่วน มีพุงที่ลึก ก้นกว้าง และผนังโค้งลาด ที่ขอบชามเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ น่าจะทาสีทองมาก่อน แต่เนื่องจากมันไม่ได้ทำความสะอาดจึงไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
ด้านในและด้านนอกของชามเคลือบด้วยสีดำ และดูเหมือนจะมีลายดอกไม้สีอ่อน ๆ แต่ก็ถูกฝุ่นบดบังไว้ทำให้เห็นไม่ชัด
ตัวตูดชามค่อนข้างตื้น ขอบถูกตัดแต่งไว้อย่างประณีต มีส่วนเว้าเล็กน้อยที่กึ่งกลาง
เขาดีใจมาก และเริ่มที่จะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“ชามเล็กนี้ขายอย่างไรหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ถามโดยจงใจชี้ไปที่ชามใบเล็ก
เจ้าของแผงเหลือบมองแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ชามใบเล็กนี้แทบไม่มีตำหนิเลย คิดราคา 2 หยวนพอ”
เจียงเสี่ยวไป๋วางชามลงทันทีและพูดอย่างไม่พอใจ “หม้อทองแดงใบใหญ่มาก แต่ลุงขายให้ผมแค่ราคา 1 หยวน แต่ชามนี้ใบเล็กนิดเดียว ลุงกลับขายให้ผมในราคาตั้ง 2 หยวน นี่ลุงกำลังโกงและคิดว่าผมโง่งั้นหรือ ? ”
ชายชราเจ้าของแผงพูดด้วยท่าทีร้อนรนว่า “สหาย ของเก่าเหล่านี้ไม่ได้ขายตามขนาด มันขึ้นอยู่กับสภาพของมัน เห็นไหมว่าหม้อทองแดงมันถูกใช้งานและมีตำหนิแล้ว แต่ชามเล็กนี้แทบไม่มีตำหนิอะไรเลย”
“แต่ก็ไม่น่าจะขายแพงถึง 2 หยวนสิลุง ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ยืนขึ้นและพูด พร้อมทั้งแสร้งทำเป็นจะเดินออกไป
ชายชราที่เป็นเจ้าของแผงลอยพูดด้วยรอยยิ้ม “สหาย คุณให้ได้เท่าไรล่ะ ? ลองต่อราคามาสิ”
เจียงเสี่ยวไป๋ทำท่าทีลังเล หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดว่า “5 เหมา ! ”
“5 เหมาต่ำเกินไป งั้นฉันคิดแค่ 1.5 หยวนพอ ! ” เจ้าของแผงกัดฟันพูดมันออกมา
ทั้งสองต่อรองราคากันสักพัก จนในที่สุดเจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้ควักเงิน 1 หยวนให้ แล้วเอาชามสีดำใบนั้นกลับไป
ทว่าหลังจากเดินออกจากตรอกนี้มา เขาก็ไม่สามารถปกปิดความสุขของตัวเองได้อีกต่อไป เมื่อดูว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ เขาก็จับมุมเสื้อผ้าขึ้นมาเช็ดฝุ่นบนชามออก โดยที่ไม่สนใจว่าเสื้อของเขามันจะเปื้อนหรือไม่ ทั้งที่เป็นเสื้อผ้าใหม่ที่เขาเพิ่งซื้อเมื่อวานนี้ในราคา 12 หยวน
ฝุ่นที่เกาะอยู่บนชามนั้นหนามาก หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋เช็ดมันอย่างต่อเนื่อง รูปลักษณ์ที่แท้จริงของมันก็ค่อย ๆ เผยออกมา ขอบชามด้านในเป็นสีทองจริง ๆ ตัวชามด้านในเคลือบดำ ตกแต่งด้วยลวดลายดอกเหมยและดอกกล้วยไม้สีเงิน สีเงินตัดกับสีดำขับให้ดอกเหมยและดอกกล้วยไม้ดูสวยงามโดดเด่น
“ตอนแรกนึกว่ามันเป็นแค่เครื่องเคลือบดินเผาจี้โจวธรรมดา คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นเครื่องเคลือบดินเผาลงลวดลายด้วยเงิน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋มีความสุขมากจนแทบจะตะโกนมันออกมา
นี่คือเครื่องเคลือบดินเผาจี้โจวแห่งราชวงศ์ซ่งใต้ !
ประเด็นสำคัญคือชามเคลือบดินเผาสีดำแต้มทองคำตรงปากชาม และมีลวดลายดอกไม้จากเครื่องเคลือบดินเผาจี้โจวในราชวงศ์ซ่งตอนใต้ยังคงหลงเหลืออยู่ ตามความทรงจำในชีวิตก่อนของเขา เขารู้ว่ามีเพียงอันเดียวเท่านั้นที่อยู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะวิลสันในสหรัฐ
ยิ่งไปกว่านั้น ชิ้นที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกายังไม่สมบูรณ์เท่านี้เลย
ช่างเป็นโชคใหญ่จริง ๆ !
เจียงเสี่ยวไป๋มีความสุขมาก ความหดหู่ที่ถูกน้องสาวของภรรยาไล่ตีในตอนเช้าได้หายไปจนหมดสิ้น เขาจึงเร่งฝีเท้าแล้วรีบตรงไปที่เกสท์เฮาส์หงซานทันที
ทันทีที่เขามาถึงเกสท์เฮาส์หงซาน เขาก็เห็นรถเก๋งสีดำจอดอยู่ที่ประตู เจียงเสี่ยวไป๋อุทานอยู่ในใจว่า ‘ซวยแล้ว’ ถังเสี่ยวโจวมาถึงแล้วงั้นหรือ
เมื่อเดินเข้าไปในล็อบบี้ เขาก็เห็นถังเสี่ยวโจวนั่งรออยู่ที่โซฟาตรงแผนกต้อนรับ เขากำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่
“เลขาถัง ผมต้องขอโทษด้วย ไม่คิดว่าคุณจะมาเร็วขนาดนี้ ! ”
หลังจากได้ยินเสียงของเจียงเสี่ยวไป๋ ถังเสี่ยวโจวก็วางหนังสือพิมพ์ลงแล้วเงยหน้าขึ้นเจียงเสี่ยวไป๋ที่มีเหงื่อท่วมตัว มุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาสกปรกไปด้วยฝุ่นสีดำ ในมือถือชามสีดำขนาดเล็กอยู่ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมาด้วยความประหลาดใจว่า “คุณไปไหนมา ทำไมสภาพถึงเป็นแบบนี้ล่ะครับ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มแหย “ผมไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ในตอนเช้า ตอนที่ผมออกมาก็ได้ของสิ่งนี้มาจากแผงขายข้างทาง เลยเสียเวลากับมันนิดหน่อย ทำให้คุณต้องมารอแล้ว”
ถังเซียวโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่คิดว่าคุณจะมีงานอดิเรกแบบนี้ด้วย ! ”
เมื่อมองดูชามใบเล็กสีดำในมือของเจียงเสี่ยวไป๋ ดวงตาของเขาก็ดูเคร่งขรึมยิ่งขึ้น ไม่นาน เขาก็พูดด้วยความตกใจว่า “นี่มันเครื่องเคลือบดินเผาสีดำขอบทองในสมัยซ่งใต้ ! คุณเจอของดีเข้าแล้ว ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋สะดุ้ง ถังเสี่ยวโจวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุเช่นกันหรือ !
“คุณรีบไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว ๆ แล้วเอาเครื่องเคลือบดินเผาของคุณมาให้ผมดูด้วย”
เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นให้ แต่ถังเสี่ยวโจวไม่รับ พร้อมทั้งพูดว่า “ทำตามกฎดีกว่า คุณวางมันลงบนโต๊ะ แล้วผมจะหยิบมันขึ้นมาเอง ส่งผ่านมือแบบนี้ หากว่าตกแตกขึ้นมา ผมรับผิดชอบมันไม่ไหวหรอก”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ ก่อนจะวางชามเคลือบดินเผาสีดำขอบทองไว้บนโต๊ะแล้วพูดว่า “ลองดูก่อน ผมขอตัวกลับไปอาบน้ำที่ห้องครู่หนึ่ง”
“ไปเถอะ ! ”
ถังเสี่ยวโจวถูกชามเคลือบดินเผาสีดำขอบทองใบเล็กนี้ดึงดูดขึ้นมาทันที เขาตอบโดยที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา
เจียงเสี่ยวไป๋กลับไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และก็ลงมาที่ชั้นล่าง
ถังเสี่ยวโจวเห็นเขาเดินมาก็พูดว่า “คุณโชคดีมาก ผมแน่ใจว่านี่เป็นของจริง มันเป็นถ้วยเคลือบสีดำจี้โจวแห่งราชวงศ์ซ่งใต้ นอกจากนี้ยังลงลักษณ์สีทองและสีเงินที่หาได้ยากด้วย”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม ที่ถังเสี่ยวโจวพูดมายังไม่ถูกทั้งหมด เพราะถ้วยดินเผาใบนี้ไม่ใช่เพียงแค่หายากธรรมดาเท่านั้น แต่ทั่วทั้งโลกมีอยู่แค่ 2 ใบเท่านั้น ใบหนึ่งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่อเมริกา ส่วนอีกใบคือชิ้นที่อยู่ในมือเขาตอนนี้
อย่างไรก็ตาม มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะบอกเรื่องนี้กับถังเสี่ยวโจว มิฉะนั้น ถ้าถังเสี่ยวโจวถามเขาว่าเขารู้ได้อย่างไร เขาจะไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจน
เขาแค่ยิ้มและพูดว่า “ผมไม่คิดว่าเลขาถังจะรู้เรื่องนี้ดี ในอนาคตเราคงมีโอกาสได้ร่วมงานกันในเรื่องนี้บ้าง”
ถังเสี่ยวโจวพูดอย่างมีความสุขว่า “เอาล่ะ คุณเก็บของล้ำค่านี้ไปก่อน เราไปกินข้าวก่อน แล้วผมจะพาคุณไปดูที่ดิน”