ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 335 :จำเป็นต้องตรวจสอบบัญชี
ตอนที่ 335 :จำเป็นต้องตรวจสอบบัญชี
เดิมทีเจียงเสี่ยวไป๋วางแผนที่จะสร้างนิคมอุตสาหกรรมเจี้ยนหยางอย่างช้า ๆ
แต่ในที่สุด คำพูดของหลานสาวก็ทำให้เขามุ่งมั่นที่จะสร้างนิคมอุตสาหกรรมโดยเร็วที่สุด
ปลูกต้นอู๋ถงล่อนกหงส์
อันดับแรก ควรปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่คนงานสามารถมาที่นี่เพื่อหางานทำได้โดยไม่ต้องกังวล นิคมอุตสาหกรรมจะสามารถเป็นรูปเป็นร่างได้อย่างรวดเร็วโดยใช้องค์กรมาตรฐานหลายแห่งเป็นตัวอย่าง
“ถือเป็นของขวัญพบหน้าให้กับท่านผู้นำคนนั้นที่คอยช่วยเหลือเราไว้”
“มันยังช่วยพ่อตาของฉันได้ด้วย ! ”
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
หมอกในใจของเขาถูกกวาดออกไป เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดกับเจียงถิงไปว่า “ถิงถิง ครั้งนี้ลุงได้ซื้อของเล่นมากมายมาให้หนูและชานชาน เมื่อเล่นของเล่นพวกนี้เป็นครบทุกชิ้นแล้ว พ่อแม่ของหนูก็คงจะสร้างบ้านเสร็จพอดี จากนั้นหนูก็จะได้อยู่กับพ่อแม่ทุกวัน”
“ดีเลยค่ะ ขอบคุณนะคะคุณลุง ! ” ในที่สุด หนูน้อยก็ยิ้มและพูดอย่างมีความสุข
“ป่าป๊า แล้วของเล่นอยู่ที่ไหน ของเล่นที่ป่าป๊าเอามาให้หนูและน้องถิงถิงอยู่ที่ไหน หนูอยากเล่นตอนนี้เลย ! ” เจียงชานพูดด้วยความตื่นเต้นหลังจากได้ยินพ่อของเธอพูด
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “พ่อเก็บของเล่นไว้ที่บ้านให้หนูแล้ว กลับไปถึงบ้านค่อยเล่น”
เจียงชานจึงรีบพูดทันที “งั้นป่าป๊าคะ เรารีบกลับบ้านเร็ว ๆ เถอะ หนูอยากเห็นของเล่นที่ป่าป๊าซื้อให้หนูแล้ว หนูแทบรอไม่ไหวแล้ว ! ”
ในตอนนี้ หนูน้อยก็เริ่มที่จะคะยั้นคะยอให้เขาพาเธอกลับบ้านโดยเร็ว ซึ่งทำให้หลิวอี้ถิงทั้งมีความสุขและผิดหวังในเวลาเดียวกัน เธอตบก้นหลานสาวเบา ๆ “เจ้าเด็กน้อยใจร้าย ไม่อยากอยู่ที่บ้านยายต่อแล้วหรือ ! ”
เจียงชานหัวเราะคิกคักออกมาและพูดว่า “อย่าตีหนูสิคะคุณยาย หนูแค่จะกลับไปเอาของเล่นมาเล่นที่บ้านของคุณยาย ! ”
แค่ประโยคเดียว กลับทำให้หลิวอี้ถิงมีความสุขขึ้นมาอีกครั้ง
หลังจากแกล้งแซวเจียงชานไปสองสามคำ หลิวอี้ถิงก็พูดว่า “ไปเล่นกับพ่อของหนูเถอะ ยายจะไปทำอาหารให้พ่อของหนูก่อน”
เมื่อหลิวอี้ถิงเข้าไปในครัว ที่ห้องนั่งเล่นก็เหลือแค่พวกเขาสี่คนเท่านั้น ทว่าเจียงเสี่ยวไป๋อยากเล่นจ้ำจี้กับภรรยาของเขาสักพักหนึ่ง
“ชานชานพาถิงถิงไปเล่นข้างนอกสิ” เจียงเสี่ยวไป๋พยายามชักจูงลูกสาวของเขา
“ข้างนอกไม่มีอะไรน่าสนใจเลยค่ะ มันร้อนมาก ! ” เจียงชานส่ายหัวเป็นการปฏิเสธ
ทันใดนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็รู้สึกละอายขึ้นมาทันที ที่จริงแล้วเขามีความคิดที่ไม่ดีเลย เขาปล่อยให้ลูกสาวออกไปตากแดดในวันที่อากาศร้อนขนาดนี้ได้อย่างไร ?
หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกหดหู่เล็กน้อย เพราะเขาไม่อยากให้ลูกสาวและหลานสาวออกไปเล่นกลางแดด เขาจำได้ว่าเขาได้ซื้อของขวัญมากมายให้กับพ่อตาและแม่ยายของเขา ดังนั้นเขาจึงออกไปที่รถและถือถุงของฝากกลับมาก
“คุณซื้ออะไรมาบ้าง ? ”
หลินเจียอินถามด้วยความสงสัย เมื่อเธอเห็นเขาถือของกลับมามากมาย
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไปเจียงเฉิงทั้งที ผมเลยซื้อของฝากมาให้พ่อกับแม่ ทั้งเสื้อผ้าและรองเท้าด้วย”
ได้ยินแบบนั้น หลินเจียอินก็พยักหน้ารับ “อ้อ” เจียงเสี่ยวไป๋ซื้อของทั้งหมดนี้มาให้พ่อแม่ของเธอ เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ ดังนั้นเธอจึงถามออกไปว่า “ทั้งหมดนี้ใช้เงินเยอะมากใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบด้วยท่าทีรู้สึกผิด “นิดหน่อย ไม่มากหรอก”
หลินเจียอินไปดูของที่เจียงเสี่ยวไป๋ซื้อและพบว่าเสื้อผ้าและกางเกงพวกนี้ที่ซื้อมาดูดีกว่าที่ขายในห้างสรรพสินค้าของเมืองชิงโจวมาก เธอหยิบเสื้อเชิ้ตขึ้นมาและเห็นป้ายเล็ก ๆ ที่ทำจากกระดาษอยู่บนนั้น
เสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้าในเมืองชิงโจวไม่ได้มีป้ายเล็ก ๆ แบบนี้
เธอหยิบมันขึ้นมาด้วยความสงสัย ก่อนจะเห็นว่ามันเขียนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน
เธออ่านภาษาอังกฤษไม่ออก แต่อ่านภาษาจีนออก มันเขียนว่า ปิแอร์ การ์แดง ราคาขายปลีก 118.00 หยวน !
“เสื้อเชิ้ตราคา 118 หยวน ! ”
หลินเจียอินอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา สายตาของเธอมองไปที่เสื้อผ้าตัวอื่น ๆ ต่อไป เกือบทุกตัวมีราคามากกว่าร้อยหยวน บางตัวราคามากถึงสองสามร้อยหยวน
“ทั้งหมดนี้ซื้อให้พ่อแม่ของฉันหรือ ? ”
หลินเจียอินหันกลับมาถามเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ใช่ ! ”
หลินเจียอินรู้สึกตื่นเต้นและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าคุณก็ซื้อให้ปู่กับย่าของชานชานด้วยใช่ไหม ? ”
“ผมเอาให้พวกเขาแล้ว ! ”
“แล้วของของฉันกับชานชานล่ะ อยู่ที่ไหน ? เราก็ควรได้เหมือนกันใช่ไหม ? ”
“ผมซื้อมาให้ทุกคนอยู่แล้ว ! ”
ซี๊ด……
หลินเจียอินสูดหายใจเข้า เขาซื้อของพวกนี้ให้พ่อแม่ของเธอ แถมยังซื้อให้พ่อแม่ตัวเองและยังซื้อให้เธอและลูกสาวอีก ผู้ชายคนนี้ใช้เงินไปเท่าไหร่กัน ?
ไม่ เธอรู้ว่าเธอไม่อาจจะคาดคั้นเอาความจริงออกจากปากของผู้ชายคนนี้ได้แม้แต่คำเดียว
เธอทำได้เพียงอย่างเดียวคือ ต้องตรวจสอบบัญชี !
“สมุดบัญชีธนาคารอยู่ไหน ? เอามันมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ! ” หลินเจียอินกล่าวด้วยท่าทีรีบร้อน
“สมุดบัญชีเงินฝาก ? ” เจียงเสี่ยวไป๋กลัวจนหัวหด “มันอยู่ในรถ รอสักครู่นะ เดี๋ยวผมจะเอามันมาให้คุณ”
เขาพูดแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
เป็นเพราะว่าเขาอยากเจอภรรยาและลูกสาวมาก จนเขาลืมเรื่องสำคัญอย่างการเอาสมุดบัญชีธนาคารคืนภรรยาไปเลย
เมื่อมาถึงรถ เขาก็หยิบกระเป๋าเอกสารแล้วเดินเข้าไปในบ้านอีกครั้ง
“อา กระเป๋าในมือของเขาสวยมาก ! ”
ดวงตาของหลินเจียเป็นประกาย เธอแอบชื่นชมเขาอยู่ในใจ
“ป่าป๊าคะ กระเป๋าของป่าป๊าสวยมาก ซื้อใหม่หรือ สวยกว่ากระเป๋าของหม่าม๊าอีก ! ”
เจ้าตัวน้อยเองก็ถูกดึงดูดด้วยกระเป๋าในมือของเจียงเสี่ยวไป๋ เธอเบิกตากว้างและพูดด้วยน้ำเสียงที่หวาน
“พ่อซื้อกระเป๋าสวย ๆ มาให้แม่ด้วย มันอยู่ที่บ้าน ! ” เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้ม
เสียดายนิดหน่อย เขาน่าจะเอากระเป๋าที่ซื้อให้ภรรยาขึ้นรถมาด้วย จะได้เอามาเซอร์ไพรส์เธอ
หลินเจียอินได้ยินว่าเขาซื้อกระเป๋าให้เธอด้วย และคิดว่าขนาดกระเป๋าผู้ชายยังสวยขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นกระเป๋าของผู้หญิงจะสวยขนาดไหนกัน คิดแบบนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะตั้งตารอ
ผู้หญิงมักจะชอบของสวย ๆ อยู่เสมอ
ในอดีต เธอจะถือแต่ถุงผ้าใบที่เธอเย็บ แต่เนื่องจากครั้งล่าสุดที่เธอได้มีโอกาสไปซื้อกระเป๋าเจ็ดใบในห้างสรรพสินค้า และเปลี่ยนกระเป๋าให้เข้ากับเสื้อผ้าที่ใส่ในแต่ละวัน ทำให้เธอชอบกระเป๋ามาตั้งแต่ตอนนั้น เธอจึงหลงรักกระเป๋าโดยสิ้นเชิง
“หนูก็อยากได้กระเป๋าสวย ๆ เหมือนกัน ! ”
หนูน้อยพูดด้วยสายตาอิจฉา
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “เมื่อชานชานเข้าโรงเรียน พ่อจะซื้อกระเป๋านักเรียนที่สวยที่สุดให้นะ ! ”
“งั้นหนูไม่อยากได้แล้ว ! ”
“เพราะหนูไม่อยากไปโรงเรียน ! ”
หนูน้อยล้มเลิกความคิดที่อยากจะได้กระเป๋าทันที
มันไม่คุ้มค่าที่จะส่งตัวเองไปโรงเรียนเพียงเพราะกระเป๋า 1 ใบ !
เจียงเสี่ยวไป๋เปิดซิปแล้วหยิบกระเป๋าเงินออกมา
ดวงตาของหลินเจียอินไปสะดุดกับกระเป๋าเงินอีกครั้ง กระเป๋าเงินใบนี้สวยมาก !
ขณะเดียวกัน เธอก็แอบบ่นในใจว่าผู้ชายคนนี้รสนิยมดีจริง ๆ ไม่เพียงแต่ซื้อกระเป๋าถือที่ดูดีเท่านั้น แต่เขายังซื้อกระเป๋าเงินอีกด้วย !
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบสมุดบัญชีเงินฝากออกมาจากกระเป๋าเงินของเขาแล้วส่งให้หลินเจียอิน “นี่คือสมุดบัญชีเงินฝาก และเงินที่เบิกออกมานิดหน่อยยังไม่ได้ใช้ ก็อยู่ในกระเป๋า”
หลินเจียอินเหลือบมองกระเป๋าของเจียงเสี่ยวไป๋ ก่อนจะเห็นธนบัตรปึกใหญ่สองปึก
เธออดไม่ได้ที่จะสาปแช่งในใจ: เงินมากกว่า 20,000 หยวน คุณยังพูดว่านิดหน่อยอีกหรือ ?
เมื่อเธอเปิดสมุดบัญชีเงินฝากดู ก็เห็นว่ายอดคงเหลือคือ: 3,830,800.00 หยวน !
ก่อนไป มีเงินในบัญชีธนาคารตั้ง 8 ล้าน แต่พอกลับมาเหลือเพียง 3 ล้านกว่าเท่านั้นหรือ !
หลินเจียอินรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาทันที ผู้ชายคนนี้เก่งทุกอย่าง โดยเฉพาะเก่งเรื่องการใช้เงิน
“นอกจากเอาเงินไปซื้อรถ 2.8 ล้านแล้ว คุณยังใช้เงินไปมากกว่า 1 ล้านเลยหรือ ? ”
หลินเจียอินถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา