ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 346 :พบกันโดยบังเอิญ
ตอนที่ 346 :พบกันโดยบังเอิญ
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ตื่นไปวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า ได้มีฝนตกปรอย ๆ
แต่ฝนตกไม่หนัก จึงไม่ส่งผลต่อการวิ่งในตอนเช้าของเขา
เขาไม่ได้วิ่งมาเป็นเวลานานแล้ว และเช้าวันนี้หลินต้ากั๋วก็ออกมาวิ่งออกกำลังกายตอนเช้ากับเขาด้วย
“ลุงรอง วันนี้ฝนตก ลุงไม่ต้องวิ่งหรอกครับ โดนฝนอาจจะเป็นหวัดได้”
หลินต้ากั๋วมีนิสัยชอบวิ่งในตอนเช้าเป็นปกติอยู่แล้ว ทั้งสองคนวิ่งด้วยกันเมื่อเช้าวานนี้แล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นวันนี้เจียงเสี่ยวไป๋จึงห้ามเขา
หลินต้ากั๋วหัวเราะ “ฉันเคยวิ่งฝ่าลมพายุมาหลายครั้งแล้ว ฝนปรอย ๆ แบบนี้จะทำอะไรฉันได้ ? ” คำพูดของเขารู้สึกได้ถึงความกล้าหาญ และดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นตามอายุ
“ครับ งั้นผมจะวิ่งไปกับลุง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่คิดที่จะเกลี้ยกล่อมเขาอีกต่อไป และวิ่งไปกับหลินต้ากั๋ว
ถ้าเขาวิ่งคนเดียว เขาจะวิ่งเร็วกว่านี้
หลินต้ากั๋วกล่าวขณะวิ่ง “ทุกวันนี้มีคนหนุ่มสาวไม่มากนักที่มีนิสัยชอบวิ่งในตอนเช้า ฉันแปลกใจมาก ทำไมเธอถึงคิดจะออกกำลังกายตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนี้ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมแค่รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้วิ่งในตอนเช้า”
หลินต้ากั๋วถามว่า “เธอวิ่งทุกวันหรือเปล่า ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “วิ่งทุกวัน ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออกครับ”
หลินต้ากั๋วพยักหน้า “ดี ไม่ว่าจะทำงานอาชีพอะไรก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการออกกำลังกาย ตราบใดที่เธอยืนหยัด อนาคตของเธอก็จะไม่มีขีดจำกัด”
“ฉันชื่นชมเธอนะ ! ”
ในคำพูดของเขา เขาได้เปิดเผยว่าแอบชื่นชมเจียงเสี่ยวไป๋ในใจออกมาตามตรง
ถ้าถังเสี่ยวโจวได้ยินคำนี้ เขาคงจะอ้าปากค้างอย่างแน่นอน เขาติดตามหลินต้ากั๋วมาสามปีแล้ว และไม่เคยได้ยินท่านผู้นำของเขาพูดตรง ๆ ว่าชื่นชมใครแบบนี้มาก่อน !
คำพูดนี้ยังมีนัยยะสำคัญแอบแฝงอยู่ว่า: จงเชื่อมั่นและทำแบบนี้ต่อไป ฉันคอยดูอยู่ !
เจียงเสี่ยวไป๋สามารถรับรู้ได้ถึงความหมายในคำพูดของหลินต้ากั๋ว เขายิ้มแล้วพูดว่า “ลุงรอง ที่จริงแล้วผมใส่ใจสุขภาพของคนในครอบครัวมากกว่าอนาคตส่วนตัวของผมเสียอีก ผมสนใจแค่ว่าพวกเขาจะมีความสุข ปลอดภัยและมีสุขภาพที่แข็งแรงในทุก ๆ วันไหม ! ”
หลินต้ากั๋วตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเจียงเสี่ยวไป๋ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนอายุเท่านี้จะคิดได้
“ในเมื่อเธอไม่คิดจะสนใจอนาคตส่วนตัวของเธอเอง แล้วทำไมเธอถึงได้ทำหลายธุรกิจแบบนี้ ? ” หลินต้ากั๋วถามขึ้นมา
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมไม่สนใจอนาคตของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่มีอนาคตนี่ครับ”
อ่า !
หลินต้ากั๋วตกใจและอดไม่ได้ที่จะชะงักไปครู่หนึ่ง เขาหยุดและมองเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความประหลาดใจ
เขาได้ยินความมั่นใจในประโยคง่าย ๆ เช่นนี้
ไม่ !
มันไม่ใช่ความมั่นใจ แต่ฟังดูเหมือนจะเย่อหยิ่งมากกว่า !
แต่มันให้ความรู้สึกที่มั่นคงและน่าเกรงขาม !
“ลุงรอง ลุงเป็นไรหรือเปล่า ? ”
เมื่อเห็นหลินต้ากั๋วหยุด เจียงเสี่ยวไป๋ก็ก้าวถอยหลังและคิดว่าลุงรองของเขาอาจจะเหนื่อย เขาจึงถามออกมาด้วยความกังวล
“ฉันไม่เป็นไร ! ”
หลินต้ากั๋วโบกมือแล้วเริ่มวิ่งอีกครั้ง
เจียงเสี่ยวไป๋ก็วิ่งตามทันที
จากนั้น ทั้งสองก็ไม่พูดอะไรและวิ่งไปอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมา
หลังจากวิ่งไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ออกมาจากห้องน้ำ หลิวอี้ถิงก็ทำอาหารเช้าเสร็จพอดี
ตั้งแต่พี่รองกลับบ้าน เจียงเสี่ยวไป๋ทำอาหารทุกมื้อ เธอจึงไม่อยากให้ลูกเขยของเธอต้องเหนื่อย อีกอย่างถ้ากินข้าวเช้าเสร็จ พี่รองก็จะออกเดินทางแล้ว เธอที่เป็นน้องสะใภ้จึงอยากทำอาหารให้พี่ชายสามีทานบ้าง
หลังอาหารเช้า หลินต้ากั๋วก็ไม่รีบร้อนที่จะออกเดินทาง แต่เขากับหลินต้าเหว่ยกลับไปที่หลุมศพของบรรพบุรุษตระกูลหลิน เพื่อไปเคารพบรรพบุรุษของพวกเขา
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ตามไปด้วย เขารออยู่ที่บ้าน
ประมาณสิบโมง หลินต้ากั๋วก็กลับมาจากสุสาน ถังเสี่ยวโจวนำรถสองคันมาจอดรออยู่ที่หน้าบ้าน พร้อมทั้งเก็บสัมภาระและกระเป๋าเดินทางของหลินต้ากั๋ว
คราวนี้ไปชิงโจว หลินต้าเหว่ยและหลิวอี้ถิงก็ได้ติดตามไปด้วย และแม้แต่ครอบครัวของหลินเจียเหว่ยและหลิยเจียเล่อก็ขอตามไปด้วยเช่นกัน
พวกเขายังอยากใช้เวลากับหลินต้ากั๋วอีกหนึ่งวัน
แม้ว่าจะมีคนจำนวนมาก แต่รถสามคันก็สามารถบรรทุกคนไปได้สบาย ๆ
หลินต้ากั๋วไม่ได้นั่งในรถของตัวเอง แต่เข้าไปในรถของเจียงเสี่ยวไป๋
หลินต้าเหว่ยและหลิวอี้ถิงก็ตามมาด้วย แต่ถึงอย่างนั้นหลินเจียอินและเจียงชานก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร
เจียงเสี่ยวไป๋ขับนำออกมา ตามด้วยรถสองคัน พวกเขาค่อย ๆ ขับตรงไปยังเมืองชิงโจว กว่าจะมาถึงเมืองชิงโจวก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว
“ลุงรอง ตอนนี้ผมทำอาหารไม่ทันแล้ว เราไปกินข้าวที่ร้านของผมเถอะครับ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวขึ้นมา
“เอาล่ะ ฉันเองก็อยากจะลิ้มรสความแตกต่างระหว่างรสชาติของที่ร้านกับที่เธอทำเองดูบ้าง” หลินต้ากั๋วพูดอย่างมีความสุข
เจียงเสี่ยวไป๋ขับรถไปที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียงสาขาหลักบนถนนชิงโจว
“นี่เป็นร้านกุ้งอบน้ำมันร้านแรกของผมครับ”
หลังจากลงจากรถแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้แนะนำร้าน
หลินต้ากั๋วหัวเราะเบา ๆ “ร้านแรกก็ดี ถือว่าเป็นต้นตำรับ ! ”
ในขณะที่พูดเล่นกันอยู่นั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็พาทุกคนเข้าไปในร้าน
“ยินดีต้อนรับค่ะคุณลูกค้า ! ”
พนักงานต้อนรับที่หน้าประตูเห็นคนกลุ่มใหญ่เดินเข้ามาในร้านก็ได้โค้งคำนับและกล่าวทักทาย
“สวัสดีค่ะ ผู้จัดการหลิน ! ”
หลังจากการทักทายลูกค้า พนักงานต้อนรับก็เห็นหลินเจียอินอยู่ในฝูงชน เธอเองก็ไม่ได้เจอหลินเจียอินมานานกว่า 20 วันแล้ว เมื่อเห็นหลินเจียอิน เธอจึงทักทายทันทีและกล่าวสวัสดีเหมือนที่ผ่านมา
หลินเจียอินพยักหน้าและพูดว่า “ฉันพาญาติมาทานอาหาร ช่วยเตรียมห้องส่วนตัวให้สักสองสามห้องนะ”
“ได้ค่ะ ผู้จัดการหลิน”
พนักงานต้อนรับรับปาก และเดินนำทางพวกเขาออกไป
“สวัสดีผู้จัดการหลิน ! ”
“สวัสดีผู้จัดการหลิน ! ”
“……”
ระหว่างทาง พนักงานที่เห็นหลินเจียอินในกลุ่มลูกค้าก็ได้กล่าวสวัสดี
หลินต้ากั๋ว หลินต้าเหว่ย และถังเสี่ยวโจวต่างแอบคิดในใจว่าพนักงานของที่นี่นั้นบริการดีและมีมารยาทมากกว่าร้านอาหารหลายร้านในเจียงเฉิง แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกเมื่อได้ยินพนักงานทักทายแต่หลินเจียอิน แต่ไม่ทักทายเจียงเสี่ยวไป๋
“พี่เจียง ร้านของคุณพนักงานรู้จักแค่ผู้จัดการหลินเท่านั้น แต่ไม่มีใครรู้จักพี่ ! ” ถังเสี่ยวโจวพูดติดตลก
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ภรรยาของฉันเป็นเจ้าของร้าน พนักงานจึงต้องทักทายเธอเป็นธรรมดา”
ถังเสี่ยวโจวจำได้ทันทีว่าตอนที่เจียงเสี่ยวไป๋จดทะเบียนบริษัทโลจิสติกส์ในเจียงเฉิง เขาก็จดทะเบียนในชื่อของหลินเจียอิน เมื่อมองดูสถานการณ์นี้ ร้านกุ้งอบน้ำมันแห่งนี้ก็คงจะเหมือนกัน เขายิ้มแล้วพูดว่า “คุณนี่ยอมภรรยาจริง ๆ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดตามความเป็นจริง “ฉันจะไม่ให้เกียรติภรรยาของฉันได้อย่างไร ใช่ไหม ? ”
ถังเสี่ยวโจวอดไม่ได้ที่จะแอบชื่นชมในใจและไม่พูดอะไรอีก
หลินต้าเหว่ยและหลิวอี้ถิงถอนหายใจเมื่อได้ยินพนักงานทักทายลูกสาวของพวกเขา และได้ยินการสนทนาระหว่างเจียงเสี่ยวไป๋และถังเสี่ยวโจว
ลูกเขยดีกับลูกสาวของพวกเขาจริง ๆ นั่นแหละ !
ถึงจะไม่พูดอะไรมาก แต่ก็สะท้อนให้เห็นในทุกรายละเอียด
ทั้งสองต่างมีความสุขอย่างมาก
พวกเขาเดินไปที่ห้องส่วนตัวชั้นในสุด
แต่ในขณะนี้ ก็มีคนสองคนเดินมาหาพวกเขา หนึ่งในนั้นคือรองนายกเทศมนตรีจางและอีกคนคือติงจวิ้นเจี๋ย
ทั้งสองเพิ่งกินข้าวเสร็จและกำลังจะออกจากร้านไป
รองนายกเทศมนตรีจางเห็นหลินต้าเหว่ยเป็นคนแรก จากนั้นก็เห็นเจียงเสี่ยวไป๋และหลินเจียอิน
“นายอำเภอหลิน คุณไม่ได้บอกผมด้วยซ้ำว่าคุณจะมาที่นี่”
รองนายกเทศมนตรีจางเข้ามาทักทายพวกเขา
หลินต้าเหว่ยไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับรองนายกเทศมนตรีจางที่นี่เช่นกัน เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า แม้ว่ารองนายกเทศมนตรีจางอาจจะไม่เคยได้ติดต่อกับหลินต้ากั๋ว แต่เขาก็ต้องได้เห็นรูปของหลินต้ากั๋วมาก่อนแน่นอน
แต่เหตุผลที่เขายังจำหลินต้ากั๋วไม่ได้ ก็เพราะว่ามีคนดึงดูดความสนใจของรองนายกเทศมนตรีจางเอาไว้ และเขาก็คงไม่ได้คาดคิดว่าหลินต้ากั๋วจะมาที่นี่
“สวัสดีรองนายกเทศมนตรีจาง ผมเพิ่งมาถึงเหมือนกัน ! ”
หลินต้าเหว่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าไปจับมือทักทายกับรองนายกเทศมนตรีจาง