ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 361 :เกิดพฤติกรรมเลียนแบบอย่างคาดไม่ถึง
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 361 :เกิดพฤติกรรมเลียนแบบอย่างคาดไม่ถึง
ตอนที่ 361 :เกิดพฤติกรรมเลียนแบบอย่างคาดไม่ถึง
สำนักงานคลังเมืองชิงโจว
หลังจากที่ เจียงเสี่ยวไป๋กลับไป เฉียนฟางอี้ผู้อำนวยการสำนักงานคลังได้มาหาหัวหน้าหลี่จงจวินที่ห้องทำงาน
“หัวหน้าหลี่ พรุ่งนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ เราควรแจกขนมไหว้พระจันทร์ให้กับพนักงานของเราไหม ? ”
หลี่หงจวินกล่าวว่า “ผู้อำนวยการเฉียน ผมกำลังจะรายงานเรื่องนี้ให้คุณทราบพอดี ตอนนี้หน่วยงานมีเงินทุนมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว เราสามารถให้สวัสดิการตามเทศกาลแก่พนักงานได้”
เฉียนฟางอี้พยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ ขนาดภาคเอกชนอย่างเจียงเสี่ยวไป๋ยังรู้ดีว่าควรให้สวัสดิการพนักงานและมอบของขวัญให้คนสนิทในช่วงวันไหว้พระจันทร์ หน่วยงานของเราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ลองเปรียบเทียบกับหน่วยงานเอกชนของเขาดู ! ”
หลี่หงจวินพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง “ผู้อำนวยการเฉียน คุณพูดถูก ! งั้นเราควรมอบของขวัญให้กับพนักงานของเราคนละชุดด้วยดีไหม ? ”
เฉียนฟางอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “นอกจากให้เป็นของขวัญพนักงานแล้ว เรายังต้องนำไปมอบให้หัวหน้าประจำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเราด้วย ตามเกณฑ์ที่เจียงเสี่ยวไป๋มอบให้พนักงาน คุณทำรายการแล้วไปที่ร้านโยวผิ่นเพื่อซื้อของมาทำของขวัญมอบให้ตามลิสต์รายชื่อของเรา แล้วนำไปส่งก่อนเลิกงาน”
“ครับ ผมจะรีบไปจัดการทันที ! ”
หลี่หงจวินพยักหน้าเห็นด้วยและรีบไปจัดการอย่างรวดเร็ว
……
สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมชิงโจว
หวังเต๋อคุนเดินมาเคาะประตูห้องทำงานเฉินเหมย
“ผู้อำนวยการหวัง มีอะไรหรือเปล่าคะ ? ”
หวังเต๋อคุนเหลือบมองถุงพลาสติกสะดวกซื้อบนโต๊ะของเฉินเหมย เขาชี้ไปที่มันแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือของขวัญจากเจียงเสี่ยวไป๋หรือเปล่า ? ”
เฉินเหมยกล่าวว่า “ก็แค่เทศกาลไหว้พระจันทร์เอง ใครจะรู้ว่าเขานำของขวัญมาให้ด้วย ฉันกำลังคิดว่าจะให้อะไรตอบแทนเขาดี ! ”
หวังเต๋อคุนกล่าวว่า “ใช่ นั่นคือเหตุผลที่ผมมาหาคุณ เขาเอาของขวัญมาให้แล้ว คงไม่เหมาะที่จะไม่หาอะไรไปเป็นของขวัญให้เขาบ้าง ! แต่หากให้เขา แล้วคนอื่นล่ะ ? ผมคิดว่าผมจะเลียนแบบเขา เดี๋ยวรบกวนคุณไปซื้อของมาสักล็อต แล้วนำไปจัดชุดมอบให้กับผู้รับผิดชอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรา”
เฉินเหมยกล่าวว่า “เรามอบให้คนจากหน่วยงานภายนอกแล้ว แล้วทำไมเราไม่ให้พนักงานในสำนักงานของเราด้วยล่ะคะ ? ”
หวังเต๋อคุนกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นก็แจกให้พนักงานทุกคนคนละชุดแล้วกัน ! ”
“เอาล่ะ ผู้อำนวยการหวัง ฉันจะนับจำนวนคนแล้วไปซื้อตามจำนวนค่ะ ! ”
“งั้นก็ไปซื้อที่ร้านโยวผิ่นเถอะ ! ”
“ได้ค่ะ ! ”
……
ที่โรงงานเครื่องจักรกลการเกษตชิงโจว
ผู้จัดการโรงงานโจวฉางซงคุยกับหวังเหล่ยว่า “พรุ่งนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ คุณไปที่ร้านโยวผิ่นของเจียงเสี่ยวไป๋ เพื่อซื้อของบางอย่าง เราจะส่งของเหล่านั้นไปที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมการคลัง สถานีแทรคเตอร์และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย”
“ครับ ผู้จัดการโจว ! ”
“จริงสิ ปีนี้กำไรของโรงงานค่อนข้างดี ดังนั้นไปซื้อมาจัดชุดแจกเป็นของขวัญให้พนักงานด้วยเถอะ ! ”
“ครับ ผมจะไปจัดการทันที ! ”
……
ที่สำนักข่าวรายวันชิงโจว……
ธนาคารการเกษตรแห่งประเทศจีน สาขาชิงโจว……
ธนาคารเพื่อการก่อสร้างแห่งประเทศจีน สาขาชิงโจว……
บริษัทชิงโจว โรด แอนด์ บริดจ์ คอมพานี……
สำนักงานไฟฟ้าชิงโจว……
……
ทุกหน่วยงานต่างเริ่มไปหาซื้อของมาแพคเป็นของขวัญวันไหว้พระจันทร์มอบให้พนักงานในโรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแบบเจียงเสี่ยวไป๋
เมื่อเขามาถึงร้านโยวผิ่น หลี่ลี่พูดอย่างตื่นเต้นว่า “พี่ ฉันไม่รู้ว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น แต่มีคนมากมายมาซื้อเมล็ดแตงโม 5 รส ถั่วลิสงคั่ว 5 รส และขนมเค้กที่รักไปในปริมาณมาก พวกเขายังอยากซื้อขนมไหว้พระจันทร์ด้วย แต่เราไม่ขายในร้านของเรา”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันรู้ ! ”
เขาไม่คาดคิดมาก่อนเหมือนกันว่าของขวัญเทศกาลและสวัสดิการของพนักงานจะสร้างกระแสเลียนแบบขึ้นมาได้ขนาดนี้
หลี่ลี่ยังคงตื่นเต้นและพูดว่า “พี่ เค้กฟักทองขายหมดแล้ว พี่คิดว่าล็อตใหม่จะมาถึงเมื่อไหร่ ? ”
“หลายคนชอบเค้กที่รัก ! ”
สิ่งนี้ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ประหลาดใจมาก เขาถามว่า “นอกจากลูกค้าที่ซื้อในปริมาณมากแล้ว ยังมีลูกค้ารายย่อยที่ซื้อเค้กที่รักด้วยไหม ? ”
“มีค่ะ ! ” หลี่ลี่พยักหน้า “หลังจากที่ผู้จัดการถานนำถั่วลิสงคั่ว 5 รสและเค้กที่รักมา ฉันก็จัดพื้นที่ไว้โชว์สินค้าสองอย่างนี้สองสามแห่ง และลูกค้าก็ซื้อทันทีที่เห็นพวกมัน”
“เธอทำได้ดีมาก ฉันจะแจ้งโรงงานเมล็ดแตงโมจินเคอให้ส่งถั่วลิสงคั่ว 5 รสและเค้กที่รักมาในวันพรุ่งนี้”
หลังจากได้รับคำชม ดวงตาคู่สวยของหลี่ลี่ก็เปล่งประกาย เธอพูดว่า “พี่ คุณเหวินว่าอย่างไรบ้าง ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “คุณเหวินได้ลงนามในสัญญาและเป็นแฟรนไชส์รายแรกของร้านโยวผิ่นของเรา นี่คือผลงานของเธอ เธอจะได้รับโบนัส 100 หยวนในเดือนนี้ ! ”
“ขอบคุณค่ะพี่ ! ” หลี่ลี่พูดอย่างตื่นเต้นและดีใจมาก
อีกสามคนคือหลี่เจีย หวังฉิน และหวังเจี้ยนได้ยินว่าหลี่ลี่ได้โบนัส 100 หยวน และพวกเขาทั้งหมดมองดูเธอด้วยความอิจฉา
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองทั้งสามคนแล้วพูดว่า “ใครก็ตามที่สามารถคุยกับลูกค้าจนลูกค้าเซ็นสัญญาซื้อแฟรนไชส์ ก็จะได้รับโบนัสเพิ่มไปอีกแห่งละ 100 หยวนด้วยเช่นกัน”
“พี่ เรื่องจริงหรือ ? ตราบใดที่เราเจรจากับผู้รับสิทธิ์รายต่อไป เราจะจะได้รับโบนัส 100 หยวน” หวังฉินถามด้วยท่าทางตื่นเต้น
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองเธอ พยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ ทำไมล่ะ เธอมีลูกค้าที่สนใจหรือ ? ”
หวังฉินกล่าวว่า “พี่ชายของฉันอยากเริ่มต้นทำธุรกิจ ฉันจะลองแนะนำให้เขาเปิดร้านแฟรนไชส์ ได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “พี่ชายคนไหน ? ”
ในบรรดาพนักงานสี่คนของร้านโยวผิ่น หลี่ลี่และหลี่เจียเป็นฝาแฝดกัน พวกเธอเป็นลูกสาวของหวังซิ่วอี๋ป้าของเจียงเสี่ยวไป๋ หวังฉินเป็นลูกสาวของหวังซิ่วเจี้ยน ลุงสามที่เป็นญาติฝ่ายแม่ของเจียงเสี่ยวไป๋ ส่วนหวังเจี้ยนเป็นลูกชายของหวังซิ่วซาน ลุงอีกคนที่เป็นญาติฝ่ายแม่ของเจียงเสี่ยวไป๋
หวังฉินบอกว่าพี่ชายคนนั้นก็คือญาติพี่น้องของเจียงเสี่ยวไป๋
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาถาม
หวังฉินตอบกลับไปว่า “พี่หวังรุ่ย ลูกชายลุงใหญ่ของฉัน ! ”
หวังรุ่ยเป็นลูกชายคนเล็กของหวังซิ่วเหวิน ลุงใหญ่ของเจียงเสี่ยวไป๋ แต่เขาอายุมากกว่าเจียงเสี่ยวไป๋ และเจียงเสี่ยวไป๋ยังต้องเรียกเขาว่า ‘พี่’ ด้วยซ้ำ
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็พูดว่า “เอาล่ะ ถ้าเขาอยากทำ ฉันจะให้โบนัสเธอด้วย”
“เยี่ยมเลย ตอนพี่หวังรุ่ยเห็นว่าพี่หวังผิงร่ำรวยหลังจากทำธุรกิจร่วมกับพี่ เขาก็อยากจะติดตามพี่แล้ว” หวังฉินพูดอย่างมีความสุข
หวังเจี้ยนกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นผมก็จะให้พี่ชายของผมเปิดด้วย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะและดีใจในขณะเดียวกัน น้อง ๆ ของเขาถึงขั้นมีความคิดจะดึงคนในครอบครัวของตัวเองมาทำธุรกิจแล้ว
เขาจำได้ว่าตอนที่เจียงเสี่ยวชิงจัดงานเลี้ยงฉลองเรียนจบ ลุงและป้าเหล่านั้นต่างบอกว่าพวกเขาต้องการให้เจียงเสี่ยวไป๋ช่วยดูแลญาติพี่น้องของเขาด้วย แต่ในเวลานั้นหลายสิ่งหลายอย่างยังไม่พร้อม ตอนนี้โรงงานผลิตและแปรรูปถั่วเหลืองกับบริษัทโลจิสติกส์กำลังต้องการคนพอดี
นอกจากนี้ แฟรนไชส์ร้านโยวผิ่น แฟรนไชส์ต้มปลาเสฉวน และหัวปลาหม้อไฟก็กำลังจะเปิดให้บริการเช่นกัน
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้เวลาพวกเธอกลับไปที่หวังเจียป้าและบอก หวังเฟิงและคนอื่น ๆ ว่าฉันจะสนับสนุนใครก็ตามที่เต็มใจจะมาทำงานในเมืองหรือเปิดร้าน”
“เยี่ยมมาก ผมจะขอให้พี่หวังผิงพาผมกลับคืนนี้เลย” หวังเจี้ยนพูดอย่างตื่นเต้น
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ถ้าได้เรื่องอย่างไรแล้วก็บอกฉันด้วย”
หวังเจี้ยนพยักหน้าอย่างมีความสุข
เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายสองสามประโยค จากนั้นก็ออกจากร้านโยวผิ่นและกลับไปที่สำนักงานของโรงงานผลิตเครื่องปรุงรสแทน
“เมียจ๋า พรุ่งนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ กลับบ้านเร็วหน่อย เราจะฉลองเทศกาลที่บ้านและจะไม่มาทำงาน”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดทันทีที่เขาเข้าไปในประตู
หลินเจียอินเงียบไปครู่หนึ่ง พนักงานทุกคนไม่ได้ลาพักร้อน แต่เจ้านายกำลังลาพักร้อน เธอกลอกตาไปที่เขาแล้วพูดว่า “คุณควรโทรหารองนายกเทศมนตรีจางก่อน เขาโทรมาหลายครั้งแล้ว แต่คุณไม่อยู่”
“เอ๊ะ เขามีอะไรหรือเปล่า ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ตอนที่เขาส่งขนมไหว้พระจันทร์ให้รองนายกเทศมนตรีจาง ตอนเที่ยง เขาก็ไม่ได้บอกว่ามีธุระอะไร ทำไมตอนนี้ถึงโทรหาเขาแล้วล่ะ ?
หลินเจียอินส่ายหัว “ไม่ได้พูดอะไร แต่ดูเหมือนเขาอยากคุยกับคุณ ! ”
“เอาล่ะ ผมจะโทรกลับไปหาเขาก่อนแล้วค่อยกลับบ้านกัน” เจียงเสี่ยวไป๋พูดแล้วเดินไปที่โต๊ะแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา