ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 433 :คำเตือนของลูกสาว
อนที่ 433 :คำเตือนของลูกสาว
หลังจากส่งร่างหญิงชราขึ้นไปบนภูเขา ฝังศพเธอและดูแลหลุมศพแล้ว กว่าภารกิจจะเสร็จสิ้นก็เป็นเวลารุ่งสางแล้ว
เมื่อกลับมาถึงบ้านของเจียงไห่โจวและรับประทานอาหารเช้า แขกที่มาร่วมแสดงความเสียใจก็เริ่มกล่าวคำอำลา ผู้ช่วยจึงนำโต๊ะ เก้าอี้ ถ้วยชามและเครื่องใช้จากบ้านต่าง ๆ ที่ยืมมาไปคืนทีละบ้าน เจียงไห่เทียนขอบคุณพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนที่จะส่งผู้ช่วยออกไป และทุกคนก็ค่อย ๆ แยกย้ายกันไป
หลังจากที่ครอบครัวของเจียงเสี่ยวไป๋กลับบ้าน พวกเขาก็อาบน้ำและเข้านอน
หวังซิ่วจวี๋ หลินเจียอิน เจียงชาน และเจียงถิงไม่ได้นอนมาทั้งคืน ส่วนเจียงไห่หยางและเจียงเสี่ยวไป๋อยู่เฝ้าศพไม่ได้นอนมาสองคืนแล้ว ทำให้พวกเขาเข้านอนตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน ในช่วงสามวันที่ผ่านมา พวกเขาได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ต่อให้เป็นคนเหล็กก็ยังทนไม่ได้
เจียงเสี่ยวไป๋นอนหลับจนเช้าวันถัดมา
เช้าวันนี้ หวังซิ่วจวี๋และคนอื่นตื่นนอนแต่เช้าและช่วยกันเตรียมอาหารง่าย ๆ หลังมื้ออาหารเช้า เจียงชานและเจียงถิงก็ไปฝึกเขียนพู่กันจีน เจียงไห่หยางและหวังซิ่วจวี๋ดูทีวีในห้องนั่งเล่น ขณะที่หลินเจียอินอ่านหนังสือในห้องนอน
เจียงเสี่ยวไป๋คิดว่าเขายังไม่ได้ทำงานอะไรเลยในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา จึงตัดสินใจที่จะทำงานและเฝ้าดูเด็กทั้งสองคนฝึกคัดลายมือและวาดภาพ
ก่อนหน้านี้เขารับปากว่าจะวาดแผนผังของโครงการพัฒนาพื้นที่ชนบทใหม่ เขาเพิ่งจะมีเวลาก็ตอนนี้เอง
เจียงชานฝึกเขียนอยู่พักหนึ่งและเห็นเจียงเสี่ยวไปร่างภาพ เธอถามว่า “ป่าป๊ากำลังวาดรูปอะไรอยู่คะ?”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ป่าป๊ากำลังวาดรูปบ้าน”
เจียงชานพูดว่า “ป่าป๊ากำลังวาดบ้านใหม่ในเมืองของเราหรือเปล่า ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หยุดเขียนและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ ป่าป๊ากำลังออกแบบบ้านให้ปู่ใหญ่และปู่สามของลูก หลังจากที่ป่าป๊าออกแบบเสร็จแล้ว พวกเขาก็สามารถใช้เป็นพิมพ์เขียวในการสร้างบ้านใหม่ได้”
เจียงชานพูดด้วยความตกตะลึงว่า “ครอบครัวของปู่ใหญ่และปู่สามจะสร้างบ้านหลังใหม่ด้วยหรือคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ใช่ ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น ลุงเสี่ยวจี๋ ลุงเสี่ยวโจว อาเสี่ยวซิน อาเสี่ยวหมิง ปู่หลิว และครอบครัวของคุณปู่ถานก็จะสร้างบ้านใหม่ด้วยเช่นกัน”
ในช่วงเฝ้าศพเมื่อคืนนี้ เขาได้พูดคุยเกี่ยวกับโครงการพัฒนาพื้นที่ชนบทใหม่โดยมีผู้คนจำนวนมากอยู่ในหมู่บ้าน เจียงไห่เทียนและคนอื่นสนใจที่จะปรับปรุงบ้านของพวกเขา นี่คือสิ่งที่เขาพูดกับลูกสาวของเขา
เจียงซานอุทานว่า “ว้าว ! แสดงว่าหมู่บ้านของเราจะมีบ้านใหม่มากมายเลยใช่ไหมคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “การที่ผู้คนในหมู่บ้านสร้างบ้านใหม่ หมายถึงพวกเขากำลังมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี”
เจียงชานเอียงคอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แล้วครอบครัวของหูหย่งล่ะ ? พวกเขากำลังสร้างบ้านหลังใหม่ด้วยหรือเปล่า ? ”
หูหย่งเป็นลูกชายของหูฉางจวิน ตอนที่ครอบครัวของเจียงเสี่ยวไป๋อาศัยอยู่บ้านหลังเก่า ทั้งสองครอบครัวเป็นเพื่อนบ้านกัน เจียงชานและหูหย่งอายุเท่ากันและเคยเล่นด้วยกันอยู่บ่อย ๆ
แต่หลังจากที่ครอบครัวของเจียงเสี่ยวไป๋ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ริมแม่น้ำ เจียงชานก็เริ่มเข้าไปในตัวเมืองทุกวัน ทำให้เด็กทั้งสองไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน พวกเขาเพิ่งกลับมาพบกันเมื่อคืนนี้และเล่นด้วยกันจนดึกดื่น
เจียงเสี่ยวไป๋ถามว่า “ทำไมหนูถึงถามถึงครอบครัวของหูหย่งโดยเฉพาะ ? ”
เจียงชานกล่าวว่า “ปีหน้าเขาจะต้องเข้าโรงเรียนแล้วไม่ใช่เหรอคะ ? ถ้าเขาไปเรียนในโรงเรียนที่ป่าป๊าเปิด การเดินทางไปโรงเรียนจะไม่ไกลไปหน่อยเหรอคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่คาดคิดว่าลูกสาวของเขาจะคิดถึงปัญหานี้
เขายิ้มและพูดว่า “ที่ชิงซานก็มีโรงเรียนประถมเช่นกัน หูหย่งอาจไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนในโรงเรียนของป่าป๊า”
เจียงชานพยักหน้ารับ เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวังเล็กน้อย “โรงเรียนประถมชิงซานอยู่ไกลมากเหมือนกัน ถ้าหูหย่งได้อาศัยอยู่ในบ้านที่ป่าป๊ากำลังสร้างในเมือง เขาก็จะเข้าเรียนในโรงเรียนที่ป่าป๊ากำลังจะสร้างได้ใช่ไหมคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะครุ่นคิด หลังจากได้ยินสิ่งนี้
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า “เอาล่ะ ไม่ว่าครอบครัวของหูหย่งจะย้ายไปอยู่ที่เมืองหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพ่อเขา อย่ากังวลไป ฝึกเขียนอีกสักหน่อย ส่วนป่าป๊าจะวาดภาพร่างต่อ”
“เข้าใจแล้ว ! ”
เจียงชานตอบรับ และฝึกเขียนตัวอักษรต่อไป
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้เริ่มทำงานในทันที เพราะคำพูดของลูกสาวเขายังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา แม้ว่าระยะทางจากเจียงวานไปยังชิงซานจะอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่กิโลเมตร แต่สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา ยังต้องเดินสองสามชั่วโมงทุกวันเพื่อไปโรงเรียน
เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง และตัดสินใจ
เขาหยิบกระดาษอีกแผ่นออกมาและเริ่มวาดแบบร่างอย่างรวดเร็ว
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เจียงชานและเจียงถิงฝึกคัดลายมือเสร็จแล้วก็ออกไปเล่น ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋ยังคงทำงานของเขาต่อไป เมื่อเขาทำงานเสร็จ เขาก็ยกข้อมือขึ้นดูเวลาและพบว่ามันเลยเวลาตี 2 แล้ว
หลังจากตรวจสอบภาพร่างต่าง ๆ บนโต๊ะ เขาก็พยักหน้าด้วยความพอใจ ก่อนจะกลับไปนอน
วันรุ่งขึ้น ครอบครัวของเจียงเสี่ยวไป๋ก็เข้ามาในเมืองอย่างเช่นทุกที
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในสำนักงาน เฝิงเยี่ยนหงก็พูดอย่างกระตือรือร้นว่า “พี่เสี่ยวไป๋ ช่วงนี้พี่ไปอยู่ที่ไหนมา ผู้อำนวยการหลันจากสำนักงานการศึกษามาหาพี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ถามอย่างไม่เป็นทางการว่า “เธอมีธุระอะไรกับฉัน ? ”
เฝิงเยี่ยนหงส่ายหัวแล้วพูดว่า “เธอไม่ได้บอกเอาไว้ เธอมารอพี่ที่ออฟฟิศได้สองวันแล้ว ดูเหมือนมีท่าทีค่อนข้างกังวล แต่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้เธอไม่ได้มา”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะโทรหาเธอเอง”
หลังจากนั้น เขาก็โทรหาหลันหงทันที “สวัสดีครับผู้อำนวยการหลัน ผมเจียงเสี่ยวไป๋ ผมได้ยินมาว่าคุณกำลังตามหาผม ไม่ทราบว่าคุณมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ ? ”
ที่ปลายสาย ผู้อำนวยการหลันรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา แต่เธอกลับพูดเพียงว่า “อ้อ คุณเจียง เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันพยายามติดต่อคุณ เพราะอยากรู้เรื่องการก่อสร้างโรงเรียนประถมศึกษาฉิวซู่ คุณจะเริ่มสร้างเมื่อไหร่ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มบาง ๆ และไม่เชื่อว่าผู้อำนวยการหลันตามหาเขาเพราะเรื่องนี้ เขากล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับความกังวลของคุณผู้อำนวยการหลัน การก่อสร้างโรงเรียนประถมศึกษาฉิวซู่จะเริ่มในเดือนนี้ และเรารับประกันว่าจะพร้อมสำหรับการลงทะเบียนภายในเดือนกันยายนหน้า”
ผู้อำนวยการหลันไม่แปลกใจกับคำตอบนี้ เธอพูดว่า “ฉันเข้าใจแล้ว เอาละ แค่นั้นแหละ”
“ผู้อำนวยการหลัน คุณไม่มีธุระอะไรจะพูดแล้วจริงหรอ ? ”
ขณะที่เจียงเสี่ยวไป๋กำลังจะถาม ผู้อำนวยการหลันก็วางสายโทรศัพท์ทันที
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถอนหายใจและส่ายหัว เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้และบอกกล่าวหลินเจียอิน ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังศาลาว่าการเมือง
เขาได้พบกับนายกเทศมนตรีจางอย่างราบรื่น
นายกเทศมนตรีจางเหลือบมองเขาแล้วพูดติดตลก “ไม่กี่วันมานี้ ดูเหมือนว่าคุณจะทำงานหนัก ดูเหมือนน้ำหนักจะลดลงมากไปมากนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบว่า “ผู้อาวุโสของครอบครัวเสียชีวิต ผมจึงต้องไปช่วยงานศพสองสามวัน เลยอดนอนหลายคืนครับ”
นายกเทศมนตรีจางตกใจเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่แปลกใจเลยที่ฉันไม่ได้เจอคุณในช่วงนี้ แล้วทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ขอบคุณสำหรับความกังวลของผู้นำ ทุกอย่างเรียบร้อยดี เมื่อวานผมพักผ่อนอยู่ที่บ้านหนึ่งวัน วันนี้ผมมารายงานงานให้คุณทราบ”
นายกเทศมนตรีจางพยักหน้า บอกให้เขานั่งลงแล้วพูดว่า “คุณควรใส่ใจสุขภาพของคุณด้วย อย่าคิดว่าเพราะคุณยังเด็ก คุณจึงไม่จริงจังกับเรื่องนี้”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกขอบคุณ จากนั้นก็หยิบภาพร่างที่เขาวาดเมื่อคืนนี้ออกมา แล้วมอบให้นายกเทศมนตรีจาง
นายกเทศมนตรีจางรับภาพร่างมาดู การออกแบบอาคารที่พักอาศัยสี่ภาพแรกเป็นรูปแบบยกพื้น เลย์เอาต์เป็นนวัตกรรมใหม่ และมีการออกแบบที่สวยงามน่าพึงพอใจ ทำให้เขาอยากเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้เสียเอง
โดยทั่วไป ภาพร่างทั้งสี่ภาพนี้มีสไตล์ที่เป็นหนึ่งเดียว โดยมีความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเค้าโครงและพื้นที่อาคารที่แตกต่างกัน ทุกคนสามารถเลือกได้ตามความต้องการและจำนวนสมาชิกในครอบครัว
แต่เมื่อมองเห็นภาพที่ห้า นายกเทศมนตรีจางก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“รูปนี้คืออะไร ? ”
“ดูไม่เหมือนการออกแบบบ้านพักอาศัยธรรมดา ๆ เลย ! ”