ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 441 : คุณออกไปได้แล้ว
ตอนที่ 441 : คุณออกไปได้แล้ว
เหวินฮวาเหรินมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋และพูดว่า “คุณเจียง ผมขอถามคุณสักสองสามคำถามได้ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “การสัมภาษณ์เป็นกระบวนการสองทาง ผมเลือกครูที่ผมต้องการ และครูจะเลือกทำงานที่โรงเรียนนี้หรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของครู เรามีสิทธิ์เลือกเท่าเทียมกัน ดังนั้นคุณถามคำถามของคุณมาได้เลย”
หวินฮวาเหรินประหลาดใจอีกครั้ง แต่แล้วเขาก็ถามว่า “คุณเจียง คุณเป็นคนที่มีความรู้ จากสิ่งที่คุณเพิ่งพูด ผมยินดีที่จะเป็นครูสอนเขียนพู่กันจีนที่โรงเรียนของคุณ แต่ผมแค่สงสัยว่าทำไมคุณถึงมีชั้นเรียนเขียนพู่กันจีนเหรอครับ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายว่า “จากมุมมองเชิงปฏิบัติ นักเรียนที่เขียนได้ดีสามารถได้รับคะแนนพิเศษในการสอบ อย่างน้อยที่สุดก็สร้างความประทับใจให้กับผู้สอบได้ดีขึ้น”
“แต่แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่สำคัญที่สุด”
“สิ่งสำคัญคือเด็ก ๆ สามารถเสริมสร้างความรู้สึกด้านสุนทรียภาพ ฝึกสมาธิ ฝึกความอดทน บ่มเพาะความรู้สึกทางศิลปะ และในขณะเดียวกันก็พัฒนาความสนใจเพิ่มเติมผ่านการฝึกฝนการเขียนพู่กันจีน”
เหวินฮวาเหรินพยักหน้าและถามว่า “ครูใหญ่เจียง จะมีชั้นเรียนเขียนพู่กันจีนกี่คลาสต่อสัปดาห์ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ครูเหวิน หลักสูตรของเราแตกต่างจากโรงเรียนอื่นเล็กน้อย เรามีชั้นเรียนสองประเภทคือวิชาเอกและวิชารอง”
“วิชาเอก ? วิชารอง ? ” เหวินฮวาเหรินดูงุนงง
เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายว่า “สำหรับวิชาต่าง ๆ เช่น การเขียนพู่กันจีน วิจิตรศิลป์และดนตรี โรงเรียนประถมศึกษาฉิวซู่จะมีชั้นเรียนตามเกรด และมีแผนที่จะมีคลาสเรียนสัปดาห์ละครั้ง อย่างไรก็ตาม การเขียนพู่กันจีนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยจะมีการฝึกฝนเฉพาะทุกวัน ในช่วงฝึกฝน ครูจะไม่สอน แต่จะคอยดูแล ให้กำลังใจ ตรวจสอบ หรือแก้ไขรายบุคคลตามความจำเป็น”
“นอกจากนี้ สำหรับนักเรียนประจำของเรา เรามีชั้นเรียนเสริมทักษะการเขียนพู่กันจีนโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นชั้นเรียนขนาดเล็กที่ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม และจะมีบทเรียนรายวัน”
เหวินฮวาเหรินพยักหน้าและรู้สึกว่าวิธีการสอนที่เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวถึงนั้นค่อนข้างแปลกใหม่
เขาถามด้วยความสนใจ “มีชั้นเรียนที่น่าสนใจอะไรอีกบ้าง ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋มีแผนที่ค่อนข้างครอบคลุมสำหรับชั้นเรียนเสริมความรู้ ซึ่งรวมถึงวิชาต่าง ๆ เช่น ชั้นเรียนกู่ฉิน ชั้นเรียนกู่เจิง เอ้อหู ขลุ่ยไม้ไผ่ เซียว ขลุ่ยน้ำเต้าหูหลูซือ หมากรุกจีน การเขียนพู่กันจีน ภาพวาดจีนแบบดั้งเดิม ภาพวาดตะวันตก, ศิลปะการต่อสู้ ปิงปอง บาสเก็ตบอล การพูดในที่สาธารณะ บทกวี การเขียนบทความ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ชั้นเรียนเฉพาะที่เปิดสอนจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของครู
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ เหวินฮวาเหรินกล่าวว่า “คุณเจียง ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะสอนวิชาภาพวาดดั้งเดิมของจีนและบทกวีของจีนด้วย”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบรับด้วยความยินดี “เยี่ยมมากครับ ครูเหวินมั่นใจได้เลยว่าโรงเรียนของเราจะมีที่พักและโรงอาหารสำหรับครู นอกจากเงินเดือนพื้นฐานแล้ว ชั่วโมงการสอนเสริมแต่ละชั่วโมงยังได้รับเงินพิเศษแยกต่างหาก เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องการเงินขณะทำงาน และคุณจะไม่ถูกทิ้งให้ไร้รางวัลสำหรับความสามารถพิเศษของคุณ”
เหวินฮวาเหรินโบกมือแล้วพูดว่า “เงินเดือนที่ครูใหญ่เจียงเสนอมานั้นค่อนข้างจะสูงอยู่แล้ว เนื่องจากผมมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ผมจึงควรมีส่วนร่วมเพิ่มอีกนิด”
เจียงเสี่ยวไป๋แสดงความขอบคุณ
เหวินฮวาเหรินกล่าวว่า “สำหรับวิชาอื่น ๆ นั้นไม่ใช่ปัญหา ผมได้ยินมาว่าโรงเรียนของคุณยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง เราต้องรอถึงเดือนกันยายนหน้าจึงจะเริ่มทำงานใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองเหวินฮวาเหริน แล้วพูดว่า “ครูเหวิน ผมมีทางเลือกให้คุณสองทาง ขึ้นอยู่กับคุณเลือก”
เหวินฮวาเหรินตกใจและถามว่า “คุณช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยได้ไหม”
เจียงเสี่ยวไป๋เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหลี่ม่านม่านและครูใหญ่จางให้เขาฟัง และพูดว่า “ถ้าคุณเลือกที่จะไปสอนที่โรงเรียนประถมศึกษาฉิวซู่ก่อน คุณสามารถมาทำงานได้พรุ่งนี้ หากคุณไม่ต้องการสอน คุณสามารถเซ็นสัญญาได้ในวันพรุ่งนี้ แต่คุณจะได้เริ่มทำงานในเดือนกันยายนปีหน้า”
เหวินฮวาเหรินไม่ลังเลและพูดด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นว่า “แม้ผมจะอายุมากแล้ว แต่นายพลเหลียนโปห์ก็ยังรู้จักรสชาติของอาหาร และหวงจงก็ยังมีทักษะในการใช้ธนู แม้แต่ม้าแก่ก็ยังมีความทะเยอทะยานที่จะเดินทางไกลเป็นพันลี้ ผมยินดีที่จะใช้เวลาหนึ่งปีที่หมู่บ้านซานฮวา ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ลุกขึ้นยืนเพื่อคำนับเหวินฮวาเหรินด้วยความซาบซึ้ง “คุณเหวิน ในนามของลูกหลานของหมู่บ้านซานฮวา ผมขอขอบคุณครับ ! ”
เหวินฮวาเหรินรีบลุกขึ้นยืนและค้อมตัวกลับ “คุณเจียง คุณสุภาพเกินไปแล้ว หากเรากำลังพูดถึงเรื่องการขอบคุณ ผมต้องขอบคุณคุณที่ให้โอกาสผมได้พบกับความสุขในวัยชรา ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ พรุ่งนี้ครูเหวินค่อยมาใหม่นะครับ”
“อืม”
เหวินฮวาเหรินรู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋ต้องสัมภาษณ์คนจำนวนมาก ดังนั้นเขาจึงไม่รบกวนเวลาของเจียงเสี่ยวไป๋แล้ว เขาตอบตกลงแล้วเดินออกไป
“ประตูเปิดแล้ว ! ”
“เขาออกมาแล้ว ! ”
“ผ่านการสัมภาษณ์หรือเปล่า ? ”
“……”
การสัมภาษณ์ครั้งนี้กินเวลาประมาณ 20 นาที ครูที่รออยู่ข้างนอกก็เริ่มหมดความอดทน และเมื่อเหวินฮวาเหรินออกมาแล้ว หลายคนก็ตะโกนด้วยความตื่นเต้น
เหวินฮวาเหรินพยักหน้าให้ฝูงชนและประกาศว่า “ตอนนี้ฉันเป็นครูของโรงเรียนประถมศึกษาฉิวซู่ แล้ว และฉันจะเริ่มทำงานในวันพรุ่งนี้ ฉันขอให้พวกคุณโชคดีในการสัมภาษณ์ ครูใหญ่เจียงเป็นผู้อำนวยการที่ยอดเยี่ยม ควรค่าแก่การทำงานด้วย”
พูดจบแล้ว เขาก็เดินออกไป
“เขาผ่านการสัมภาษณ์แล้ว ! ”
“เริ่มงานพรุ่งนี้เลยหรือ สุดยอดเลย ! ”
“ครูคนนั้นดูเหมือนจะยกย่องครูใหญ่เจียงไม่เบา ! ”
“……”
ท่ามกลางการสนทนา เย่กวงโต้วได้ประกาศชื่อของคนถัดไป
ครูชื่อถานเชียนโปเข้ามาสัมภาษณ์
ครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้น และเขาก็ปรากฏตัวด้วยรอยยิ้มแจ่มใส เห็นได้ชัดว่าผ่านการสัมภาษณ์
ถานเชียนโปยังกล่าวอีกว่า “สิ่งที่ครูเหวินพูดก่อนหน้านี้ถูกต้อง ครูใหญ่เจียงเป็นคนที่ควรค่าแก่การทำงานด้วย และฉันจะเริ่มทำงานที่นี่พรุ่งนี้เช่นกัน”
เมื่อมีครูสองคนติดต่อกันผ่านการสัมภาษณ์ ครูที่รอคอยทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้น
ครูที่เหลือทั้ง 18 คนเข้าออกทีละคน บางคนออกมาด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่บางคนจากไปอย่างเงียบ ๆ
แม้ว่าบางคนไม่ได้พูดอะไรเมื่อออกมา แต่การแสดงออกของพวกเขาเผยให้เห็นผลการสัมภาษณ์อยู่แล้ว
จากการสังเกตของครูรุ่นเยาว์ มีเพียงแปดคนจากยี่สิบคนเท่านั้นที่ผ่านการสัมภาษณ์ และอัตราการคัดออกมีมากกว่าครึ่งหนึ่ง
“ครูอาวุโสสัมภาษณ์เสร็จแล้ว ในที่สุดเวลาของเราก็มาถึงแล้ว ! ”
“ฉันหวังว่าพรุ่งนี้ฉันจะได้มาทำงานเลยเหมือนกัน ! ”
“คิดอะไรอยู่ คิดว่าเราเป็นคนว่าง ๆ เหมือนพวกครูเกษียณเหรอ ถึงเราจะผ่านการสัมภาษณ์ แต่ก็ยังต้องไปลาออกจากโรงเรียนเก่านะ”
“ตอนนี้ฉันอยากจะผ่านการสัมภาษณ์ แต่ฉันกังวลนิดหน่อย”
“ฉันรู้สึกแบบเดียวกัน การประชุมก่อนหน้านี้บอกว่าถ้าเรามาสอนที่โรงเรียนประถมศึกษาฉิวซู่ เราจะทำได้เพียงรักษาคุณวุฒิการสอนของเราไว้ และต้องสละตำแหน่งทางราชการของเรา”
“ตำแหน่งทางราชการจะมีประโยชน์อะไร ? เงินเดือนเพียงแค่ 30-40 หยวนต่อเดือน ที่โรงเรียนประถมศึกษาฉิวซู่ คุณสามารถสร้างรายได้ทั้งปีในเวลาเพียงเดือนเดียว”
“นั่นก็จริง ตำแหน่งทางราชการมีไว้เพื่อผลประโยชน์หลังเกษียณใช่ไหม ? แต่ถ้าเราทำงานที่โรงเรียนฉิวซู่ อีกสองสามปี เผลอ ๆ เราอาจทำเงินได้เท่ากับผลประโยชน์หลังเกษียณแล้ว”
“ฉันก็คิดแบบเดียวกัน ถ้าผ่านสัมภาษณ์ ฉันจะลาออกทันที”
“……”
ครูรุ่นเยาว์คุยกันเป็นกลุ่ม โดยส่วนใหญ่เตรียมใจที่จะลาออกจากโรงเรียนปัจจุบันแล้ว
“ต่อไป หวังเหมิง”
เย่กวงโต้วตะโกนเรียกเสียงดัง
หวังเหมิงที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับการสนทนากับเพื่อนร่วมงาน ลุกขึ้นทันทีและเดินจ้ำเข้าไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากได้รับแบบฟอร์มใบสมัครของตนเองแล้ว เขาก็เข้าไปในห้อง
“สวัสดีครับ ครูใหญ่เจียง ฉันชื่อหวังเหมิง ครูคณิตศาสตร์จากโรงเรียนมัธยมปลายอันดับ 1 ของเมืองชิงโจว”
หลังจากที่หวังเหมิงเข้ามา เขาพูดด้วยรอยยิ้ม โค้งคำนับและส่งแบบฟอร์มใบสมัครให้
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและผายมือให้เขานั่งลง
เมื่อหวังเหมิงนั่งแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ถามว่า “ถ้าผมขอให้คุณไปสอนโรงเรียนในหมู่บ้านที่ห่างไกล ทุรกันดาน ยากจนและท้าทายเป็นเวลาหนึ่งปี คุณจะเต็มใจไปไหมครับ ? ”
หวังเหมิงประหลาดใจและตอบว่า “ครูใหญ่เจียง ผมมาที่นี่เพื่อสมัครตำแหน่งที่โรงเรียนประถมศึกษาฉิวซู่ ไม่ใช่เพื่อเป็นครูอาสา”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าแล้วถามว่า “แล้วถ้าผมจ้างคุณ คุณจะเริ่มทำงานได้เมื่อไหร่ ? ”
หวังเหมิงตอบโดยไม่ลังเลว่า “พรุ่งนี้ ผมสามารถเริ่มงานได้เลย”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “คุณเป็นคนซื่อตรงดีครับ”
“แต่คุณ…..ออกไปได้ ! ”