ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 447 : ครั้งนี้รับสมัครสาวสวย
ตอนที่ 447 : ครั้งนี้รับสมัครสาวสวย
รองนายกเทศมนตรีถังพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวว่า “อ่า คุณเจียง คุณช่วยฉันได้มากจริง ๆ ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “มันเป็นแค่เหล้าสองลังไม่ใช่หรือครับ ? จะถือว่าช่วยคุณได้อย่างไร”
รองนายกเทศมนตรีถังโบกมือ “คุณยังไม่รู้ ผู้นำเก่าคนหนึ่งของฉันชอบดื่มเหล้าข้าวโพดเจี้ยนหยางที่ผลิตในปี 1980 มาก เขาขอให้ฉันช่วยซื้อสองกล่องในครั้งที่แล้ว แต่ฉันหาซื้อไม่ได้ ฉันเองก็กังวลมานานแล้ว ในที่สุดก็หาที่ซื้อได้เสียที”
ในที่สุด เจียงเสี่ยวไป๋ก็เข้าใจว่าทำไมรองนายกเทศมนตรีถังถึงบอกว่าอยากให้ช่วย
หลังจากเรื่องนี้ ทั้งสองก็พูดคุยกันสักพักหนึ่ง จากนั้นเจียงเสี่ยวไป๋ก็ลุกขึ้นเพื่อกล่าวคำลา
“อย่าเพิ่งรีบไปสิ รอเดี๋ยว”
รองนายกเทศมนตรีถังหยุดเขาไว้ ก่อนจะหยิบบุหรี่อวี้เตี๋ยออกมาจากลิ้นชักโต๊ะแล้วยื่นให้เจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋ชะงักไป นับตั้งแต่เขาเกิดใหม่ เขาเป็นคนที่มอบของขวัญให้ผู้อื่นมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนให้อะไรเขา เขารีบพูดว่า “รองนายกเทศมนตรีถัง ทำไมคุณถึงให้ผมล่ะ ? ที่จริงคุณไม่ต้องให้ผมหรอก”
รองนายกเทศมนตรีถังยิ้มและกล่าวว่า “แม้ผมจะหาซื้อเหล้าข้าวโพดปี 1980 ไม่ได้แล้ว แต่ผมยังหาซื้อบุหรี่อวี้เตี๋ยได้ คุณก็เป็นคนสูบบุหรี่เช่นกัน ดังนั้นรับไปเถอะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กำลังจะปฏิเสธ แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เขาก็ตระหนักว่านี่คือรองนายกเทศมนตรีถังที่ริเริ่มแสดงความมีน้ำใจของเขา ดังนั้นเขาจึงหยุดเกรงใจและยอมรับด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณมากครับ”
หลังออกมาจากห้องทำงานของรองนายกเทศมนตรีถังแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไม่รอช้าและขับรถตรงไปที่บ้านของหวังผิงบนถนนเยียนเหอ เนื่องจากเขาหยุดรับซื้อกุ้งและเปลี่ยนมาเลี้ยงปูแทน หวังผิงจึงไม่ค่อยออกไปไหน นอกจากไปส่งของ
“ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง ? ”
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันสองสามวัน เจียงเสี่ยวไป๋ก็ถามขึ้น
หวังผิงตอบว่า “เหมือนอย่างทุกที วัน ๆ เอาแต่คุยกับปู หลังจากส่งสินค้าแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้ทำมากนัก”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา ๆ “เยี่ยมมาก ถ้าอย่างนั้น ฉันมีอะไรให้นายทำ”
จากนั้น เขาเล่าถึงแผนการเปิดร้านสปาและขอให้หวังผิงช่วยหาพื้นที่ที่เงียบสงบให้
เมื่อหวังผิงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องมองหาแล้ว ฉันซื้อบ้านที่เหมียววานเอาไว้ เป็นที่เงียบสงบตามที่นายต้องการ บ้านหลังนี้เป็นบ้านโบราณและกว้างขวาง มีสระน้ำอยู่ข้างนอก และมีป่าไผ่อยู่ด้านหลัง เงียบสงบมาก”
เจียงเสี่ยวไป๋ขอให้หวังผิงพาเขาไปดูสถานที่ทันที
เมื่อเขาเห็นว่าเหมือนสิ่งที่หวังผิงพูดถึง เขาก็พูดอย่างพอใจว่า “เอาล่ะ ฉันต้องการสถานที่นี้”
หวังผิงกล่าวอย่างใจกว้างว่า “นายสามารถใช้ได้ตามต้องการ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า แล้วพูดว่า “ร้านนวดเท้านี้ถือว่านายมีหุ้นส่วนด้วย หลังจากที่ฉันรับสมัครพนักงานแล้ว นายช่วยสอนพวกเขาสองสามคนชงชาได้ไหม”
หวังผิงเคยเปิดร้านน้ำชามาก่อนและมีความรู้เกี่ยวกับศิลปะการชงชาอยู่บ้าง ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงทันที
จะนับเป็นหุ้นส่วนหรือไม่นั้น ไม่สำคัญ
สิ่งสำคัญคือ ร้านสปาที่ได้ทั้งแช่เท้าและนวดแก้ปวดเมื่อยไปด้วย แค่คิดก็สบายใจแล้ว !
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น
หลังจากส่งหวังผิงกลับมาแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็กลับไปที่สำนักงานของโรงงานเครื่องปรุงรส
บังเอิญว่าช่วงนี้เย่กวงโต้วทำงานที่นี่ และเขาไม่จำเป็นต้องไปที่สำนักงานหนังสือพิมพ์อีกต่อไป เขาจึงบอกเย่กวงโต้วทันทีว่า “พรุ่งนี้ลงประกาศรับสมัครงานใหม่ให้ที”
“เอาล่ะ ! ” เย่กวงโต้วหยิบปากกาและสมุดบันทึก แล้วพูดว่า “คุณมีคุณสมบัติเฉพาะอะไรให้ผมใส่ลงไปไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดว่า “รับสมัครผู้หญิง ! สาว ! สวย ! ”
เย่กวงโต้วตกตะลึง และสงสัยกับคุณสมบัตินี้
เขาถามอย่างระมัดระวังว่า “มีอะไรอีกไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือ “ไม่มีแล้ว ! ”
นี่ยังอยู่ในช่วงปี 1980 ซึ่งผู้หญิงสวยมีอยู่มากมาย แต่ยังไม่ได้หลั่งไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมอันรุ่งโรจน์เหล่านั้นเหมือนในอนาคต
เจียงเสี่ยวไป๋เปิดร้านสปาเพื่อความเพลิดเพลิน แน่นอนว่าเขาต้องการจ้างผู้หญิงที่อายุน้อยหน้าตาดี
“แล้วค่าจ้างล่ะ ? ” เย่วางโต้วถาม
“ประมาณ 300 หยวนต่อเดือน ! ” เจียงเสี่ยวไป๋กล่าว
เย่กวงโต้วสับสนเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ครูได้รับเงินเดือนละ 300 หยวน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการรับสมัครครูยากมาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแย่งครูจากโรงเรียนอื่นเท่านั้น
แต่สำหรับผู้หญิงที่อายุน้อยและสวยงามมีให้เลือกมากมาย ทั้งยังไม่มีการสอบถามเกี่ยวกับการศึกษา ประสบการณ์ ความสามารถ ไม่มีอะไร แค่สวยก็เพียงพอที่จะสร้างรายได้ 300 หยวนต่อเดือน
นั่นสูงกว่าเงินเดือนของผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงเช่นตัวเขาเองเสียอีก !
เขารู้สึกเหมือนกับว่าการเรียนกว่าสิบปีของเขานั้นไร้ประโยชน์
เย่กวงโต้วรู้สึกท้อแท้จึงพูดว่า “เอาล่ะ ! ”
เมื่อเห็นการแสดงออกของเย่กวงโต้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็พูดว่า “เฮ้ ฉันให้นายรับสมัครสาวงาม ทำไมนายถึงทำหน้าเหมือนจะตายแบบนั้นล่ะ ไอ้หนู ฉันให้โอกาสนายเลือกสาวงาม บางทีนายอาจหาน้องสะใภ้สวย ๆ ให้ฉันสักคนก็ได้ ! ”
เย่กวงโต้วเหลือบมองเจียงเสี่ยวไป๋อย่างขุ่นเคือง
คุณพูดมาแบบนี้ มันจะไม่เป็นการราดเกลือลงบนแผลสดของผมหรอกหรือ ?
จากนั้น เขาก็เริ่มร่างโฆษณาอย่างเงียบ ๆ
ในสำนักงาน หลินเจียอิน เฝิงเยี่ยนหง และเฉินซินต่างก็ได้ยินคำพูดของเจียงเสี่ยวไป๋ที่ขอให้เย่กวงโต้วรับสมัครคนสวย ในเวลานี้ พวกเธอทั้งสามต่างมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยสีหน้าแปลก ๆ
“ผู้ช่วยเจียง ทำไมคุณถึงรับสมัครผู้หญิงสวยล่ะ ? ”
“เงินเดือนยังเดือนละตั้ง 300 หยวน ! ”
“ฉันขอสมัครได้ไหม ? ”
หลังจากที่อยู่กับเจียงเสี่ยวไป๋มาเป็นเวลานาน เฉินซินรู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่งของเธอ เธอจึงไม่กลัวเขาเหมือนตอนเริ่มแรก และกล้าพูดติดตลกกับเขาแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองเธออย่างเมินเฉย “อย่าดีกว่า อยู่ที่นี่ในฐานะผู้ช่วยดีกว่า ! ”
เฉินซินทำหน้าบูดบึ้งและพูดว่า “ฉันดูไม่สาวไม่สวยหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “สาวสวยมีตั้งมากมาย ไม่ต้องให้เธอลำบากไปสมัครหรอก อีกอย่างเธอเป็นผู้ช่วยก็ดีแล้ว อนาคตสดใสจะตายไป”
“อืม เธอดูสิ เธอเป็นผู้ช่วย ฉันก็เป็นผู้ช่วยเหมือนกัน ! ”
“ในบริษัทนี้มีผู้คนมากมาย นอกจากฉันแล้ว เธอก็เป็นอีกคนที่มีหน้าที่ที่มีเอกลักษณ์ ! ”
เฉินซินทำหน้ามุ่ย ‘บทบาทของฉันในฐานะผู้ช่วยจะเหมือนกับของคุณได้อย่างไร ? ’
ลืมมันซะ ถ้าไม่ให้ฉันไป ฉันก็จะไม่ไป
การทำงานที่นี่ก็ค่อนข้างสนุก
อย่างไรก็ตาม เธอยังคงอยากรู้อยากเห็นและถามว่า “ผู้ช่วยเจียง คุณจ้างสาวสวยเหล่านั้นมาทำงานประเภทไหนล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “คราวนี้เรากำลังรับสมัครคนชงชาและคนที่มีทักษะ ซึ่งอาจถือเป็นพนักงานบริการประเภทหนึ่ง ! ”
“คนชงชาและคนที่มีทักษะ ! ”
เฉินซินไม่เข้าใจ เธอสงสัยว่าต้องใช้ทักษะอะไรในการชงชา ?
เฝิงเยี่ยนหงกล่าวว่า “พี่เสี่ยวไป๋ พี่อยากสอนพวกเธอชงชา เพื่อเตรียมเปิดโรงน้ำชาใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไปโบกมือ “แทนที่จะเปิดโรงน้ำชา ฉันจะเปิด…คลับเฮาส์”
เดิมทีตั้งใจจะพูดถึงสปา แต่หลังจากคิดอยู่สักพัก เขาก็เปลี่ยนคำพูดในนาทีสุดท้ายและเรียกมันว่าคลับเฮาส์แทน
“คลับเฮาส์คืออะไร ? ”
เฝิงเยี่ยนหงถามขึ้น
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เป็นสถานที่ที่สามารถดื่มชา ล้างเท้า และรับบริการนวดเพื่อผ่อนคลายได้”
“ล้างเท้าเหรอ ? ” หลินเจียอินแทบจะกระโดดขึ้น “คุณรับสมัครหญิงสาวสวยเพื่อให้พวกเธอไปล้างเท้าให้คนอื่นเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้คาดหวังว่าภรรยาของเขาจะมีท่าทีตอบรับที่รุนแรงเช่นนี้ จึงพูดอย่างรวดเร็วว่า “การล้างเท้าถือเป็นบริการด้านสุขภาพรูปแบบหนึ่ง แพทย์แผนจีนเชื่อว่าอวัยวะและระบบภายในของร่างกายมีจุดฝังเข็มที่เท้าตรงกัน การใช้น้ำอุ่นแช่เท้าและให้คนที่มีทักษะมานวดและกระตุ้นจุดฝังเข็มที่เท้าได้ถูกจุด แบบนี้จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรง ขจัดโรคภัยไข้เจ็บ และส่งเสริมให้มีสุขภาพดีได้”
หลินเจียอินเบือนหน้าขึ้น “แม้ว่าสิ่งที่คุณพูดจะเป็นเรื่องจริง แล้วทำไมคุณถึงต้องรับสมัครหญิงสาวสวยด้วย ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “หญิงสาวมีมือที่นุ่มนวลกว่า ซึ่งนวดได้สบายกว่า ถ้าให้ผู้ชายร่างใหญ่ทำ มือหยาบและกร้าน นวดให้ใคร เขาก็คงรู้สึกไม่สบายตัว”
หลินเจียอินกลอกตาใส่สามี แล้วพูดว่า “คุณให้หญิงสาวชงชา ล้างเท้าและนวดให้คนอื่น เหมือนกับคุณกำลังจ้างสาวใช้เลย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋มีท่าทางเจ้าเล่ห์
เฉินซินใช้มือข้างเดียวป้องปากด้วยสีหน้าหวาดกลัว แสดงว่าเขากำลังจะจ้างสาวสวยไปรับใช้คนอื่น โชคดีที่เธอไม่ไป !