ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 452 : เจียงเจียกรุ๊ป
ตอนที่ 452 : เจียงเจียกรุ๊ป
ประมาณ 40 นาทีต่อมา ทุกคนที่ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ก็มาถึง
ทว่าพื้นที่ในสำนักงานนั้นแคบเกินไป ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงขอให้เฉินซินพาทุกคนไปยังสถานที่ที่ได้จัดไว้แล้ว ซึ่งเพียงพอต่อจำนวนคน
หลินเจียอินและเฝิงเยี่ยนหงก็เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย พวกเธอเดินตามเจียงเสี่ยวไป๋ไปทางด้านหลังของฝูงชน
หลังจากเดินออกมา เจียงเสี่ยวไป๋ก็มองกลับไปและเห็นว่าผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในสำนักงานคือ เย่กวงโต้วและเด็กอีกสองคนคือเจียงชานและหวังกัง
“เย่กวงโต้ว ทำไมยังยืนอยู่ตรงนั้น ? ”
“มาประชุมได้แล้ว ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตะโกนเรียกเขา
เย่กวงโต่วตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจว่า “ผม…ต้องไปประชุมด้วยเหรอ ? ”
เมื่อเขาเห็นว่าผู้บริหารระดับสูงในแต่ละอุตสาหกรรมของเจียงเสี่ยวไป๋ถูกเรียกมาที่นี่กันหมด เขาก็ไม่คิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะเรียกเขามาด้วย
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “นายเป็นคนเดียวในวงการสื่อ ถ้านายไม่มาเข้าประชุม แล้วใครจะมา ? ”
“อ้อ ! ” เย่กวงโตวตอบอย่างเร่งรีบ และหยิบสมุดบันทึกพร้อมทั้งปากกา แล้วรีบเดินตามไป
พวกเขาทั้งสี่เข้าไปในห้องประชุมชั่วคราว คนอื่นนั่งลงที่ของตัวเองแล้ว มีเพียงหลินเจียอิน เฝิงเยี่ยนหง และเย่กวงโต้วที่เดินตามเข้ามาทีหลัง
“เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนมาถึงแล้ว เราก็จะเริ่มประชุมกัน”
เจียงเสี่ยวไป๋เดินไปด้านหน้าสุด เขาเหลือบมองทุกคนแล้วพูดขึ้นมา
ทุกคนก็มองมาที่เจียงเสี่ยวไป๋อย่างเงียบ ๆ เช่นกัน
เจียงเสี่ยวไป๋ทักทายพวกเขาเล็กน้อย แล้วจึงพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ก่อนอื่น ฉันอยากจะขอบคุณผู้บริหารทุกคนที่ช่วยดูแลธุรกิจของฉัน การที่เราประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็เป็นเพราะความเหน็ดเหนื่อยในการทำงานอย่างหนักของพวกคุณทุกคน”
เมื่อพูดจบ ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้น
เจียงเสี่ยวไป๋ยกมือขึ้นเพื่อหยุดและพูดต่อ “วันนี้ที่ฉันเรียกทุกคนมาประชุม ก็เพราะฉันวางแผนที่จะบูรณาการอุตสาหกรรมต่าง ๆ และรวมให้เป็นเครือบริษัทเดียวคือเครือเจียงเจียกรุ๊ป”
ทันทีที่เขาพูดจบ ทุกคนก็ดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
“หลังจากรอคอยมานาน ในที่สุดตอนนี้เราก็ได้เวลาก่อตั้งเครือบริษัทสักที ! ”
“มันจะกลายเป็นเครือบริษัทแล้วเหรอ เยี่ยมมาก ! ”
“ที่ผ่านมา เราทำงานแยกกันมาตลอด พอจัดตั้งเป็นบริษัท เราก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน”
“เครือเจียงเจียกรุ๊ปคือการรวมกันของอุตสาหกรรมภายใต้ชื่อของผู้ช่วยเจียงและผู้จัดการหลิน”
“ตอนนี้มันจะกลายเป็นบริษัทแล้ว เราจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งด้วยไหม ? ”
“……”
แต่อย่างพวกเมิ่งเสี่ยวเป่ยและจวงปี้เฉิง เจียงเสี่ยวไป๋ได้แจ้งกับพวกเขาล่วงหน้าแล้ว และพวกเขาก็รอคอยที่จะให้มันกลายเป็นเครือบริษัทมานานแล้ว แต่ถานเสี่ยวฟาง หลี่ลี่ เย่กวงโต้ว และคนอื่นเพิ่งได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก
ปฏิกิริยาของพวกเขาต่างก็เปลี่ยนไป
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระที่ไม่จำเป็น หลังจากหยุดพูดสักพัก เขาก็เริ่มอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในขณะนี้ แล้วกล่าวว่า “ตอนนี้เรามีอุตสาหกรรมมากมาย แต่ทั้งหมดทำงานแยกกัน จุดประสงค์ของการก่อตั้งเครือบริษัทในครั้งนี้คือการบูรณาการทรัพยากรและเพื่อให้จัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
ทุกคนต่างก็ตั้งใจฟังที่เขาพูด
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “หลังจากการก่อตั้งเครือบริษัท ภาระของทุกคนที่นี่จะเพิ่มขึ้นกว่านี้ นี่เป็นเพราะบริษัทยังขาดคนที่มีความสามารถชั่วคราว ดังนั้นในฐานะสมาชิกหลักของบริษัท พวกคุณบางคนจึงต้องดูแลเรื่องต่าง ๆ นอกเหนือจากที่เคยทำ”
เขายิ้มและพูดว่า “แต่แน่นอนว่าพวกคุณจะได้รับรางวัลสำหรับความพยายาม นอกจากนี้บริษัทยังจะให้ค่าตอบแทนที่สูงขึ้นตามผลงานและมูลค่าที่พวกคุณสร้าง”
เสียงปรบมือดังเกรียวกราวขึ้นอีกครั้ง
ถัดมา เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้ประกาศโครงสร้างองค์กร รายชื่อผู้บริหารในแต่ละตำแหน่งของเจียงเจียกรุ๊ป
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลินเจียอินจะกลายเป็นประธานบริษัท
เจียงเสี่ยวไป๋ทำหน้าที่เป็นรองประธาน
เขายังคงทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยประธานเช่นเคย
เขาเต็มใจที่จะเป็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังภรรยาของเขา และเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยและผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังหลินเจียอิน
ผู้หญิงหลายคนที่มาประชุม ได้แก่ เมิ่งเสี่ยวเป่ย เฝิงเยี่ยนหง และจางกุ้ยหลันต่างก็มองไปที่หลินเจียอินด้วยความอิจฉา ถานเสี่ยวฟางและหลี่ลี่เองก็ไม่ต่างกัน พวกเธอต่างก็หันไปมองและคิดว่าพี่เจียอินของพวกเธอช่างโชคดีเหลือเกิน !
เฉินหยวนเฉา จวงปี้เฉิง โหยวโหย่วหยู และคนอื่นต่างก็รู้สึกทึ่งว่าเจียงเสี่ยวไป๋เป็นแบบอย่างของสามีที่เอาใจใส่ภรรยามาก ๆ
แต่เมื่อพวกเขาถามตัวเอง พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาไม่สามารถทำแบบนี้ได้
หลังจากประกาศตำแหน่งหลักสองตำแหน่งแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประกาศโครงสร้างทีมผู้บริหาร ซึ่งก็คือแผนกหลักห้าแผนกของเจียงเจียกรุ๊ป
แบ่งเป็นฝ่ายอุตสาหกรรม ฝ่ายปฏิบัติการ ฝ่ายการเงิน ฝ่ายการตลาด และฝ่ายกฎหมาย
ฝ่ายหลักแต่ละฝ่ายจะมีประธานซึ่งเป็นทีมผู้บริหารระดับสูงของเจียงเจียกรุ๊ป แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถือหุ้นในบริษัท แต่ก็ได้สิทธิ์ในการรับเงินปันผลตามสัดส่วนที่กำหนด
เฉินหยวนเฉาดำรงตำแหน่งประธานแผนกอุตสาหกรรมและผู้จัดการโรงงานผลิตและแปรรูปถั่วเหลืองไปพร้อม ๆ กัน
ตอนนี้เครือเจียงเจียกรุ๊ปเป็นองค์กรอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุด ธุรกิจของพวกเขาประกอบด้วยอุตสาหกรรมหลักสามอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมการผลิต และอุตสาหกรรมการบริการ
อุตสาหกรรมการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยังไม่มีใครบริหารจัดการ แต่มีโครงสร้างไว้
อุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตที่มุ่งเน้นการผลิตเก้าราย ได้แก่ โรงงานผลิตเครื่องปรุงรส โรงงานผลิตและแปรรูปถั่วเหลือง โรงงานผักดอง โรงงานผลิตซุปก้อนหม้อไฟ โรงงานเมล็ดแตงโมจินเคอ โรงงานเค้กที่รัก โรงงานเยลลี่ โรงงานเนื้อแห้ง และโรงงานอาหารกระป๋อง เกือบทั้งหมดนี้เป็นอุตสาหกรรมอาหารทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีโรงงานผลิตฟิล์มพลาสติกที่เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ด้วย
อุตสาหกรรมสินค้าและบริการ ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมเจี้ยนหยาง บริษัทโฮเนสท์ โลจิสติกส์ ศูนย์กระจายสินค้าบริษัทโฮเนสท์ โลจิสติกส์ที่เจียงเฉิง บริษัทวันทูซีรุ่ย มีเดีย (ปัจจุบันทำสัญญากับแผนกโฆษณาของหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์) ร้านโยวผิ่น โรงเรียนประถมฉิวซู่ และบริษัทขนส่งผู้โดนสารอันชุน เจตต้า บริษัทอี้เคอพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทว่านอัน เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น บริษัทตกแต่งภายในเชียนเหม่ย บริษัทไป่ซิ่นพร็อพเพอร์ตี้เซอร์วิส ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเจียง แฟรนไชส์กุ้งอบน้ำมันชิงเหอ ร้านพะโล้สูตรดั้งเดิมชิงโจว (เปลี่ยนชื่อจากร้านอร่อยสามมื้อ) โรงเรียนสอนขับรถยนต์เหลียนเหอ ร้านซีฟู๊ดเจียงเฉิง บริษัทอาหารทะเลเอ้อเฉิง และคลับเฮาส์ฉาจู๋ที่กำลังมีแพลนเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้
ถ้าไม่นับดูก็ไม่รู้ แต่เมื่อลองนับดูมันก็น่าตกใจไม่น้อย
มีแต่คนที่รอบครอบอย่างเฉินหยวนเฉาและจวงปี้เฉิงเท่านั้นที่ค้นพบว่าเจียงเจียกรุ๊ปนี้มีอุตสาหกรรมมากกว่า 20 อุตสาหกรรมรวมกัน
แม้แต่หลินเจียอินก็ยังรู้สึกประหลาดใจ นี่เพิ่งผ่านมาเท่าไรเอง ? ใช้เวลาแค่ครึ่งปี แต่กลับมีอุตสาหกรรมมากมายขนาดนี้เชียวเหรอ
อุตสาหกรรมเหล่านี้มีทั้งอุตสาหกรรมอาหาร การก่อสร้าง การขนส่ง การศึกษา การบริการ และอื่น ๆ ซึ่งแผ่ขยายไปยังหลายพื้นที่ในชิงโจว เจี้ยนหยาง เจียงเฉิง และเอ้อเฉิง
เจียงเจียกรุ๊ปจะกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในไม่ช้า !
การที่เฉินหยวนเฉารับผิดชอบแผนกอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เช่นนี้ ก็ทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเจียงเจียกรุ๊ปยังขาดผู้บริหารที่มีความสามารถ ดังนั้นเขาจึงต้องรับหน้าที่นี้ไปก่อน
ถัดมาคือฝ่ายปฏิบัติการ
เจียงเสี่ยวไป๋แต่งตั้งเมิ่งเสี่ยวเป่ยเป็นประธานฝ่ายปฏิบัติการ
ฝ่ายปฏิบัติการมีหน้าที่จัดการดำเนินงานของบริษัท
มันเกี่ยวข้องกับการลงทุน บุคลากร สำนักงาน โลจิสติกส์ และด้านอื่น ๆ อีกมากมาย
ส่วนโหยวโหย่วหยูและเปากันฉวนได้รับมอบหมายให้อยู่ในฝ่ายปฏิบัติการเช่นกัน
อีกคนคือแผนกการตลาด เฉินอันปิงดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายการตลาดและรับผิดชอบด้านการตลาดแบบครบวงจรของผลิตภัณฑ์จากฝ่ายอุตสาหกรรมทั้งหมด รวมถึงการวางแผน การตลาด การโฆษณา การส่งเสริมการลงทุน ฯลฯ เย่กวงโต้วและหลี่ลี่ได้รับมอบหมายให้ดูแลฝ่ายปฏิบัติการ
แต่ที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือ ปัจจุบันฝ่ายการเงินและฝ่ายกฎหมายไม่มีใครที่เหมาะสมเป็นประธาน ซึ่งตำแหน่งนี้จึงยังว่างชั่วคราว
เจียงเสี่ยวไป๋ยังคิดอยู่ว่าจะหาคนอีกสองคนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ได้จากที่ไหน
สุดท้าย เจียงเสี่ยวไป๋ก็เน้นย้ำออกมาว่า “แม้ว่าจะมีการจัดตั้งโครงสร้างองค์กรของเจียงเจียกรุ๊ป และมีการแต่งตั้งประธานในแต่ละฝ่ายไปบ้างแล้ว แต่หากว่าใครทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ ก็จะถูกถอดออกจากตำแหน่ง หรือหากใครไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริษัทก็จะถูกไล่ออก”
เฉินหยวนเฉา เมิ่งเสี่ยวเป่ยและเฉินอันปิงต่างก็รู้สึกถึงความกดดัน แต่พวกเขาก็รับปากว่าพวกเขาจะทำให้ดีที่สุด