ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 456 : ไม่มีใครเต็มใจ
ตอนที่ 456 : ไม่มีใครเต็มใจ
แม้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะรวมทีมงานก่อสร้างของจวงปี้เฉิงและจัดโครงสร้างใหม่เป็นสี่บริษัท คือบริษัทอี้เคอพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, บริษัทว่านอัน เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, บริษัทตกแต่งภายในเชียนเหม่ย และบริษัทไป๋ซินพร็อพเพอร์ตี้เซอร์วิส แต่เนื่องจากขาดพื้นที่สำนักงานที่เหมาะสม บริษัททั้งสี่แห่งจึงยังคงรวมกันอยู่ในสำนักงานที่จวงปี้เฉิงเช่ามาก่อนหน้านี้
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋มาพบเฉินอี้เฟย เขาก็เห็นว่ามีคนจำนวนมากอยู่ในอาคาร เขาจึงพาเฉินอี้เฟยตรงไปที่เหมียววานทันที
“ผู้ช่วยเจียง บ้านหลังนี้สวยดี คงจะดีไม่น้อยหากสามารถใช้เป็นสำนักงานให้กับเชียนเหม่ยของเราได้”
หลังจากเห็นบ้านแล้ว เฉินอี้เฟยก็พูดด้วยความอิจฉา
เจียงเสี่ยวไป๋คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ต้องรอเวลาเกือบสองปีถึงจะสร้างอาคารชิงโจวเสร็จ ฉะนั้น ตอนนี้จึงต้องหาสำนักงานให้แต่ละบริษัทเป็นการชั่วคราวก่อน เขาจึงกล่าวว่า “ถ้าคุณว่าง คุณลองไปดูรอบ ๆ ชิงโจวว่าพอจะมีที่ให้เช่าทำสำนักงานให้กับบริษัทอี้เคอ, เชียนเหม่ย และไป๋ซินไหม มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีสำนักงานแยกกัน เพราะสำนักงานปัจจุบันจะสงวนไว้ให้บริษัทว่านอัน เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น”
เมื่อเฉินอี้เฟยได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ดีใจมากและรับปากทันทีว่าพรุ่งนี้จะออกไปหาดู
บริษัทหลายแห่งติดต่อพวกเขาเพื่อตกแต่งสำนักงาน ซึ่งนำไปสู่โครงการออกแบบตกแต่งภายในอีกโครงการหนึ่ง
เจียงเสี่ยวไป๋ให้กระดาษออกแบบที่เขาวาดกับเฉินอี้เฟย และอธิบายความต้องการของเขาอย่างละเอียด ก่อนจะมอบกุญแจบ้านให้เฉินอี้เฟยไปและบอกว่า “ฉันอยากให้มันเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์นี้ พอจะได้ไหม ? ”
เฉินอี้เฟยกล่าวว่า “นอกเหนือจากการหาสำนักงานใหม่แล้ว งานอื่นก็มีไม่มากครับ สัปดาห์เดียวก็เกินพอแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “งั้นฉันจะมาตรวจงานหลังจากนี้อีกหนึ่งสัปดาห์”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกไป
ระหว่างขับรถ เขาได้ดูเวลา ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว คิดว่าเย่กวงโต้วน่าจะรับสมัครหมอนวดเสร็จแล้ว เขาจึงกลับไปที่สำนักงาน
เมื่อมาถึงถนนที่เชื่อมต่อกับโรงงานเครื่องปรุงรส เจียงเสี่ยวไป๋ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่ากลุ่มหญิงสาวที่มาสมัครเป็นหมอนวดได้ออกไปกันหมดแล้ว เขาจึงขับรถมาจอดตรงหน้าประตูสำนักงาน
เมื่อลงจากรถก็เดินเข้าไปในห้องทำงาน โดยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“เมียจ๋า ชานชาน เรากลับบ้านกันเถอะ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ตะโกนเรียกลูกเมีย
แต่เย่กวงโต้วกลับเดินเข้ามาหาเขาแล้วพูดว่า “หัวหน้าเจียง ผมได้คัดเลือกสาวงามทั้ง 20 คนที่คุณต้องการแล้ว หลังจากนี้ผมต้องทำยังไงต่อครับ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋จ้องไปที่เย่กวงโต้ว ผู้ชายคนนี้ไม่ฉลาดเอาซะเลย เขาบอกเป็นนัยชัดเจนว่าแล้วเขาจะไม่พูดถึงงานในวันนี้ แต่เย่กวางโต้วก็มาพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกจนได้ !
อย่างไรก็ตาม เย่กวงโต้วก็ยังไม่รู้ความ เขาเริ่มถามคำถามที่สงสัยและรอคำตอบอยู่อย่างหน้าตาเฉย
เขาจึงพูดออกมาด้วยท่าทางอารมณ์เสียว่า “เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป นายจะต้องเข้าร่วมการฝึกกับพวกเขา นายจะต้องฝึกเป็นเวลาครึ่งเดือน เพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางร่างกายของตัวเอง”
เย่กวงโต้วตกตะลึง “ผม……ต้องฝึกด้วยเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “งูไม่สามารถอยู่รอดได้หากไม่มีหัว ฉะนั้นนายจะต้องไปฝึกกับคนที่นายรับสมัครมา” เขามองไปที่เย่กวงโต้วแล้วยิ้มกริ่ม “นายผอมเกินไป ออกกำลังกายสักหน่อยก็ไม่เป็นไร ถือซะว่ามันเป็นผลประโยชน์ของนายก็แล้วกัน”
เย่กวงโต้วมีใบหน้าที่มืดมน เขาไม่ต้องการผลประโยชน์เช่นนี้ มันอึดอัดเกินไปที่ชายฉกรรจ์อย่างเขาจะต้องไปปะปนอยู่กับกลุ่มสาวสวยแบบนั้น
นอกจากนี้ เขายังต้องไปโรงเรียนสอนขับรถเพื่อเรียนขับรถอีกด้วย
เขาไม่อยากเข้าร่วมการฝึกนี้เลย
เจียงเสี่ยวไป๋เพิกเฉยต่อสีหน้าอ้อนวอนของเขา และหันไปพูดกับเฉินซินว่า “ไปหาจู้ตงเฟิง บอกให้เขาหาครูฝึกทหารมาสองคน”
“ได้ค่ะ ! ”
เฉินซินรับคำสั่งอย่างรวดเร็ว เธอมองไปที่เย่กวงโต้วด้วยความยินดี และรีบออกไปหาจู้ตงเฟิงทันที
บริษัทโฮเนสท์ โลจิสติกส์ ตั้งอยู่ติดกับโรงงานผลิตและแปรรูปถั่วเหลือง ทำให้ไม่นาน เฉินซินก็ขี่จักรยานมาถึงที่นี่
การก่อสร้างที่นี่ก็ใกล้จะเสร็จแล้ว ภายในเวลากว่าสองเดือน มีรถบรรทุกขนาดใหญ่จอดอยู่ในลานจอดรถประมาณ 140 คัน มีโกดังสินค้ามากมายอยู่รอบ ๆ และมีคนงานจำนวนมากกำลังทำการก่อสร้างอยู่
เฉินซินใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะหาจู้ตงเฟิงเจอ
“หัวหน้า ทำไมคุณถึงมีเวลามาที่นี่ได้ล่ะ ? ”
เมื่อเห็นเฉินซิน จู้ตงเฟิงก็พูดด้วยรอยยิ้ม เขายังทักทายเธอในฐานะ “หัวหน้าทีม” ซึ่งดูอบอุ่นและเข้าถึงได้ง่ายกว่า
เพราะตอนที่ฝึกอบรมขับรถ เจียงเสี่ยวไป๋ได้ให้เฉินซินมาเป็นผู้ดูแลพวกเขา
เฉินซินกล่าวว่า “จู้ตงเฟิง หยุดล้อฉันได้แล้ว ฉันบอกไปหลายครั้งแล้วให้เรียกฉันว่าผู้ช่วยเฉิน อย่าเรียกฉันว่าหัวหน้า ! ”
จู้ตงเฟิงยิ้มและพูดว่า “ก็เดิมทีคุณเป็นหัวหน้าของเรา ! ”
เมื่อหันกลับไปหาคนขับรถที่อยู่ข้างหลังพวกเขา นั่นก็คือหยวนทง โหยวเจิ้ง ไต้เหวินฉง และคนอื่น ๆ เขาก็ตะโกนเสียงดังออกมาว่า “พวกคุณคิดเหมือนกันหรือเปล่า ? ”
“หัวหน้า ! หัวหน้า ! ”
“หัวหน้า ! หัวหน้า ! ”
“……”
หยวนทงและคนอื่นตะโกนเสียงดังออกมาพร้อมกัน
ใบหน้าของเฉินซินเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธ และพูดออกมาว่า “กลุ่มคนพาลพวกนี้ ! ”
จู้ตงเฟิงและคนอื่นที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะชอบใจ
“ฉันขี้เกียจที่จะคุยกับพวกคุณแล้ว ! ” เฉินซินตะคอกและพูดกับจู้ตงเฟิง “ผู้ช่วยเจียงรับสมัครพนักงานเพิ่มอีกยี่สิบคน พวกเขาจะต้องเข้ารับการฝึกทหารเป็นเวลาครึ่งเดือน จึงอยากขอให้คุณช่วยหาครูฝึกมาสักสองคน ! ”
เมื่อหยวนทงได้ยินเรื่องนี้ เขาก็รีบพูดว่า “จู้ตงเฟิง พรุ่งนี้ฉันจะเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ ต้องรีบไปที่นั่น กระเป๋าก็ยังไม่ได้เก็บเลย ฉันคงไม่สะดวก”
โหยวเจิ้งเองก็กล่าวว่า “ฉันเองก็จะไปจินหลิง ฉันไม่มีเวลาหรอก”
หยางเสี่ยวหัวก็กล่าวว่า “แม้ว่าฉันจะไม่ได้เดินทางไปที่ไหนไกลขนาดนั้น แต่ฉันก็ยังต้องไปส่งนมถั่วเหลืองที่เจียงเฉิง นอกจากนี้นมถั่วเหลืองที่ฉันไปส่งครั้งล่าสุดก็จะต้องถูกตีกลับมา ครั้งนี้ฉันคงไม่มีเวลาเหมือนกัน”
“……”
สักพัก ครูฝึกเหล่านี้ก็บอกว่ามีภารกิจที่ต้องทำ จึงไม่มีเวลา
ไม่มีใครอยากเป็นครูฝึกทหารแม้แต่คนเดียว
ล้อกันเล่นเถอะ ออกไปทำงานแบบนี้ได้รับทั้งเงินอุดหนุนสำหรับค่าเดินทางและยังได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการออกไปทำงานนอกพื้นที่ ทั้งยังได้ผลิตภัณฑ์มาทานฟรี ใครจะอยากไปเป็นครูฝึกกัน ?
จู้ตงเฟิงมองไปที่หลิวเจ๋อจวิน หลิวเจ๋อจวินก็พูดออกมาทันทีว่า “จู้ตงเฟิง อย่ามองมาที่ฉัน นายรับหน้าที่นี้เองเถอะ แม้ว่าพรุ่งนี้ฉันจะไม่ได้ออกไปส่งของที่ไหนไกล แต่หลังจากพรุ่งนี้ฉันก็จะออกไปข้างนอกทั้งวัน”
จู้ตงเฟิงมองไปที่หลี่ซิ่งเซี่ยอีกคน และพูดว่า “หลี่ซิ่งเซี่ย หน้าที่นี้ต้องตกเป็นของนายแล้วล่ะ ! ”
หลี่ซิ่งเซี่ยส่ายหัวอย่างแรง “หัวหน้าจู คุณเพิ่งอนุมัติวันหยุดให้ผม ผมไม่ได้กลับไปที่เจี้ยนหยางมาสองเดือนแล้ว……”
จู้ตงเฟิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจึงหยุดบังคับหลิวซิ่งเซี่ยและหันไปพูดกับกัวเป่าเถียนว่า “เป่าเถียน นายลุยเลย ! ”
กัวเป่าเถียนกล่าวว่า “หัวหน้าจู คุณไปคนเดียวเถอะ พรุ่งนี้ผมมีธุระแล้ว”
เมื่อเฉินซินเห็นว่าทุกคนไม่เต็มใจ เธอจึงพูดด้วยความโกรธ “ดูคุณธรรมของพวกคุณเถอะ ฉันอุตส่าห์มาขอก็เพราะฉันเห็นว่าพวกคุณมีความสามารถมากพอ แต่ทุกคนกลับโยนหน้าที่นี้ให้กันไปมา ไม่มีใครอยากจะรับมันเลย”
กัวเป่าเถียนยิ้มและพูดว่า “หัวหน้าเฉิน หากคุณยังคงเป็นหัวหน้าฝึกอบรมอยู่ ผมสัญญาว่าจะไปเป็นครูฝึกให้เลยครับ ! ”
หลิวเจ๋อจวินและคนอื่นหัวเราะ แล้วพูดว่า “ใช่แล้วหัวหน้าเฉิน ถ้าคุณมาคุมการฝึกอบรมด้วย ฉันยอมเสียค่าคอมมิชชั่นไปครึ่งเดือน เพื่อมาเป็นครูฝึกให้เลย ! ”
หยวนทงกล่าวว่า “หัวหน้าเฉินก็ลองไปขอเรื่องนี้กับผู้ช่วยเจียงดูสิ บอกเขาว่าเราอยากได้หัวหน้าหน่วยมาคุม เพราะพนักงานใหม่นั้นรับมือไม่ง่าย ดังนั้นจึงต้องมีหัวหน้าหน่วยมารับผิดชอบด้วย…..”
เฉินซินกระทืบเท้าด้วยความโกรธและพูดว่า “พวกคุณมันคนพาลจริง ๆ กล้าที่จะตั้งเงื่อนไขกับผู้ช่วยเจียงงั้นเหรอ เชื่อไหมว่าฉันจะบอกผู้ช่วยเจียงให้เขาย้ายพวกคุณไปที่โรงเรียนสอนขับรถเหลียนเหอในตำแหน่งครูฝึกเป็นเวลาสามเดือน ! ”
“หัวหน้าเฉิน คุณโหดร้ายเกินไปแล้ว ! ”
“ใช่ หัวหน้าเฉิน คุณจะใจร้ายแบบนี้ไม่ได้ ! ”
“หัวหน้าเฉิน คุณต้องมาเป็นหัวหน้าของเราก่อน ! ”
“หัวหน้าเฉิน ฉันไม่ได้พูดอะไรเลย หยวนทงนู้น คุณย้ายเขาไปเลย……”
“……”
หยวนทง หลิวเจ๋อจวิน หยางเสี่ยวหัว และคนอื่นต่างก็คร่ำครวญ
พวกเขากังวลว่าเฉินซินจะทำแบบนี้จริง ๆ เพราะล่าสุดที่ผ่านมา จงเฉินซีและฟู่จั่วอี้ถูกย้ายไปที่โรงเรียนสอนขับรถแล้ว