ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 477 : ตกใจ
ตอนที่ 477 : ตกใจ
“นายอำเภอหลัว ผมต้องเอาเรื่องที่คุณพูดไปพิจารณาอีกที เพราะมันกะทันหันเกินไปครับ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยความจริงใจ
ในคำพูด ไม่ได้มีการตอบตกลงหรือปฏิเสธแต่อย่างใด
หลัวฉางเซิงกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา คุณลองเอากลับไปคิดดู ฉันจะโทรหารองนายอำเภอหม่าและผู้อำนวยการหยินจากสำนักงานเหมืองถ่านหิน เพื่อนัดพวกเขามาดื่มและพูดคุยกันเย็นนี้”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มกว้าง “ตกลงครับ ก่อนที่ผมจะกลับไป ผมจะให้คำตอบกับคุณอย่างแน่นอน”
หลัวฉางเซิงดีใจมาก เขายื่นบุหรี่ต้าเฉียนเหมินของเขาให้กับเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋รับมันและทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง โดยส่วนใหญ่เกี่ยวกับเหมืองถ่านหินและสภาวะเศรษฐกิจของถู่เฉิง
ทั้งสองคุยกันอย่างถูกคอ เจียงเสี่ยวไป๋ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจำหน่ายถ่านหินในถู่เฉิงอีกด้วย
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ในหมู่บ้านซานฮวามีถ่านหินอย่างที่ป้าเกอและคนอื่นในหมู่บ้านบอก และตามที่หลัวฉางเซิงบอก เร็ว ๆ นี้พวกเขาได้ค้นพบเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
ต้องรู้ก่อนว่าเหมืองถ่านหินโดยทั่วไปแบ่งออกเป็นเหมืองถ่านหินใต้ดินและเหมืองถ่านหินแบบเปิด
การทำเหมืองที่ต้องเจาะลึกลงไปเป็นลำดับชั้น โดยการใช้ระเบิดหรือเครื่องจักรเข้ามาช่วย จากนั้นลำเลียงแร่ถ่านหินผ่านไปทางสายพานหรือรถเหมือง การทำเหมืองแบบนี้เรียกว่าการทำเหมืองใต้ดิน ส่วนการทำเหมืองแบบเปิดคือการทำเหมืองจากผิวดินขุดลงไปหาชั้นแร่ถ่านหินแล้วทำการขุดแร่นั้นขึ้นมาใช้
เหมืองถ่านหินในประเทศจีนส่วนใหญ่เป็นเหมืองถ่านหินใต้ดิน ส่วนเหมืองถ่านหินแบบเปิดนั้นหายากมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับเหมืองถ่านหินใต้ดิน เหมืองถ่านหินแบบเปิดมีข้อได้เปรียบอย่างมากในแง่ของต้นทุนการขุด และความปลอดภัยในการขุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับเหมืองถ่านหินแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ให้ความสำคัญกับทรัพยากรก๊าซธรรมชาติของถู่เฉิงมากกว่า
นี่คือสิ่งที่ทำให้เขาประทับใจในที่นี่มากที่สุด
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถพูดอะไรได้ในตอนนี้ เขาทำได้เพียงทำบางสิ่งบางอย่างในถู่เฉิงเพื่อให้ถู่เฉิงเริ่มพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปเป็นร่างก่อน แล้วเรื่องอื่น ๆ ถึงจะค่อย ๆ เข้าที่
“คุณลุงคะ มันเทศสีแดงมีกลิ่นหอมแล้วค่ะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋และหลัวฉางเซิงกำลังคุยกันอย่างมีความสุข แต่เจียงชานก็ตะโกนออกมาขัดจังหวะ
หลัวฉางเซิงเหลือบมองดูมันเทศสองหัวที่กำลังย่างอยู่ข้าง ๆ เตาถ่านหิน เมื่อเห็นว่ามันสุกแล้วจริง ๆ เขาจึงหยิบมันขึ้นมาหนึ่งหัว ตบขี้เถ้าบนผิวมันออกแล้วยื่นให้เจียงชาน “ชานชานกินได้เลย แต่มันร้อนหน่อยนะ ต้องใจเย็น ๆ ระวังมันลวกปาก”
“ขอบคุณค่ะ ! ”
เจียงชานรับมันไปอย่างมีความสุข มันร้อนนิดหน่อย เธอจึงตบมันอย่างรวดเร็ว
หลัวฉางเซิงหยิบอีกหัวหนึ่งขึ้นมาแล้วส่งให้เจียงเสี่ยวไป๋ “ส่วนคุณก็กินหัวนี้ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือบอกว่าเขาไม่หิว
หลัวฉางเซิงจึงลอกเปลือกมันออกอย่างรวดเร็ว และเริ่มกินมันเอง โดยบอกว่าเสียดาย
หลังจากที่ทั้งสองกินมันเทศเสร็จแล้ว หลัวฉางเซิงก็ให้เจียงเสี่ยวไป๋นั่งรอในห้องไปก่อน ในขณะที่เขาออกไปข้างนอก
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “คุณมีธุระเข้ามาใช่ไหม ? ”
หลัวฉางเซิงกลับมาไม่นานหลังจากที่เขาออกไปพร้อมกับคนสองคนที่เดินตามหลังเขามา คนหนึ่งมีรูปร่างผอม ดูอายุราว ๆ เกือบห้าสิบปี มีใบหน้าที่ค่อนข้างอ่อนโยน ส่วนอีกคนมีรูปร่างเตี้ยอ้วนท้วม มีผิวสีเข้ม
“นี่คือรองนายอำเภอหม่าลี่ ! ”
“ส่วนนี่คือผู้อำนวยการหยินซื่อ แห่งสำนักงานเหมืองถ่านหิน”
หลัวฉางเซิงแนะนำทั้งสองคน
คนตัวผอมคือหม่าลี่ ส่วนตัวอ้วนเตี้ยคือหยินซื่อ
เจียงเสี่ยวไป๋ยืนขึ้นและจับมือกับทั้งสอง
“สวัสดีรองนายอำเภอหม่า ! ”
“สวัสดีผู้อำนวยการหยิน ! ”
หม่าลี่กล่าวว่า “สวัสดีเถ้าแก่เจียง ยินดีต้อนรับสู่ถู่เฉิง ฉันได้ยินจากนายอำเภอหลัวว่าคุณได้บริจาคเงินเพื่อสร้างโรงเรียนประถมในหมู่บ้านซานฮวาด้วย เราขอบคุณคุณมาก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวอย่างสุภาพ “รองนายอำเภอหม่าสุภาพเกินไปแล้ว ยังไงผมก็ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวกับพวกคุณด้วย”
หม่าลี่หัวเราะเสียงดัง “ฉันต่างหากที่ต้องขอฝากเนื้อฝากตัวกับเถ้าแก่เจียง เย็นนี้เราต้องดื่มด้วยกันแล้วล่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างรวดเร็วว่า “ผมดื่มได้นิดหน่อย เพียงสามแก้วเท่านั้น รองนายอำเภอหม่าไม่ต้องมาบังคับผมนะ”
หยินซื่อหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “คุณเจียง ในถู่เฉิงของเรา เราไม่ได้ใช้ถ้วยสำหรับดื่มเหล้า เราใช้ชาม หลังจากดื่มเสร็จเราก็โยนมันลงพื้น ถ้าชามไม่แตก คุณต้องดื่มเพิ่มนะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินก็ปวดหัวขึ้นมาทันที เกมทุบชามนี้ก็มีในชิงโจวเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก เขาไม่ได้คาดหวังว่าหยินซื่อจะแนะนำให้เล่นเกมนี้
หลัวฉางเซิงกล่าวว่า “เอาล่ะ ทุกคน ไปบ้านของฉันกันเถอะ ! ”
ทุกคนต่างพยักหน้า
“เถ้าแก่เจียง เชิญครับ ! ” หม่าลี่ขอให้เจียงเสี่ยวไป๋เดินออกไปก่อนอย่างสุภาพ
“รองนายอำเภอหม่า ไปก่อนเลยครับ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋สุภาพและถ่อมตัวกลับ
หลัวฉางเซิงเห็นแบบนั้นจึงกล่าวว่า “อย่าสุภาพไปเลย เดินไปด้วยกันนี่แหละ”
ทุกคนจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้องทำงานด้วยกัน
หยินซื่อเดินตามมาด้านหลัง เห็นแบบนั้น เขาจึงแกล้งหลอกถามจากเจียงชาน “สาวน้อย พ่อของหนูดื่มไม่ค่อยเก่งเหรอ ? ”
เจียงชานกล่าวว่า “หนูไม่ได้ชื่อสาวน้อย หนูชื่อเจียงชาน”
“โอเค โอเค เจียงชาน ! ” หยินซื่อหัวเราะเสียงดัง แต่ก็ยังไม่ปล่อยเธอไปและถามอีกครั้ง “ปกติพ่อของหนูเป็นคนดื่มหนักหรือเปล่า ? ”
เจียงชานกล่าวว่า “ลุงหยินคงจะดื่มเก่งมากสิท่า ! ”
หยินซื่อตกตะลึงและพูดด้วยรอยยิ้ม “ชานชานกำลังช่วยพ่อของหนูเก็บความลับอยู่เหรอ ? ”
เจียงชานยิ้มและพูดว่า “ป่าป๊าบอกว่าถ้าคุณรู้จักศัตรูของคุณดีพอ คุณจะไม่มีวันพ่ายแพ้ แต่หากคุณไม่ต้องการพ่ายแพ้ คุณก็ห้ามเปิดเผยความลับของตัวเองเด็ดขาด”
หยินซื่อหัวเราะเสียงดัง เขาไม่คาดคิดว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ จะมองความคิดของเขาออก
เมื่อพวกเขามาถึงลานบ้าน หลัวฉางเซิงก็พูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “เอารถของคุณจอดที่นี่เถอะ ตอนกลับก็ให้คนขับรถไปส่ง”
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นด้วยทันที
หลายคนขึ้นรถ และหลังจากออกจากที่ว่าการอำเภอแล้ว หลัวฉางเซิงคอยบอกทางให้ พวกเขาก็เลี้ยวสองมุม ก่อนจะถึงบ้านของเขา
บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ที่ไม่โดดเด่น ซึ่งดูเก่าไปหน่อยเมื่อมองแวบแรก
ทางเข้าค่อนข้างกว้างขวาง จึงจอดรถได้อย่างง่ายดาย
หลัวฉางเซิงพาพวกเขาเข้าไปในบ้าน ตอนที่เขาเปิดไฟ มันเป็นเพียงหลอดไฟขนาด 15 วัตต์ จึงทำให้ในห้องไม่ค่อยสว่างมากนัก มีเตาถ่านแบบเดียวกับในห้องทำงานของเขาอยู่ตรงกลางห้อง มีกาต้มน้ำอยู่ด้วย ทำให้ข้างในบ้านอบอุ่น
“เสี่ยวเจียง บ้านฉันอาจจะเรียบง่ายไปหน่อย อย่าโกรธเคืองกันเลยนะ นั่งตรงไหนก็ได้ตามที่คุณต้องการ”
หลัวฉางเซิงกล่าวแล้วจึงเชิญทุกคนให้นั่งลง
“กลับมาแล้วหรือ ! ”
ในเวลานี้ ประตูห้องครัวก็เปิดออก ผู้หญิงผมสั้นสวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกไป หลังจากพูดจบ เธอก็เห็นผู้คนมากมายอยู่ในห้องนั่งเล่น
“สวัสดีครับพี่สะใภ้ ! ”
“พี่สะใภ้ วันนี้พวกผมขอมาฝากท้องที่นี่นะครับ ! ”
หม่าลี่และหยินซื่อทักทายหงจวี๋ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาที่นี่อยู่บ่อยครั้ง
“รองนายอำเภอหม่า ผู้อำนวยการหยิน ! ”
เซี่ยงหงจวี๋กล่าวทักทายหม่าลี่และหยินซื่อ แล้วพูดกับหลัวฉางเซิงว่า “ทำไมไม่บอกฉันล่วงหน้าสักหน่อยว่าจะมีแขกมาที่บ้าน”
หลัวฉางเซิงยิ้มและกล่าวว่า “มันกะทันหันไปหน่อย ไม่สำคัญหรอกน่า ไม่มีอะไรต้องเตรียมล่วงหน้า”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ชี้ไปที่เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “นี่คือเสี่ยวเจียง ลูกเขยของพี่หลินจากเจี้ยนหยางที่มาหาผมก่อนหน้านี้ ! ” จากนั้น เขาก็ชี้ไปที่เจียงชาน “นี่ชานชาน ลูกสาวของเสี่ยวเจียง”
“สวัสดีค่ะคุณป้า ! ”
เจียงชานกล่าวทักทายอย่างรู้ความ
เซี่ยงหงจวี๋ยิ้มรับและพูดว่า “เสี่ยวเจียง เชิญพวกคุณนั่งลงก่อน ฉันกำลังทำอาหารอยู่ อีกสักครู่ก็จะเสร็จแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เชิญพี่สะใภ้ทำอาหารก่อนได้เลยครับ ! ”
เซี่ยงหงจวี๋กล่าวว่า “ที่บ้านไม่มีอาหารจานอร่อยอะไรหรอก นอกจากเนื้อสุนัขตากแห้งแล้ว ฉันก็มีถั่วเหลืองต้มเอาไว้กินแกล้มกับเหล้า”
ดวงตาของเจียงเสี่ยวไป๋เป็นประกายขึ้นมาทันทีหลังจากได้ยินสิ่งนี้ ตอนนี้เนื้อสุนัขตากแห้งได้กลายเป็นของหายากไปแล้ว เขาไม่เคยกินมันเลยตั้งแต่ที่เขาเกิดใหม่ นอกจากนี้เนื้อสุนัขยังมีสรรพคุณให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย จึงเหมาะสำหรับกินเป็นยาบำรุงอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ประโยคถัดไปของเซี่ยงหงจวี๋เกือบจะทำให้เจียงเสี่ยวไป๋ตกใจ เธอพูดกับหลัวฉางเซิงว่า “ชามดินเผาที่ฉันซื้อมาครั้งที่แล้วเกือบร้อยใบเก็บไว้ที่โรงเก็บของ ถ้าไม่พอใช้ คุณก็ไปเอามาเพิ่มได้นะ”
เอาชามดินเผามาทำอะไร ?
แน่นอนว่าต้องเอามาใช้ดื่มสุรายังไงล่ะ !
เจียงเสี่ยวไป๋เคยได้ยินหยินซื่อพูดถึงเกมนี้มาก่อน
ในบ้านมีผู้ชายแค่สี่คน ชามร้อยกว่าใบยังไม่เพียงพออีกเหรอ ถ้าอย่างนั้นต้องดื่มคนละเท่าไหร่กัน ?
เขารีบพูดว่า “พอแล้วครับ พอแล้ว ! ”