ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 492 : ขุนพลอีกคนเข้าร่วม
ตอนที่ 493 : เย่กวงโต้วรู้สึกหดหู่อีกครั้ง
เย่กวงโต้วตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่ามู่เสี่ยวชิงมาที่แผนกโฆษณาได้อย่างไร
เจียงเสี่ยวไป๋ใช้เวลานานกว่าจะหยุดหัวเราะและพูดว่า “คุณไม่ควรบอกประธานฟู่ ที่จริงคุณไปหาถังเชียน จากนั้นคุณทั้งคู่ก็ชวนกันย้ายมาที่แผนกโฆษณาด้วยกันเลย”
มู่เสี่ยวชิงเม้มริมฝีปากของเธอ เธอไม่ต้องการให้ถังเชียนย้ายมาแผนกโฆษณา เพราะแบบนั้นจะไม่มาเป็นก้างขวางคอหรือไง ?
เธอจินตนาการว่าจะได้ใช้ช่วงเวลาผ่อนคลายสบาย ๆ กับเย่กวงโต้วที่แผนกโฆษณา
อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถบอกเรื่องนี้กับเจียงเสี่ยวไป๋และเย่กวงโต้วได้ ดังนั้นเธอจึงพูดว่า “หัวหน้าเจียง แบบนั้นเป็นไปไม่ได้ค่ะ ลูกธนูต้องอยู่กับคันธนูที่เหมาะสมถึงจะแสดงพลังของมันออกมาได้อย่างเต็มที่ หากฝืนยิงลูกธนูที่ไม่เข้ากันออกไป มันอาจไม่โดนเป้านะคะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเสียงดัง “คุณพูดถูก ! ”
มู่เสี่ยวชิงกล่าวว่า “หัวหน้าเจียง ตอนนี้ฉันเป็นพนักงานของแผนกโฆษณาอย่างเป็นทางการแล้วหรือยัง ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “แน่นอน ตอนนี้คุณเป็นคนของแผนกโฆษณาแล้ว นับจากนี้ไปคุณและเย่กวงโต้ว จะรับผิดชอบแผนกโฆษณาร่วมกัน”
“ว้าว เยี่ยมมาก ! ” มู่เสี่ยวชิงยิ้มอย่างมีความสุขและพูดกับเย่กวงโต้ว “เป็นยังไงบ้าง ฉันบอกว่าหัวหน้าเจียงต้องการฉัน ตอนนี้คุณก็เชื่อแล้วใช่ไหม ! ”
“ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมงานแล้ว มาทำงานร่วมกันเพื่อทำให้แผนกโฆษณาแข็งแกร่งขึ้นกันเถอะ ! ”
เย่กวงโต้วยิ้มน่าเกลียดเสียยิ่งกว่าตอนร้องไห้ เขาพูดได้เพียงว่า “มาทำให้ดีที่สุดกันเถอะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋สังเกตดูด้านข้าง เหลือบมองไปที่เย่กวงโต้วแล้วมองไปที่มู่เสี่ยวชิง ทันใดนั้น ดูเหมือนเขาก็เข้าใจอะไรบางอย่าง เขาคิดกับตัวเองว่า: ไม่น่าแปลกใจเลยที่มู่เสี่ยวชิงกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมแผนกโฆษณา ที่แท้ก็เพราะเย่กวางโต้วนี่เอง !
ในใจของเขาอดไม่ได้ที่จะสรรเสริญเย่กวงโต้ว: ทำได้ดีมาก เจ้าหนู ! นายนำคนมีพรสวรรค์มาให้ฉันอย่างง่ายดาย !
ดังนั้นเขาควรจะให้รางวัลเย่กวงโต้วด้วยบางสิ่ง !
ใช่แล้ว เย่กวงโต้วมุ่งความสนใจไปที่เจียงเสี่ยวชิงน้องสาวของเขามาตลอด ดังนั้นการมีมู่เสี่ยวชิงจะช่วยหยุดความคิดของเด็กคนนี้ที่มีต่อเจียงเสี่ยวชิงได้
มาตอบแทนพวกเขาด้วยการจับคู่กันสักหน่อย !
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า “เดิมทีฉันกังวลว่าเย่กวงโต้วคนเดียวอาจไม่สามารถจัดการกับโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ แต่ตอนนี้มีคุณมู่เสี่ยวชิงมาช่วยเหลือเขา ฉันก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น”
ทันทีที่เย่กวงโต้วได้ยินว่ามีงาน เขาก็ให้ความสนใจทันที
ตราบใดที่งานยุ่ง มู่เสี่ยวชิงก็จะไม่มีเวลาเกาะติดเขา !
“หัวหน้าเจียง คุณมีงานอะไร ? ”
เย่กวงโต้วถามทันที
เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายแนวคิดในการสร้างถนนสายของกินในคอนเซ็ปตลาดกลางคืนโดยละเอียด เขาขอให้เย่กวงโต้วและมู่เสี่ยวชิงเขียนเปลี่ยนมันเป็นข้อเสนอที่เป็นลายลักษณ์อักษร นอกจากนี้เขายังระบุชื่อของกินทั้งหมดที่เขารู้จัก โดยแนะนำให้ตั้งชื่อร้าน เขียนสโลแกนโฆษณา และเน้นจุดขายของแผงขายของในตลาดกลางคืนแต่ละร้านตามชื่อของกินเหล่านี้
หลังจากให้คำแนะนำแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็นำกระดาษและปากกามาวาดรถเข็น เต็นท์ เตาบาร์บีคิว เตาหม้อไฟ ฯลฯ และให้คำอธิบายประกอบโดยละเอียด เขาพูดว่า “นอกเหนือจากแผนเหล่านั้น คุณสองคนควรหาคนมาทำอุปกรณ์เหล่านี้ด้วย”
“เข้าใจแล้วหัวหน้าเจียง ! ” เย่กวงโต้วพยักหน้ารับคำ
เขาไม่เคยเกี่ยงเรื่องงาน
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวอย่างพึงพอใจว่า “พูดคุยรายละเอียดกับมู่เสี่ยวชิง ตราบใดที่คุณทั้งสองเห็นชอบ คุณไม่จำเป็นต้องขออนุมัติจากผม”
“หัวหน้าเจียง ไม่มีปัญหาค่ะ ! ” มู่เสี่ยวชิงพูดอย่างมีความสุข
ในทางกลับกัน เย่กวงโต้วมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง เขาต้องการใช้งานเป็นโอกาสในการทำให้มู่เสี่ยวชิงยุ่งกับงานของเธอเอง แต่คำพูดของเจียงเสี่ยวไป๋เชื่อมโยงทั้งสองเข้าด้วยกัน
เจียงเสี่ยวไป๋แกล้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นการแสดงออกของเย่กวงโต้ง ก่อนจะแสดงท่าทางเผด็จการเน้นย้ำว่า “เย่กวงโต้ว ตอนนี้นายเป็นสมาชิกอาวุโสของแผนกโฆษณาแล้ว มู่เสี่ยวชิงเป็นเด็กใหม่ นายต้องแนะนำเธอและสอนเธอว่าต้องทำอย่างไรเกี่ยวกับการโฆษณา”
ฮะ ?
เมื่อเย่กวงโต้วได้ยินสิ่งนี้ เขาก็แทบจะกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นงาน ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับมัน เขาพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “หัวหน้าเจียง ผมเข้าใจ”
ในทางกลับกัน มู่เสี่ยวชิงรู้สึกยินดีอย่างลับ ๆ โดยคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋เป็นเจ้านายที่ดีที่สุดในโลก
ดีกว่าหัวหน้าหงเป็นพันเท่า
“หัวหน้าเจียงไม่ต้องกังวล ฉันจะเรียนรู้อย่างขยันขันแข็ง แม้ว่าฉันจะต้องทำงานล่วงเวลา แต่ฉันก็จะเรียนรู้ให้เร็วที่สุด ! ” มู่เสี่ยวชิงประกาศอย่างตื่นเต้น
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ลุยเลย ! ”
“ค่ะ ! ” มู่เสี่ยวชิงกระชับกำปั้นของเธอขึ้นและมองดูเย่กวงโต้วอย่างมีชัย
เย่กวงโต้วรู้สึกราวกับว่าเขาถูกเจียงเสี่ยวไป๋หลอกอีกครั้ง
เจียงเสี่ยวไป๋จากไปและเดินไปที่ห้องทำงานของฟู่เต๋อเจิง เขารู้สึกมีความสุขมากจนอดไม่ได้ที่จะไปเยี่ยมฟู่เต๋อเจิง
“ท่านประธานงานยุ่งอะไรเหรอครับ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋เดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
ฟู่เต๋อเจิงเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วพูดด้วยความโกรธ “ทำไม ? คุณมาที่นี่เพื่อเยาะเย้ยฉันเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเบา ๆ “ไม่มีอะไร ผมมาที่นี่เพื่อแสดงความขอบคุณท่านประธาน คุณเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม เป็นคู่ค้าที่ยอดเยี่ยม ! คุณไม่เพียงแต่ติดตั้งโทรศัพท์สำนักงานแก่ผมเท่านั้น แต่ยังมอบบุคลากรดี ๆ ให้ผมด้วย ! ”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณ ! ”
เขาพูดพร้อมยื่นบุหรี่ให้อย่างอารมณ์ดี
ฟู่เต๋อเจิงมุ่ยปากด้วยความหงุดหงิด: ให้ตายเถอะ ปกติแล้วเวลามีคนยื่นบุหรี่ให้เขา จะเป็นทั้งซองหรือมวนเดียว วันนี้แม้จะแสดงความขอบคุณ แต่เจียงเสี่ยวไป๋มอบให้เขาเพียงมวนเดียวเท่านั้น !
นี่คือวิธีขอบคุณฉันเหรอ ?
เขาหัวเราะเบา ๆ อย่างเย็นชา “อย่าเลย ผมไม่คู่ควรกับการขอบคุณของคุณหรอก ! ” และเขาก็ไม่ได้เอื้อมมือไปหยิบบุหรี่
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่สนใจ เขาจึงหยิบบุหรี่เข้าปากตัวเอง ก่อนจะหยิบไม้ขีดขึ้นมาจุดไฟ สูดควันแล้วหายใจออก “เฮ้ เหล่าฟู่ ดูสิว่าแผนกโฆษณาของผมกำลังพัฒนาได้ดีแค่ไหน คุณมอบถังเชียนให้ผมด้วยดีไหม ! ”
ฟู่เต๋อเจิ้งเงยหน้าขึ้นทันที
“ออกไปเลย ! ”
เสียงคำรามดังก้องกังวาน ขณะที่ฟู่เต๋อเจิ้งยกมือขึ้นทุบปากกาในมือของเขา และชี้ไปทางเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋กระโดดออกไปและก้าวออกจากประตูไปอย่างรวดเร็ว
เจียงเสี่ยวไป๋เดินไปที่ประตู ก่อนจะหันกลับมาแล้วพูดว่า “เหล่าฟู่ คุณอย่าโกรธไปเลย ถังเชียนจะต้องกลายเป็นคนในแผนกของผมไม่ช้าก็เร็ว ! ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็หัวเราะออกไป
“เจียงเสี่ยวไป๋ ! ”
ฟู่เต๋อเจิงโกรธจัด เขากัดฟันแน่นราวกับว่าเขาต้องการเคี้ยวคำสามคำนั้นออกเป็นชิ้น ๆ
เจียงเสี่ยวไป๋อารมณ์ดี หลังจากออกจากสำนักข่าว เขาก็ไปที่ชิงเจียงเกสท์เฮาส์ก่อน
ลู่จือเจี้ยน ผางต้าไห่ และโม่เสี่ยวฉียังคงทำงานอยู่ในห้องเดียวกัน หลังจากที่ทั้งสามพูดคุยกันไม่กี่คำ ลู่จือเจี้ยนก็อธิบายความคืบหน้าของการออกแบบ
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ขอบคุณทุกคนสำหรับการทำงานหนัก อย่างไรก็ตามผมมีงานเล็ก ๆ ที่นี่ คุณช่วยหยุดงานในมือของคุณชั่วคราว และช่วยผมหน่อยได้ไหม”
โม่เสี่ยวฉีพูดทันทีว่า “หัวหน้าเจียง ไม่ว่าจะเป็นงานอะไร แค่มอบให้ฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องหยุดงานปัจจุบันของฉัน ฉันจะช่วยคุณทำงานล่วงเวลาเองค่ะ”
ผางต้าไห่ยังกล่าวอีกว่า “หัวหน้าเจียง ผมก็ทำได้เหมือนกัน”
เมื่อเห็นทั้งสองคนกระตือรือร้นที่จะรับงานนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “เอาล่ะ คุณไม่จำเป็นต้องแย่งงานกัน ผมมีงานเล็ก ๆ สองงาน ดังนั้นพวกคุณก็รับไปคนละหนึ่งงานแล้วกัน ! ”
ผางต้าไห่และโม่เสี่ยวฉีมีความสุขมาก
แน่นอนว่างานสองอย่างที่เจียงเสี่ยวไป๋กำลังพูดถึงคือโครงการออกแบบโรงงานเตาดินเผาและโรงงานเกาลัดคั่วในถู่เฉิง
ผางต้าไห่และโม่เสี่ยวฉีมีความสุขมากยิ่งขึ้น เมื่อได้ยินว่าเป็นการออกแบบโรงงาน
พวกเขามีความยินดี เพราะพวกเขาสามารถเรียนรู้แนวคิดการออกแบบใหม่ได้จากการทำงานร่วมกับเจียงเสี่ยวไป๋ !
เนื่องจากทั้งผางต้าไห่และโม่เสี่ยวฉีไม่เคยสัมผัสงานออกแบบโรงงานมาก่อน เจียงเสี่ยวไป๋จึงอธิบายให้พวกเขาฟังอย่างละเอียดตลอดบ่าย เมื่อทั้งสองเข้าใจแนวคิดแล้ว เขาก็ขอตัวกลับ
หลังออกจากชิงเจียงเกสท์เฮาส์แล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็มองดูเวลาและเห็นว่าเป็นเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว คาดว่าหลี่อิงจวิ้นน่าจะเลิกงานกลับบ้านแล้ว ดังนั้นเขาจึงมุ่งหน้าไปยังถนนซานเซิ่ง