ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 50 :ภรรยาตกเป็นเป้า
ตอนที่ 50 :ภรรยาตกเป็นเป้า
คนดูมีท่าทางอยากรู้อยากเห็นมาก และเมื่อพวกเขาเห็นหลินเจียอินทะเลาะกับหลิวซือหมิง หลายคนก็เริ่มพูดจาไร้สาระ
คนพูดมีทั้งที่อยู่ใกล้และไกลจากเธอ หลินเจียอินจึงไม่ได้ยินคำพูดส่วนใหญ่
แต่ยังมีคำจำนวนเล็กน้อยที่หลินเจียอินได้ยินอย่างคลุมเครือ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะใช้คำพูดที่ไม่ดี
หลิวซือกั๋วยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ เขาพูดเสียงดังว่า “หลิวซือหมิง พูดให้ชัดเจน ไม่ต้องอ้อมค้อม”
หลิวซือหมิงจึงกล่าวว่า “เมื่อ 2-3 วันก่อน เธอซื้อมันฝรั่งลูกเล็กจากฉันไปใช่ไหม ? ”
หลินเจียอินผงะ เธอซื้อมันฝรั่งลูกเล็กจากเขา แต่เธอไม่เข้าใจว่าปัญหาของเรื่องนี้คืออะไร เธอจึงพูดว่า “ใช่ ฉันซื้อมันฝรั่งลูกเล็กของนายไป 380 ชั่ง และฉันได้จ่ายเงินให้นายแล้ว มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ? ”
หลิวซือหมิงกล่าวว่า “เธอซื้อเราไปในราคาชั่งละ 5 หลีใช่ไหม ? ”
หลินเจียอินได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย แล้ตอบไปว่า “ใช่ มันฝรั่งของนาย 380 ชั่ง ฉันจ่ายไป 1 หยวน 9 เหมาก็ถูกแล้วนี่”
หลิวซือหมิงพูดด้วยความโกรธว่า “เธอขนมันฝรั่งลูกเล็กที่ฉันขายให้เข้าเมือง แล้วทำขายได้ราคาตกชั่งละ 8 เหมา แต่เธอกลับให้ราคาฉันแค่ชั่งละ 4 หลี ยังกล้ามาบอกอีกหรอว่าตัวเองไม่ใช่พวกโกหกหลอกลวง ? ”
ดวงตาของหลินเจียอินเบิกกว้าง
เพราะมันฝรั่งลูกเล็กจำนวน 1 ชั่งสามารถทำผัดมันฝรั่งได้ประมาณ 2 ชามจริง ๆ พอคำนวณแล้วก็จะมีรายได้ตกประมาณชั่งละ 8 เหมา
แต่การคำนวณต้นทุนค้าขายจะคำนวณแค่นี้ได้อย่างไร ? ”
หากไม่มีซอสสูตรลับของเจียงเสี่ยวไป๋ อย่าว่าแต่ราคาชามละ 4 เหมาเลย ต่อให้ราคา 4 เจี่ยวก็คงไม่มีคนซื้อ
นอกจากนี้ ก่อนที่เจียงเสี่ยวไป๋จะทำผัดมันฝรั่ง แทบทุกครัวเรือนในหมู่บ้านล้วนมีมันฝรั่งลูกเล็ก แต่พวกเขาเคยขายออกที่ไหน ?
ไม่ต้องพูดถึงการขายออกไปเลย ขนาดคนส่วนใหญ่ยังไม่กิน พวกเขาต่างก็เอาไปเป็นอาหารให้หมูทั้งนั้น
ในที่สุดหลินเจียอินก็เข้าใจแล้วว่าคงเป็นเพราะหลิวซือหมิงได้ยินว่าครอบครัวของเธอทำรายได้ได้เยอะ จึงอิจฉาอยากได้อยากมีบ้าง
แต่แล้วเธอก็คิดได้ว่าหลิวซือหมิงเป็นคนสมองช้า ดังนั้นเขาจะต้องไม่สามารถคิดอะไรแบบนี้ออกมาได้อย่างแน่นอน แต่หลิวซือกั๋ว พี่ใหญ่ของเขาเป็นคนฉลาด ดังนั้นหลิวซือกั๋วจะต้องเป็นคนเสนอความคิดนี้ขึ้นมาแน่
“หลิวซือกั๋ว นายหมายความว่าอย่างไร ? ”
หลินเจียอินชี้นิ้วไปที่หลิวซือกั๋วทันที เธอพูดว่า “ถ้านายข้องใจก็ให้มาบอกกับฉันโดยตรง ไม่เห็นต้องยุแยงให้น้องชายของนายมามีปัญหากับฉันเลยนี่”
หลิวซือกั๋วไม่ตอบ แต่ถามย้อนกลับไปว่า “หรือว่าน้องชายของฉันพูดผิด ? ”
หลินเจียอินกล่าวว่า “ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็รู้ว่าน้องชายของนายหัวช้า การที่เขาวิ่งโร่ออกมาบอกว่าฉันเป็นคนโกหกหลอกลวงแบบนี้ มันจะทำให้ใครหลายคนคิดว่าฉันไปหลอกเขาจริง ๆ ได้นะ”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เธอได้พูดต่ออีกว่า “ตอนที่ฉันซื้อมันฝรั่งลูกเล็กของนาย เราสองฝ่ายต่างก็มีการเจรจาต่อรองราคากันแล้ว ตอนนี้นายรู้สึกเสียดายทีหลัง คิดว่าราคาที่ฉันให้มันต่ำเกินไปก็มาบอกที่ฉันสิ ทำไมถึงต้องบอกว่าฉันไปหลอกเขาด้วย แบบนี้มันทำลายชื่อเสียงของฉันนะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ผู้คนที่เฝ้าดูความตื่นเต้นต่างก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
ไม่ใช่เพราะความคลุมเครือระหว่างหลินเจียอินและหลิวซือหมิง แต่เป็นเพราะการขายมันฝรั่งลูกเล็ก
“ก็จริงอยู่ เธอซื้อมันในราคาชั่งละ 5 หลี แล้วก็ขายไปในราคา 8 เหมา ใจดำจริง ๆ ”
“ถ้าฉันขายมันฝรั่งให้เธอ ฉันก็โกรธเหมือนกัน”
“พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกเสียทีเดียวนะ ในอดีตไม่มีใครต้องการมันฝรั่งลูกเล็ก ขนาดขายชั่งละ 1 หลียังไม่มีใครเขาซื้อเลย หลินเจียอินสามารถจ่ายให้ในราคาชั่งละ 5 หลีก็ถือว่าไม่เลวแล้ว อย่างน้อยพวกเราก็ยังได้เงินมาใช้จ่ายในครอบครัว แทนที่จะปล่อยให้เน่าเสียหรือเอาไปให้หมูกิน”
”ใช่ มันเป็นความสามารถของเธอที่จะขายออกไปในราคาตกชั่งละ 8 เหมา”
“หลิวซือกั๋วก็โลภเกิน เขาอิจฉาจนทนดูคนอื่นมีเงินเยอะไม่ได้”
“จะว่าหลิวซือกั๋วเสียทีเดียวก็ไม่ได้ ในเมื่อเธอสามารถทำเงินจากการขายมันฝรั่งได้มากถึงชั่งละ 8 หยวน ตอนมารับซื้อพวกเราก็ควรให้ราคาดีกว่านี้หน่อยสิ ทำไมต้องกดราคากันด้วย”
“ใช่ ทุกคนต่างก็เป็นคนรู้จักมักคุ้นกันทั้งนั้น น่าจะเพิ่มราคารับซื้อให้หน่อย”
“มันก็มากแล้วนะ ปกติเวลาเราเอามันฝรั่งลูกใหญ่ไปขายในตลาดได้ราคาแค่ 8 หลีเท่านั้น มันฝรั่งลูกเล็กได้ราคา 5 หลีก็ถือว่าใช้ได้แล้ว”
“……”
ชาวบ้านที่ออกมาดูเหตุการณ์ต่างคนต่างความคิดกันไป เมื่อพวกเขารู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ต่างคนก็ต่างพูดกันไปตามความคิดของตน
บางคนที่ขายมันฝรั่งลูกเล็กไปแล้วถึงกับจงใจพูดเสียงดังเพื่อให้หลินเจียอินได้ยิน
จู่ ๆ หลินเจียอินก็รู้สึกว่ามีคนมากมายกำลังต่อสู้กับเธอ มันทำให้เธอรู้สึกเสียใจมาก
เธอจึงพูดกับหลิวซือกั๋วว่า “แล้วนายต้องการอะไร ? ”
หลิวซือกั๋วกล่าวว่า “พวกเราต่างก็เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันทั้งนั้น ฉันเองก็ไม่อยากให้มันเสียความรู้สึก ฉะนั้นเธอเพิ่มราคารับซื้อให้คนที่ขายมันฝรั่งลูกเล็กให้เธอก็พอแล้ว”
เมื่อเขาพูดมาแบบนี้ เขาก็ได้รับความเห็นดีเห็นงามจากบรรดาคนที่ขายมันฝรั่งลูกเล็กให้หลินเจียอินทันที
“ถูกต้อง ทำเงินได้เยอะขนาดนั้นก็ควรเพิ่มราคาให้พวกเราหน่อยสิ”
“อืม อย่างน้อยก็เพิ่มเป็น 1 เหมา”
“เพิ่มเป็น 2 เหมายังไม่มากเกินไปด้วยซ้ำ”
“……”
จาก 5 หลีต่อชั่งเพิ่มเป็น 8 เหมาต่อชั่ง กำไรมากกว่า 100 เท่าแบบนี้ ใครบ้างไม่อิจฉา ?
ใครบ้างไม่อยากให้เพิ่มเงิน ?
หลินเจียอินตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ เธอจึงถามหลิวซือกั๋วอย่างเย็นชาว่า “งั้นนายต้องการเพิ่มเท่าไหร่ ? ”
หลิวซือกั๋วโบกมือและพูดว่า “เธอเพิ่มให้พวกเราเป็นชั่งละ 7 เหมา ส่วนเธอเอากำไรไปชั่งละ 1 เหมาก็น่าจะพอแล้วใช่ไหม ? ”
? ? ?
พื้นที่บริเวณนี้ดูเหมือนจะเงียบสงัดลงในทันที บรรยากาศโดยรอบดูจะน่าอึดอัดขึ้นมาไม่น้อย
แม้แต่คนที่โห่ร้องขอเงินเพิ่มก็เบิกตากว้าง มองดูหลิวซื่อกั๋วด้วยความเหลือเชื่อ
นี่……นี่เขาโลภเกินไปหน่อยแล้วหรือเปล่า !
เขาจะขายมันฝรั่งลูกเล็กให้หลินเจียอินในราคาชั่งละ 7 เหมา แม้แต่พวกเขายังไม่กล้าคิดถึงเรื่องนี้
เมื่อเห็นว่าทุกคนตกตะลึง หลิวซือกั๋วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิ่มเอมใจจึงตะโกนต่อไปว่า “ฉันขายมันฝรั่งลูกเล็กให้เธอไป 475 ชั่ง เธอให้เงินฉันมาแล้ว 2.38 หยวน งั้นเธอต้องจ่ายฉันเพิ่มอีก 330.12 หยวน”
เขาจงใจหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็แสร้งทำเป็นพูดอย่างภูมิใจว่า: เศษไม่นับ เธอให้ฉันมา 330 หยวนก็พอ”
330 หยวน !
นี่เป็นจำนวนเงินที่สามารถทำให้ทุกคนในเจียงวานตกตะลึงได้อย่างแน่นอน
ผู้ที่ขายมันฝรั่งลูกเล็กให้หลินเจียอินต่างเริ่มคำนวณในใจว่าพวกเขาขายมันฝรั่งที่บ้านได้กี่ชั่ง และพวกเขาจะสามารถได้เงินเพิ่มกี่ร้อยหยวน
หลายคนที่เริ่มคำนวณต่างแสดงท่าทีตื่นเต้นเหมือนกับว่าเงินนับร้อยหยวนมากองอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
ถ้าได้เงินเพิ่มมาหลักร้อยหยวนจริง แบบนี้พวกเขาก็รวยแล้วน่ะสิ ?
“อะไรนะ ? ”
หลินเจียอินแทบจะอาเจียนเป็นเลือดเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ เธอจึงพูดด้วยความโกรธว่า “หลิวซือกั๋ว นายหน้าเงินเกินไปหรือเปล่า ? ”
“ฉันจะบอกให้นะ มันไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน”
หลินเจียอินไม่ใช่คนโง่ ดังนั้นเธอจึงมองออกว่าหลิวซือกั๋วจงใจสร้างปัญหา
หลิวซือกั๋วกลับไม่ยี่หระ เขาพูดต่ออีกว่า “ถ้าเธอไม่เพิ่มเงินให้พวกเรา เธอก็ถือว่าเป็นคนโกหกหลอกลวง หลอกซื้อมันฝรั่งลูกเล็กของเราไปขายในราคาสูง เธอร่ำรวยบนความเหน็ดเหนื่อยของพวกเรา เธอไม่กลัวฟ้าจะลงโทษหรือไง ? ”
เสียงของเขาดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าของเขาที่ดูดุร้ายขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทำให้เจียงชานที่อยู่บนหลังของหลินเจียอินกลัวจนร้องไห้
”เจียอิน ไม่อย่างนั้นเธอก็เพิ่มราคาให้พวกเราหน่อยเถอะ”
“ถูกต้อง เจียอิน ถึงอย่างไรพวกเธอก็ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพิ่มให้เท่าไรก็ได้ ต่างก็เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันทั้งนั้น”
“……”
บางคนเริ่มที่จะโน้มน้าวใจ
แม้ว่าคนเหล่านี้คิดว่าความต้องการของหลิวซือกั๋วมากเกินไปที่จะให้เพิ่มเงินเป็นราคาชั่งละ 7 เหมา แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังคิดว่าในเมื่อเธอทำเงินได้มากขนาดนั้นก็ควรเพิ่มราคาให้พวกเขาหน่อย
อีกอย่าง เรื่องนี้ถือเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของพวกเขาด้วยเช่นกัน
ถ้าหากหลินเจียอินเพิ่มราคาให้ ต่อไปนี้พวกเขาก็จะทำเงินได้มากมายเวลาที่ขายมันฝรั่งลูกเล็กให้เธอ
เมื่อเห็นชาวบ้านที่มามุงดูต่างพูดเช่นนี้ หลินเจียอินรู้สึกกดดันและหมดหนทาง
ในตอนนี้ เธออยากให้เจียงเสี่ยวไป๋อยู่เคียงข้างเธอเหลือเกิน
ถ้าเขาอยู่ที่นี่ คนเหล่านี้คงไม่กล้ากดดันเธออย่างนี้