ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 501 : สร้างแรงกระตุ้น
ตอนที่ 501 : สร้างแรงกระตุ้น
เทคนิคการนวดเจ็ดประเภทหลักที่หลี่อิงจวิ้นกล่าวถึง ได้แก่ เทคนิคการนวดด้วยการเคลื่อนไหวบริเวณข้อมือ การนวดด้วยการถู การนวดด้วยการกด การนวดด้วยการเคาะ การนวดส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การนวดแบบสองท่าร่วมกันและการนวดแบบพิเศษ
เทคนิคการนวดด้วยการเคลื่อนไหวบริเวณข้อมือจะใช้นิ้วในการกด ดันและคลึงเป็นสำคัญ
เทคนิคการนวดด้วยการถูยังรวมถึงการผลัก การเคลื่อนไหว การถู การขูดเป็นต้น
เทคนิคการนวดด้วยการกดจะใช้ การนวด การกดจุด การดัน การบีบ การจับจุด และการสะบัด เป็นหลัก
เทคนิคการนวดด้วยการเคาะคือการเคาะด้วยฝ่ามือ ข้อมือ และจุดฝังเข็ม
การนวดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายคือการนวดที่เน้นให้ข้อต่อตามส่วนต่าง ๆ ผ่อนคลาย
เทคนิคการนวดแบบสองท่าร่วมกันเป็นการนำเทคนิคทั้ง 5 เทคนิคข้างต้นมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน
ส่วนเทคนิคการนวดด้วยท่าพิเศษ เช่น การนวดกดจุดหัวใจ วิธีใช้เท้าเหยียบคลึงเฉพาะจุด เป็นต้น
กว่าจะอธิบายทฤษฎีจบก็เกือบเที่ยงวันแล้ว
หวังผิงขับรถมาส่งอาหาร เจียงเสี่ยวไป๋จึงแนะนำหวังผิงให้รู้จักกับหลี่อิงจวิ้น จางหงหยูและคนอื่น จากนั้นทุกคนก็พักกินข้าวกลางวันกัน
หลังจากกินอาหารแล้ว หวังผิงก็เตรียมกลับ
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ถ้าบ่ายนี้นายไม่มีอะไรทำ นายสามารถอยู่เป็นคู่ซ้อมที่นี่ได้”
หวังผิงรู้สึกมีความสุข การเป็นคู่ซ้อมให้กับสาวงามมากมายถือเป็นงานที่คุ้มค่ามาก
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ล่ะ ฉันยังมีงานต้องทำ ฉันจะไม่สามารถมาเป็นคู่ซ้อมได้จนกว่าจะหลังสี่โมงเย็น”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยความโกรธว่า “นายจะมาที่นี่หลังสี่โมงเย็นไม่ได้ นายจะต้องไปรับเยี่ยนหงหลังจากเลิกงาน”
หวังผิงถอนหายใจและพูดว่า “งั้นฉันคงอดแล้วล่ะ ตอนนี้เธอท้องโตแล้ว ฉันต้องไปรับส่งเธอ”
แน่นอนว่าเจียงเสี่ยวไป๋เข้าใจสิ่งนี้และพูดว่า “แล้วเมื่อไหร่นายจะมีเวลาไปฝึกอบรมเรื่องศิลปะการชงชาให้พนักงาน ? ”
“ต้องรอหลังสองทุ่มไปแล้ว รอให้ฉันกินข้าวเย็นเสร็จแล้วถึงจะมาช่วยฝึกให้ได้”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดดูแล้ว ถึงอย่างไรคลับเฮาส์ดื่มชาสปาเท้าของเขาก็จะเปิดให้บริการจนถึงกลางคืนอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ารับและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นนายก็จัดการเองแล้วกัน อย่าทำให้เยี่ยนหงไม่อนุญาตให้นายออกไปข้างนอกในเวลานั้นเข้าล่ะ”
หวังผิงหัวเราะเบา ๆ “ไม่ต้องกังวล ไม่มีปัญหาแน่นอน”
หลังจากนั้น เขาก็เก็บข้าวของและขอตัวกลับไป
หวังผิงไม่สามารถเป็นคู่ซ้อมได้ ดังนั้นเจียงเสี่ยวไป๋จึงเป็นคู่ซ้อมต่อในยามบ่าย
หลี่อิงจวิ้นแบ่งพนักงานหญิงยี่สิบคนออกเป็นสองกลุ่ม สิบคนแรกให้ฝึกเป็นพนักงานนวดก่อน ส่วนอีกสิบคนที่เหลือให้เป็นคู่ซ้อม
เขาสาธิตให้เจียงเสี่ยวไป๋เห็นด้วยตัวเอง และขอให้พนักงานนวดสิบคนนวดตามที่เขาสาธิต
เพื่อความสะดวกในการเรียนรู้ หลี่อิงจวิ้นใช้มือของเจียงเสี่ยวไป๋ เพื่อสอนเทคนิคการนวดให้พนักงานนวดดู ไม่เพียงแต่เขาใช้วิธีกด ถู นวด และคลึงซ้ำ ๆ บนร่างกายของเขาเท่านั้น เขาต้องเหยียดแขนออกเพื่อให้พนักงานนวดมองเห็นได้ง่ายอีกด้วย
การเป็นคู่ซ้อมนวดช่างทรมานเจียงเสี่ยวไป๋จริง ๆ
การนวดแบบนี้ไม่ได้น่ารื่นรมย์เหมือนตอนเขาไปนวดทั่วไป เพราะเขากำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือช่วยสอนเท่านั้น เขาถูกนวดด้วยวิธีนวดแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง แต่หลี่อิงจวิ้นยังสาธิตการนวดที่ผิดให้พนักงานนวดฝึกหัดดู ทำให้เขาไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก
มีแค่ตอนหลี่อิงจวิ้นช่วยปรับท่าการนวดให้กับพนักงานนวดฝึกหัดเท่านั้น เขาถึงวางแขนลงและเคลื่อนไหวได้
บางครั้ง เวลาที่หลี่อิงจวิ้นปรับท่าทางการนวดให้พวกเธอ เขาไม่อยากนวดบนแขนหรือบ่าของพนักงานนวดสาว เขาจึงพาพนักงานนวดพวกนั้นมาข้าง ๆ เจียงเสี่ยวไป๋ โดยเขาสาธิตบนตัวเจียงเสี่ยวไป๋ก่อน แล้วค่อยให้พวกเธอฝึกตาม
เจียงเสี่ยวไป๋เจ็บปวดมากจนเขาสาบานว่าจะไม่เป็นคู่ซ้อมอีกแล้ว
ในที่สุด หลังจากที่รอให้หลี่อิงจวิ้นสอนเทคนิคการนวดด้วยการเคลื่อนไหวบริเวณข้อมือเสร็จ เดิมทีเขาคิดว่าจะรอดพ้นจากการเป็นคู่ซ้อมแล้ว แต่หลี่อิงจวิ้นสั่งให้พนักงานหญิงทั้งสองกลุ่มสลับบทบาทและเปลี่ยนรอบใหม่ การสอนจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
จนกระทั่งหลังสี่โมงเย็น ในที่สุดชั้นเรียนฝึกอบรมของวันนี้ก็เสร็จสิ้น
“ไม่คิดว่าการนวดจะเหนื่อยขนาดนี้ ! ”
“ใช่ แขนฉันเจ็บไปหมดแล้ว ! ”
“นิ้วของฉันไม่รู้สึกอะไรเลย มันชาไปหมดแล้ว”
“……”
จางหงหยู หยวนย่วน และคนอื่นรู้สึกว่าทั้งแขนและนิ้วของพวกเธอปวดระบมไปหมดแล้ว ทำให้พวกเธอต่างพากันบ่นออกมา
หลี่อิงจวิ้นกล่าวว่า “เมื่อพวกคุณเรียนนวดครั้งแรก มันก็เหมือนกับการวิ่งฝึกทหาร มันจะยากมากในสองสามวันแรก แต่จะง่ายขึ้นหลังจากสองสามวันนี้ไป”
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ สาว ๆ ทุกคนก็ถอนหายใจอีกครั้ง “โอ้ การฝึกทหารตลอดเวลาครึ่งเดือนเพิ่งจบลง คราวนี้ได้ฝึกแบบโหดอีกแล้ว”
หลี่อิงจวิ้นได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะ “โชคดีที่พวกคุณเคยผ่านการฝึกทหารมาครึ่งเดือนแล้ว ไม่อย่างนั้นวันนี้พวกคุณคงใช้เวลาฝึกนานกว่านี้ไปแล้ว”
“ต่อไปจะฝึกกันแบบนี้ทุกวัน พนักงานนวดแต่ละคนจะต้องฝึกไม่ต่ำกว่าหกชั่วโมง”
หลังจากที่ทุกคนได้ยินสิ่งนี้ พวกเธอก็แทบอยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นแบบนั้น จึงพูดขึ้นว่า “อดทนต่อความลำบากเพื่อให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ ต่อไปนี้พวกคุณต้องใช้ทักษะนี้หาเลี้ยงชีพ ฉะนั้นต้องตั้งใจฝึกจนชำนาญแล้ว พวกคุณถึงจะได้ทำงานเร็ว ๆ”
หลังจากหยุดกล่าวไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดต่อ “คนอื่นต้องจ่ายค่าเรียนให้อาจารย์เพื่อเรียนรู้วิชาความสามารถ แต่พวกคุณกำลังเรียนรู้ฟรี ทั้งยังได้เงินเดือน 300 หยวนต่อเดือน ทำไมพวกคุณถึงยังบ่นว่าเหนื่อยอยู่ล่ะ ? ”
จางหงหยูและคนอื่นเงียบเสียงลงทันทีหลังจากได้ยินสิ่งนี้
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองทุกคนแล้วพูดว่า “เงินเดือนปัจจุบันของพวกคุณคือ 300 หยวน แต่เมื่อพวกคุณเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ พวกคุณจะได้รับคอมมิชชั่น 3 หยวนต่อการนวดให้ลูกค้าหนึ่งคน หากพวกคุณให้บริการลูกค้าได้สี่หรือห้ารายต่อวัน ทุก ๆ วัน รายได้ของคุณจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 หยวน คำนวณดูแล้วตราบใดที่พวกคุณไม่เกียจคร้าน พวกคุณสามารถหารายได้ 500-600 หยวนต่อเดือนได้อย่างง่ายดาย”
ทันทีที่ได้ยินเรื่องเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น ทุกคนก็ตื่นเต้นอีกครั้ง
ฉันคิดว่าเงินเดือน 300 หยวนนั้นสูงอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีค่าคอมมิชชั่นด้วย
ทุกคนต่างมั่นใจว่าคิดถูกแล้วที่พวกเธอไม่เลือกที่จะลาออกไปก่อน
“เถ้าแก่เจียง ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่บ่นแล้วค่ะ ! ”
“เถ้าแก่เจียง ฉันจะตั้งใจฝึกฝนอย่างหนักและพยายามเรียนรู้ทักษะให้ได้โดยเร็วที่สุด และฉันจะเริ่มทำงานให้เร็วที่สุดค่ะ”
“เถ้าแก่เจียง พวกเราจะเริ่มทำงานได้เมื่อไหร่คะ ? ”
“เถ้าแก่เจียง…”
“……”
จางหงหยูและคนอื่นดูมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาทันที
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ เป็นอย่างที่เขาคิดไม่มีผิด เงินสามารถเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนทำงานหนักได้จริงด้วย
เขาพูดเสียงดังว่า “บริษัทได้จัดหอพักให้คุณข้างที่ทำงาน นับจากนี้ไปพวกคุณจะทำงานเป็นกะกลางวันและกะกลางคืน แต่ในช่วงฝึกจะต้องฝึกทั้งกลางวันและกลางคืน ตอนที่อาจารย์อยู่ อาจารย์จะสอนเทคนิคต่าง ๆ ให้พวกคุณ แต่ตอนที่ไม่มีอาจารย์ พวกคุณจะต้องฝึกเอง มีใครมีคำถามอะไรไหม ? ”
ทุกคนพูดเสียงดัง “ไม่มีค่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นก็ให้พวกเธอเลือกผู้รับผิดชอบมาสองคน
ในระหว่างการฝึกทหาร จางหงหยูและหยวนย่วนเป็นผู้นำทีมที่ได้รับเลือก และทุกคนยังคงอยากให้พวกเธอสองคนเป็นผู้นำเช่นเคย
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้คัดค้านและแต่งตั้งคนสองคนเป็นหัวหน้างานทันที โดยแต่ละคนจัดการดูแลคนในทีมของตัวเองอีกเก้าคน
หลังจากที่พวกเธอถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “หลังการฝึกอบรม คุณทั้งสองกลุ่มจะแข่งขันด้านทักษะในระหว่างการประเมิน ผู้ชนะจะพิจารณาจากคะแนนรวมของแต่ละกลุ่ม ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล 100 หยวน ฝ่ายที่แพ้จะต้องรับผิดชอบในการทำความสะอาดและดูแลสุขอนามัยของคลับเฮาส์เป็นเวลาหนึ่งเดือน”
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น พวกเธอก็เริ่มกดดันขึ้นมาทันที
ในขณะที่จางหงหยูและหยวนย่วนเรียกสมาชิกในทีมของตนเองมาเริ่มฝึกซ้อมอย่างกระตือรือร้น