ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 502 : ไปเจี้ยนหยาง
ตอนที่ 502 : ไปเจี้ยนหยาง
จางหงหยูและหยวนย่วนนำทีมไปฝึกซ้อม ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋ไปส่งหลี่อิงจวิ้นกลับบ้านก่อน
ระหว่างทาง หลี่อิงจวิ้นพูดว่า “เสี่ยวไป๋ ก่อนหน้านี้คุณบอกพนักงานเหล่านั้นว่าพวกเธอจะได้รับค่าคอมมิชชั่น 3 หยวนต่อการบริการลูกค้าหนึ่งคน มันคือเรื่องจริงใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “แน่นอน มันเป็นเรื่องจริง”
หลี่อิงจวิ้นมองที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยสีหน้าสงสัย เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “คุณแบ่งค่าคอมมิชชั่น 3 หยวนให้พนักงานนวดต่อลูกค้าหนึ่งราย แบบนี้คุณตั้งใจจะคิดค่าบริการลูกค้ารายหนึ่งเป็นเงินเท่าไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับเวลาที่ให้บริการ แต่ราคาเริ่มต้นคือ นวด 70 นาทีคิดเงิน 9.9 หยวน ! ”
จู่ ๆ หลี่อิงจวิ้นที่นั่งพิงพนักเก้าอี้อยู่ก็ลุกพรวดขึ้นมา เขามองเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยสายตาเหลือเชื่อ “คุณไม่คิดค่าบริการแพงไปเหรอ ? 9.9 หยวนไม่ต่างอะไรจาก 10 หยวนเลยรู้ไหม ? และเงิน 10 หยวนเท่ากับเงินเดือนของคนทำงานธรรมดาเกือบครึ่งเดือนเลยนะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “คุณบอกว่านั่นเป็นเงินเดือนครึ่งเดือนของคนทำงานธรรมดา และคลับเฮาส์ที่ผมเปิดไม่ได้มีกลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มคนที่ทำงานธรรมดา”
หลี่อิงจวิ้นพูดว่า “แล้วคุณจะไปเอาลูกค้ามาจากไหน ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมจะพาเพื่อน ๆ ของผมไปลองใช้บริการฟรีดูก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยให้พวกเขาจ่ายเงินรับบริการเอง หรือไม่หากในอนาคตมีคนจ่ายเงินเพื่อซื้อบริการนวดให้พวกเขา แบบนั้นก็ได้เช่นกัน”
หลี่อิงจวิ้นกล่าวว่า “คุณรับพนักงานนวดมาตั้ง 20 คนเชียวนะ คุณบอกพวกเธอไปแล้วว่าให้พวกเธอทำงาน 5-6 ชั่วโมงต่อวัน แบบนี้พวกเธอมีแขกเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “พนักงานนวดไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น เดี๋ยวผมจะคัดคนให้เป็นพนักงานชงชาอีก 4 คน พนักงานนวดจะเหลือแค่ 16 คนเท่านั้น ต่อให้พวกเธอทำงานคนละ 6 ชั่วโมงต่อวัน แต่ลูกค้าก็คงไม่ถึง 100 คนต่อวัน ไม่ต้องกังวล ถึงเวลานั้นเมื่อมีลูกค้ารอห้อง รอพนักงานนวด จำนวนลูกค้าที่พวกเธอต้องให้บริการก็จะไม่ได้มีเยอะขนาดนั้นแล้ว”
หลี่อิงจวิ้นมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋อย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าเจียงเสี่ยวไป๋ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?
ใครจะยอมจ่ายเงินเกือบ 10 หยวนมาสปาเท้านวดตัวกัน ? หากไม่โง่ก็คงสมองกลับไปแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นความไม่เชื่อจากสายตาของหลี่อิงจวิ้น เขาจึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องการความสบาย ตราบใดที่คนเหล่านั้นได้สัมผัสประสบการณ์การบริการใหม่ล่าสุดของเราเพียงครั้งเดียว พวกเขาจะต้องติดใจแน่นอน”
หลี่อิงจวิ้นส่ายหัวแล้วพูดว่า “ถึงจะพูดอย่างนั้น ผมก็ยังคิดว่าค่าใช้จ่ายในการบริการของคุณสูงเกินไป ! แม้ว่าผู้คนจะอยากหาความผ่อนคลายให้กับตัวเอง แต่พวกเขาก็ต้องมีความสามารถทางการเงินด้วย”
“อีกอย่าง มันเป็นแค่การนวดไม่ใช่เหรอ ? ”
“ผมไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันน่าเพลิดเพลินอะไรขนาดนั้น”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเสียงดัง “นั่นเป็นเพราะคุณเข้าใจแค่เทคนิค แต่ไม่เข้าใจการบริการ เมื่อคุณสอนทักษะให้แก่พนักงานนวดจนพวกเธอชำนาญ ผมจะเพิ่มทักษะการบริการลงไปด้วย แล้วถึงตอนนั้นคุณก็จะรู้เอง”
หลี่อิงจวิ้นมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋อย่างสงสัยและพูดว่า “ตกลง ยังไงซะคุณก็ลงทุนแล้ว แม้ว่าผมจะไม่ได้ส่วนแบ่งก็ตาม แต่แค่เงินเดือนละ 500 หยวนก็ทำให้ผมหนีไปไหนไม่ได้แล้ว เพราะคนที่ขาดทุนไม่ใช่ผม”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “เชื่อผมเถอะว่าในอนาคตคุณจะไม่แยแสเงินเดือน 500 หยวนนั้นอีกแล้ว”
แน่นอนว่าหลี่อิงจวิ้นไม่เชื่อ แต่ต่อมาเมื่อเขากลายเป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคของคลับเฮาส์เครือสปาเท้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และได้รับเงินปันผลจากร้านสาขามากกว่า 3,000 แห่ง เขาก็จะนึกถึงบทสนทนาในรถ และตระหนักว่าคนหนุ่มสาวนั้นมองการณ์ไกลได้แค่ไหน
แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋ไปส่งหลี่อิงจวิ้นที่บ้าน เขาก็พูดว่า “ผมไม่เข้าร่วมการฝึกรอบค่ำแล้วนะ เดี๋ยวผมจะขอให้หวังผิงมารับคุณตอนสองทุ่มหลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ การฝึกจะเริ่มตั้งแต่เวลาสองทุ่มถึงสี่ทุ่ม”
“ไม่มีปัญหา ! ” หลี่อิงจวิ้นเห็นด้วยและพูดว่า “ทำไมไม่อยู่กินข้าวเย็นที่บ้านผมก่อนแล้วค่อยกลับล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กลอกตามองเขา “ภรรยาและลูกสาวของผมยังรออยู่ที่ออฟฟิศ ! ”
หลี่อิงจวิ้นยิ้มและพูดว่า “เอาล่ะ ไปทำงานของคุณเถอะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ขอตัวกลับแล้วออกไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงิน 5,000 หยวนก่อน เมื่อเขากลับไปที่โรงงานเครื่องปรุงรสก็เป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้ว
เมื่อเขาลงจากรถและเห็นรถบรรทุก รุ่น 130 ของหวังผิงจอดอยู่ที่ประตูสำนักงาน เขาก็รู้ว่าหวังผิงมาถึงแล้ว
หลังจากเข้าไปในสำนักงาน อันดับแรกเขามอบเงิน 4,200 หยวนให้เฝิงเยี่ยนหงเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเหมียววาน จากนั้นพูดกับหวังผิงว่า “ทางนั้นจะมีรอบฝึกต่อในช่วงค่ำ นายกลับบ้านไปกินอาหารเย็นแล้วก็ออกไปรับหลี่อิงจวิ้นมาด้วยล่ะ”
หวังผิงพยักหน้าเห็นด้วย เขาขอที่อยู่ของหลี่อิงจวิ้นและจดบันทึกไว้
และทุกคนก็กลับบ้านของตนเอง
วันรุ่งขึ้น เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ไปที่คลับเฮาส์ในเหมียววาน แต่พาหลินเจียอินและเจียงชานไปที่เจี้ยนหยาง
ก่อนที่จะไปหมู่บ้านซานฮวา พ่อตาของเขาโทรบอกให้เขามาที่นี่บ้าง
เมื่อหลิวอี้ถิงเห็นหลินเจียอินกลับมาพร้อมกับท้องโต เธอก็ดีใจและกังวลไปพร้อม ๆ กัน เธอบ่นว่า “ตอนนี้ลูกมีท้องโตมากแล้ว ทำไมลูกถึงยังนั่งรถมาที่นี่ล่ะ ! ”
หลินเจียอินกล่าวว่า “ไม่เป็นไรค่ะแม่ เสี่ยวไป๋เขาค่อย ๆ ขับมา”
หลิวอี้ถิงพูดด้วยความเป็นห่วงว่า “คราวหลังอย่าเดินทางไกลอีก ค่อยไว้มาเยี่ยมพ่อกับแม่หลังคลอดลูก”
หลินเจียอินกล่าวว่า “ไม่ได้ค่ะแม่ ตอนนี้หนูเพิ่งตั้งท้องได้ไม่ถึงห้าเดือน และอีกสองเดือนก็จะถึงเทศกาลตรุษจีนแล้ว ไม่ว่าอย่างไรหนูก็ต้องมาที่นี่เพื่ออวยพรปีใหม่ให้กับพ่อแม่”
ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เธอและเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้กลับมาอวยพรปีใหม่เลย ในปีนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นแล้ว และเธอเองก็อยากกลับบ้านมาอวยพรปีใหม่ให้พ่อกับแม่ของเธอด้วยตัวเอง
เพื่อไม่ให้แม่ของเธอห้ามอีก เธอต้องพูดดักทางแม่ของเธอไว้ก่อน
หลิวอี้ถิงได้ยินเช่นนั้นก็หมดหนทางที่จะห้ามลูกสาว
เธอรู้ว่าลูกสาวของเธอคิดอะไรอยู่
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มแล้วพูดว่า “แม่ยายครับ ไม่เป็นไร ผมจะขับรถให้ระวังมากขึ้นครับ”
หลิวอี้ถิงกล่าวว่า “ในเมื่อพูดเช่นนั้นก็ขึ้นอยู่กับพวกลูก ! คราวนี้จะอยู่ที่นี่กี่วันหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมว่าจะมาดูงานที่พ่อเตรียมการ หากไม่มีเรื่องอะไร ผมจะกลับพรุ่งนี้”
หลิวอี้ถิงขมวดคิ้วและพูดว่า “มาที่นี่แค่วันเดียวยังจะพาเจียอินกลับมาอีก ถ้าไม่มีธุระอะไรเร่งด่วนก็อยู่ต่อ อีกสองวันก่อนค่อยกลับ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมจะกลับไปก่อน เจียอินจะอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน”
“คุณยายคะ ป่าป๊าต้องพาหนูไปเจียงเฉิงอีก ดังนั้นหนูจะให้หม่าม๊ารออยู่ที่นี่ค่ะ ! ” เจียงชานพูดจากด้านข้าง
หลิวอี้ถิงมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋และพยักหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะไปที่เจียงเฉิง เขาคงไม่พาหลินเจียอินมาที่นี่ในครั้งนี้
หลิวอี้ถิงรู้สึกมีความสุขและพูดกับเจียงชานว่า “ชานชานไม่เคยไปเจียงเฉิงมาก่อน ทำไมหนูถึงตามป่าป๊าไปล่ะ ? อยู่ที่บ้านของคุณยาย รอป่าป๊ากลับมารับดีไหม ? ”
เจียงชานส่ายหัวและพูดว่า “ป่าป๊าขับรถคนเดียวน่าเบื่อ หนูจะไปกับป่าป๊า หนูจะได้พูดคุยเป็นเพื่อนป่าป๊าได้”
หลิวอี้ถิงกลอกตาของเธอแล้วพูดอย่างมีเลศนัย “หนูอยากไปกับป่าป๊าของหนูเองมากกว่า แถมยังคิดข้อแก้ตัวนี้ขึ้นมาด้วย หลานยายฉลาดจังนะ”
เจียงชานหัวเราะคิกคักเพราะถูกรู้ทัน
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้อยู่บ้านนาน เขาคุยกับแม่ยายสองสามคำ จากนั้นก็ขับรถไปยังที่ว่าการอำเภอ
เมื่อเดินผ่านห้องทำงานเล็ก ๆ ของหลี่ซิ่งฮวาและเห็นเขาหมกมุ่นอยู่กับการเขียนบางอย่าง เจียงเสี่ยวไป๋จึงเดินเข้าไปโดยตรงและเคาะนิ้วของเขาบนโต๊ะ
“เลขาหลี่ นายอำเภอหลินว่างแล้วหรือยัง ? ”
ทันใดนั้น หลี่ซิ่งฮวาก็เงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าเป็นเจียงเสี่ยวไป๋ เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า “พี่เจียงนี่เอง ฉันขอโทษ ตอนนี้ฉันยุ่งมากเลยไม่เห็นว่าพี่เข้ามา”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร แล้วยื่นบุหรี่จงฮั๋วให้เขา
หลี่ซิ่งฮวารับมันไว้แล้วพูดว่า “พี่โชคไม่ดีที่มาเวลานี้ นายอำเภอหลินและรองนายอำเภอหลี่กำลังหารือเรื่องบางอย่าง กรุณารอสักครู่นะครับ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เชิญให้เจียงเสี่ยวไป๋นั่งลงแล้วไปชงชาให้
เจียงเสี่ยวไป๋ขอบคุณเขาและเริ่มพูดคุยกับหลี่ซิ่งฮวา
เขาถามเกี่ยวกับการก่อสร้างพื้นที่ชนบทใหม่ในอำเภอเจี้ยนหยางเป็นหลัก และได้รู้จากหลี่ซิ่งฮวาว่าอำเภอเจี้ยนหยางก็เลือกสถานที่สำหรับโครงการนำร่องเช่นเดียวกับเมืองชิงโจว
หลี่ซิ่งฮวากล่าวว่า “หมู่บ้านต้าชิ่งประสบเหตุเพลิงไหม้ครั้งที่แล้ว รัฐบาลจึงตัดสินใจนำโครงการนำร่องการก่อสร้างชนบทใหม่ไปลงที่นั่น”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า อันที่จริงเขาไม่สนใจว่าอำเภอเจี้ยนหยางจะวางโครงการนำร่องการก่อสร้างชนบทใหม่ไว้ที่ไหน สิ่งที่เขาสนใจคือสาเหตุที่พ่อตาของเขาอยากให้เขามาที่นี่
ทางโทรศัพท์ พ่อตาของเขาไม่ได้พูดอะไร ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะถามหลี่ซิ่งฮวาก่อน
เขาพูดว่า “เลขาหลี่ คุณรู้ไหมว่าทำไมนายอำเภอหลินจึงเรียกฉันให้มาที่นี่ในครั้งนี้ ? ”
หลี่ซิ่งฮวาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “พี่เจียง นายอำเภอหลินไม่ได้บอกพี่เหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหน้า
หลี่ซิ่งฮวาจึงกล่าวว่า “ในเมื่อนายอำเภอหลินไม่ได้บอกพี่ อย่างนั้นผมก็ไม่สะดวกที่จะบอกพี่ ผมบอกได้แค่ว่ามันเป็นเรื่องดีแน่นอน”
ทันทีที่เขาพูดจบ ประตูห้องทำงานของหลินต้าเหว่ยก็เปิดออก และหลี่กังก็เดินออกไป
“สวัสดีครับรองนายอำเภอหลี่ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยืนขึ้นเพื่อทักทายและยื่นบุหรี่จงฮั๋วให้
หลี่กังรับมันด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “คุณเจียงเองหรือ ? ฉันกำลังคุยกับพ่อตาของคุณเรื่องคุณพอดี ช่างบังเอิญเสียจริง พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา”
เห็นได้ชัดว่าหลี่กังกำลังอารมณ์ดี
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดติดตลกว่า “รองนายอำเภอหลี่ ผมไม่ใช่โจโฉนะครับ”
หลี่กังหัวเราะเสียงดัง “เอาล่ะ ฉันจะไม่ถ่วงเวลาคุณแล้ว รีบเข้าไปข้างในเร็ว พ่อตาของคุณกำลังรอคุณอยู่”
“ครับ แล้วพบกันใหม่ครับรองนายอำเภอหลี่ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวทักทายและเดินไปที่ห้องทำงานของหลินต้าเหว่ย