ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 516 : แนะนำให้รู้จักกับคนมีอำนาจ
ตอนที่ 516 : แนะนำให้รู้จักกับคนมีอำนาจ
ติงจวิ้นเจี๋ยนั่งลงข้าง ๆ เจียงเสี่ยวไป๋ทันที
เจียงเสี่ยวไป๋เทชาลงในถ้วยชาเปล่า เอาไปวางไว้ข้างหน้าของติงจวิ้นเจี๋ยแล้วพูดว่า “ดื่มชาให้ชุ่มคอก่อน”
“ขอบคุณพี่เจียง ! ”
ขณะที่พูดเช่นนี้ ติงจวิ้นเจี๋ยก็งอนิ้วชี้และนิ้วกลางของมือขวา และแตะข้อนิ้วบนโต๊ะน้ำชาเบา ๆ สามครั้ง
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มเมื่อเห็นท่าทางเงอะงะนี้ของเขา “ปกตินายก็ดื่มชาเหมือนกันหรือ ? ”
ติงจวิ้นเจี๋ยยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย “ผมแค่เคยดื่มชาเท่านั้น แต่ยังไม่เข้าใจวัฒนธรรมการดื่มสักเท่าไหร่หรอก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไม่สำคัญหรอก ถ้าดื่มบ่อย ๆ ก็จะสามารถเรียนรู้วิธีของมันไปได้เอง”
หลินเจียจวินเหลือบมองติงจวิ้นเจี๋ยแล้วพูดว่า “ในเมื่อเสี่ยวไป๋เรียกคุณว่าจวิ้นเจี๋ย งั้นฉันขอเรียกนายว่าจวิ้นเจี๋ยด้วยได้ไหม”
ติงจวิ้นเจี๋ยพูดว่า “พี่จวิน เรียกผมว่าเสี่ยวติงหรือจวิ้นเจี๋ยก็ได้ ตามที่พี่ต้องการเลยครับ”
หลินเจียจวินพยักหน้าและถามว่า “จวิ้นเจี๋ย นายมาจากชิงโจว แล้วตอนนี้นายอยู่แผนกไหน ? ”
ติงจวินเจี๋ยพูดว่า “ตอนนี้ผมอยู่แผนกเลขานุการครับ”
หลินเจียจวินสะดุ้งเล็กน้อย แล้วถามว่า “แล้วตอนนี้นายทำงานให้กับผู้นำคนไหนอยู่หรือเปล่า ? ”
ติงจวิ้นเจี๋ยกล่าวว่า “ผมเพิ่งมาที่นี่ได้ไม่นานมานี้ จึงยังไม่ได้ติดตามใครเป็นพิเศษ ทำแต่งานเอกสารทั่วไป ในสำนักงานใหญ่ครับ”
หลินเจียจวินมองไปที่ติงจวิ้นเจี๋ยแล้วมองสลับไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ เขาเกิดความคิดหนึ่งจึงพูดว่า “เสี่ยวไป๋จะมาทำอาหารที่บ้านของฉันตอนเย็นวันพรุ่งนี้ จวิ้นเจี๋ย ถ้านายว่างก็สามารถไปทานอาหารเย็นที่บ้านของฉันหลังเลิกงานได้นะ”
ฮะ ?
ติงจวิ้นเจี๋ยอ้าปากค้างทันที
เขาไม่เคยคาดหวังว่าหลินเจียจวินจะออกคำเชิญเช่นนี้
บ้านของหลินเจียจวินก็คือบ้านของหลินต้ากั๋วไม่ใช่เหรอ
แม้แต่เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่หลินเจียจวินด้วยความสับสน
หลินเจียจวินขมวดคิ้วเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทัังสองคน “ทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้น ? ”
หลังจากพูดจบ เขาก็พูดกับติงจวิ้นเจี๋ยว่า “ในเมื่อนายเป็นเพื่อนของเสี่ยวไป๋ การไปกินข้าวที่บ้านของฉันมันแปลกตรงไหน ? ”
จากนั้น เขาก็พูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ “พรุ่งนี้เตรียมอาหารอร่อย ๆ ให้ฉันด้วย เมื่อฉันไปรับลุงโฮ่วมาแล้ว ฉันจะไปรับจวิ้นเจี๋ยต่อ”
“พี่จวิน…..นี่…..พี่ไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ ! ” ติงจวิ้นเจี๋ยพูดด้วยน้ำเสียงอึกอัก ลิ้นของเขาเริ่มพันกันแล้ว
หลินเจียจวินหัวเราะเบา ๆ “อย่าตกใจไปเลย พ่อของฉันไม่ใช่เสือ เขากินคนไม่ได้หรอก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปพูดกับติงจวิ้นเจี๋ย “ในเมื่อพี่จวินพูดแล้ว นายก็มาเถอะ ยังไงนายก็เคยเจอกับลุงรองแล้ว และครั้งล่าสุดที่เราได้ทานอาหารเย็นด้วยกันก็คือที่บ้านของฉัน”
“ถ้าอย่างนั้น……ขอบคุณนะครับพี่จวิน ! ” ติงจวิ้นเจี๋ยพูดด้วยความตื่นเต้น
หลินเจียจวินยิ้ม “ในเมื่อนายเรียกฉันว่าพี่จวินแล้ว ทำไมยังเกรงใจกับเรื่องแค่นี้อีก ? ”
เพื่อไม่ให้พูดถึงหัวข้อนี้อีกต่อไป เขาจึงพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “เอ้อ เสี่ยวไป๋ เมื้อกี้ตอนที่จวิ้นเจี๋ยเข้ามา นายกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่นะ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมบอกว่าพี่เป็นคนกว้างขวาง พอจะรู้จักใครที่เก่งบัญชีและกฎหมายบ้างไหม ? ”
หลินเจียจวินพยักหน้ารับ และพูดว่า “เมื่อกี้ฉันไม่ได้สนใจเรื่องที่นายพูดจริง ๆ ”
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวว่า “แต่ถ้านายต้องการคนที่มีความสามารถในสาขานี้ นายสามารถถามพี่ชายของฉันได้ในวันพรุ่งนี้ เขาทำงานอยู่การรถไฟแห่งประเทศมาหลายปีแล้ว ได้จัดการกับเรื่องการเงินและกฎหมายมากมาย เขาน่าจะรู้จักคนพวกนี้อยู่บ้าง”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ได้ครับ พรุ่งนี้ถ้าสะดวก ผมจะลองถามดู”
หลินเจียจวินมุ่ยปากแล้วพูดว่า “นายจะถามแค่ตอนสะดวกไหมเท่านั้นเหรอ หากนายไม่กล้า งั้นถ้าคืนนี้กลับไป ฉันจะถามให้เอง”
“ดีเลย ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ไม่เกรงใจอีกต่อไป “ถ้าอย่างนั้นก็ถามให้ผมที”
ทันใดนั้น หลินเจียจวินก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อยและพูดว่า “ฉันถามให้นายได้ แต่ตามที่สัญญาไว้ นายเป็นหนี้บุญคุณฉันอีกอย่างหนึ่งแล้วนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ “ถ้าติดค้างคนอื่นก็ว่าไปอย่าง แต่ติดค้างพี่ผมไม่เป็นไร ต่อให้ติดหนี้มากหน่อยก็ไม่เป็นไร”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็มองไปที่ติงจวิ้นเจี๋ยและพูดว่า “จวิ้นเจี๋ย นายรู้ไหม ? อย่ากลัวการเป็นหนี้บุญคุณใคร วันนี้นายเป็นหนี้บุญคุณฉัน พรุ่งนี้ฉันอาจเป็นหนี้บุญคุณนาย หลังจากนั้นก็ถือว่ามันจบกัน สิ่งต่าง ๆ จะเป็นไปอย่างราบรื่น”
ติงจวิ้นเจี๋ยคิดอยู่ครู่หนึ่งและเข้าใจว่ เจียงเสี่ยวไป๋กำลังหมายถึงอะไร เขาจึงพูดด้วยท่าทีขอบคุณ “พี่เจียง ผมเข้าใจแล้ว ! ”
จากนั้น ทั้งสามก็ดื่มชาและพูดคุยกันจนถึงเกือบหนึ่งทุ่ม หลินเจียจวินพูดว่า “แค่ดื่มชามันไม่อิ่มหรอก ไปกินข้าวกันเถอะ ! ”
ติงจวิ้นเจี๋ยได้ยินแบบนั้นก็พูดขึ้นทันที “พี่จวิน พี่เจียง อยากกินอะไรล่ะ ? วันนี้ให้ผมเลี้ยงเอง”
หลินเจียจวินยิ้ม “เจียงเฉิงเป็นถิ่นของฉัน นายไม่จำเป็นต้องเลี้ยงพวกเราหรอก”
เจียงเสี่ยวไป๋ยังกล่าวอีกว่า “จวิ้นเจี๋ย เราคงไม่ไปกินร้านอื่นหรอก เราจะไปกินที่ร้านของเราเอง”
ติงจวิ้นเจี๋ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “พี่เจียง คุณเปิดร้านอาหารให้เจียงเฉิงด้วยเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ฉันเปิดร้านซีฟู๊ดกับพี่จวินในเจียงเฉิง”
“โอ้ ! ” ติงจวิ้นเจี๋ยอุทาน “ทั้งสองคนเป็นเจ้าของร้านซีฟู๊ดเองหรอ ไม่กี่วันก่อน ผมเดินผ่านร้านพอดี กลิ่นของมันลอยฟุ้งออกมา มันหอมมาก ! ”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ดมแค่กลิ่นจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ? วันนี้พี่จวินจะพานายไปกินเนื้อปูเอง”
ทั้งสามคนลุกขึ้นและออกจากห้องส่วนตัวไป
“ไม่ทราบว่าทั้งหมดนี้เท่าไหร่ครับ ? ” หลินเจียจวินถาม
เจ้าของร้านเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม “ทางเราไม่คิดเงินค่ะ ! ”
หลินเจียจวินสะดุ้งอยู่ครู่หนึ่ง และมองไปที่เจ้าของร้าน เธออายุ 30 ปี มีรูปร่างอวบ ผิวขาวและดวงตาสีพีชที่ดูเหมือนเต็มไปด้วยคลื่นแห่งฤดูใบไม้ผลิ
เธอพูดติดตลก แต่หลินเจียจวินก็ใช้ประโยชน์จากมันโดยไม่ลังเล เขาหัวเราะและพูดว่า “ในเมื่อไม่คิดเงิน งั้นถือว่าให้พวกผมกินฟรีนะครับ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองหลินเจียจวินด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะชอบจีบผู้หญิงอวบ เขาขี้เกียจเกินไปที่จะฟังเสียงออดอ้อนของพวกเขาทั้งคู่ จึงพูดตัดบทอย่างรวดเร็วว่า “เจ้าของร้านครับ ชาราคาเท่าไหร่ ? ”
เจ้าของร้านปรับสีหน้าของเธอให้จริงจังขึ้นและพูดว่า “คุณเจียง เพื่อนของคุณจ่ายค่าชาก่อนเข้าห้องส่วนตัวมาแล้วค่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋หันหน้าไปทางติงจวิ้นเจี๋ยแล้วยิ้ม “เอาล่ะ งั้นเราก็ออกจากร้านได้ ! ”
“ขอให้ทั้งสามเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพค่ะ ! ”
เจ้าของร้านโค้งคำนับและส่งทั้งสามออกร้านไปอย่างสุภาพ
พวกเขาทั้งสามเดินออกไปไม่ไกล หลินเจียจวินก็พูดว่า “จวิ้นเจี๋ย ครั้งต่อไปนายไม่ต้องทำแบบนี้อีกนะ”
“พี่จวิน ผมเข้าใจแล้ว ! ” ติงจวิ้นเจี๋ยพูดด้วยรอยยิ้ม
เจียงเสี่ยวไป๋เหลือบมองหลินเจียจวินแล้วพูดว่า “อย่าพูดถึงคนอื่นเลย พูดถึงพี่ดีกว่า ทำไมถึงไปจีบเจ้าของร้านน้ำชาล่ะ ? พี่อยากเป็นโจรโจงั้นเหรอ ? ”
“โจรโจ ? ”
โจโฉจะปรากฏในหนังสือวรรณกรรมหลังจากนี้ จึงทำให้เวลานี้ หลินเจียจวินไม่เข้าใจ
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “พี่ไม่ได้ดูสามก๊กเหรอ ? ”
หลินเจียจวินดูเหมือนจะตระหนักได้ทันที “โอ้ นายหมายถึงโจโฉ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม เขาหยุดพูดเรื่องนี้แล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ ผมหิวแล้ว”
ร้านซีฟู๊ดอยู่ไม่ไกลจากโรงน้ำชาจิงเฉอ และทั้งสามคนก็มาถึงหลังจากนั้นไม่นาน
“เถ้าแก่เจียง หัวหน้าทีมเก่า ! ” หยูเสี่ยวเล่อต้อนรับทั้งสามคนเข้าไปในร้านด้วยรอยยิ้มและถามว่า “วันนี้พวกคุณจะกินอะไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เอาเมนูแนะนำของทางร้านสามจาน แล้วก็เมนูผัดอีกสองอย่าง คุณจะทำอะไรก็ได้ตามที่คุณสะดวก”
“ตกลงครับ” หยูเสี่ยวเล่อตอบตกลงแล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าเอาปูขนกี่ตัวครับ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เอาปูตัวเมียหกตัว”
หยูเสี่ยวเล่อพยักหน้า เขารับออเดอร์มาแล้วส่งต่อให้พ่อครัวทันที