ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 52 :ถอดเสื้อผ้าจับแขวนไว้บนต้นพลับ
ตอนที่ 52 :ถอดเสื้อผ้าจับแขวนไว้บนต้นพลับ
ถามมาได้ว่าจะทำอะไร ?
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะเยาะและเตะประตูอีกครั้ง
“เปิดประตูให้ฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะพังประตูเข้าไป อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าทำ”
ประตูบ้านเรือนในชนบททำมาจากไม้ทั้งหมด จะทนแรงเตะแรงถีบได้กี่ทีกัน ?
หลิวซือกั๋วได้ยินแบบนั้นก็รีบพูดว่า “ถ้านายมีอะไรก็พูดมาเลย ไม่เห็นต้องถีบประตูเลยนี่ ? ”
“เปิดประตูให้ฉัน”
ได้ยินแบบนั้นเขาจึงไม่กล้ารอช้า หลิวซือกั๋วรีบกุลีกุจอมาเปิดประตู มิฉะนั้นเขากังวลจริง ๆ ว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะถีบประตูจนพัง
ทันทีที่ประตูเปิดออก เจียงเสี่ยวไป๋ก็พุ่งไปและชกเข้าที่ใบหน้าของหลิวซือกั๋ว ทำให้หลิวซือกั๋วเหมือนเห็นดาวลอยวนอยู่ตรงหน้า จมูกของเขามีเลือดไหลออกมาด้วย
“ทำร้ายคนอื่นงั้นหรือ เจียงเสี่ยวไป๋นักเลงหัวไม้บุกมาทำร้ายคนที่บ้านฉัน ! ”
เมื่อเห็นหลิวซือกั๋วถูกทำร้าย จูเยี่ยนผิงรีบวิ่งเข้าไปดึงเจียงเสี่ยวไป๋ เธอด่าทอและตะโกนเสียงดังในขณะที่ดึงเขา
“เจียงเสี่ยวไป๋ กล้าทำร้ายพี่ชายของฉันงั้นหรือ”
หลิวซือหมิงได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากบ้านพี่ชายก็ตกใจ
เขาวิ่งออกมาเห็นเจียงเสี่ยวไป๋กำลังชกต่อยหลิวซือกั๋วพอดี จึงรีบวิ่งมาด้วยพร้อมกับตะโกนเสียงดัง
เจียงเสี่ยวไป๋ผลักจูเยี่ยนผิงออกไป และชกหลิวซือกั๋วกระแทกลงกับพื้นด้วยหมัดอีกข้าง ก่อนจะหันไปพูดกับหลิวซือหมิงว่า “ฉันไม่ได้มาเพื่อจัดการเขาเท่านั้น แต่ฉันจะจัดการนายด้วย”
พูดแล้ว เขาก็พุ่งเข้าใส่หลิวซือหมิง ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้วิ่งเข้ามาในบ้าน
ทั้งสองปะทะกันที่ลานบ้าน และเริ่มชกต่อยกัน
หลิวซือหมิงตัวสูงใหญ่ก็จริง แต่เมื่อต้องต่อสู้ เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจียงเสี่ยวไป๋เลย เขาถูกต่อยไป 3-5 ทีก็ล้มลงกับพื้นแล้ว
ในเวลานี้ เพื่อนบ้านใกล้เคียงต่างก็ออกมาดูเหตุการณ์เช่นกัน
เมื่อเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋กำลังทุบตีพี่น้องตระกูลหลิวจนหน้าบวมช้ำเลือดออก พวกเขาทั้งหมดต่างวิ่งไปพยายามเกลี้ยกล่อม เพราะกลัวว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะพลั้งมือฆ่าสองพี่น้องคู่นั้น ทั้งเฉินหยวนชาง เฉินหยวนเซิ่ง หยางจ่างฮุย และหยางซื่อหยุนต้องช่วยกันดึงถึงสี่คน กว่าจะแยกเจียงเสี่ยวไป๋ออกมาได้
“บอกแล้วว่าอย่าไปมีเรื่อง ทำไมไม่ฟัง ? ”
เจียงไห่หยาง เจียงเสี่ยวเฟิง และเจียงเสี่ยวเหลยมาถึงแล้ว เมื่อเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋ได้ทำร้ายสองพี่น้องตระกูลหลิว เจียงไห่หยางก็อดไม่ได้ที่จะดุด่าลูกชายของตนเอง
ทันทีที่จูเยี่ยนผิงเห็นคนมามากมายขนาดนี้ รวมถึงพวกเจียงไห่หยางด้วย เธอก็เริ่มด่าทออย่างสาดเสียเทเสีย
“เจียงเสี่ยวไป๋ ไอ้สารเลว ทุบตีคนในบ้านเราจนเกือบตาย
เพื่อนบ้าน นี่จะแค่มองดูเขาทุบตีพวกเราอย่างนั้นหรือ?
เราถูกรังแก ทุกคนต้องช่วยคืนความยุติธรรมให้พวกเราด้วย”
เธอนั่งแหมะลงกับพื้น แล้วพูดไปพลางร้องไห้มีน้ำมูกน้ำตาดูน่าอนาถใจ
“ฉันไม่ได้ตีเธอ เธอจะร้องไห้โหยหวนไปทำไม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตะคอกใส่ด้วยความขยะแขยง
“พูดมาได้ยังไงว่าไม่ตี ในเมื่อนายตบฉันตอนอยู่ในบ้านนั่น ฉันเข้ามาห้าม แต่นายก็ผลักฉันล้มลงกับพื้น”
“เจียงเสี่ยวไป๋ นายมันไม่ใช่สุภาพบุรุษ กล้าทำร้ายแม้กระทั่งผู้หญิง”
จูเยี่ยนผิงตบพื้นด้วยมือทั้งสองข้างพลางร้องไห้เสียงดัง
ในเวลานี้ เมื่อชาวบ้านที่พยายามเข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อม และชาวบ้านที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่เต็มบริเวณลานบ้านได้ยินว่าเจียงเสี่ยวไป๋ทำร้ายจูเยี่ยนผิง ทุกคนก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิเจียงเสี่ยวไป๋ทันที
“เจียงเสี่ยวไป๋ มีอะไรทำไมไม่คุยกันดี ๆ ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย ? ”
“ถ้านายมีปัญหากับพี่น้องตระกูลหลิว นายก็แค่พูดเจรจากับพวกเขา จูเยี่ยนผิงเป็นผู้หญิง นายไม่ควรไปทำร้ายเธอแบบนั้น”
“ใช่แล้ว ขนาดผู้หญิงยังทำร้ายได้ลงคอ เขานี่มันไม่สมควรเป็นผู้ชาย น่าจะเอาผ้าถุงมาสวมหัวนะ”
“ทำร้ายผู้หญิงมันดูน่าภาคภูมิใจมากหรือไง ? ”
“……”
เมื่อเห็นทุกคนพุ่งเป้าไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ จูเยี่ยนผิงจึงเสแสร้งให้ดูน่าสงสารยิ่งขึ้น
“ให้ตายเถอะเจียงเสี่ยวไป๋ ทำไมนายไม่ทุบตีฉันให้ตายไปเลยล่ะ ฆ่าฉันซะเลยสิ”
“เจียงเสี่ยวไป๋ นายกล้าตีแม้กระทั่งผู้หญิง ยังมีอะไรอีกที่นายไม่กล้าทำน่ะ ? ”
“……”
เจียงเสี่ยวไป๋รำคาญเสียงคนพวกนี้มาก
ถึงอย่างไร ผู้ชายไม่มีทางสู้กับมารยาของผู้หญิงได้เลย
ท้ายที่สุดแล้ว ถึงเขาจะเคยเป็นคนเหลวแหลกติดการพนันมาก่อน แต่เขาก็ไม่เคยทุบตีผู้หญิง
เขาเดินเข้าไปชี้จูเยี่ยนผิงและตะโกนเสียงดัง “ในเมื่อเธอยัดเยียดจะให้ฉันตีเธอให้ได้ งั้นเธอคิดว่าฉันจะสนใจงั้นหรือ ? ถ้าเธอยังเอาแต่หอนอยู่อย่างนี้ ฉันจะถอดเสื้อผ้าของเธอแล้วจับเธอแขวนไว้ที่ต้นพลับนั่น”
ที่ด้านล่างเนินบ้านของหลิวซือกั๋วมีต้นพลับเก่าแก่อยู่จริง ๆ เมื่อเขาพูดมาแบบนี้ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ต้นพลับนั้น
หากจูเยี่ยนผิงถูกจับถอดเสื้อผ้าและแขวนเปลือยกายบนต้นพลับจริง ๆ ในอนาคตเธอจะต้องอับอายแค่ไหน ?
พวกเขาทุกคนต่างตัวชาหัวชา
คราวนี้พวกเขานึกได้ทันทีว่าเดิมทีเจียงเสี่ยวไป๋เป็นคนเด็ดขาด พูดจริงทำจริง แล้วทำไมเขาจะไม่กล้าทำล่ะ ?
คนที่ตำหนิและด่าทอเขาไปก่อนหน้าต่างตัวสั่นขึ้นมา
“จูเยี่ยนผิง ลุกขึ้นเร็ว ๆ อย่าสร้างปัญหา”
“ใช่ เธอมีปัญหากับเจียงเสี่ยวไป๋แบบนี้ ไม่กลัวว่าจะทำจริง ๆ หรือ ? ”
“ลุกขึ้นเร็ว ๆ หรือจะปล่อยให้เขาแขวนเธอเปลือยกายบนต้นพลับ ! ”
“ใช่แล้ว ในเมื่อเขากล้าพูดออกมา เขาต้องกล้าทำแน่นอน”
“……”
ทุกคนไม่กล้าพูดถึงเจียงเสี่ยวไป๋อีกต่อไป และรีบโน้มน้าวจูเยี่ยนผิงแทน
ในตอนแรก จูเยี่ยนผิงกล้าที่จะแสดงความเสแสร้ง เพราะเธอเห็นว่าเพื่อนบ้านทั้งหมดของเธออยู่ตรงนี้ด้วย
แต่เมื่อเธอได้ยินเจียงเสี่ยวไป๋บอกว่าเขาจะถอดเสื้อผ้าของเธอและแขวนเธอไว้ที่ต้นพลับ เธอกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงร้องไห้อีกแล้ว
แต่หากปล่อยไป เธอก็เสียหน้าอีก
เมื่อเห็นว่าทุกคนมาเกลี้ยกล่อมเธอ เธอจึงถือโอกาสสงบอารมณ์ลง และด้วยการพยุงของเถียนเจียอิงภรรยาของเฉินหยวนชาง เธอลุกขึ้นและซ่อนตัวอยู่ข้างหลังทุกคนด้วยตัวสั่นเทาและไม่กล้าส่งเสียงใดอีก
เขาเดินไปคว้าหลิวซือกั๋วที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องโถงหลักแล้วลากออกมาที่ลานบ้าน
“เสี่ยวไป๋ ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย”
“ใช่ มีอะไรก็พูดคุยกันดี ๆ สิ”
เจียงไห่หยางและคนอื่น ๆ คิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋กำลังจะลงมืออีก ดังนั้นพวกเขาจึงรีบเกลี้ยกล่อมให้เจียงเสี่ยวไป๋สงบลง
“ไม่ต้องห่วง ผมยังไม่ตีเขาหรอก”
เจียงเสี่ยวไป๋ผลักหลิวซือกั๋วออกไป ขณะที่ตะโกนว่า “หลิวซือกั๋ว นายมีอะไรก็ให้มาคุยกับฉันต่อหน้า ทำไมต้องไปรังแกเมียฉันด้วย ? ”
หลิวซือกั๋วซวนเซสองสามครั้งถึงยืนนิ่งได้
หลังจากสัมผัสได้ถึงเลือดกำเดา เขาก็พูดอย่างติด ๆ ขัด ๆ ว่า “เมียของนายรับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กของฉันในราคาต่ำ ฉันแค่ไปหาเธอเพื่อพูดคุยสองสามคำ ไปรังแกเธอตอนไหน ? อ้อ หรือว่าเมียของนายกล้าทำเรื่องแบบนั้นออกมาได้ แต่ฉันจะว่าเธอบ้างไม่ได้สินะ ? ”
“เมียของฉัน นายไม่มีสิทธิ์ไปว่าเธอแบบนั้น ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างถืออำนาจ “ถ้านายยังกล้าพูดอีกครั้ง ฉันก็จะต่อยนายอีกครั้ง ! และหากครั้งหน้านายกล้ามาว่าเธอแบบนั้นอีก ฉันจะต่อยนายให้ฟันร่วงหมดปาก ! และถ้านายกล้าพูดจาให้ร้ายเธอเป็นครั้งที่สาม ฉันก็จะดึงลิ้นของนายออกมา ! ดูสิว่านายยังจะกล้ามาเล่นลิ้นแบบนี้อีกไหม ? ”
คำพูดนั้นพูดกับหลิวซือกั๋ว แต่เขากลับมองไปรอบ ๆ ดวงตาของเขากวาดไปที่ใบหน้าของทุกคนในลานคล้ายกับเป็นการเตือนทุกคนด้วย
ทุกคนก้มหน้าลงอย่างเลิ่กลั่กและมองหน้ากันโดยไม่รู้ตัว
เจียงเสี่ยวไป๋คนนี้โหดร้ายมาก เขาไม่เพียงแต่กล้าจะถอดเสื้อผ้าของจูเยี่ยนผิงออกแล้วแขวนเธอไว้ที่ต้นพลับเท่านั้น แต่เขายังกล้าพูดว่าจะชกให้ฟันร่วงหมดปากและดึงลิ้นของหลิวซือกั๋วออกมาด้วย
นอกจากนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ตั้งใจเตือนพวกเขาอย่างชัดเจน
ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มองทุกคนอย่างนี้
พวกเขาไม่ควรมีปัญหากับเจียงเสี่ยวไป๋
ยิ่งหลินเจียอินก็ยิ่งไม่ควรไปมีปัญหาด้วยเลย
ทุกคนในลานอดไม่ได้ที่จะมีความคิดนี้อยู่ในใจ
หลิวซือกั๋วกลัวมากจนถอยหลังไปสองสามก้าวและพูดด้วยตัวสั่นเทา “เจียงเสี่ยวไป๋ นายมันจะทำตัวกำเริบเสิบสาน คิดว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปหรือไง ถ้านายทำร้ายร่างกายฉัน ฉันจะไปแจ้งความที่สถานีตำรวจและให้ตำรวจจับนายเข้าคุก”
ดวงตาของเจียงเสี่ยวไป๋ฉายแววดุดัน เขาตะโกนว่า “ได้สิ เอาเลย นายวิ่งโร่ไปแจ้งความได้เลย แล้วเรามาดูกันว่าฉันหรือนายที่วิ่งเร็วกว่ากัน ? ในเมื่อฉันกล้าพูด ฉันก็จะไล่ตามไปจัดการนายให้น่วมได้เช่นกัน ยังไงนายก็หนีไม่รอดหรอก”
“หรือนายอยากจะลองดูก็ได้นะ ? ”
หลิวซือกั๋วตัวสั่นและเข่าทรุดลงกับพื้น
ช่างเป็นการลองที่น่ากลัวอะไรแบบนี้ ?
ถ้ากล้าที่จะทำ ก็ต้องแลกด้วยชีวิต