ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 524 : ห้องทองซ่อนสาวงาม
ตอนที่ 524 : ห้องทองซ่อนสาวงาม
ติงจวิ้นเจี๋ยพูดด้วยความเคารพ: “ท่านผู้นำ ตอนนี้ผมถูกย้ายมาทำงานที่มณฑลแล้ว จึงมาทำงานอยู่ที่นี่”
หลินต้ากั๋วพยักหน้า: “อ้อ มาทำงานที่นี่ก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่ตอนนี้อยู่สำนักงานไหนล่ะ ? ”
ติงจวิ้นเจี๋ยตอบด้วยท่าทีถ่อมตน: “ตอนนี้ผมทำงานอยู่ในแผนกทั่วไปของสำนักงานเลขานุการ”
“สำนักงานเลขานุการหรือ ? ” หลินต้ากั๋วมองติงจวิ้นเจี๋ยแล้ว เขาก็พึมพำบางอย่างและหยุดถาม เขาเพียงแค่พูดว่า “กินเยอะ ๆ นะ”
ติงจวิ้นเจี๋ยขอบคุณสำหรับความใส่ใจของเขา
หลินต้ากั๋วไม่ได้สนใจติงจวิ้นเจี๋ยอีก เขามองไปบนโต๊ะอาหารแล้วชี้ไปยังเมนูมันฝรั่งสีทองอร่ามนั้น “เสี่ยวไป๋ เธอเริ่มธุรกิจด้วยการขายผัดมันฝรั่ง แต่ทำไมมันฝรั่งในคราวนี้ถึงหัวใหญ่ขนาดนี้ล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ “ลุงรอง จานนี้เป็นเมนูเด็ดของวันนี้เลย แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีใครแตะต้องมันสักคน”
อาหารบนโต๊ะมีอยู่อย่างพร้อมพรั่ง มีทั้งไส้เป็ด ซี่โครงหมูอบ เนื้อฝอยรสเผ็ด ปลาต้มเผ็ดและอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ละเมนูมีสีสันดูน่ากิน แต่ไม่มีใครแตะต้องมันฝรั่งสีทองในจานนั้นเลย
พอเจียงเสี่ยวไป๋พูดมาแบบนี้ สายตาของทุกคนต่างหันไปมองที่มันฝรั่งจานนั้น
หลินเจียหงกล่าวว่า “ดูยังไงก็เหมือนผัดมันฝรั่ง มันจะเป็นเมนูเด็ดได้อย่างไร ? ”
ติงจวิ้นเจี๋ยเคยกินผัดมันฝรั่งฝีมือของเจียงเสี่ยวไป๋มาแล้ว เขาเองก็รู้สึกสงสัยจึงถามว่า “พี่เจียง เมื่อก่อนเวลาที่พี่ทำผัดมันฝรั่ง พี่ก็มักจะใช้ซอสสูตรลับของพี่ แต่ผัดมันฝรั่งนี้ไม่ต้องใช้ซอสผัดหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เมนูนี้มีชื่อเรียกที่ยิ่งใหญ่ มันคือเมนูห้องทองซ่อนสาวงาม ! ”
หลินเจียจวินได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาทันที “เสี่ยวไป๋ นายอยากซ่อนสาวงามไว้ในห้องทองกับเขาด้วยหรือ ? ”
และจะรู้ดีว่ามันคือเรื่องหยอกล้อ แต่หลินเจียลี่ยังคงมีท่าทีโมโห เธอหันไปตวัดสายตาดุใส่เจียงเสี่ยวไป๋ แล้วบ่นว่า “ถ้าเขากล้าฉันจะหักขาของเขาเอง ! ”
หลินเจียจวินมองลูกพี่ลูกน้องของตนเองแล้วกล่าวว่า “ลี่ลี่ เป็นสาวเป็นแส้แต่พูดจามุทะลุเหลือเกิน ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมพี่เขยของเธอถึงกลัวเธอแบบนั้น ! ”
เจียงชานเบิกตากว้าง พ่อของเธอสอนสำนวนให้เธอมากมาย แต่เขาไม่สอนสำนวน ‘ห้องทองซ่อนสาวงาม’ ให้เธอ เธอไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร หนูน้อยมองไปยังหลินเจียลี่ พลางพูดอย่างนุ่มนิ่มว่า “น้าเจียลี่ ป่าป๊าเอาอะไรของน้าเจียลี่ไปซ่อนหรือเปล่า ? ทำไมน้าถึงจะหักขาป่าป๊าของหนูล่ะ ? ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนในห้องก็หัวเราะ
หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว หลินต้ากั๋วก็ถลึงตาใส่หลินเจียจวินด้วยความโกรธและพูดว่า “แกพูดอะไร ในห้องยังมีเด็กอยู่นะ”
หลินเจียจวินรีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “ไม่พูดแล้ว ไม่พูดแล้ว เสี่ยวไป๋ สรุปแล้วเมนูนี้ของนายมีความพิเศษอะไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่คิดว่าชื่ออาหารจะสร้างความวุ่นวายได้ขนาดนี้ เขาจึงพูดว่า “ผมไม่ได้ตั้งชื่อให้ดีเอง ต่อไปนี้เรียกมันว่าเมนูซ่อนมิติแล้วกัน ! ”
ห้องทองซ่อนสาวงาม !
ซ่อนมิติ !
หลินต้ากั๋วท่องสองคำนี้ในใจซ้ำ ๆ แล้วเอ่ยว่า “เสี่ยวไป๋ ในมันฝรั่งมีไส้อย่างอื่นด้วยใช่ไหม”
พูดแล้ว เขาก็คีบมันฝรั่งมาลองเป็นคนแรก
เขาคีบมาใส่จานตนเองแล้วพลิกดูไปมา แต่ก็ไม่เห็นว่ามันคือมันฝรั่งทั้งลูก ไม่มีร่องรอยของการผ่าเลย
ไม่รู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋ใส่ไส้เข้าไปได้อย่างไร
แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้ว เขากัดมันฝรั่งสีทอง และพบว่าผิวด้านนอกกรอบ แต่ด้านในมีไส้ผสมที่มีรสชาติเข้มข้น มีทั้งเบคอนหั่นเต๋า แครอทหั่นเต๋า ผักชีแห้งหั่นเต๋าและสิ่งที่ดูเหมือนถั่ว รวมถึงส่วนผสมอื่น ๆ ที่เขา ไม่สามารถมองออกได้
“มีไส้อยู่ด้านในจริงด้วย ! ”
หลินต้ากั๋วรู้สึกทึ่ง เพราะเขาเห็นว่าแต่เดิมผิวของมันฝรั่งหนาเพียงแค่ประมาณหนึ่งมิลลิเมตรเท่านั้น แต่ด้านในกลับเต็มไปด้วยไส้ที่มีส่วนผสมหลากหลาย นอกจากไส้ที่พวกเขาเคยกินเมนูยัดไส้ทั่วไปแล้ว ด้านในยังมีเห็ดสับและวุ้นเส้น รวมถึงวัตถุดิบที่เขาไม่รู้จักด้วย
โฮ่วเซียนเนี่ยนที่นั่งดูอยู่ด้านข้างก็รู้สึกประหลาดใจเช่นเดียวกัน เขาเอื้อมมือไปคีบมันฝรั่งสีทองมาใส่ชามตนเอง ทั้งยังสังเกตซ้ำ ๆ แต่ก็ไม่พบช่องว่างหรือรอยผ่า เขาจึงถามด้วยความประหลาดใจว่า: “เสี่ยวไป๋ นายใส่ส่วนผสมเหล่านี้ลงไปได้อย่างไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบมันฝรั่งขึ้นมา เขาชี้ไปที่ส่วนบนสุดที่ผิวบางกว่า แล้วพูดว่า “หลังจากปอกมันฝรั่งแล้ว ก็ผ่าเปิดรูเล็ก ๆ ตรงนี้ขนาดประมาณ 4-5 เซนติเมตร จากนั้นก็ใช้ช้อนขนาดเล็กที่สั่งทำเป็นพิเศษให้มีรูปร่างคล้ายกับไม้แคะหู จากนั้นก็ค่อย ๆ ควักด้านในของมันฝรั่งออกมา แล้วเหลือแต่เปลือกบาง ๆ ด้านนอกไว้”
โฮ่วเซียนเนี่ยนอุทานอย่างเหลือเชื่อ “แต่นั่นมันยากมากเลยนะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “เวลาทำเมนูนี้ต้องระวัง แต่พอชำนาญแล้วก็ไม่ได้ยากอะไร”
โฮ่วเซียนเนี่ยนกล่าวว่า “แล้วใส่ไส้อะไรลงไปบ้างล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “หลัก ๆ ก็จะมีเบค่อน แครอทหั่นเต๋า และอื่น ๆ รวมวัตถุดิบหลัก 13 อย่าง นำวัตถุดิบทั้งหมดไปผัดให้สุกก่อน จากนั้นค่อย ๆ นำมายัดไส้ตรงรูที่เปิดไว้ แล้วเติมมันฝั่งลงไป ตามด้วยแป้งและไข่ไก่ จากนั้นนำไปทดให้กระทะให้มีสีเหลืองทอง เพียงเท่านี้ก็จะมองไม่เห็นรูแล้วครับ”
“ยุ่งยากขนาดนั้นเลยหรือนี่ ! ”
ทุกคนต่างตะลึง
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะพลางกล่าวว่า “นั่นเป็นวิธีทำอาหาร หากคุณต้องการทำอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณต้องไม่กลัวความยุ่งยาก”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ชี้ไปที่จานมันฝรั่งแล้วพูดว่า “ทุกคนลองชิมดู”
ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มเปิดตะเกียบคีบมันฝรั่งทอดสีเหลืองทองมาชิม เพียงชั่วพริบตาเดียว มันฝรั่งที่แต่เดิมไม่มีใครสนใจก็ถูกคีบไปจนหมดจานเช่นกัน
ซึ่งทุกคนได้ทานคนละลูกพอดี
คนที่ได้ลองชิมดูแล้วต่างก็เอ่ยชมไม่ขาดปาก
ในเวลานี้ เจียงชานพูดอย่างมีความสุขว่า “ป่าป๊า ต่อไปนี้ทำให้หนูกินอีกนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ได้ หากอยากกินก็บอกพ่อ พ่อจะทำให้กิน”
หลินจื้อเสวียมองไปที่หลินเจียปิงแล้วพูดว่า “พ่อ ต่อไปนี้ทำให้ผมกับพี่ชายกินบ้างได้ไหม ? ”
หลินเจียปิงมีสีหน้าลำบากใจทันที “พ่อไม่มีความสามารถนั้นเหมือนอาเสี่ยวไป๋ พ่อทำไม่เป็นหรอก”
หลินเจียจวินเห็นโอกาสมาแล้ว เขาจึงพูดเสียงดังว่า “พี่รอง พี่เป็นพ่อคนแล้วนะ แต่ทำไมถึงต่างจากเขาราวฟ้ากับเหวขนาดนี้ ? ”
จากนั้น เขาก็ชี้ไปยังเจียงชานแล้วพูดว่า “พอหนูน้อยชานชานร้องขอ เสี่ยวไป๋ก็ตอบรับ เสวียเสวียเขาไม่เคยขอร้องอะไรพี่เลย เขาแค่ขอให้พี่ทำอาหารให้เขา ทำไมพี่ถึงปฏิเสธล่ะ ? ”
หลินเจียปิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ฉันทำอาหารไม่เป็น”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ทำไม่เป็นก็เรียนสิ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเสียหน่อย”
หลินเจียปิงกล่าวว่า “เสวียเสวียติดนาย งั้นทำไมนายถึงไม่ทำให้เขากินล่ะ ? ”
หลินเจียจวินหัวเราะ แล้วหันไปพูดกับหลินจื้อเสวียว่า “เสวียเสวีย เรียกอาเล็กสิ ต่อไปนี้ถ้าอยากกินห้องทองซ่อนสาวงามก็บอกอาเล็กนะ แล้วอาจะทำให้กิน”
“ครับอาเล็ก ! ”
“ผมด้วยนะ อาเล็ก ! ”
มีเสียงขานรับสองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน เพราะนอกจากหลินจื้อเสวียแล้ว หลินจื้อหยวนก็อยากให้หลินเจียจวินทำอาหารให้กินเช่นกัน
หลินเจียจวินดีใจมาก หลังจากที่เขาแกล้งแซวหลินเจียปิงแล้ว เขาก็พูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “เสี่ยวไป๋ พรุ่งนี้นายสอนเมนูห้องทองซ่อนสาวงามให้ฉันทีสิ ต่อไปนี้ฉันจะนำเมนูนี้ไปเปิดขายในร้าน รับรองว่าดังระเบิดแน่นอน”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ “ได้ ถ้าพี่อยากเรียน ผมจะสอนให้”
หลินเจียจวินดีใจมาก เขาชี้ไปที่เมนูอื่นบนโต๊ะแล้วกล่าวว่า “อาหารพวกนี้ไม่เลวเลย งั้นนายก็สอนฉันทำทั้งหมดเลย ฉันจะได้ทำขายในร้านมันทั้งหมดนี่แหละ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองค้อนเขาแล้วกล่าวว่า “พี่อย่าทำให้มันวุ่นวายสิ ร้านอาหารไม่ควรทำทุกเมนูให้เป็นเมนูพิเศษของร้าน นอกจากเมนูหลักของร้านแล้ว มีเมนูเพิ่มอีกแค่ไม่กี่เมนูก็พอ ไม่อย่างนั้นจะเหนื่อยเปล่า”
หลินเจียจวินมีสีหน้าผิดหวัง เขาทำได้เพียงพูดว่า “ได้ ๆ ฉันเข้าใจแล้ว นายเจนจัดในเรื่องทำร้านอาหาร ฉันเชื่อนาย”