ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 525 : เด็กคนนั้นมีอนาคต
ตอนที่ 525 : เด็กคนนั้นมีอนาคต
โฮ่วเซียนเนี่ยนและเซินติงจื่อขอตัวกลับบ้าน หลินต้ากั๋วและเจียงเสี่ยวไป๋รวมถึงคนอื่นมาส่งพวกเขาที่หน้าบ้าน
ด้านหน้ารถจี๊ป หลินต้ากั๋วและโฮ่วเซียนเนี่ยนจับมือบอกลากัน
“ต้ากั๋ว ไปเทียนจิงคราวนี้ ฉันคงแทบไม่ได้กลับมาที่เจียงเฉิงแล้ว นายเองก็อายุเยอะแล้ว อย่าเอาแต่หักโหมงานหนักนักเลย รักษาสุขภาพด้วย ! ”
หลังจากจับมือร่ำลากันแล้ว โฮ่วเซียนเนี่ยนไม่ได้รีบร้อนปล่อยมือ เขาตบหลังมือของหลินต้ากั๋วขณะที่พูดฝากฝัง
หลินต้ากั๋วเองก็ตบหลังมือของโฮ่วเซียนเนี่ยนเช่นกัน “พี่ชาย พี่เองก็รักษาสุขภาพด้วย รอไว้ผมมีโอกาสไปเทียนจิงเมื่อไร ผมจะไปเยี่ยมพี่นะ ! ”
โฮ่วเซียนเนี่ยนพยักหน้า “พอฉันไปถึงเทียนจิงแล้ว ฉันจะไปเยี่ยมหัวหน้าและพี่ใหญ่ของนาย”
หลินต้ากั๋วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเขาเห็นพี่แล้วจะต้องดีใจแน่นอน พวกพี่ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว ! ”
โฮ่วเซียนเนี่ยนกล่าวอย่างทอดถอนใจ “ฉันมักจะไปเยี่ยมเยียนหัวหน้าเก่าทุกปี แต่พี่ใหญ่ของนายนี่สิ ฉันไม่ได้เจอเขามานานหลายปีแล้ว ฉันอายุน้อยกว่าเขาหนึ่งปี แต่ตอนนี้ฉันเกษียณแล้ว ทว่าเขายังทำงานอยู่เลย”
หลินต้ากั๋วกล่าวว่า “ถึงอย่างไรส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่นก็ไม่เหมือนกัน”
โฮ่วเซียนเนี่ยนพยักหน้า “ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ไว้นายไปเทียนจิงเมื่อไร ฉันจะเลี้ยงเนื้อแกะลวกจิ้ม”
“ครับ ! พี่รักษาตัวด้วย ! ”
ทั้งสองปล่อยมือจากกัน ชายชราโฮ่วไม่ได้รีบขึ้นรถในทันที แต่หันไปพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ที่อยู่ข้างกัน “เสี่ยวไป๋ ฉันเจอนายช้าไป ต่อไปนี้มีโอกาสมาเทียนจิงเมื่อไรก็ไปเยี่ยมเยียนฉันบ้างนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มรับ “ลุงโฮ่ววางใจได้ครับ ผมไปเทียนจิงเมื่อไหร่ จะต้องแวะไปหาลุงแน่นอน ! ”
ชายชราโฮ่วหัวเราะอย่างชอบใจที่ได้ยินเช่นนั้น “พูดแล้วนะ ครั้งหน้าถ้าไปเทียนจิงต้องไปเข้าครัวทำอาหารที่บ้านฉันด้วย”
“ครับ ไม่มีปัญหา ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ได้ยินคำสัญญาจากเจียงเสี่ยวไป๋ ชายชราโฮ่วถึงได้ขึ้นรถไปอย่างพอใจ และคนที่ขึ้นรถกลับไปพร้อมกับเขายังมีติงจวิ้นเจี๋ยอีกคน
เจียงเสี่ยวไป๋และหลินเจียลี่ยังอยู่ต่อถึงค่อยกลับไปทีหลัง
ทุกคนกลับเข้ามาในบ้านแล้ว หลินต้ากั๋วจึงได้เรียกเจียงเสี่ยวไป๋เข้าไปคุยในห้องหนังสือเป็นการส่วนตัว
“มา มาสูบบุหรี่ และเล่าสถานการณ์ระยะนี้ของนายให้ลุงฟังหน่อย”
หลินต้ากั๋วเป็นฝ่ายยื่นบุหรี่ให้เจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋รับมาดู ยอดไปเลย นี่มันบุหรี่ยี่ห้อฉงเมา
มีคำกล่าวว่าเอกบุรุษชอบจงฮั๋ว ลูกเศรษฐีชอบฉงเมา
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบไม้ขีดออกมาจุดบุหรี่ให้หลินต้ากั๋วก่อนจุดให้ตัวเอง จึงรายงานสถานการณ์ล่าสุดให้ฟัง
หลินต้ากั๋วตั้งใจฟังและถามคำถามสองสามข้อเป็นครั้งคราว
ตอนนี้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ของเจียงเสี่ยวไป๋กำลังเติบโต มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น เขาใช้เวลาเล่าให้ฟังนานถึงชั่วโมงกว่า
หลินต้ากั๋วเกิดความสนใจโครงการอยู่ 5 โครงการ
โครงการแรกคือโครงการที่เจียงเสี่ยวไป๋จะก่อตั้งเจียงเจียกรุ๊ป โครงการที่สองคือโครงการที่เขาจะสร้างโรงเรียนประถม โครงการที่สามคือโครงการที่เขาไปลงทุนในถู่เฉิง โครงการที่สี่คือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ชิงโจว และโครงการพัฒนาชนบทใหม่ของชิงโจว
เขาถามรายละเอียดของทั้ง 5 โครงการนี้ ในขณะที่เจียงเสี่ยวไป๋เองก็ตอบคำถามเขาอย่างละเอียดเช่นกัน
สุดท้าย หลินต้ากั๋วถอนหายใจพลางพูดว่า “ในตอนที่ลุงไปที่ชิงโจวครั้งที่แล้ว ลุงบอกว่าหากนายมีผลงานดี ๆ ลุงจะไปมอบรางวัลให้นายถึงที่ชิงโจวด้วยตนเอง ดูเหมือนว่าลุงคงจะได้ไปในเร็ว ๆ นี้แล้วล่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ลุงรอง เรื่องรางวัลช่างมันเถอะครับ ถ้าลุงอยากไปชิงโจว ผมจะเรียกพ่อตาและแม่ยายมา แล้วเราไปพักผ่อนที่บ้านของผมสักสองวัน”
หลินต้ากั๋วดีใจมาก “ได้สิ ครั้งนี้ลุงจะไปอยู่ที่นั่นสักสองวัน จะได้ถือโอกาสไปดูโครงการนำร่องใหม่ในชนบทที่เจียงวาน หากโครงการนี้ทำได้ดีก็สามารถผลักดันให้นำไปใช้ทั่วทั้งมณฑลได้”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ถึงตอนนั้นลุงค่อยตัดสินใจหลังจากไปเที่ยวชมนะครับ”
หลินต้ากั๋วพยักหน้า พลางเอ่ยว่า “แล้วนายวางแผนว่าจะกลับตอนไหนล่ะ ลุงจะได้จัดการตารางงาน”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกมีความสุข เขาไม่คิดว่าตารางงานของผู้นำจะถูกกำหนดตามเวลาของเขา “ผมว่าจะกลับไปในอีก 5-6 วัน”
หลินต้ากั๋วพยักหน้ารับ “ได้ พรุ่งนี้ลุงจะไปดูตารางเวลา ถ้ากำหนดได้วันที่เท่าไหร่แล้วจะบอกอีกที”
“ครับ ลุงรอง ! ”
หลังจากพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ ก่อนเดินออกมา หลินต้ากั๋วยังให้บุหรี่ฉงเมากับเจียงเสี่ยวไป๋มาหนึ่งซองด้วย
เจียงเสี่ยวไป๋รับไว้อย่างมีความสุข
เมื่อมาถึงห้องรับแขกแล้ว หลินเจียจวินกลับจากไปส่งคนมาแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋จึงขอตัวลาเช่นกัน
กว่าเขาและเจียงชานจะกลับมาถึงเกสต์เฮาส์หงซานก็เป็นเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว สองพ่อลูกอาบน้ำเสร็จแล้วจึงพากันเข้านอน
เช้าวันต่อมา หลินเจียจวินแวะมาทักทายเจียงเสี่ยวไป๋แล้วก็กลับไปทำงาน
เพราะเขาต้องไปรับสมัครพนักงานให้เจียงเสี่ยวไป๋ ทำให้วันนี้เจียงเสี่ยวไป๋ว่างทั้งวัน
“ชานชาน ลูกมาเจียงเฉิงก็หลายครั้งแล้ว แต่พ่อกลับไม่ค่อยได้ไปเที่ยวกับหนูเลย วันนี้เราไปเดินเที่ยวเล่นกันดีไหม ? ”
“ค่ะ ! ”
เจียงชานตอบรับอย่างดีใจ
ขอแค่เธอได้อย่กับป่าป๊า ไม่ว่าจะไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ เธอล้วนมีความสุขทั้งนั้น
ตอนนี้สองพ่อลูกยังไม่มีเป้าหมายอะไร เจียงเสี่ยวไป๋จึงพาเจียงชานไปเดินเล่น
พอตอนเที่ยงวัน สองพ่อลูกได้หาร้านนั่งกินข้าว จากนั้นก็ออกไปเดินเล่นต่อในตอนบ่าย
“ป่าป๊า พวกเราแค่มาเดินเล่น แต่ไม่ซื้อของหรือคะ ? ”
หลังจากเดินเล่นมาครึ่งค่อนวัน เจียงชานก็เริ่มเหนื่อยแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ลุงของลูกขับรถไปแล้ว ต่อให้เราซื้อของก็ขนกลับไม่ได้ รอให้ลุงเขาเอารถมาคืนเราก่อน เราค่อยไปซื้อของกัน”
เจียงชานได้ยินแบบนั้นก็ตาเป็นประกาย “ป่าป๊า เราจะไปที่เดิมที่เราซื้อของกันครั้งที่แล้วหรือเปล่าคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ “แล้วเรายังไปที่ไหนได้อีกล่ะ ? ”
เจียงชานทำตาโตด้วยความตื่นเต้น “ห้างสรรพสินค้านั้นใหญ่มาก แถมยังมีสินค้าสวย ๆ เยอะแยะไปหมดเลยค่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ลูบหัวลูกสาวด้วยความรักแล้วพูดว่า “ได้สิ ถ้าลูกอยากไปซื้อของที่นั่น เราก็จะไปที่นั่นกัน”
สองพ่อลูกพูดคุยกันระหว่างเดินกลับ กว่าจะมาถึงเกสต์เฮาส์หงซานก็เป็นเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้ว
“ไปไหนกันมา อย่าบอกนะว่าไปข้างนอกกันมาทั้งวัน ? ”
เมื่อเข้ามาในโถงใหญ่ หลินเจียจวินทีเห็นเจียงเสี่ยวไป๋และเจียงชานกลับมาแล้ว จึงลุกขึ้นเดินมาหาจากล็อบบี้
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ไปเดินเล่นตามประสาน่ะ”
หลินเจียจวิน “ฉันมาหานายหลายรอบแล้ว แต่พนักงานต้อนรับบอกว่านายยังไม่กลับ”
“พี่มีธุระอะไรหรือ ? ” เจียงเสี่ยวไป๋ถามด้วยความสงสัย
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ตอนเที่ยงตั้งใจว่าจะมาชวนพวกนายไปกินข้าว ตอนบ่ายกลัวนายจะใช้รถ ก็เลยมาลองถามดู”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “พี่บอกแล้วว่ารถคันนี้จะเป็นของพี่จนกว่ารถของพี่จะซ่อมเสร็จ ผมไม่ได้จะไปไหน จะใช้รถไปทำไม ? ”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “พรุ่งนี้เช้าไปรับรถเป็นเพื่อนฉันที”
“อืม ! ” เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว งั้นเราไปกินข้าวกันเถอะ ! ”
“คุณลุง ตอนเย็นเราจะกินอะไรกันหรอคะ ? ” พอได้ยินว่าจะไปกินข้าว เจียงชานดีใจมาก
หลินเจียจวินเห็นแบบนั้นก็หัวเราะ “ไม่ใช่ที่ร้านของเราแน่นอน พ่อของหนูให้ลุงไปลองกินที่ร้านอื่นบ้าง วันนี้ลุงเลยจะชวนไปหาร้านอื่นกิน”
“ได้ค่ะ เพราะหากให้กินปูผัดเซียงล่ากับโจ๊กซีฟู๊ดทุกวันก็เลี่ยนแย่ เราเปลี่ยนเมนูกันบ้างก็ดีค่ะ” เจียงชานเห็นด้วย ท่าทีของเธอราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย
หลินเจียจวินได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “หนูอย่าเป็นนักชิมตัวยงเหมือนพ่อของหนูนักสิ”
เจียงชานได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะชอบใจ “หนูคือลูกสาวของป่าป๊านี่คะ ต้องเหมือนกันอยู่แล้ว”
พูดแล้ว ทั้งสามก็ขึ้นรถจี๊ปไปด้วยกัน
หลังออกมาจากเกสต์เฮาส์หงซาน เจียงเสี่ยวไป๋เห็นว่ารถขับไปยังสำนักงานของหน่วยการปกครองประจำมณฑล เขาจึงถามด้วยความสงสัย “พี่จะไปไหนน่ะ ? ”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “ไปรับติงจวิ้นเจี๋ยก่อน แล้วค่อยไปหาข้าวกินกัน”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ “พี่สนิทกับเขาแล้วสินะ”
หลินเจียจวินกล่าวว่า “เด็กคนนั้นมีอนาคตน่ะ ! ”