ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 530 : ช้อปคอลเลคชั่นฤดูหนาวแบบจัดเต็ม
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 530 : ช้อปคอลเลคชั่นฤดูหนาวแบบจัดเต็ม
ตอนที่ 530 : ช้อปคอลเลคชั่นฤดูหนาวแบบจัดเต็ม
เมื่อลูกสาวบอกอยากซื้อใบชา เจียงเสี่ยวไป๋ย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว เขาจึงถามสวีม่านชานว่า “คุณสวี คุณขายใบชาด้วยไหม ? ”
สวีม่านชานกล่าวว่า “คุณเจียง ถ้าคุณอยากซื้อ ฉันก็ยินดีขายค่ะ คุณอยากได้เท่าไรคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตอบกลับ “นอกจากชาต้าหงเผาแล้ว ที่ร้านคุณมีชาแดงอะไรบ้าง ? ”
สวีม่านชานตอบด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเป็นชาแดง มีแค่ชาฉีหงค่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋จึงกล่าวว่า “งั้นผมขอซื้อชาต้าหงเผากับชาฉีหงอย่างละ 2 ชั่งครับ”
สวีม่านชานกล่าวว่า “ชาต้าหงเผาราคาชั่งละ 8 หยวน ชาฉีหงราคาชั่งละ 6 หยวน รับไหมคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า เขาควักธนบัติสิบหยวนออกมาสามใบเตรียมจะยื่นให้ แต่หลินเจียจวินห้ามเขาไว้ แล้วควักธนบัติสิบหยวนออกมายื่นให้สวีม่านชานอีกสองใบ “ชา 4 ชั่งรวมกับค่าชุดชาก่อนหน้านี้ รวม 30 หยวนพอดี ไม่ต้องทอน”
เจียงเสี่ยวไป๋เก็บเงินกลับมา และไม่ได้เถียงเขา แต่กล่าวขอบคุณแทน
หลินเจียจวินจึงบอกว่า “ชานชานชอบดื่มชา ฉันในฐานะลุงจึงซื้อให้หลานไว้ดื่ม นายจะมาขอบคุณฉันทำไม”
สวีม่านชานรีบชั่งน้ำหนักใบชาสี่ห่ออย่างรวดเร็วแล้วออกมาพร้อมกับถุงกระดาษคราฟท์ด้านในและถุงสะดวกด้านนอกหนึ่งใบ เธอยื่นมันให้เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้สะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะมีถุงสะดวกซื้อไว้ใส่ของ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงแพคใบชาได้ยากค่ะ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ “ใช่แล้ว มีถุงสะดวกซื้อมันสะดวกมากจริง ๆ ครับ”
เจียงชานได้ยินก็หัวเราะทันที “ป่าป๊า ป่าป๊าเหมือนยายหวางขายแตง ที่ขายเองชมเองเลยค่ะ ! ”
สวีม่านชานมองเจียงชานด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย เธอไม่รู้ว่าทำไมหนูน้อยถึงพูดแบบนี้
เจียงชานจึงพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ป้าสวี ถุงสะดวกซื้อเป็นผลิตภัณฑ์ของป่าป๊าหนูเองค่ะ ! ”
ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในดวงตาของสวีม่านชานขณะที่เธอมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ “ที่แท้ถุงสะดวกซื้อก็มาจากคุณนี่เอง”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มรับ “ครับ ! ”
สวีม่านชานเห็นสีหน้าของเขาก็ปิดปากหัวเราะทันที “เหมือนอย่างที่ลูกสาวของคุณพูดจริง ๆ ค่ะ คุณนี่ขายเองชมเอง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “ผมแค่พูดความจริง”
สวีม่านชานอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เธอได้เจอผู้คนมากมาย คนส่วนใหญ่คงจะเขินอายในสถานการณ์นี้ เธอไม่คิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะเฉยเมยได้ขนาดนี้ ในใจจึงเกิดความเลื่อมใสเขาขึ้นไปอีก
เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จากสำเนียงของคุณเจียง คุณไม่ใช่คนเจียงเฉิง แต่มาจากชิงโจวใช่ไหมคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “คุณสวีเคยไปชิงโจวหรือ ? ”
ในชาติที่แล้ว เราสามารถพบปะผู้คนจากภูมิภาคต่าง ๆ ได้ในเจียงเฉิง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้คนในการแยกแยะสำเนียงของภูมิภาคต่าง ๆ แต่ในช่วงปี 1980 เนื่องจากการคมนาคมไม่สะดวกและผู้คนไม่ค่อยเดินทางออกนอกพื้นที่ คนส่วนใหญ่มีโอกาสแค่พูดคุยกับคนในท้องถิ่นเท่านั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะสำเนียงของคนจากภูมิภาคอื่น
นั่นเป็นเหตุผลที่เจียงเสี่ยวไป๋ถามคำถามนี้
สวีม่านชานโบกมือปฏิเสธ “ฉันไม่เคยไปชิงโจว แต่ฉันรู้จักเพื่อนสองสามคนในชิงโจว สำเนียงของพวกเขาคล้ายกับสำเนียงของคุณ”
แบบนี้เอง !
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า เขาไม่ได้พูดคุยต่อ แต่ขอตัวกลับไปแทน
หลินเจียจวินไปส่งติงจวิ้นเจี๋ยที่บ้านเช่าของเขา แล้วไปส่งเจียงเสี่ยวไป๋กับเจียงชานไปส่งที่เกสต์เฮาส์หงซาน
กลางวันวันนี้ใช้เวลาเดินเล่นทั้งวัน แต่เจียงชานไม่บ่นเหนื่อยสักคำ ซึ่งที่จริงหนูน้อยเหนื่อยมาก ดังนั้นหลังจากกลับมาอาบน้ำที่ห้องพักแล้ว หนูน้อยก็ผล็อยหลับไปด้วยความเพลีย
เจียงเสี่ยวไป๋ยังดี เพราะมันคือวันว่างที่เขาได้ใช้เวลาผ่อนคลายอย่างแท้จริง
แม้ว่าตอนกลางวันจะเดินเล่นทั้งวันโดยที่ไม่ได้ทำอะไร แต่เขาก็จำสถานที่ทำเลดี ๆ ได้หลายแห่ง เขาตั้งใจว่ามีเวลาว่างจะให้หลินเจียจวินไปเช่ามา ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเปิดร้านโยวผิ่น ร้านซีฟู๊ดหรือร้านกุ้งอบน้ำมันล้วนได้ทั้งนั้น
หลังจากเขียนลงในสมุดบันทึกแล้ว เขาก็อาบน้ำและเข้านอนด้วย
วันรุ่งขึ้นหลังจากพาหลินเจียจวินไปรับรถจากร้านซ่อมแล้ว หลินเจียจวินก็ไปทำงาน
เจียงเสี่ยวไป๋โทรหาหลี่ลี่ที่เกสต์เฮาส์ ขอให้เธอจัดรถเพื่อส่งสินค้าจากร้านโยวผิ่นมาที่เจียงเฉิง
หลังจากจัดการงานแล้ว วันนี้เขาไม่มีอะไรทำ จึงพูดกับเจียงชางว่า: “เมื่อวานชานชานบอกว่าอยากไปซื้อของ งั้นเราไปซื้อของกันเถอะ ! ”
“ได้ค่ะ ! ”
เจียงชานดีใจมาก
เจียงเสี่ยวไป๋ขับรถไปยังเจียงโข่วประมาณครึ่งชั่วโมง และพ่อกับลูกสาวก็มาที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเจียงเฉิงและเริ่มโหมดช้อปปิ้งอีกครั้ง
แน่นอนว่าครั้งนี้สองพ่อลูกเลือกซื้อเสื้อผ้าเป็นหลัก
ครั้งล่าสุดที่พวกเขาซื้อของไป ส่วนใหญ่จะเป็นคอลเลคชั่นช่วงฤดูร้อน ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวแล้ว
“ป่าป๊า ชุดนี้ดูดีมาก ! ”
“ซื้อ ! ”
“ป่าป๊า ชุดนี้ก็ดูดีเหมือนกัน ! ”
“ซื้อ ! ”
“ป่าป๊า เสื้อตัวนี้ใส่คู่กับกางเกงตัวไหนดีคะ ? ”
“มันเข้าได้กับทั้งสองตัวเลย ! ”
“ป่าป๊า งั้นเราซื้อกางเกงไปทั้งสองตัวเลยดีไหมคะ ? ”
“ซื้อ ! ”
“ป่าป๊า เราซื้อชุดนี้ไปให้หม่าม๊าดีไหม ? ”
“ดี ! ”
“ป่าป๊า เราซื้อชุดนี้ไปให้ใครดีคะ ? ”
“ให้แม่ของลูกไง ! ”
“……”
“……”
“ป่าป๊า ป่าป๊าซื้อให้หนู หม่าม๊า คุณปู่ คุณย่า คุณตาและคุณยายครบทุกคนแล้ว ไม่ซื้อให้ตัวเองหรอคะ ? ”
“ซื้อ ! ”
“งั้นป่าป๊าซื้อชุดนั้นสิ หนูว่ามันสวยดีนะ ! ”
“ได้ ชานชานบอกว่าสวย พ่อก็จะซื้อ ! ”
“ชุดนี้ด้วยค่ะ ! ”
“ซื้อ ! ”
“……”
“……”
พนักงานสาวสวยประจำร้านปิแอร์การ์แดงต่างตกตะลึง สองพ่อลูกคู่นี้ดูเหมือนลูกค้าที่ไหน พวกเขาเหมือนพวกพ่อค้าที่มาซื้อของไปขายต่อมากกว่า
พวกเธอจำได้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋เคยมาซื้อของที่ร้านแบบจัดหนักจัดเต็ม แต่เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ดูเหมือนครั้งนี้จะจัดหนักจัดเต็มกว่ามาก
เพราะเสื้อผ้าคอลเลคชั่นฤดูหนาวไม่เพียงแต่มีราคาแพงกว่าคอลเลคชั่นฤดูร้อนเท่านั้น แต่ครั้งนี้พวกเขายังซื้อมากมายเหลือเกิน !
พวกเธอได้ยินจากบทสนทนาของสองพ่อลูกว่าเจียงเสี่ยวไป๋ซื้อเสื้อผ้า กางเกงและรองเท้าให้สมาชิกในครอบครัวครบทุกคนแล้ว เดิมทีพวกเธอคิดว่ามันจะจบแค่นั้น
แต่พวกเธอไม่คิดเลยว่าหนูน้อยจะพูดต่อ
“ป่าป๊า ครั้งนี้ไม่ซื้อเสื้อผ้าให้น้าเจียลี่หรอคะ ? ”
“ซื้อ ! ”
“ดีเลยค่ะ หนูชอบน้าเจียลี่ที่สุดเลย เราซื้อไปฝากเธอหลาย ๆ ชุดดีไหมคะ ? ”
“ดี ! ”
“ป่าป๊า ซื้อให้น้าเจียลี่แล้ว งั้นของคุณลุงล่ะคะ ? ”
“ซื้อ ! ”
“งั้นหนูไปเลือกก่อนนะ ! ”
“ได้ ! ”
“ป่าป๊า ดูเหมือนเรายังไม่ได้ซื้อให้น้องถิงถิงกับน้องหวังกังนะคะ ! ”
“งั้นลูกไปเลือกให้พวกเขาด้วย ! ”
“ได้ค่ะ ! ”
“ป่าป๊า……”
“ป่าป๊า……”
“……”
พนักงานขายของปิแอร์การ์แดงเกือบเข่าทรุด หนูน้อยนี้มีญาติกี่คนกัน ดูเหมือนเธอจะมีทั้งปู่ย่าตายาย ลุง ป้าน้าอา น้องชายพี่ชายและพี่สาวน้องสาว…
มีทั้งเด็ก วัยรุ่น คนหนุ่มสาว วัยกลางคน ไปจนถึงผู้สูงอายุ
ครบทั้งของเพศหญิงเพศชาย ของที่ซื้อไปมีครบทุกไซส์เลยก็ว่าได้ !
พวกเธอเฝ้าดูเสื้อผ้าในร้านลดหายลงไปทีละตัว ในไม่ช้าเสื้อผ้าก็แทบจะหมดเกลี้ยงราวแขวน เหลือเพียงไม่กี่ตัวที่น่าจะขนาดเกิน
แถมยังเหลือแต่กระเป๋า
แต่เห็นได้ชัดว่าหนูน้อยไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยกระเป๋าไปด้วยซ้ำ
“ป่าป๊า คราวนี้จะซื้อกระเป๋าให้หม่าม๊าไหม ? ”
“งั้นซื้อไปสักหน่อยแล้วกัน ! ”
“หนูก็คิดแบบนั้นค่ะ หม่าม๊าชอบใช้กระเป๋ามาก ! ”
“งั้นชานชานเลือกนะ ! ”
“อื้อ หนูจะเลือกใบที่สวยที่สุดให้หม่าม๊า จากนั้นจะซื้อให้น้าเจียลี่ คุณลุง อาเสี่ยวชิง คุณย่า คุณยาย ป้าหง ป้าจาง ป้าใหญ่……”
“จริงด้วย ยังมีพวกป้าหลัวที่ช่วยหนูตอนอยู่ในถู่เฉิงเมื่อครั้งที่แล้ว หนูจะซื้อไปให้พวกเธอด้วย ! ”
“ได้ ลูกตัดสินใจได้เลย ! ”
“ได้ค่ะ ! ”
“……”
แม้จะเป็นการซื้อครั้งใหญ่ที่ชวนอึ้ง แต่พอคิดเงินทั้งหมดแล้ว ยอดรวมกลับไม่ถึงห้าหมื่นหยวน
อืม แม้ว่าต่อชิ้นจะสนนราคาที่ไม่กี่ร้อยหยวน แต่พอซื้อหลายชิ้นเข้า มูลค่ารวมก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดแล้ว
พนักงานสาวสวยหลายคนตกตะลึงเมื่อมองดูร้านค้าที่เกือบจะว่างเปล่า
“คนสวย คุณช่วยผมถือไปที่รถหน่อยได้ไหม ? ” เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างจนใจ “ของเยอะเกินไป ผมถือเองไม่หมด ! ”
“ได้ค่ะ ด้วยความยินดีค่ะ ! ”
พนักงานสาวสวยหลายคนกล่าวอย่างลนลาน