ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 536 : มาหาถึงโรงอาหาร
ตอนที่ 536 : มาหาถึงโรงอาหาร
พวกเขาทั้งสามฝากท้องมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารซวนกง
หลังออกจากร้าน เจียงเสี่ยวไป๋ได้ถามว่า “รู้สึกอย่างไรบ้าง ? ”
หลินเจียจวินตอบว่า “สมแล้วที่เป็นปลาหวู่ชางที่ปรุงโดยเชฟหลวง มันอร่อยกว่าที่เรากินในร้านอาหารข้างนอกด้วยซ้ำ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กลอกตาใส่ แล้วพูดอย่างเบื่อหน่ายว่า “ใครถามพี่เรื่องนี้ ! ”
ทันใดนั้น หลินเจียจวินก็ตระหนักได้ “อ้อ นายกำลังพูดถึงสิ่งที่ฉันสังเกต ! ”
“ก่อนอื่น ที่นี่คือภัตตาคารใหญ่ ภายในเต็มไปด้วยการออกแบบและการตกแต่งที่งดงาม สภาพแวดล้อมในการรับประทานอาหารดีกว่าร้านของเราอยู่แล้ว”
“ประการที่สอง พนักงานเสิร์ฟที่นี่มีทักษะการบริการสูง พวกเขาให้ความสำคัญในเรื่องมารยาท การบริการเอาใจใส่ดีมาก เมื่อเทียบกับร้านของเราแล้ว ฉันรู้สึกว่าทหารหญิงมีความกระตือรือร้นมากกว่า แต่ในเรื่องของการบริการที่เอาใจใส่ไม่ดีเท่าที่นี่”
“……”
เขาพูดสิ่งที่เขาสังเกตเห็นออกมาเป็นชุด และเจียงเสี่ยวไป๋ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
มื้อนี้ราคาหลายร้อยหยวน และมันก็คุ้มค่าเมื่อหลินเจียจวินได้สังเกตเห็นหลายสิ่งหลายอย่าง !
ต่อไป พวกเขาทั้งสามไปเยี่ยมชมร้านค้าที่เหลืออีกสี่แห่งในเจียงโขว่ ก่อนที่จะกลับเกสต์เฮาส์
หลังลงจากรถ หลินเจียจวินได้พูดว่า “ตอนบ่ายไม่ไปกินด้วยกันแล้ว นายหากินเองแล้วกันนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า เขาวางแผนที่จะไปมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงในช่วงบ่าย
หลินเจียจวินพูดเสริมว่า “พรุ่งนี้เช้าฉันจะมารับนาย เราจะไปบ้านลุงโฮ่วกันก่อน”
เจียงเสี่ยวไป๋สะดุ้ง หลินเจียจวินไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย จนเขาเกือบลืมไปว่าพรุ่งนี้คุณโฮ่วจะเดินทางไปเทียนจิงแล้ว
“อืม งั้นพี่มารับผมแล้ว เราไปส่งคุณโฮ่วและน้าเซินที่สนามบินด้วยกัน”
หลินเจียจวินพยักหน้า เขาขึ้นรถแล้วขับออกไป
เจียงเสี่ยวไป๋ถามเจียงชานว่า “ชานชาน หนูเหนื่อยไหม ถ้าไม่ เราจะไปมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงกัน”
เจียงชานส่ายหัว “ไม่เหนื่อยค่ะ ไปมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงกันเถอะ พ่อจะไปหาน้าเจียลี่หรืออาเสี่ยวชิงคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดว่า “แน่นอน เราจะไปหาพวกเธอทั้งคู่เลย หนูซื้อเสื้อผ้าและกระเป๋าให้พวกเธอด้วยไม่ใช่หรือ ? ”
“โอ้ ใช่แล้ว ! ” เห็นได้ชัดว่าเจ้าตัวเล็กลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เธอเพิ่งนึกได้เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋พูดถึงมัน จึงพูดอย่างมีความสุข “ป่าป๊า งั้นเราไปกันเถอะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋นำของที่เขาซื้อให้กับเจียงเสี่ยวชิงและหลินเจียลี่ออกจากห้องโดยสาร แล้วก็พาเจียงชานเดินไปมหาวิทยาลัยเจียงเฉิง
มหาวิทยาลัยเจียงเฉิงอยู่ไม่ไกลจากเกสต์เฮาส์หงซาน พ่อกับลูกสาวเดินไปมหาวิทยาลัยใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้น
เจียงชานพูดว่า “ป่าป๊า เราจะไปหาใครก่อนคะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ไปหาน้าเจียลี่ก่อน ! ”
“ได้ค่ะ ! ”
สาวน้อยตอบตกลงอย่างมีความสุข เธอดูนาฬิกาของเธอแล้วพูดว่า “ป่าป๊า เวลานี้น้าเจียลี่คงจะไปกินข้าวที่โรงอาหารแล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋ถามอย่างสงสัยว่า “หนูรู้ได้อย่างไร ? ”
เจียงชานพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “น้าเจียลี่เธอเล่าว่าเธอชอบไปกินข้าวที่โรงอาหาร แล้วจะไปห้องสมุดหลังกินข้าวเสร็จ”
เจียงเสี่ยวไป๋ดูเวลา เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ต้องขอบคุณหนู ไม่อย่างนั้นถ้าเราไปที่หอพัก เราคงไม่พบเธอ”
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขากำลังประสบปัญหา
เขาไม่รู้ว่าโรงอาหารของมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงอยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพ่อไปถามพี่ ๆ เขาก่อนว่าโรงอาหารอยู่ที่ไหน ? ”
เจียงชานยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ป่าป๊าไม่ต้องไปถาม หนูรู้”
พูดแล้ว เธอก็นำทางเขาไป
หลังจากมาที่นี่หลายครั้ง เธอก็คุ้นเคยกับถนนในมหาวิทยาลัยเป็นอย่างดี และหลินเจียลี่ก็เคยพาเธอไปที่โรงอาหาร ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับเส้นทาง
รอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากของเจียงเสี่ยวไป๋ เขาไม่คิดจริง ๆ ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากลูกสาวของเขา
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทำให้เขามีความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ
เขารู้สึกว่าลูกสาวของเขาโตขึ้น และมีความสามารถ !
สิบนาทีต่อมา พ่อและลูกสาวมาถึงโรงอาหาร เขาเห็นนักศึกษาหลายคนนั่งทานอาหารอยู่ที่นั่น หลังจากที่มองหาสักพัก ก็ยังไม่เจอหลินเจียลี่
พ่อและลูกสาวมองหาอยู่พักหนึ่ง ด้วยดวงตาที่เฉียบคมของหนูน้อยพบว่าหลินเจียลี่กำลังกินข้าวอยู่ที่โต๊ะกับเพื่อนร่วมห้องสองคนของเธอ
“ป่าป๊า ตรงนั้นค่ะ ! ”
หนูน้อยชี้ไปทางนั้นด้วยความตื่นเต้น แล้วเธอก็วิ่งไปทางนั้นทันที
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มโดยไม่สนใจเธอ และเดินตามไปอย่างสบาย ๆ
ไม่นานหลังจากนั้น หนูน้อยก็วิ่งเข้าไปใกล้โต๊ะของหลินเจียลี่
“น้าเจียลี่ ! ” เจียงชานตะโกน
หลินเจียลี่ก้มหน้ากินข้าว และไม่เห็นเจียงชานที่กำลังวิ่งมาหา ทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียก เธอเห็นหลานสาวของเธอยืนอยู่ตรงหน้าเธอ จึงพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ชานชาน มาที่นี่ได้อย่างไร ? ”
“มากับป่าป๊าค่ะ ! ” เด็กน้อยพูดอย่างมีความสุขด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
จากนั้น หลินเจียลี่ก็สังเกตเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋กำลังเดินมาทางนี้ เธอก็เห็นว่าเขาถือถุงสะดวกซื้อจำนวนมากไว้ในมือทั้งสองข้าง
รูมเมทสองคนที่นั่งอยู่กับหลินเจียลี่ คนหนึ่งชื่อซูหยวนหยวน และอีกคนชื่อซือถูหรง ทั้งคู่รู้จักเจียงชาน แต่พอเจอหนูน้อย พวกเธอก็ยังคงประหลาดใจเช่นเดิม
ซือถูหรงยิ้มแล้วพูดว่า “ชานชานเก่งมากเลย หนูมาที่นี่ถูกด้วย ! ”
“สวัสดีค่ะน้าหรง ! ” เจียงชานพูดสวัสดีอย่างสุภาพก่อนแล้วจึงพูดว่า “น้าเจียลี่เคยพาหนูมาที่นี่ ! ”
หลังจากพูดจบ เธอก็ทักทายซูหยวนหยวน “สวัสดีค่ะน้าซู ! ”
ซูหยวนหยวนพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม เมื่อเธอเห็นเจียงเสี่ยวไป๋เดินเข้ามา เธอใช้ศอกสะกิดหลินเจียลี่ แล้วกระซิบถามว่า “นี่พี่เขยของเธอเหรอ หล่อมาก ! ”
หลินเจียลี่อยากจะบอกว่าเขาไม่ใช่พี่เขยของเธอ แต่เธอทำไม่ได้ เธอจ้องไปที่ซูหยวนหยวนโดยไม่สนใจเจียงเสี่ยวไป๋ แล้วถามเจียงชานว่า “ชานชาน หนูกินข้าวหรือยัง ? ”
เจียงชานส่ายหัว “ยังค่ะ ! ”
หลินเจียลี่พูดทันทีว่า “ถ้าอย่างนั้นกินข้าวที่นี่ไหม ? เดี๋ยวน้าจะไปเอาข้าวให้”
เจียงชานหันไปมองเจียงเสี่ยวไป๋เพื่อขอความเห็น
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า และเธอก็พูดทันที “ตกลง ป่าป๊ากับหนูจะกินข้าวที่นี่”
ทันใดนั้น หลินเจียลี่รู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อย เพราะเธอไม่อยากชวนเจียงเสี่ยวไป๋กินข้าวด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้ ดังนั้นเธอจึงหันไปพูดกับเจียงชานว่า “ชานชานนั่งรอที่นี่ก่อน น้าจะไปเอาข้าวให้”
“ขอบคุณค่ะน้าเจียลี่ ! ”
เจียงชานพูดอย่างมีความสุข และบอกให้เจียงเสี่ยวไป๋นั่งลง
หลินเจียลี่พูดกับซูหยวนหยวนว่า “หยวนหยวน ไปเอาข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อย”
“อืม ! ”
ซูหยวนหยวนพยักหน้า และพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “พี่เขย พี่กับชานชานนั่งรอก่อน เดี๋ยวเราจะไปเอาข้าวก่อน”
เจียงเสี่ยวไป๋ขอบคุณเธอ และอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น หลินเจียลี่ยังไม่เรียกเขาว่าพี่เขยด้วยซ้ำ แต่เพื่อนของเธอชิงเรียกก่อนแล้ว
หลังจากที่หลินเจียลี่กับซูหยวนหยวนเดินออกไปได้ไม่ไกล หลินเจียลี่ก็บีบแขนของซูหยวนหยวนอย่างแรงแล้วพูดด้วยความโกรธ “ทำไมเธอถึงเรียกเขาว่าพี่เขย ? ”
ซูหยวนหยวนหัวเราะและพูดว่า “ฉันต้องเรียกตามเธอไม่ใช่หรือ ? ทำไม ? หรือเธออิจฉาที่ฉันเรียกพี่เขย จะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ ! ”
ทันใดนั้น หลินเจียลี่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร เธอสั่งข้าวสองกล่อง แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะอย่างไม่พอใจ
เธอยื่นกล่องหนึ่งให้เจียงชานแล้วพูดว่า “วันนี้ที่โรงอาหารมีหมูตุ๋นด้วย น้าเอามาให้หนูโดยเฉพาะ”
“ขอบคุณค่ะน้าเจียลี่ ! ”
เจียงชานพูดด้วยรอยยิ้ม เธอหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเริ่มกิน
ซูหยวนหยวนยื่นกล่องอาหารกลางวันในมือของเธอให้เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “พี่เขย พี่ก็กินด้วยกันสิ ! ”
หลินเจียลี่มองค้อนเธออีกครั้ง
เจียงเสี่ยวไป๋เห็นแบบนี้จึงยิ้ม เขาขอบคุณซูหยวนหยวน และถามว่า “รูมเมทเจียลี่ เธอชื่ออะไรหรือ ? ”