ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 543 : เด็ก ๆ ชอบกินล่าเถียวมาก
ตอนที่ 543 : เด็ก ๆ ชอบกินล่าเถียวมาก
หลังจากที่หลินเจียจวินจัดการธุระทางฝั่งร้านโยวผิ่นเสร็จเรียบร้อย เขาก็กลับไปที่ร้านซีฟู๊ด
เขาพร้อมที่จะนำประสบการณ์การจัดการและการบริการทั้งหมดที่เขาได้เรียนรู้กับเจียงเสี่ยวไป๋มาบริหารร้านซีฟู๊ดในปัจจุบัน
ขณะนี้มีร้านซีฟู๊ดเปิดให้บริการแล้ว 20 สาขา ร้านกระจายไปทั่ว 3 อำเภอของเจียงเฉิง
เขาทำตามวิธีการของเจียงเสี่ยวไป๋ โดยเริ่มจากร้านสาขา 1 บนถนนปาอี เขาเยี่ยมชมร้านค้าแต่ละแห่ง โดยถ่ายทอดสิ่งที่เขาเรียนรู้ให้กับผู้จัดการร้านของแต่ละร้านอย่างระมัดระวัง
เขายุ่งจนถึงตอนเย็น
“กลับบ้านไปจัดของให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า เราจะย้ายออกตั้งแต่คืนนี้เลย”
หลินเจียจวินพึมพำขณะที่เขาขับรถกลับบ้าน
เมื่อเขากลับถึงบ้านก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว
“เมื่อคืนไปนอนที่ไหนมา ? ”
“ทำไมไม่กลับบ้าน”
มู่เสี่ยวหวานถามทันทีที่เขาเข้าประตูไป
หลินเจียจวินพูดอย่างรวดเร็วว่า “เมื่อวานลุงโฮ่วไปเทียนจิง ลุงโฮ่วขายบ้านให้กับเจียงเสี่ยวไป๋ เมื่อคืนผมช่วยเขาทำความสะอาดบ้านอยู่ที่นั่นจนเช้า คืนนี้ผมจะไปอยู่ที่นั่นแล้ว”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ใบหน้าของมู่เสี่ยวหวานก็อ่อนลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “แล้วแกไม่โทรมาบอกสักคำ แม่เป็นห่วงแกทั้งคืน”
หลินเจียจวินชะงักไปเล็กน้อยแล้วพูดอย่างรวดเร็วว่า “แม่ ผมอายุสามสิบแล้ว แม่เป็นห่วงอะไร” เขายิ้มแล้วพูดต่ออีกว่า “อีกอย่างผมเคยเป็นหัวหน้าในกองทัพ ใครจะกล้าทำร้ายผมได้ ? ”
มู่เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว “หลังจากแผลเป็นหายก็ลืมความเจ็บปวดไปเลยนะ แกได้แผลที่หน้าผากมาได้ยังไง ? แกลืมเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ ? ”
หลินเจียจวินยิ้มแล้วพูดว่า “มันเป็นอุบัติเหตุ ! ”
มู่เสี่ยวหวานไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ต่อ เธอถามแทนว่า “แกกินข้าวหรือยัง ถ้ายังไม่ได้กิน ฉันจะให้ป้าอู๋ทำบะหมี่ให้กิน”
หลินเจียจวินพูดว่า “ผมกินข้าวที่ร้านมาแล้ว”
มู่เสี่ยวหวานพยักหน้าและถามว่า “เจียงเสี่ยวไป๋อยู่ที่ไหน เขายังอยู่ที่เจียงเฉิงหรือเปล่า ? ”
หลิยเจียจวินพูดว่า “เขากลับชิงโจวไปตั้งแต่เช้าแล้ว” หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็พูดเสริม “ตอนนี้ไม่มีใครดูแลบ้านที่เขาซื้อจากลุงโฮว่ เขาขอให้ผมช่วยดูแล ผมจะย้ายไปอยู่ที่นั่นตั้งแต่……”
เขารู้สึกเหมือนว่าเขาพบข้อแก้ตัวที่สมบูรณ์แบบแล้ว
มันสมเหตุสมผลแล้ว !
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ มู่เสี่ยวหวานก็พูดขึ้นมาว่า “แกจะย้ายออกไปเหรอ ? ”
หลินเจียจวินพูดด้วยความรู้สึกผิด “แม่ แม่เองก็รู้ว่าถ้าไม่มีใครอยู่ในบ้านนาน ๆ บ้านมันจะเสื่อมโทรม ผมไม่ได้ย้ายออก แต่ไปอยู่ในนั้นเพื่อช่วยเขาดูแลบ้านชั่วคราว”
มู่เสี่ยวหวานกล่าวว่า “ต่างยังไงกับการย้ายออก ? ”
หลินเจียจวินพูดว่า “แม่ ตอนนี้ร้านซีฟู๊ดมีสาขาอยู่ที่เจียงเฉิงกับเจียงโขว่ ผมต้องไปตรวจแต่ละร้าน ถ้าตอนบ่ายผมอยู่ที่เจียงโขว่ ผมจะนอนที่นั่น ถ้าตอนบ่ายผมอยู่เจียงเฉิง ผมก็จะกลับมานอนบ้าน มันไม่สะดวกเหรอ ? ”
มู่เสี่ยวหวานไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ใบหน้าของเธอยังคงไม่พอใจเล็กน้อย
หลินจื้อเสวี่ยที่ทำการบ้านเสร็จแล้ว เขาวิ่งไปหาหลินเจียจวิน กอดเอวของผู้เป็นอาแล้วพูดว่า “คุณอา คุณอาจะทิ้งพวกเราไปเหรอ ? ”
ปกติเขาสนิทกับหลินเจียจวินที่สุดแล้ว เด็กน้อยจึงไม่อยากให้อาย้ายออกไป
หลินเจียจวินลูบหัวของเขาแล้วพูดว่า “ไม่ อาแค่ไปช่วยอาเจียงดูแลบ้าน”
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่ได้เจอคุณอาบ่อย ๆ น่ะสิ ! ”
หลินจื้อเสวี่ยไม่อยากให้อาย้ายออกไป เขาจับชายเสื้อที่เอวของหลินเจียจวินแรงขึ้น มือของเขาสัมผัสโดนกระเป๋าเสื้อโดยไม่ได้ตั้งใจ และรู้สึกว่ามีบางอย่างแข็ง ๆ อยู่ข้างใน
“คุณอา มีอะไรอยู่ในกระเป๋าน่ะ ? มันแข็ง ๆ ! ” หลินจื้อเสวี่ยถาม
หลินเจียจวินตกตะลึง เขาจำไม่ได้ว่ามีอะไรแข็ง ๆ อยู่ในกระเป๋าของเขา ?
เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า หยิบมันออกมา เมื่อเขาหยิบมันออกมา เขาก็รู้ว่ามันเป็นล่าเถียว
เจียงชานเป็นคนให้เขาที่ร้านโยวผิ่นสาขา 9 ที่เจียงโขว่ในตอนเช้า เขาเก็บใส่กระเป๋าแล้วลืมมันไปเลย
“โอ้ นี่เป็นล่าเถียว ชานชานชอบกินมาก หลานลองกินดูสิ ! ” หลินเจียจวินยิ้มและยื่นล่าเถียวให้หลินจื้อเสวี่ย
“ดูเหมือนจะอร่อยนะครับ ! ” หลินจื้อเสวี่ยดูมีความสุขมากหลังจากได้ล่าเถียว เขานั่งบนโซฟา ฉีกห่อล่าเถียวออกมากัดเข้าปาก
รสเผ็ดและหอมทำให้เขาชอบมันมากจนอุทานด้วยความประหลาดใจทันทีว่า “อร่อย ! ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็ยื่นล่าเถียวให้หลินจื้อหยวน “พี่ พี่กินสิ มันอร่อยมากเลยนะ ! ”
หลินจื้อหยวนหยิบล่าเถียวขึ้นมากินทันที เขาตะโกนขณะกิน “อร่อยจริง ๆ ! ”
หลินเจียจวินอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าล่าเถียวนั้นอร่อยจริงหรือ ?
ดูเหมือนว่าเจียงชานไม่ได้แสดงสีหน้าเกินจริงเมื่อเธอกิน !
ในซองล่าเถียวมีล่าเถียวเพียงไม่กี่แท่ง สองพี่น้องกินหมดในเวลาอันรวดเร็ว
“คุณอา มีล่าเถียวอีกไหม ? ”
หลินจื้อเสวี่ยไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงมองไปที่หลินเจียจวินอย่างกระตือรือร้น และถาม
หลินเจียจวินแบมือออกแล้วพูดว่า “ชานชานให้มาแค่ถุงเดียว อามีแค่นี้ หมดแล้ว ! ”
หลินจื้อเสวี่ยรู้สึกผิดหวังทันที
หลินจื้อหยวนเห็นว่ามีถุงเล็กอยู่ในซองล่าเถียว เขาจึงตะโกนว่า “พี่ มีถุงเล็กอีกใบอยู่ในนี้ด้วย”
หลินจื้อเสวี่ยถามทันที “ห่อนี้อร่อยที่สุดหรือเปล่า ? ”
หลินจื้อหยวนพยักหน้า “ฉันเดาว่างั้น เราเปิดดูกันดีกว่า”
ขณะที่พูด เขาก็หยิบซองเล็ก ๆ ออกมาแล้วเปิดออก กลายเป็นการ์ดที่มีรูปวาดของนายพลหน้าแดงที่มีหนวดเครา
“พี่ การ์ดใบนี้เป็นรูปกวนอู ! ”
หลินจื้อเสวี่ยอุทานขึ้นมา เขาและหลินจื้อหยวนเคยอ่านการ์ตูนเรื่องสามก๊กแล้ว และบอกได้ทันทีว่ารูปบนการ์ดใบนี้คือกวนอู
หลินจื้อหยวนพยักหน้า “ใช่ นี่คือกวนอู” เขาพลิกการ์ดแล้วพูดว่า “มีข้อความอยู่ด้านหลังด้วย”
หลินจื้อเสวี่ยก็โน้มตัวไปมองดูเช่นกัน
ไม่นาน ทั้งสองก็อ่านจบ
หลินจื้อหยวนพูดว่า “พี่ ข้อความบอกว่ามีการ์ดอยู่ในซองล่าเถียวแต่ละซอง พวกเขาคือห้าทหารเสือ และมีการ์ดพิเศษอีก 2 ใบคือจูกัดเหลียงและเล่าปี่ หากเรารวบรวมห้าทหารเสือได้ครบทุกคน เราสามารถนำไปแลกล่าเถียวได้ 5 ห่อ หากเรารวบรวมห้าทหารเสือและจูกัดเหลียงได้ เราจะสามารถแลกเป็นเงินได้ 50 หยวน และหากเราสะสมการ์ดครบทั้งหมด เราสามารถแลกรับรางวัลใหญ่ได้ 200 หยวน ! ”
“อ่า เยี่ยมมาก ล่าเถียวก็อร่อย แล้วยังได้แลกของรางวัลอีกด้วย ! ” หลินจื้อเสวี่ยตะโกนด้วยความตื่นเต้น เขาหันไปมองหลินเจียจวินแล้วพูดว่า “คุณอา ผมจะซื้อล่าเถียวได้ที่ไหน ผมอยากกินอีก”
หลินเจียจวินมองไปที่หลานชายทั้งสองของเขา ไม่คาดคิดว่าพวกเขาจะถูกล่าเถียวตกได้ในทันที เขายิ้มแล้วพูดว่า “ลุงเจียงได้เปิดร้านโยวผิ่นมากกว่า 10 แห่งในเจียงเฉิง และพวกเขาก็ขายล่าเถียวด้วย”
“คุณอา ถ้าอย่างนั้นซื้อล่าเถียวมาให้ผมอีกสองสามห่อนะ ! ” หลินจื้อเสวี่ยพูดอย่างตื่นเต้น
“คุณอา ผมก็อยากกินมันเหมือนกัน ! ” หลินจื้อหยวนก็พูดเช่นกัน
เมื่อหลานชายทั้งสองอยากกินล่าเถียว หลินเจียจวินก็จะไม่ปฏิเสธ เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตกลง พรุ่งนี้อาจะซื้อให้ ! ”
ในเวลานี้ จางอ้ายผิงพูดกับเด็กทั้งสองว่า “เสี่ยวหยวน เสี่ยวเสวี่ย ลูกจะทำแบบนี้ไม่ได้ ลูกจะขอให้คุณอาเขาซื้อให้ได้อย่างไร ? ”
หลินเจียปิงพูดอีกว่า “ถูกต้อง ! ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็หันไปหาหลินเจียจวินแล้วพูดว่า “ไม่ต้องซื้อให้ เดี๋ยวพวกเขาจะติดเป็นนิสัย”
หลินเจียจวินพูดว่า “เสี่ยวหยวนกับเสี่ยวเสวี่ยไม่ค่อยขอบ่อย พวกเขาชอบกินล่าเถียว ผมเลยจะซื้อให้”
หลินเจียปิงกับจางอ้ายผิงมองหน้ากัน ใช่แล้ว เด็กสองคนนี้ประพฤติตัวดีและมีไหวพริบมาโดยตลอด พวกเขาไม่เคยขอขนมจากผู้ใหญ่เลย ที่พวกเขาทำครั้งนี้คงเพราะพวกเขาชอบจริง ๆ
จางอ้ายผิงพูดกับหลินเจียจวิน “เอาล่ะ งั้นซื้อให้พวกเขาเถอะ เดี๋ยวพี่จะเอาเงินให้ ! ”
หลินเจียจวินยิ้ม “ล่าเถียวราคาเพียงห่อละ 1.2 เหมา พี่จะให้เงินผมทำไม ? ”
ห่อละ 1.2 เหมา ?
ราคานี้ไม่ใช่ถูก ๆ เลยนะ สามารถซื้อข้าวได้เป็นชั่งเลย !
จางอ้ายผิงรู้สึกตกใจเล็กน้อยกับราคาของล่าเถียว
อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนเล็กน้อยนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับครอบครัวพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พูดอะไร
หลินจื้อหยวนกับหลินจื้อเสวี่ยมีความสุขทันทีเมื่อเห็นว่าแม่ไม่คัดค้านอีกต่อไป
หลินจื้อเสวี่ยพูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณอาซื้อล่าเถียวให้เราเยอะ ๆ ได้ไหม ? เราจะสะสมการ์ดห้าทหารเสือไปแลกรางวัล”
หลินจื้อหยวนพูดว่า “เราจะเอาจูกัดเหลียงกับเล่าปี่ด้วย ! ”
หลินจื้อเสวี่ยพยักหน้าซ้ำ ๆ “ใช่ ใช่ เราอยากกินล่าเถียว และชนะรางวัลใหญ่”
หลินเจียปิงฟังเด็กสองคนคุยกันเรื่องรางวัลใหญ่ และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เสี่ยวหยวน พ่อของดูการ์ดนั้นหน่อย ! ”