ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 562 : ตะลึงกับราคาเหล้า
ตอนที่ 562 : ตะลึงกับราคาเหล้า
เมื่อผ่านไปได้สักพัก เจียงเสี่ยวไป๋ก็ไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหาร
เมื่อถึงเวลาเริ่มมื้ออาหาร เขาก็ได้หยิบเหล้าเหมาไถปี 1951 ออกมามาดื่มกับหลินต้าเหว่ย เจียงไห่หยาง และหลินเจียเหวยสองขวด
ยิ่งเก็บไว้นาน เหล้าก็จะยิ่งมีรสชาติดี คำนี้ไม่ผิดจริงด้วย
พวกเขาทั้งสี่ต่างก็พากันดื่มเหล้าปี 1951 สองขวดอย่างมีความสุข ทุกคนก็รู้สึกพึงพอใจกับรสชาติของมันมาก
เมื่อรู้แบบนั้น หลินต้าเหว่ยจึงได้ริเริ่มความตั้งใจที่จะเก็บสะสมเหล้าไว้แล้วค่อยดื่มมันหลังจากที่เขาเกษียณ
“เสี่ยวไป๋ ดูเหมือนว่าผู้จัดการจ้าวเขาจะซื้อเหล้าข้าวโพดเจี้ยนหยางจากปี 1981 ให้หนึ่งหมื่นกว่าขวด แต่พ่ออยากเก็บไว้สักพันขวด คราวนี้ไม่ยกให้ทั้งหมดแล้วนะ!”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “พ่อครับ พ่อจะเก็บไว้เองทำไมล่ะ ของผมก็เหมือนของพ่อนั่นแหละ เอามาเก็บไว้ที่นี่ดีกว่า”
หลินต้าเหว่ยโบกมือ “ไม่เป็นไรหรอก มันน่าจะสะดวกกว่าถ้าเก็บมันไว้ที่เจี้ยนหยาง”
หลิวอี้ถิงพูดด้วยความโกรธว่า “ทั้งสองคนอายุบวกกันก็จะถึงร้อยอยู่แล้ว ทำไมถึงยังมาเถียงกันเรื่องเครื่องดื่มเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่อยู่อีก”
หลินต้าเหว่ยพูดด้วยสีหน้าเศร้าใจ “ก็เด็กคนนี้เขาใจแคบเกินไป ผมเห็นว่าเขาสะสมเหล้าไว้เยอะมาก ตอนแรกตั้งใจจะขอมาดื่มสักสองสามขวด แต่เขาคงไม่อยากให้เราหรอก เพราะเขาเล่นล็อคประตูที่เก็บเหล้าไว้อย่างแน่นหนาขนาดนั้น”
เจียงเสี่ยวไป๋อ้าปากค้างทันทีที่พ่อตาของเขาบ่นออกมาแบบนั้น นี่พ่อตาเขาหัดฟ้องแล้วหรือนี่ พ่อบอกว่าจะเอาออกมาแค่สองสามขวดงั้นเหรอ ?
ตอนแรกพ่อบอกว่าจะขนกลับไปเจี้ยนหยางสักคันรถเลยนะ มันแค่ขวดสองขวดตรงไหน ? !
หรือว่ารถหนึ่งคันจะใส่ได้ ๆ แค่ไม่กี่ขวด ใช้รถของเล่นของชานชานขนไปหรือไง ?
เมื่อเจียงไห่หยางได้ยินแบบนี้ จึงพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋อย่างไม่พอใจว่า “พ่อก็ว่าทำไมประตูด้านหลังถึงล็อค ? ดื่มเสร็จ แกไปเปิดมันเลยนะ พ่อตาของแกเขาอยากได้เหล้าแค่ไม่กี่ขวด แล้วมันจะทำไม ? ”
“อีกอย่าง ถ้าเกิดว่าล็อคประตูไว้แบบนี้ แล้วเกิดฉันอยากดื่มขึ้นมา จะเข้าไปเอามาได้อย่างไร ? ”
หวังซิ่วจวี๋ยังกล่าวอีกว่า “เสี่ยวไป๋ ลูกไม่ควรล็อคมันไว้นะ ลูกทำอย่างนี้กับพ่อตาของลูกได้อย่างไร ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋เริ่มเหงื่อตก ดูเหมือนจะเขาจะทำให้ทุกคนขุ่นเคืองแล้ว !
เมื่อเขาหันไปมองหลินเจียอิน เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าการแสดงออกของเธอเป็นไปตามปกติ และดูเหมือนเธอจะไม่ได้โกรธอะไร
ถ้าเกิดว่าภรรยาเข้าข้างพ่อตาด้วย เกรงว่าเขาคงต้องเสียเปรียบพ่อตาเข้าแล้วจริง ๆ
และในตอนนี้เอง หลินเจียอินก็พูดอย่างสบาย ๆ ว่า “แล้วพ่อรู้ไหมว่าเหล้าที่พ่อดื่มคืนนี้ราคาเท่าไหร่ ? ”
หลินต้าเหว่ยสะดุ้งเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าลูกสาวจะถามคำถามนี้ เขาชี้ไปที่เจียงเสี่ยวไป๋แล้วพูดว่า “เขาไม่ได้บอกเหรอว่าเขาซื้อมากกว่าเจ็ดพันขวดในราคาหมื่นกว่าหยวน ? เฉลี่ยแล้วน่าจะราคาตกขวดละหยวนกว่า ๆ ”
หลินเจียอินกล่าวว่า “แต่เสี่ยวไป๋เองก็เคยบอกไปแล้วด้วยว่าเหล้าเก่าประเภทนี้สามารถประมูลได้ในราคาหลายแสนหยวนในอนาคต ! ที่พ่อดื่มไปสองขวดนี้ก็เท่ากับดื่มไปมากกว่าหนึ่งล้านหยวนแล้ว ! ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกไป บรรยากาศบนโต๊ะก็เงียบลงทันที
หลังจากนั้นไม่นาน หลินต้าเหว่ยก็พูดว่า “อินอิน เหล้าหนึ่งขวดจะสามารถเอาไปประมูลในราคาหลายแสนหยวนได้อย่างไร บ้าไปแล้วหรือเปล่า ! ”
หลินเจียอินยิ้ม “ที่จริงแล้วฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน แต่มีเรื่องไหนบ้างที่เสี่ยวไป๋พูดแล้วมันผิดไปจากคำพูดของเขา ? ”
หลินต้าเหว่ยพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง
หลินเจียอินกล่าวต่ออีกว่า “นอกจากนี้ ราคาของเหมาไถเองก็เพิ่มขึ้นแล้ว ! ”
หลินเจียเหวยเขาไม่ค่อยซื้อเหล้าเหมาไถอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่เขาจะไม่รู้ราคาในตลาดตอนนี้ เขาจึงถามว่า “เพิ่มขึ้นเท่าไหร่แล้ว ? ”
หลินเจียอินกล่าวว่า “เมื่อก่อนราคาขวดละ 2 หยวน แต่ตอนนี้ราคาขวดละ 5 หยวนแล้ว ! ”
“ฮะ ? ” หลินเจียเหวยโพล่งออกมาด้วยความตกใจ “มันเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเลยเหรอ ! ”
หลินเจียอินกล่าวว่า “ใช่ มันเพิ่มขึ้นสองเท่าในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ไม่แน่ ใครมันจะไปรู้ว่าในอนาคตอาจจะเพิ่มขึ้นได้มากเท่าไหร่ ? ”
หลินต้าเหว่ย เจียงไห่หยาง และหลินเจียเหวยอดไม่ได้ที่จะมองดูขวดเหล้าเปล่าสองขวดบนโต๊ะ เจียงไห่หยางจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เจ้ารอง เหล้าเหมาไถนี้ ในอนาคตสามารถประมูลได้ในราคาหลายแสนหยวนจริงเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้คาดหวังว่าภรรยาของเขาจะช่วยพูดให้กับเขาแบบนี้ เขามีความสุขขึ้นมาในทันทีพร้อมกับพยักหน้า “สิ่งที่หาได้ยากล้วนมีค่าในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นในอีกสิบหรือยี่สิบปี เศรษฐกิจจะได้รับการพัฒนา และคนรวยเหล่านั้นจะตามหาเหล้าเหมาไถที่ผลิตมานานกว่า 5 ปีแน่นอน เป็นไปได้ทั้งหมดที่จะขายได้ขวดละเป็นแสนแน่นอน ! ”
ซี๊ด……
เจียงไห่หยางสูดหายใจเย็นเข้าไป ก่อนที่เขาจะพูดออกมาเศร้า ๆ ว่า “ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เราดื่มในตอนนี้มันไม่ใช่เหล้า แต่มันคือเงินแล้ว ! ”
หลินเจียเหวยก็งุนงงเล็กน้อยกับเหล้าหนึ่งขวดที่มีราคาหลายแสนหยวน เขาเทใส่แก้วป๊อกขวดหนึ่งเทได้ประมาณ 20 แก้ว นั่นหมายความว่าเหล้าหนึ่งแก้วนี้มีราคาหลายหมื่นหยวน !
เงินเดือนในแต่ละเดือนของเขายังไม่ถึง 100 หยวนเลย
การจิบเหล้าครั้งนี้มีมูลค่าเท่ารายได้ของเขาไปหลายปี
เสียดาย !
เสียดายมากจริง ๆ !
แม้แต่หลินต้าเหว่ยเองก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เขามักจะทะเลาะกับเจียงเสี่ยวไป๋เสมอ แต่เขาก็ยังเชื่อในสิ่งที่ลูกเขยพูด
นอกจากนี้เขายังไม่คาดคิดว่าเขาจะดื่มเหล้าที่มีมูลค่าหลายแสนหรือหลักล้านหยวนโดยเพียงแค่ดื่มเหล้าเหมาไถสองขวด
นี่มันหรูหราเกินไปแล้ว !
เขาอดไม่ได้ที่จะเศร้าเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศที่โต๊ะเหล้าค่อนข้างจะน่าอึดอัด เจียงเสี่ยวไป๋จึงยิ้มและพูดว่า “โอ้ อย่าคิดมากไปเลย ไม่ว่าเหล้าจะราคาเท่าไหร่ คุณก็ควรที่จะได้ชิมมัน ผมจะไม่ขายหลายร้อยหลายพันขวดในสิบหรือยี่สิบปีนี้หรอก ผมจะเก็บมันไว้ ไม่ใช่ว่าผมจะขายเมื่อถึงเวลา แต่เพียงเพื่อไว้อวดต่างหาก”
หลินเจียเหวยรู้สึกดีขึ้น เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋พูด เขาก็ยิ้มและพูดว่า “งั้นก็หมายความว่าเราไม่เสียเงินแสนในอนาคตไปใช่ไหม ตอนนี้ลูกก็ไม่ได้ขาดแคลนเช่นกัน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและขอให้ทุกคนกินข้าวต่อ
หลินต้าเหว่ยไม่กล้าที่จะพูดขอเจียงเสี่ยวไป๋อีกเลย
เจียงไห่หยางพูดอย่างเหน็บแนมมากขึ้น “เก็บเหล้าเก่าไป ฉันจะดื่มเหล้าที่ผลิตเมื่อเร็ว ๆ นี้ดีกว่า”
หลังจากดื่มเหล้าและอาหารจนอิ่มแล้ว พวกเขาก็แยกย้ายกันไป
ในคืนนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก
พอวันรุ่งขึ้นหลังอาหารเช้า หลินต้าเหว่ยและครอบครัวต่างก็พากันขึ้นรถ
เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงมอบเหล้าข้าวโพดเจี้ยนหยางที่ผลิตในปี 1980 สองกล่องให้หลินต้าเหว่ย นอกจากนี้เขายังมอบเหล้าเหมาไถที่ผลิตในปี 1950 ปี 1960 และปี 1970 ตามลำดับโดยกล่าวว่า “พ่อ เหล้าเก่าพวกนี้เก็บไว้ดื่มตอนมีความสุขนะครับ”
บางครั้ง การสู้กับพ่อตาก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่อพูดถึงเรื่องการให้ เจียงเสี่ยวไป๋ก็พร้อมจะให้ด้วยความเต็มใจ
หลินต้าเหว่ยถือเหล้าเก่าสามขวดเปรียบเสมือนเป็นของล้ำค่า
หลินเจียเหวยพูดอย่างไม่พอใจ “รู้วิธีทำให้พ่อตาพอใจ แต่ไม่รู้จักเอาใจพี่เมีย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและมอบเหล้าเก่าสามขวดให้เขา
หลินเจียเหวยมีความสุขมากจนตบไหล่เจียงเสี่ยวไป๋และพูดว่า “ขอบคุณมากน้องเขย น้องเขยใจดีที่สุด ! ”
นอกจากที่เขาจะได้เหล้าแล้ว เขาก็ยังได้เสื้อผ้าและรองเท้าฤดูหนาวใหม่ที่เจียงเสี่ยวไป๋ซื้อมาจากเจียงเฉิง หลินต้าเหว่ยนั้นมีความสุขมาก เขาพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “ถ้าอย่างนั้นพ่อจะไปรอที่เจี้ยนหยางนะ”
“ครับ ผมจะรีบตามไป ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่สดใสและโบกมือลา
หลังจากที่รถของหลินต้าเหว่ยขับออกไป เจียงเสี่ยวไป๋ก็พูดกับหลินเจียอินว่า “ไปเจี้ยนหยางครั้งนี้ ผมจะรีบกลับมา คุณไม่ต้องไปหรอก เพราะว่าทางมันค่อนข้างที่จะเป็นหลุมเป็นบ่อ ! ”
หลินเจียอินพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
เจียงชานพูดว่า “ป่าป๊า ครั้งนี้หนูก็ไม่ไปเหมือนกัน ป่าป๊ารีบกลับมานะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่าเด็กหญิงตัวเล็กจะตามเขาไปด้วย ไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะบอกว่าไม่ไปแบบนี้ ทำให้อดสงสัยไม่ได้จนต้องถามเธอออกไปว่า “ทำไมครั้งนี้ถึงไม่ไปล่ะ ? ”
เจียงชานพูดว่า “หนูไปกับป่าป๊าตลอด ไม่ค่อยได้อยู่กับหม่าม๊า คราวนี้หนูจะอยู่กับหม่าม๊า”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม หลังจากได้ยินเหตุผลแบบนี้
เจียงชานยังยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงหวานแบบเด็กน้อย “จากนี้ไป หนูจะไปกับป่าป๊าสลับกับอยู่กับหม่าม๊า หนูเป็นเด็กดีมากเลยใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพยักหน้า “ชานชานเก่งมาก ! ”
เจียงชานยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นป่าป๊ารีบไปรีบกลับนะ อย่าลืมนะว่าหนูกับหม่าม๊ากำลังรออยู่ที่บ้าน ! ”
“พ่อไม่ลืมแน่นอน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดอย่างมีความสุขและเดินไปที่โรงรถใต้ดินทันที
เขาขับรถจี๊ปไปจนถึงชิงโจว ตอนนี้การก่อสร้างบนถนนกลับมาดำเนินการต่อและทำให้การจราจรไม่ราบรื่นเท่าไหร่ ในที่สุด เจียงเสี่ยวไป๋ก็ใช้เวลาประมาณเกือบ 40 นาทีกว่าจะมาถึงในเมือง
เขารีบตรงไปที่โรงงานฟิล์มพลาสติกโดยไม่รีรอ
“ผู้ช่วยเจียงมาแล้ว ! ”
เมื่อเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ หวังชิ่งซีก็ทักทายด้วยรอยยิ้ม
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “รองผู้จัดการหวังดูมีความสุขขนาดนี้ ไฟแช็กเสร็จแล้วหรือ ? ”
หวังชิ่งซีหัวเราะ “เสร็จแล้ว ! เสร็จแล้ว ! ”
ขณะที่เขาพูดอยู่ เขาก็ได้หยิบไฟแช็กออกมาจากลิ้นชักโต๊ะแล้วยื่นให้ ก่อนที่จะหยิบอันต่อไปออกมาอีก
นั่นมันมากกว่าหนึ่งโหล !
และยิ่งไปกว่านั้น ไฟแช็กที่หวังชิ่งซีหยิบออกมานั้นดูมีสไตล์ แตกต่างจากไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งของคนรุ่นหลังมาก