ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 564 : ในที่สุดก็ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของไฟแช็ก
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 564 : ในที่สุดก็ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของไฟแช็ก
ตอนที่ 564 : ในที่สุดก็ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของไฟแช็ก
เจียงเสี่ยวไป๋ได้แต่คิดอยู่ในใจเงียบ ๆ และสูบบุหรี่ต่อไปโดยไม่พูดอะไรออกมา
เมื่อหลินต้าเหว่ยเห็นเขาแบบนี้ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เพราะเขาคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋มัวแต่สูบบุหรี่ ไม่พูดคุยหรือตอบโต้เขาเลย
หลี่ซิ่งฮวาที่กำลังเดินเข้ามาเอาชาให้เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกได้ว่าบรรยากาศในห้องทำงานไม่ค่อยดีนัก เขาเลยไม่กล้าที่จะอยู่นาน จึงรีบวางถ้วยชาแล้วรีบเดินออกไป
“พี่เจียงทำอะไร ? เขาต้องทำให้นายอำเภอหลินไม่พอใจแน่ ๆ ! ”
เขาไม่เข้าใจเลย ทั้งที่นายอำเภอหลินเองก็เหมือนว่าจะตั้งหน้าตั้งตารอให้เจียงเสี่ยวไป๋มา แต่ทำไมพอเขามาแล้วถึงได้ปั้นหน้าใส่กันแบบนี้ซะได้ ?
เขาไม่เข้าใจจริง ๆ เลยได้แต่แอบส่องดูอยู่ข้างนอกห้อง
แต่เขาก็ไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดในห้องนั้นเลย
ในออฟฟิศตอนนี้ ในที่สุดหลินต้าเหว่ยก็สูบบุหรี่จนเหลือเพียงก้น เขาวางมันลงในที่เขี่ยบุหรี่และหันไปมองเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยสีหน้าไม่พอใจ “บุหรี่สูบไปแล้ว เมื่อไหร่จะเอาผลิตภัณฑ์ออกมาให้ดูล่ะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ก็ดับก้นบุหรี่ของเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พ่อเคยเห็นมันมาแล้วนี่ ! ”
หลินต้าเหว่ยได้ยินแบบนั้นก็ตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดว่า “พ่อเคยเห็นมันตอนไหน ? ”
ในเวลานี้ เขาได้แต่สงสัยหรือว่าที่จริงแล้วเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้ผลิตอะไรเลย แต่กำลังหลอกเขาอยู่หรือไม่ ?
เจียงเสี่ยวไป๋ยังคงยิ้มและหยิบบุหรี่ออกมา ก่อนที่จะยื่นไปให้หลินต้าเหว่ยอีกมวน
หลินต้าเหว่ยเอียงคอมองด้วยความโกรธและทำท่าว่าจะปฎิเสธ
เจียงเสี่ยวไป๋ที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มและพูดออกมาว่า “พ่อครับ ถ้าพ่อสูบบุหรี่ ผมจะเอาออกมาให้ดูอีกครั้ง คราวนี้พ่อต้องดูให้ดี จะได้ไม่ต้องหาว่าผมไม่เอาให้พ่อดูอีก”
หลินต้าเหว่ยสับสนกับสิ่งที่เขาพูดอยู่เล็กน้อย ก่อนที่จะเอื้อมมือไปหยิบบุหรี่เข้าปาก
ในครั้งนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้สูบด้วย เขาหยิบไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะคลิกเพื่อจุดไฟแล้วเอื้อมมือไปจุดบุหรี่ให้กับพ่อตา
ในคราวนี้ หลินต้าเหว่ยก็ได้สังเกตเห็น
และสิ่งที่เจียงเสี่ยวไป๋ถืออยู่นั้น เขาก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อนจริง ๆ สิ่งเล็ก ๆ สิ่งนั้นถูกกุมเอาไว้ในมือใหญ่ของเจียงเสี่ยวไป๋ ถ้าเกิดว่าไม่สังเกตก็คงจะมองไม่เห็นมัน
และเปลวไฟที่อยู่บนสิ่งเล็ก ๆ ชิ้นนั้นก็แรงกว่าเปลวไฟที่ลุกไหม้บนไม้ขีดมาก
“นี่……”
หลินต้าเหว่ยมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความเหลือเชื่อ ปากของเขาเปิดกว้างเหมือนกำลังจะพูดบางอย่างจนเขาลืมสูบบุหรี่ไปเลย
“ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม พร้อมกับปล่อยวาล์วระบายอากาศที่กดอยู่จนเปลวไฟบนไฟแช็กดับลง เจียงเสี่ยวไป๋ได้กางมือออกให้พ่อตาของเขาได้เห็นมันชัด ๆ
ไม่ใช่ว่าหลินต้าเหว่ยไม่เคยเห็นไฟแช็กมาก่อน
แต่ของพรรคนั้นมักอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทำด้วยเหล็ก และเผาด้วยน้ำมันก๊าด ทุกครั้งที่จุดมักจะได้กลิ่นของน้ำมันก๊าซอยู่เสมอ
แต่ไฟแช็กในมือของเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ใช่แค่มีขนาดที่เล็กกระทัดรัด แต่มันยังโปร่งใสและมองเห็นของเหลวภายในได้ชัดเจน
หลินต้าเหว่ยคว้าไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งมาจากมือของเจียงเสี่ยวไป๋ ก่อนที่จะเอานิ้วหัวแม่มือไปหมุนบนล้อเจียร สักพักก็มีเปลวไฟปรากฏขึ้นบนแผ่นเหล็กแล้วดับลง
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “หลังจากที่พ่อหมุนมันแล้วให้เอานิ้วมาวางค้างไว้บนแผ่นพลาสติกตรงนี้ แล้วมันจะไม่ดับ”
หลินต้าเหว่ยทำตามคำแนะนำของเขา ก่อนที่จะเริ่มหมุนล้อเจียรอีกครั้งและวางนิ้วหัวแม่มือของเขาไว้บนวาล์วพลาสติกด้านล่าง แน่นอนว่าเปลวไฟยังคงลุกไหม้อยู่ตามที่คาดไว้
คลิก !
พรึ่บ !
คลิก !
พรึ่บ !
คลิก !
……
หลินต้าเหว่ยเป็นเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ เขาเปิดและปิดมันอยู่เรื่อย ๆ หลายต่อหลายครั้ง ก่อนที่เขาจะหยุดและพูดด้วยความประหลาดใจ “เสี่ยวไป๋ นี่คือผลิตภัณฑ์ที่ลูกจะทำใช่ไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าในทันที “ใช่แล้ว ! ”
หลินต้าเหว่ยหัวเราะเสียงดัง “ผลิตภัณฑ์นี้ดี สะดวกต่อการใช้งานมาก ! ”
ด้านนอกสำนักงาน หลี่ซิงฮวาที่กำลังแอบฟังอยู่ข้างนอกก็รู้สึกสับสนเล็กน้อยว่าทำไมวันนี้หลินต้าเหว่ยถึงได้ทำตัวเหมือนเด็กที่เดี๋ยวหงุดหงิดเดี๋ยวก็ยิ้มหัวเราะมีความสุข ?
ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ !
แต่ไม่ว่าจะยังไง เขามีความสุขก็ดีแล้ว !
อย่างน้อยฉันก็จะได้ไม่ต้องซวยมารับแรงกระแทกจากเขา !
ภายในออฟฟิศตอนนี้ หลินต้าเหว่ยก็ยังคงเล่นไฟแช็กนี้และใช้จุดบุหรี่จนชำนาญแล้ว เขามีท่าทีประหลาดใจมากราวกับว่าไม่เคยเห็นที่ไหนบนโลกนี้มาก่อน
เขาพ่นควันออกมาแล้วถามออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยวไป๋ ไฟแช็กนี้สามารถใช้ได้หลายครั้ง ทำไมลูกถึงเรียกมันว่าไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งล่ะ ? ”
เป็นคำถามเดียวกันกับที่หวังชิ่งซีถามก่อนหน้านี้เลย
เจียงเสี่ยวไป๋จึงอธิบายอีกครั้ง
หลังจากได้ยินสิ่งนี้ หลินต้าเหว่ยก็ถามด้วยความกังวล “เสี่ยวไป๋ แล้วก๊าซในไฟแช็กนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ถ้าพ่อใช้แค่จุดบุหรี่ ก็น่าจะสามารถจุดได้ประมาณพันครั้ง”
หลินต้าเหว่ยตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าก๊าซจำนวนเล็กน้อยนี้จะสามารถใช้ได้ถึงพันครั้ง !
คุณรู้ไหมว่าไม้ขีดในกล่อง ๆ หนึ่งมีด้ามไม้ขีดเพียงไม่กี่อันเท่านั้น
หากใช้ไม้ขีดจุดบุหรี่ จะต้องเสียค่าไม้ขีดสิบสี่หรือสิบห้ากล่องเพื่อมาจุดบุหรี่หนึ่งพันครั้ง
ไม้ขีดราคากล่องละ 2 เจี่ยว หากซื้อไม้ขีด 15 กล่อง ก็ราคา 3 เหมาแล้ว
หลังจากที่ลองคำนวณราคาเล่น ๆ แล้ว หลินต้าเหว่ยก็มองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋และถามออกมาว่า “ถ้าเป็นอันนี้ ราคามันจะเท่าไร ? ”
ที่จริงแล้วตอนนี้เจียงเสี่ยวไป๋ยังไม่ได้คำนวณราคาของไฟแช็ก เขานึกถึงราคาของไฟแช็กในอนาคต ราคามันตกอันละ 2 เหมาเท่านั้น เขาจึงประมาณราคาในปัจจุบันนี้ว่าหลังจากที่ผลิตมาในจำนวนมากแล้ว เขาก็คงจะขายไม่แพงกว่าไม้ขีดไฟมากนัก แพงสุดก็น่าจะประมาณ 5 เจี่ยว
เมื่อนึกได้แบบนั้น เขาเลยพูดว่า “ผมยังไม่ได้คำนวณต้นทุน แต่คาดว่าราคาจะไม่เกิน 5 เจี่ยวต่ออัน แต่ผมอาจจะขายมันในราคา 8 เจี่ยวหรือ 1 เหมา ! ”
“อะไรนะ ? ”
หลินต้าเหว่ยอุทานออกมา
นี่ราคาถูกเกินไปแล้ว !
ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งระดับไฮเอนด์ขนาดนี้กลับมีราคาไม่ถึง 5 เจี่ยว หากผลิตและจำหน่ายราคานี้ในจำนวนมาก ในอนาคตใครจะซื้อไม้ขีดไฟอีก !
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หลินต้าเหว่ยก็ตระหนักได้ว่าตลาดไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งนั้นใหญ่เกินไป
เจียงเสี่ยวไป๋มองดูความตื่นเต้นของพ่อตาแล้วกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มว่า “พ่อ ผมจะใช้เจ้าสิ่งนี้แลกกับโรงเบียร์ซานเฉิง หน่วยงานของพ่อจะไม่ขาดทุนแน่นอน ! ”
หลินต้าเหว่ยยิ้มและพูดว่า “ไม่หรอก ไม่มีทาง ไม่ขาดทุนหรอก ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นพ่อช่วยจัดการประชุมให้หน่อยได้ไหม ? ”
หลินต้าเหว่ยหัวเราะ “ถ้าต้องการแบบนั้น พ่อจะนัดให้ทุกคนมาประชุมตอนนี้เลย”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็โทรหาหลี่ซิ่งฮวาและขอให้เขาแจ้งให้สมาชิกหลายคนในทีมมาที่ห้องประชุมเพื่อประชุมด่วน
หลี่ซิ่งฮวารับคำสั่งและจากไป ในไม่ช้าเขาก็กลับมารายงานว่าพร้อมที่จะเริ่มประชุมแล้ว
และในทันทีที่เขาเดินเข้ามาในที่ประชุม เขาก็ได้ทักทายสมาชิกในทีมทุกคนและบอกว่าว่าเจียงเสี่ยวไป๋มีสินค้ามาแนะนำในวันนี้ และขอให้พวกเขาพร้อมสำหรับการประชุมได้ตลอดเวลา
หลี่กังและสมาชิกในทีมคนอื่นต่างก็เข้ามารอในห้องประชุมกันนานแล้ว
หลังจากได้ยินรายงานของหลี่ซิ่งฮัวแล้ว หลินต้าเหว่ยก็เดินยืดตัวตรงไปทางประตู
แต่เมื่อเขาไปถึงประตู เขาก็หันกลับมาอีกที