ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 565 : ได้, ตามสบายเลย !
ตอนที่ 565 : ได้, ตามสบายเลย !
“พ่อ มีอะไรที่อยากจะพูดอีกหรอ ? ”
เมื่อเห็นพ่อตาของเขาเดินไปที่ประตูแล้วจู่ ๆ ก็หันกลับมา เจียงเสี่ยวไป๋จึงถามออกไปด้วยความประหลาดใจ
หลินต้าเหว่ยหัวเราะพร้อมกับยื่นมือใหญ่ของเขาออกมา
“มา เอาบุหรี่ห่อนั้นมาให้ฉัน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเปิดซิปกระเป๋าของเขา แล้วหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งซอง “บุหรี่พ่อหมดแล้วเหรอ ? ทำไมถึงมาเอาบุหรี่ผม ? ”
หลินต้าเหว่ยยิ้มออกมาทันที “พ่อจะเอาไปให้พวกเขาสูบ พ่อจะลองจุด แต่ไม่บอกให้กับพวกเขาแบบที่ลูกทำ แบบนั้นไม่ได้หรือไง ? ”
“ครับ ได้เลย ! ” เจียงเสี่ยวไป๋รีบตอบทันทีที่ได้ยินแบบนี้
แต่เขาก็แอบคิดอยู่ในใจอยู่ว่าเขาเป็นตั้งผู้นำขนาดนี้ ยังมาพูดจาล้อเล่นแบบนี้อยู่ได้ !
ตอนที่เขากำลังจะรูดซิบกระเป๋า เขาก็เรียกหลินต้าเหว่ยอีกครั้งก่อนที่จะยื่นให้
“พ่อ……”
แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ถามอะไร หลินต้าเหว่ยก็คว้ากระเป๋าไปจากเขาทันที
หลินต้าเหว่ยหัวเราะ “ก็นึกว่าลูกมีแค่อันเดียวซะอีก ในกระเป๋ายังมีอีกเหรอเนี่ย ! ”
ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น เขาก็ได้หยิบไฟแช็กออกจากกระเป๋ามาดูอย่างมีความสุข
เมื่อเห็นแบบนั้น เจียงเสี่ยวไป๋จึงรู้ได้ในทันทีว่าพ่อตาของเขาไม่ได้อยากสูบบุหรี่ แต่แค่อยากมาหาไฟแช็กจากในกระเป๋าของเขา
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พ่อ ถ้าพ่ออยากได้ไฟแช็กก็บอกมาสิ หรือคิดว่าผมจะไม่ยอมให้พ่อ ? ”
หลินต้าเหว่ยยิ้ม “เดี๋ยวนี้ลูกเจ้าเล่ห์ขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ ถ้าเกิดว่าพ่อถาม เดี๋ยวลูกก็ขอต่อรองอีก สู้พ่อลงมือเองดีกว่า ! ”
ฮะ !
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจเล็กน้อย ในสายตาพ่อตา เราดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ ?
เมื่อเขาตั้งสติได้ เขาก็รู้สึกอยากจะพูดอะไรออกมา แต่หลินต้าเหว่ยได้เดินออกไปจากออฟฟิศแล้ว
“ช่างเถอะ ไม่เถียงด้วยแล้ว ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดออกมาด้วยความโกรธพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วหยิบบุหรี่กับไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งออกมาจากกระเป๋าถือของเขา
จุดไฟ
เขานั่งรอผลการประชุมจากพ่อตา
เจียงเสี่ยวไป๋คิดว่าเขาน่าจะต้องรอนานมาก ๆ แต่หลังจากที่เขาสูบบุหรี่เสร็จได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากข้างนอก พอหันไปดูก็เห็นว่าหลินต้าเหว่ย หลี่กัง หราวชุ่นชิง และคนอื่นกำลังเดินมา
“ฮ่าฮ่า เสี่ยวเจียง คุณเก่งมากจริง ๆ ! ”
“สินค้าดี ๆ แบบนี้น่าจะผลิตออกมาตั้งนานแล้ว ! ”
หลี่กังยิ้มดีใจ ทันทีที่เขาเดินเข้ามาในห้องทำงาน เขาก็เดินมาจับมือกับเจียงเสี่ยวไป๋
“รองนายอำเภอสุภาพเกินไปแล้ว มันก็เป็นแค่อุปกรณ์เอง”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลี่กังพอปล่อยมือออก แล้วพูดว่า “เสี่ยวเจียงไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งอันนี้มันไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์เฉย ๆ นะ แต่มันยังสามารถทำเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ได้ ! ”
ในฐานะรองนายอำเภอที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ เพียงแค่เขาได้เห็นมันและได้รู้ถึงคุณสมบัติของมัน เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าสิ่งนี้จะสามารถสร้างมูลค่าได้มหาศาล
แต่เขาจะต้องทำให้แน่ใจว่าในอนาคตสินค้าชิ้นนี้จะเป็นสินค้าของเมืองเจี้ยนหยางเท่านั้น จึงจะสร้างรายได้ระยะยาวได้ เพราะงั้นหลังจากที่เขาได้เห็นไฟแช็กและเห็นต้นทุนแล้ว เขาจึงเสนอให้ทุกคนยกเลิกประชุมแล้วมาหาเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่รู้ว่าหลี่กังนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงยิ้มตอบและพูดว่า “ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือธุรกิจขนาดเล็ก แต่ผมจะขอแลกเปลี่ยนกับโรงเบียร์ซานเฉิง ! ”
หลี่กังหัวเราะเสียงดัง “ได้ ! ตามใจเลย ! ”
เฉิงสิงเจีย หราวชุ่นชิง สีเจิงเหว่ย และฉิงหงซิง ที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาต่างก็ทำหน้าเห็นด้วย “ทำได้อยู่แล้ว ถ้าเถ้าแก่เจียงยินดี สามารถดำเนินการทำสัญญาได้ทุกเมื่อ”
เจียงเสี่ยวไป๋ที่เมื่อได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
ถึงแม้ว่าการผลิตไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งจะเป็นของเจี้ยนหยาง แต่เขาก็ไม่ได้กังวลอะไรเลยกับรายได้ของไฟแช็ก
ไม่ต้องพูดถึงอุปกรณ์สำหรับการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ของไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งที่เขาจะจัดหาให้เมื่อถึงเวลา แต่เขายังสามารถจัดหาวัตถุดิบเช่นพลาสติกและบิวเทนให้ได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้มันสามารถทำเงินได้ทั้งนั้น
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือการขาย !
ไม่ว่าสินค้าจะดีแค่ไหน คุณก็ทำเงินได้จากการขายเท่านั้น
หมู่บ้านต้าชิ่งหรืออำเภอเจี้ยนหยางสามารถผลิตได้ แต่พวกเขาไม่ถนัดเรื่องขาย
และเขายังต้องการยานพาหนะสำหรับการขนส่งอีกในอนาคต ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งที่ผลิตในเจี้ยนหยางจะต้องพึ่งพายอดขายจากที่อื่น
แม้แต่การตั้งราคา เขาก็ต้องเป็นคนตั้ง
หลี่กังมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแล้วพูดว่า “เสี่ยวเจียง ฉันอยากจะขออะไรหน่อย คุณต้องตอบรับนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ถ้าบอกว่าผมต้องเห็นด้วย นั่นหมายความว่ามันไม่ใช่คำขอ แต่เป็นคำขอร้อง รองนายอำเภอหลี่บอกผมมาได้เลย ถ้าผมตอบรับได้ ผมก็จะตอบรับ”
หลี่กังดูเขินอายเล็กน้อย แต่เขาก็ยังพูดว่า “คุณสอนวิธีการผลิตไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งเฉพาะที่เจี้ยนหยางได้ไหม”
เจียงเสี่ยวไป๋เข้าใจสิ่งที่หลี่กังพูดดี เขาต้องการที่จะให้อำเภอเจี้ยนหยางครองตลาดไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งเท่านั้น
“รองนายอำเภอหลี่ แน่นอนเลยว่าผมจะสอนเทคโนโลยีในการผลิตไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งให้กับอำเภอเจี้ยนหยางเท่านั้น”
หลี่กังรู้สึกดีใจมากหลังจากได้ยินสิ่งนี้ ในขณะที่เขากำลังขอบคุณ เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้พูดออกมาว่า “แต่ผมคิดว่าเจี้ยนหยางจะไม่สามารถผูกขาดธุรกิจนี้ได้”
หลี่กังตกตะลึงเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะรู้ว่าเขาตั้งใจที่จะทำอะไร
เมื่อเขารู้แบบนั้น ตัวเขาก็แข็งทื่อเหมือนกับถูกน้ำเย็นใส่น้ำแข็งมาเทราดตัวเขา
“เถ้าแก่เจียงหมายความว่ายังไง ? ”
เห็นได้ชัดว่าหลี่กังนั้นไม่ยอม เขาถามซักไซ้ต่อ
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวต่ออีกว่า “ในตอนนี้คนที่รู้วิธีผลิตไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งนี้มีน้อยมาก นั่นมันจึงทำให้ในตอนนี้ไม่มีสินค้าแบบนี้ถูกผลิตออกมาในตลาด แต่ถ้าพวกเขาได้เห็นถึงวิธีการผลิตนี้แล้ว ในอนาคตก็อาจจะมีผู้คนมากมายเลียนแบบเอาได้ง่าย ๆ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ไม่เพียงแต่หลี่กังเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลินต้าเหว่ย หราวชุ่นชิง และคนอื่นต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
หลี่กังกล่าวว่า “นั่นก็หมายความไอ้เจ้าตัวโครงการนี้มันจะอยู่ได้ไม่นานเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมือ “มันไม่ใช่แบบนั้น ! ”
ทุกคนมองดูเจียงเสี่ยวไป๋ด้วยดวงตาเป็นประกาย ราวกับว่าพวกเขาเห็นความหวังอีกครั้ง
เจียงเสี่ยวไป๋ได้กล่าวต่อว่า “ก่อนอื่นเลย มันจะยังไม่มีใครที่จะสามารถเลียนแบบมันได้ในทันที แต่ยังไงอำเภอเจี้ยนหยางเป็นเจ้าแรกที่ผลิตไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง ดังนั้นก็จะถือเป็นผู้นำในการผลิตอยู่ดี”
“ดังสุภาษิตที่ว่าก้าวแรกจะนำไปสู่ก้าวต่อไป ! ”
“ตราบใดที่อำเภอเจี้ยนหยางได้ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งอย่างจริงจังและได้เข้าครองตลาด ผู้คนที่จะเลียนแบบนั้นก็ยังตามหลังอยู่มาก มันก็เหมือนกับอำเภอเจี้ยนหยางกินเนื้อสัตว์ไปแล้ว แต่พวกเลียนแบบยังทำได้เพียงดื่มซุป”
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น หลินต้าเหว่ยและคนอื่นต่างก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
สีเจิ้งเว่ยกล่าวว่า “เสี่ยวเจียงพูดถูก เนื่องจากอำเภอเจี้ยนหยางของเราเป็นผู้นำ เราจึงจะต้องตั้งใจที่จะผลิตไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ในอนาคต”