ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 567 : คำขอของเจียงเสี่ยวไป๋
ตอนที่ 567 : คำขอของเจียงเสี่ยวไป๋
ก่อนหน้านี้เจียงเสี่ยวไป๋ได้บอกไว้ชัดเจนแล้วว่า วัสดุทำชิ้นส่วนแต่ละชิ้นราคาไม่สูงมาก เพราะฉะนั้นจึงมีโอกาสสูงที่จะถูกลอกเลียนแบบได้ง่าย
ถ้าหากต้องการเป็นผู้นำและทำกำไรได้มากที่สุดในตลาด เจี้ยนหยางจะต้องประสบความสำเร็จในการผลิตโดยเร็วที่สุดและเข้าครอบครองตลาดอย่างรวดเร็ว
แต่หากมัวแต่ทำงานแบบเล็ก ๆ และดำเนินโครงการนี้ไปอย่างเชื่องช้า ในท้ายที่สุดคุณอาจจะผิดหวังก็ได้
จะทำอย่างไร ?
ทุกคนต่างก็หันไปมองที่หลินต้าเหว่ย
หลินต้าเหว่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันไปมองเจียงเสี่ยวไป๋อย่างลึกซึ้งอีกครั้ง และพูดว่า “เนื่องจากลูกเลือกที่จะมอบโครงการนี้ให้กับเมืองของเรา แต่ลูกก็คงจะทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันของหมู่บ้านต้าชิ่งดี แล้วลูกมีวิธีที่จะจัดการกับมันอย่างไร ? ”
หลี่กัง สีเจิ้งเหว่ย และคนอื่นได้ยินแบบนั้นต่างก็พากันตาลุกวาว
จริงด้วย เจียงเสี่ยวไป๋เขาจะต้องมีวิธีอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำแบบนี้หรอก
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม เฮ้อ…..ดีที่พ่อตาของเขายังมีความเข้าใจเขาอยู่บ้าง
เขาไม่ได้อ้อมค้อม แค่พูดมันว่า “เรื่องนั้นสบายมาก วิธีก็คือผมจะจัดหาอุปกรณ์และวัสดุทั้งหมดมาให้ก่อน หลังจากนั้นก็ให้พวกเขาจ่ายเงินให้ผมหลังที่ทำเงินได้แล้ว”
ทันทีที่เขาพูดจบ สีเจิ้งเหว่ยก็ส่งเสียงเชียร์ทันที “ฉันเห็นด้วยกับวิธีนี้ ! ”
หลี่กัง เฉิงสิงเจีย และหราวชุนชิงต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นเดียวกัน
หลินต้าเหว่ยจ้องไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ และพูดว่า “ลูกคงไม่ยอมขาดทุนหรอกใช่ไหม แล้วลูกจะเก็บเงินย้อนหลังจากพวกเขาอย่างไร ? ”
สีเจิ้งเหว่ยและคนอื่นที่กำลังมีความสุขได้ยินแบบนั้นต่างก็พากันนึกขึ้นได้ ก็จริง มันจะมีของฟรีอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างไร ?
ถ้าหากนักธุรกิจมองไม่เห็นกำไร เขาก็คงไม่ยอมลงทุนกับอะไรด้วยความรวดเร็วแบบนี้ แต่ถ้าหากว่าเจียงเสี่ยวไป๋เต็มใจทำเช่นนี้ นั่นหมายความว่ามันจะต้องมีเงื่อนไขอะไรบางอย่างเพิ่มเติมอย่างแน่นอน
ทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองที่เจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “แต่ว่ามีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวเท่านั้น นั่นคือจะต้องจ่ายเงินคืนผมให้เร็วที่สุด ดังนั้นในการที่จะชำระเงินค่าอุปกรณ์และวัสดุไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง ก็คือขายสินค้าทั้งหมดที่ผลิตขึ้นมาให้ผมเท่านั้น”
“ที่ผมเน้นย้ำคือการขายให้ผม ! ”
“ไม่ใช่ขายแค่เพื่อหักค่าอุปกรณ์ ! ”
ทุกคนรวมถึงหลินต้าเหว่ยต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เดิมทีพวกเขาคิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะใช้โอกาสนี้ในการเอาเปรียบพวกเขา
นี่มันแทบจะไม่เหมือนว่ากำลังร้องขออยู่
ด้วยวิธีนี้ ปัญหาในการขายก็ได้รับการแก้ไขด้วย
ผู้นำหลายคนมองหน้ากันและพยักหน้าให้หลินต้าเหว่ย
หลินต้าเหว่ยกล่าวว่า “หากนี่คือสิ่งที่ลูกต้องการ พวกเรายินดี แล้วลูกมีเงื่อนไขอะไรอีกไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ที่รู้สึกมีความสุข เขายิ้มแล้วโบกมือพูดว่า “ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว เรื่องโรงเบียร์ซานเฉิงก็เป็นอันตกลงกันแล้ว รอให้ขั้นตอนในการโอนกรรมสิทธิ์เสร็จสมบูรณ์แล้ว ผมจะเริ่มดำเนินการทันที”
“เอาล่ะ ในที่สุดเรื่องนี้ก็คลี่คลายแล้ว ! ” หลินต้าเหว่ยพูดอย่างมีความสุข
“เรียบร้อยแล้ว ! ” สีเจิ้งเหว่ยเดินไปหาเจียงเสี่ยวไป๋พร้อมกับยื่นมือออกไปจับมือ แล้วพูดว่า “เจียงเสี่ยวไป๋ ขอบคุณมากที่ช่วย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ยินดีครับ รองนายอำเภอสี ! ”
หลังจากที่ชายทั้งสองปล่อยมือกันแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้หยิบบุหรี่ออกมาและมอบให้กับพวกเขาทีละคน
คลิก !
คลิก !
คลิก !
หลินต้าเหว่ย หลี่กัง เฉิงสิงเจีย หราวชุ่นชิง และสีเจิ้งเหว่ย ต่างก็พากันใช้ไฟแช็กจุดบุหรี่
ไม่ต้องให้คนอื่นจุดให้
ให้พวกเขาลองใช้ไฟแช็กนี้จุดด้วยตัวเอง
เจ๋งอะไรอย่างนี้ !
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ฮ่าฮ่า ทุกท่านมีหมดแล้ว พวกคุณเป็นกลุ่มแรกเลยที่ใช้ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง ผมทำไว้สิบกว่าอัน คุณแบ่งเอาไปใช้สิ ! ”
หราวชุนชิงและคนอื่นต่างก็พากันหัวเราะออกมา
พวกเขาทุกคนต่างก็รู้สึกมีความสุขที่ได้เป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกในโลกนี้ที่ได้ใช้ไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้ง
สีเจิ้งเหว่ยยิ้มอย่างมีความสุข “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอเก็บไฟแช็กใช้แล้วทิ้งนี้ไว้นะ ! ”
“ฉันก็อยากขอเก็บไว้เป็นของที่ระลึกเหมือนกัน ! ” เฉิงสิงเจียกล่าว
ในตอนนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ หลี่กัง และคนอื่นต่างก็กำลังสูบบุหรี่และพูดคุยกันอยู่ ทางฝั่งฉินหงซิงก็กำลังยุ่งอยู่กับการร่างสัญญา และหลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เขาก็ได้ร่างสัญญาให้กับหลินต้าเหว่ยเสร็จแล้ว เขาให้คนอื่นได้ลองอ่านและแก้ไขในส่วนที่ไม่ถูกต้อง ก่อนที่จะนำไปให้เจียงเสี่ยวไป๋……
หลังจากอ่านเสร็จแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงลงนามในสัญญาอย่างเป็นทางการ
หลี่กังพูดว่า “เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวบ่ายวันนี้เราจะเป็นเจ้าภาพเอง เถ้าแก่เจียงมากินอาหารกับพวกเราสิ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ผมจะเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำทุกคนเอง ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจและให้การสนับสนุน”
สีเจิ้งเหว่ยกล่าวว่า “มื้อนี้ต้องให้เราเลี้ยง เพราะงั้นเถ้าแก่เจียงอย่าปฎิเสธเลย”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก่อนที่จะตอบตกลง
อันที่จริงตั้งแต่ที่เขากลับมาที่เจี้ยนหยางเพื่อลงทุนและสร้างโรงงาน เขาก็ยังไม่ได้ติดต่อกับหลี่กัง หราวชุ่นชิง เฉิงสิงเจีย และสีเจิ้งเหว่ย ถือเป็นความคิดที่ดีที่จะใช้โอกาสนี้ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ของพวกเขา
เมื่อหน่วยงานรัฐเลี้ยงอาหาร ย่อมต้องเลี้ยงที่โรงแรมที่รัฐบริหาร
หลังจากที่แขกผู้มีเกียรตินั่งประจำที่กันหมดแล้ว หลี่กังก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ฉันได้ยินมานานแล้วว่าทักษะการทำอาหารของเสี่ยวเจียงนั้นไม่ธรรมดา อาหารในร้านอาหารของรัฐอาจไม่อร่อยเท่าอาหารของคุณ เพราะงั้นอย่าถือสากันเลยนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มและพูดออกมาว่า “รองนายอำเภอหลี่ คุณสุภาพเกินไปแล้ว การทำอาหารเป็นเพียงงานอดิเรกเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผม ที่จริงแล้วสิ่งที่ได้กินนั้นมันไม่ค่อยสำคัญมากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือคนที่เรานั่งกินด้วยต่างหาก และการได้ร่วมมื้ออาหารกับผู้นำทุกคนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ! ”
หลี่กังได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “เสี่ยวเจียง คุณพูดได้ดี”
ไม่นานหลังจากนั้น อาหารและเหล้าก็ถูกยกมาเสิร์ฟ และทุกคนก็ได้เริ่มทานอาหาร
หลังจากดื่มไปสามรอบ เจียงเสี่ยวไป๋ก็พบปะกับผู้นำหลายคน
หราวชุ่นชิงพูดออกมาว่า “เสี่ยวเจียง ฉันจะเลิกขอบคุณคุณแล้ว แต่ต่อไปนี้ฉันจะคอยสนับสนุนทุก ๆ โครงการที่คุณอยากทำในเจี้ยนหยางอย่างเต็มที่ในอนาคต”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หัวใจของเจียงเสี่ยวไป๋ก็สั่นไหวในทันที เขาเลยถือโอกาสพูดว่า “รองนายอำเภอหราว มีบางอย่างที่ผมอยากทำ แต่มันอยู่ภายใต้เขตอำนาจของคุณ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หราวชุ่นชิงก็พูดออกมาอย่างกล้าหาญ “อะไรหรือ ? เสี่ยวเจียง บอกฉันมาสิ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวต่อว่า “ผู้นำทุกคนต่างก็รู้ดีว่าผมได้สร้างนิคมอุตสาหกรรมทางตะวันออกของเมือง มีโรงงานหลายแห่งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ต่อไป ผมจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสนับสนุนในนั้น รวมถึงการสร้างโรงเรียนและโรงพยาบาลที่ยังคงต้องการรองนายอำเภอหราวอนุมัติขั้นตอนต่าง ๆ ”
หราวชุ่นชิงที่เป็นรองนายอำเภอที่รับผิดชอบด้านวัฒนธรรม การศึกษาและสุขภาพ หากต้องการเปิดโรงเรียนและโรงพยาบาล ต้องได้รับการอนุมัติจากเขาก่อน
เขาเหลือบมองที่เจียงเสี่ยวไป๋และรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เสี่ยวเจียง มันเป็นสิ่งที่ดีนะ ในการจะบริหารโรงเรียนและโรงพยาบาล แต่ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะอยากจะสร้างโรงงานอย่างเดียวหรอ ? ทำไมคุณถึงอยากจะสร้างโรงเรียนกับโรงพยาบาลล่ะ ? ”
สีเจิ้งเหว่ยและเฉิงสิงเจียต่างก็พากันมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความสงสัย
หลินต้าเหว่ยและหลี่กังเคยได้ยินเจียงเสี่ยวไป๋พูดถึงเรื่องพวกนี้มานานแล้ว ตอนนั้นเจียงเสี่ยวไป๋บอกว่าการสร้างอุตสาหกรรมอื่น ๆ ร่วมด้วยเป็นเหมือนการปลูกต้นอู๋ถง ดึงดูดนกเฟิ่งหวง