ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 575 : ยังไปตรวจไม่ได้
ตอนที่ 575 : ยังไปตรวจไม่ได้
วันรุ่งขึ้น เจียงเสี่ยวไป๋พาหลินเจียอินและเจียงชานเข้าเมือง
หลังจากมาถึงสำนักงานของโรงงานเครื่องปรุงรส เฝิงเยี่ยนหงก็รู้สึกดีใจมากที่เห็นหลินเจียอิน “พี่เจียอิน ฉันรู้สึกเบื่อมากตอนที่พี่ไม่มา ! ”
หลินเจียอินยิ้มและพูดว่า “เฉินซินและเสี่ยวกังก็อยู่กับเธอไม่ใช่เหรอ ? ”
เฝิงเยี่ยนหงกล่าวว่า “แต่มันจะดีกว่าถ้าพี่อยู่ที่นี่ เฉินซินมีหลายสิ่งที่ต้องทำ ส่วนเสี่ยวกังก็เอาแต่เล่นเท่านั้น”
หลินเจียอินยิ้ม “วันนี้ฉันมาอยู่เป็นเพื่อนเธอนี่ไง แล้วค่อยไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลด้วยกัน เธออยากไปกับฉันไหม ? ”
เฝิงเยี่ยนหงพูดว่า “ทำไมพี่ถึงต้องไปฝากครรภ์ด้วยล่ะ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ฟังและขัดจังหวะทันที “เยี่ยนหง เธอไม่เคยไปฝากครรภ์มาก่อนเลยเหรอ ? ”
เฝิงเยี่ยนหงกล่าวว่า “ฉันไม่เคยไปโรงพยาบาลเลยตั้งแต่ที่ฉันรู้ว่าตัวเองท้อง”
เจียงเสี่ยวไป๋ส่ายหัว แล้วพูดว่า “ไม่ได้ การตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่อันตรายมาก แม่ที่ตั้งครรภ์ต้องไปโรงพยาบาลเป็นประจำเพื่อตรวจสุขภาพการตั้งครรภ์”
เฝิงเยี่ยนหงพูดด้วยท่าทีเมินเฉย “ไม่จำเป็น ! ตอนที่ฉันท้องเสี่ยวกัง ฉันไม่ได้ไปฝากครรภ์ด้วยซ้ำ ฉันยังให้กำเนิดเขาออกมาได้อย่างราบรื่นเลยไม่ใช่หรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “นั่นเป็นเพราะเมื่อก่อนยังไม่มีข้อกำหนดนี้ออกมา แต่ตอนนี้เรามีข้อกำหนดออกมาใหม่แล้ว แน่นอนว่าเราต้องให้ความสนใจ” หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เสริม “ ให้เฉินซินโทรหาหวังผิง ให้เขาพาเธอไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลก่อน”
เฝิงเยี่ยนหงพูดด้วยท่าทางเร่งรีบ “ไม่ ไม่ ไม่ เขาต้องออกไปส่งสินค้ายังอำเภอต่าง ๆ ในตอนเช้า เขาจะไปส่งฉันได้ยังไง”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดว่า “เอาล่ะ งั้นวันนี้เธอก็ไปฝากครรภ์กับพวกเรานี่แหละ”
“พวกพี่ไปก่อนเถอะ ฉันไม่ไป ! ”
เฝิงเยี่ยนหงยังคงรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาล
หลินเจียอินแนะนำว่า “ฉันจะไปตรวจสุขภาพครรภ์อยู่แล้ว ไปกับฉันเถอะ อย่างน้อยก็ไปตรวจสุขภาพตัวเองก่อนก็ได้”
หลังจากได้ยินสิ่งที่หลินเจียอินพูด เฝิงเยี่ยนหงก็ตอบตกลงและถามว่า “แล้วเราจะไปกันเมื่อไร ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “อีกสักครู่ ฉันขอโทรหาผู้อำนวยการหลี่ก่อน”
ขณะที่เขาพูด เขาก็เดินไปที่โต๊ะ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาสำนักงานของหลี่ข่ายเซียน ไม่นานหลังจากเชื่อมต่อสายได้ เสียงของหลี่ข่ายเซียนก็ดังขึ้นที่ปลายสายอีกด้าน
“สวัสดี ไม่ทราบว่าใครโทรมา ? ”
“ผู้อำนวยการหลี่ ผมเจียงเสี่ยวไป๋ครับ ! ”
“เฮ้ เถ้าแก่เจียง ทำไมวันนี้คุณถึงคิดจะโทรมาหาฉัน”
“ช่วงนี้งานผมยุ่งไปหน่อย วันนี้พอมีเวลาว่างเลยอยากพาภรรยาไปตรวจการตั้งครรภ์ คุณได้ซื้อเครื่องอัลตราซาวด์มาแล้วหรือยัง ? ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลี่ข่ายเซียนก็พูดด้วยความเขินอายเล็กน้อย “เถ้าแก่เจียง ฉันซื้อเครื่องอัลตราซาวนด์มาแล้ว แต่หมอที่ส่งไปฝึกอบรมการใช้เครื่องที่เจียงเฉิงยังไม่กลับมา ในโรงพยาบาลไม่มีใครใช้เป็นเลย ต้องขออภัยที่ไม่ได้แจ้งให้คุณทราบ เอ่อ ถ้าหมอกลับมา ฉันจะโทรหาคุณโดยเร็วที่สุด ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและถามว่า “ผู้อำนวยการหลี่ เมื่อไหร่หมอที่ไปฝึกอบรมในเจียงเฉิงจะกลับมาล่ะ ? ”
หลีข่ายเซียนกล่าวว่า “การฝึกอบรมจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม และคุณสามารถพาภรรยาของคุณมาตรวจสุขภาพครรภ์หลังวันปีใหม่ได้”
วันนี้เพิ่งเป็นวันที่ 30 พฤศจิกายนอยู่เลย เหลืออีกตั้งหนึ่งเดือนก่อนจะถึงวันปีใหม่ เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยความสนใจเล็กน้อย “เอาล่ะ วันนี้ผมจะพาภรรยาไปตรวจสุขภาพครรภ์ตามปกตินั่นแหละ”
โดยไม่คาดคิด หลี่ข่ายเซียนก็ได้พูดออกมาว่า “เถ้าแก่เจียง หากภรรยาของคุณไม่มีอะไรผิดปกติ คุณไม่จำเป็นต้องมาวันนี้ก็ได้ เพราะวันนี้อาจารย์หมอไม่อยู่ในโรงพยาบาล”
“โอ้ ผมเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากผู้อำนวยการหลี่ ! ”
“ยินดีครับ ! แล้วเจอกัน ! ”
“แล้วเจอกัน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋วางสายโทรศัพท์แล้วพูดกับหลินเจียอินและเฝิงเยี่ยนหง “วันนี้ยังไม่ต้องไปโรงพยาบาล หมอปี้ไม่อยู่”
เฝิงเยี่ยนหงกล่าวว่า “ไปไม่ไปไม่สำคัญหรอก ยังไงก็ไม่เป็นไร”
หลินเจียอินถามเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “พวกเขาซื้อเครื่องอัลตราซาวนด์มาแล้วใช่ไหม ? ”
ตั้งแต่รู้ว่าเครื่องอัลตราซาวนด์สามารถตรวจได้ว่าเธอได้ลูกสาวหรือลูกชาย เธอก็ตั้งตารอคอยที่จะได้มาอัลตราซาวนด์ แต่ไม่คิดว่าหมอปี้จะไม่อยู่ เธอจึงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เจียงเสี่ยวไป๋จึงเล่าที่เขาคุยกับหลี่ข่ายเซียนให้ฟัง จากนั้นหลินเจียอินก็กล่าวว่า “ไม่เป็นไร รอไปอีกหนึ่งเดือนเราก็จะรู้แล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “เอาล่ะ เราจะรู้หลังจากวันปีใหม่ว่าคุณท้องลูกแฝดหรือเปล่า ! ”
เฝิงเยี่ยนหงฟังการสนทนาระหว่างทั้งสองและพูดด้วยความประหลาดใจ “พี่เจียอิน พี่ท้องลูกแฝดงั้นเหรอ ? โรงพยาบาลสามารถดูเพศลูกได้ด้วยงั้นหรือ ? ”
หลินเจียอินกล่าวว่า “หมอเพิ่งบอกว่าฉันอาจท้องลูกแฝด แต่ก็ยังไม่แน่ใจ ต้องรออัลตราซาวนด์ดูก่อน”
เฝิงเยี่ยนหงกล่าวว่า “แล้วทำไมถึงบอกว่าเราจะรู้หลังจากวันปีใหม่ ? ”
หลินเจียอินกล่าวว่า “โรงพยาบาลได้ซื้ออุปกรณ์ใหม่ที่เรียกว่าเครื่องอัลตราซาวนด์ ซึ่งไม่เพียงสามารถตรวจสอบได้ว่าเราตั้งครรภ์ลูกแฝดหรือไม่ แต่ยังตรวจเพศของทารกได้ด้วย”
“จริงเหรอ ? ”
ทันใดนั้น เฝิงเยี่ยนหงก็รู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าสามารถตรวจสอบได้ว่าเธอกำลังท้องลูกชายหรือลูกสาว
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “จริงสิ ด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ เธอจะเห็นว่าเด็กที่เธออุ้มท้องอยู่นั้นหน้าตาเป็นอย่างไร และยังรู้ด้วยว่าเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง”
“มหัศจรรย์มาก ! ” เฝิงเยี่ยนหงไม่อยากจะเชื่อและพูดทันที “ครั้งหน้าฉันจะไปด้วย ฉันอยากรู้ว่าลูกคนที่สองของฉันเป็นลูกสาวหรือลูกชาย”
เจียงเสี่ยวไป๋หยอกล้อออกมา “เธอมีเสี่ยวกังอยู่แล้ว ยังกังวลว่าลูกคนที่สองจะไม่ใช่ลูกชายหรือลูกสาวอยู่เหรอ ? ”
เฝิงเยี่ยนหงทำหน้ามุ่ย “ฉันแค่อยากจะดูว่าฉันกำลังท้องลูกสาวอยู่หรือเปล่า ฉันว่าลูกสาวดีกว่าลูกชายนะ ดูสิ ชานชานน่ารักแค่ไหน”
เจียงชานหัวเราะอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินคำนี้ แต่หวังกังกลับไม่พอใจและพูดว่า “แม่ ทำไม ? ผมไม่น่ารักงั้นเหรอ ? ”
เฝิงเยี่ยนหงพูดว่า “เปล่า แม่มีเสี่ยวกังเป็นลูกชายอยู่แล้ว คงจะดีถ้ามีน้องสาวเพิ่มมาอีกคน ! ”
หวังกังกล่าวว่า “ผมคิดว่ามันจะดีกว่าถ้ามีน้องชาย ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกตลกและพูดด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวกัง นายชอบเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงใช่ไหม ? ”
“ไม่ครับ ! ” หวังกังตอบ “ถ้าแม่มีน้องชายอีกคน เมื่อโตขึ้น ผมจะรังแกเขาได้เต็มที่”
เจียงเสี่ยวไป๋ หลินเจียอิน และเฝิงเยี่ยนหงต่างตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าหวังกังจะพูดแบบนี้ออกมา
เฝิงเยี่ยนหงพูดด้วยความโกรธ “แกคิดอย่างนั้นได้ยังไง แม้ว่าฉันจะมีน้องชายให้แก แต่ในฐานะพี่ชายก็ต้องปกป้องน้องสิ แกคิดจะรังแกเขาได้ยังไง ? ”
หวังกังกล่าวว่า “คนที่เป็นน้องชายก็มักจะถูกพี่ชายหรือพี่สาวรังแกไม่ใช่หรือ ? ”
เขาชี้ไปที่เจียงชานแล้วพูดว่า “เพราะพี่ชานชานมักจะรังแกผมเสมอ”
เฝิงเยี่ยนหงพูดทันทีว่า “อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ชานชานไปรังแกลูกตอนไหน ? ”
หวังกังกล่าวว่า “เธอพูดตอนที่เรากำลังเล่นหมากรุก เธอบอกว่าเธอต้องการอัศวินของผม ถ้าไม่ให้ เธอจะรังแกผม”
เจียงชานกล่าวว่า “ก็นายชอบยอมให้ฉันเอง ถ้านายไม่ยอมแพ้ นายคิดว่าจะเอาชนะฉันได้ไหม ? ”