ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 577 : หลัวฉางเซิงขอ
ตอนที่ 577 : หลัวฉางเซิงขอ
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินคำพูดนี้ เขาก็คิดกับตัวเองว่าไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมการรับสมัครคนจึงเป็นเรื่องง่าย
เขายังคิดว่าการสร้างอุตสาหกรรมไฟแช็คแบบใช้แล้วทิ้งในถู่เฉิงนั้นเหมาะสมมากกว่า
ทว่าท้ายที่สุดแล้ว โครงการนี้ได้ถูกมอบให้กับเจี้ยนหยางก่อน ทันทีที่ความคิดเกิดขึ้น มันก็ดับลงอย่างรวดเร็ว
เขาปลอบใจหลัวฉางเซิงและพูดว่า “นายอำเภอหลัว โรงงานโต๊ะผิงไฟเองก็พร้อมแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่ไปกว่าไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งหรอกครับ”
หลัวฉางเซิงยิ้มและพูดว่า “ฉันเองก็พอจะรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง”
เมื่อรู้ว่าโครงการไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งไม่น่าจะตกมาอยู่ในมือของถู่เฉิง เขาจึงไม่สนใจมันอีกต่อไป
เขามองดูไฟแช็กแบบใช้แล้วทิ้งในมือ พลางพูดว่า “งั้นอันนี้ฉันขอนะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ไม่มีปัญหา ผมตั้งใจเอามาให้คุณอยู่แล้วครับ ! ”
หลัวฉางเซิงเก็บมันไว้ในกระเป๋าอย่างมีความสุข ราวกับว่าเขาพบกับสมบัติอันล้ำค่า ตอนนั้นเองที่เขาจำได้ และถามว่า “คุณยังไม่ได้กินข้าวมาใช่ไหม ? ”
เจียงชานพูดว่า “ยังค่ะ เราทานแค่อาหารเช้ามาจากที่บ้าน”
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว หลัวฉางเซิงจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นออกไปหาอะไรกินกันก่อน แล้วช่วงเย็นค่อยกลับไปกินอะไรอร่อย ๆ ที่บ้านของฉัน ฉันจะให้ภรรยาเตรียมไว้ให้”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “นายอำเภอหลัว คุณไม่มีมันเทศแล้วเหรอ ? แค่เผามันสองสามหัวให้พวกเรากินรองท้องก็พอแล้วครับ ไว้ค่อยรอตอนเย็น”
หลัวฉางเซิงยิ้ม “ก็ได้ ! ”
พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นเดินไปที่ตะกร้าหลังโต๊ะ หยิบมันเทศสีแดงมาย่างบนเตา
เจียงเสี่ยวไป๋ต้องการใช้โอกาสนี้พูดคุยเกี่ยวกับการเปิดโรงงานโต๊ะผิงไฟอย่างจริงจัง
พวกเขาทั้งสามพูดคุยกันในขณะที่กำลังผิงไฟและรอให้มันเทศที่เผาไว้สุก
หลังจากผ่านไปกว่ายี่สิบนาที บทสนทนาก็เกือบจะจบลงแล้ว ซึ่งตอนนี้มันเทศสีแดงก็สุกพอดี เจียงเสี่ยวไป๋ลอกเปลือกมันเทศออกให้เจียงชานก่อน แล้วจึงลอกเปลือกมันให้ตัวเองอีกอันหนึ่ง
การกินอะไรง่าย ๆ แบบนี้กลับเป็นอะไรที่พิเศษอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากกินมันเทศสีแดงสองสามลูกแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็อิ่ม เขาตบฝุ่นบนมือแล้วยืนขึ้น ก่อนจะพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวไปที่โรงงานโต๊ะผิงไฟก่อน”
หลัวฉางเซิงก็ยืนขึ้นและพูดว่า “เอาล่ะ คุณไปดูการก่อสร้างก่อนเลยนะ ฉันยังไปกับคุณไม่ได้ ฉันจะไปจัดการเรื่องคนงานก่อน”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่เอาปัญหามาให้นายอำเภอหลัวจัดการ”
หลัวฉางเซิงยิ้มและพูดว่า “คุณเองก็ทำสิ่งนี้เพื่อถู่เฉิงของเราเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่อาจเรียกว่าเป็นปัญหาได้”
เขาชี้ไปที่เจียงชานแล้วพูดว่า “แล้วจะให้ชานชานอยู่ที่ไหน ให้เธออยู่ในห้องทำงานของฉันหรือไปกับคุณ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่เจียงชานและถามเธอว่าเธออยากไปกับเขาไหม
เจียงชานพูดว่า “ข้างนอกมันหนาวมาก หนูอยากจะอยู่แต่หน้าเตาในห้องลุงหลัว เพราะมันอุ่นดีค่ะ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเอามือไปใกล้ไฟ อย่าไปจับเตาที่ร้อนด้วย”
“หนูรู้แล้วค่ะ ป่าป๊าไปทำงานเถอะ จะได้รีบกลับมาเร็ว ๆ ! ” เจ้าตัวน้อยโบกมือ
เจียงเสี่ยวไป๋ออกจากห้องทำงานของหลัวฉางเซิง เมื่อเขาออกมาข้างนอกก็รู้สึกว่าลมที่พัดเข้าที่ปกเสื้อของเขานั้นหนาวจัด เขาอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าแล้วเดินไปที่ลานจอดรถ
ขณะที่เขาเดินไปที่รถ ชายคนหนึ่งก็ลงมาจากรถข้าง ๆ เขาตะลึงเมื่อเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เฮ้ เถ้าแก่เจียง คุณมาที่ถู่เฉิงเมื่อไหร่ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยังเห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายคือหยินซื่อจากสำนักงานเหมืองถ่านหิน
เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีผู้อำนวยการหยิน ผมเพิ่งมาถึงถู่เฉิงได้สักพัก ผมแวะมาหานายอำเภอหลัวก่อน และกำลังจะไปเยี่ยมชมโรงงานโต๊ะผิงไฟ”
“ผู้อำนวยการหยิน คุณออกไปทำธุระเพิ่งกลับมาเหรอ ? ”
หยินซื่อกล่าวว่า “ใช่ ฉันไปดูเหมืองมา”
เจียงเสี่ยวไป๋ส่งบุหรี่ให้กับหยินซื่อ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ ผู้อำนวยการหยินยังคงวิ่งไปที่เหมือง หากนายอำเภอหลัวไม่เลื่อนขั้นให้คุณ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว”
หยินซื่อหยิบบุหรี่มาและหัวเราะเสียงดัง “ตำแหน่งอะไรมันไม่สำคัญหรอก แต่เถ้าแก่เจียง คุณได้ทำตามขั้นตอนที่คุณตกลงไว้ครั้งล่าสุดที่คุณมาหรือเปล่า ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึง “ขั้นตอนอะไร ? ”
หยินซื่อมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยความประหลาดใจ “ครั้งสุดท้ายคุณดื่ม คุณเมามากไหม ? เราได้ตกลงกันไว้ว่าฉันจะโอนสิทธิ์การขุดเหมืองถ่านหินทางฝั่งตะวันตกของหมู่บ้านบนภูเขาให้กับคุณ ? ”
“ครั้งที่แล้วตกลงอะไรไว้นะครับ ? ” เจียงเสี่ยวไป๋ถามด้วยความประหลาดใจ
“ครั้งที่แล้ว นายอำเภอหลัว พี่สะใภ้ ฉัน และรองนายอำเภอหม่าก็อยู่ที่นั่นด้วย รวมทั้งหลี่เกินและภรรยาของเขา คุณพูดออกมาตอนที่คุณดื่ม คุณลืมมันไปแล้วจริง ๆ เหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋จำได้เพียงว่าครั้งที่แล้วเขาดื่มหนักมาก แต่เขาจำไม่ได้จริง ๆ ว่าคุยกันเรื่องอะไรขณะดื่ม เขาอดไม่ได้ที่จะตบหัวตัวเอง “ผู้อำนวยการหยิน ผมต้องขอโทษจริง ๆ ผมเมามากจนไม่รู้ว่าพูดอะไรออกไป จำไม่ได้จริง ๆ ”
หยินซื่อยิ้ม “ไม่เป็นไร หากคุณมีอะไรต้องทำวันนี้ก็ไปจัดการก่อน ค่อยว่ากันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้น่าจะใช้เวลาสักพักในการโอนกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ”
“ได้ครับ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกลงทันที ไม่ว่าจะตกลงกันครั้งที่แล้วหรือไม่ก็ตาม ดูเหมืองถ่านหินทางตะวันตกของหมู่บ้านบนภูเขานั้นจะเป็นเหมืองถ่านหินแบบเปิดขนาดกลาง ดังนั้นเขาจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด
เมื่อหยินซื่อเห็นว่าเจียงเสี่ยวไป๋ตกลง เขาก็ดูมีความสุขมากและพูดว่า “ปีนี้ภูเขาถูกหิมะปกคลุมไปหมด ยังไม่สามารถเริ่มงานได้ เราทำได้เพียงโอนกรรมสิทธิ์ก่อน แล้วคุณค่อยจ้างคนงานมาขุดถ่านหินในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าก็ได้”
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่รีบร้อนอะไรและพูดว่า “ไม่มีปัญหาครับ ผมไม่รีบอยู่แล้ว”
หยินซื่อยิ้ม “คุณต้องการถ่านหินไปใช้ที่บ้านในช่วงตรุษจีนหรือเปล่า ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการหยิน คุณสามารถหาถ่านหินได้มากน้อยเพียงใด ถ้ามี ผมจะเอาไปบางส่วน”
หยินซื่อกล่าวว่า “ตราบใดที่คุณมีรถลากจูงหรือรถบรรทุก ก็เอามาบรรทุกได้หมดแหละ”
เจียงเสี่ยวไป๋ดีใจมากและพูดว่า “เอาล่ะ หลังจากที่ผมกลับไป ผมจะส่งรถบรรทุกสองคันมาบรรทุกมันกลับไป คุณคงไม่มีปัญหาใช่ไหม ? ”
“ไม่มีปัญหา เพราะฉันเองก็ไม่มีรถขนไปให้คุณอยู่ดี ! ” หยินซื่อกล่าว
ราคาปัจจุบันของถ่านหินดิบในตลาดอยู่ที่ 20 หยวนต่อตัน และราคาถ่านหินแบบก้อนอยู่ที่ 25 หยวนต่อตัน ราคาของมันต่างกันไม่เกิน 5 หยวนต่อตัน
หยินซื่อบอกเจียงเสี่ยวไป๋ว่าเขาจะซื้อถ่านหินจากเจียงเสี่ยวไป๋ในราคา 15 หยวนต่อตัน
แต่เจียงเสี่ยวไป๋รู้ว่าเศรษฐกิจของถู่เฉิงนั้นย่ำแย่ เขาจึงจำเป็นต้องลดราคาลง ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “ผู้อำนวยการหยิน จ่ายตามราคาที่สามารถจ่ายได้ก็พอ ผมไม่ได้ขาดเงินอะไรขนาดนั้น”
หยินซื่อกล่าวว่า “ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตาม กว่าคุณจะผลิตถ่านหินเองได้ก็ต้องรอปีหน้า ปีนี้คุณยังทำอะไรไม่ได้มาก”
หลังจากที่ทั้งสองตกลงกันเรื่องถ่านหินแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็พูดว่า “โอเค งั้นผมไปทำงานก่อน เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
หยินซื่อหัวเราะและพูดว่า “งั้นเจอกันพรุ่งนี้ เราค่อยมาดื่มด้วยกันตอนดึกที่บ้านนายอำเภอหลัว ฉันจะเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไปด้วย ไว้เจอกัน”
จากนั้น เขาก็ไม่ลืมที่จะพูดว่า “รองนายอำเภอหม่ายังไม่รู้ว่าคุณมาที่นี่ ฉันค่อยบอกเขาทีหลัง เราจะได้ไปดื่มกัน”
เจียงเสี่ยวไป๋แทบจะเซเมื่อได้ยินคำนี้
ดื่มอีกแล้ว !
เขากลัวจริง ๆ !
ครั้งสุดท้ายที่เขาดื่มกับคนกลุ่มนี้ มันทำให้เขาลืมเรื่องราวสำคัญอย่างการโอนกรรมสิทธิ์เหมืองถ่านหินไปจริง ๆ แล้วแบบนี้เขาจะกล้าดื่มอีกได้ยังไง ?
ไม่ว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม หยินซื่อก็รีบตรงไปบอกหม่าลี่ก่อน
เจียงเสี่ยวไป๋ได้แต่ถอนหายใจออกมา เขาเปิดประตูรถจี๊ป เข้าไปสตาร์ทรถแล้วมุ่งหน้าไปที่โรงงานโต๊ะผิงไฟ