ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 589 : ผลที่ตามมาจากการพูดผิด
ตอนที่ 589 : ผลที่ตามมาจากการพูดผิด
หลัวฉางเซิงได้ยินแบบนั้นก็กล่าวว่า “คุณลุงหลี่ ตอนนี้มันปีอะไรแล้ว ? เราจะยังจะปฏิบัติตามธรรมเนียมเก่าของคนรุ่นหลังอยู่อีกเหรอ มาเถอะคุณป้า เด็ก ๆ มากินที่โต๊ะด้วยกัน”
หลี่ต้าหนิวกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ไม่ว่าเราจะอยู่ในยุคไหนก็ตาม ธรรมเนียมก็คือธรรมเนียม หากไม่มีธรรมเนียมก็จะไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างจะวุ่นวาย”
ที่จริงแล้วเจียงเสี่ยวไป๋เห็นด้วยกับธรรมเนียมหลายอย่าง เช่น การบูชาในช่วงปีใหม่และการไปเยี่ยมหลุมศพของบรรพบุรุษ แต่เขาไม่เห็นด้วยกับธรรมเนียมที่ว่าผู้หญิงและเด็กไม่สามารถมานั่งร่วมโต๊ะทานอาหารกับแขกได้
ซึ่งในครอบครัวของเขาก็ไม่เคยมีธรรมเนียมแบบนี้
ในตอนแรก เจียงไห่หยางไม่คุ้นเคยกับมัน แต่ด้วยความดึงดันของเขา ธรรมเนียมนี้จึงถูกทำลายไป
หลังจากฟังคำพูดของหลี่ต้าหนิวแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็พูดว่า “คุณลุง เราต้องการสืบทอดและสานต่อขนบธรรมเนียมและกฎเกณฑ์ที่ดีบางอย่าง แต่เราก็ต้องแก้ไขขนบธรรมเนียมและกฎเกณฑ์ที่ไม่จำเป็นบางอย่างด้วย”
หลัวฉางเซิงพยักหน้า “ใช่ ลุงหลี่ เสี่ยวเจียงพูดถูก กฎเช่นผู้หญิงและเด็กไม่ได้รับอนุญาตให้มานั่งร่วมโต๊ะจะต้องเปลี่ยน ทุกวันนี้สิ่งสำคัญคือความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง สมัยนี้ผู้หญิงบางคนเก่งกว่าผู้ชายเสียอีก”
หม่าหลี่ยังพูดเสริมออกมาว่า “คุณป้า พี่สะใภ้ เด็ก ๆ มาร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกันนะครับ”
เจียงชานยังพูดต่อ “พี่เฟิงเฟิง พี่ผิงผิง มานั่งนี่เถอะค่ะ ! ”
หลี่เฟิงและหลี่ผิงมองดูเจียงชานที่นั่งอยู่บนโต๊ะด้วยสายตาอิจฉา มันมีอาหารมากมายอยู่บนโต๊ะ ซึ่งมีมากกว่าตอนที่พวกเขาเฉลิมฉลองกันในวันปีใหม่เสียอีก
พวกเขาก็อยากกินเหมือนกัน !
แต่พวกเขาไม่กล้า ถ้าพ่อแม่ไม่อนุญาต
“น้องชานชานกินไปก่อนเถอะ ไว้เราค่อยกินทีหลังก็ได้ พ่อบอกจะเก็บอาหารที่เหลือไว้ให้เรา”
หลี่เฟิงกล่าว
การที่มีแขกมาที่บ้านนั้น พวกเขาไม่สามารถมาร่วมรับประทานได้ ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาประสบพบเจอ
อาจจะมีความอิจฉาอยู่บ้าง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
พวกเขาไม่กล้าฝ่าฝืนกฎที่ปู่และพ่อกำหนดไว้
ในขณะนี้ หยินซื่อก็ได้เดินกลับมาแล้ว
เจียงเสี่ยวไป๋มองดูเขาและตกตะลึง เกือบจะอุทาน ‘เ-ี้ย’ ออกมาแล้ว
ไม่มีอะไรนอกเสียจากการที่หยินซื่อถือเหล้าสองกล่องอยู่ในมือ อาจเป็นเพราะเขาเดินเร็วเกินไป ด้วยความที่ตัวอ้วนเตี้ยของเขา จึงทำให้เขาหายใจหอบ
เมื่อหม่าหลี่เห็นดังนั้น เขาก็รีบไปหยิบกล่องเหล้ามาวางไว้บนพื้น หยินซื่อวางกล่องในมือของเขาลงต่ออย่างง่ายดาย
เขายกมือขึ้นเช็ดหน้าผากแล้วพูดเยาะเย้ย “โอ้พระเจ้า พักนี้ฉันไม่ได้ออกกำลังกายมานาน อุ้มเหล้ามาแค่ไม่กี่ขวดก็เหนื่อยหอบแล้ว”
หลี่เกินตกใจเมื่อเห็นเขานำเหล้ามาสองกล่อง “ผู้อำนวยการหยิน คุณจะดื่มขนาดนั้นเลยหรือ ! ”
หยินซื่อแกะมันออกมาอย่างชำนาญและพูดออกมาว่า “เที่ยงนี้ฉันจะดื่มแค่สองขวด ที่เหลือเก็บไว้ที่นี่ เพื่อให้ดื่มในครั้งต่อไป ตอนที่เรามาทานอาหารบ้านคุณ”
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเขาได้ยินหยินซื่อพูดว่าจะดื่มเพียงสองขวดเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าเหล้าที่หยินซื่อนำมาคือหลูโจวเหล่าเจียว เขาก็พูดว่า “พี่หลี่ เก็บหล้าเหมาไถของคุณเถอะ ถ้าคุณดื่มมากเกินไป มันจะเมาเอาได้”
หยินซื่อก็เห็นด้วย “ใช่ มาดื่มนี่ก่อน”
ขณะที่เขาพูด เขาก็หยิบหลูโจวเหล่าเจียวสองขวดออกมาจากกล่องแล้วเดินไปที่โต๊ะ หลังจากนั่งลงแล้ว เขาก็พูดว่า “มาเลย มาเลย เหล้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย”
เมื่อเห็นว่าหลัวฉางเซิงและคนอื่นไม่มีปฏิกิริยา เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “มีอะไรกันหรือเปล่า ? ”
หลัวฉางเซิงกล่าวว่า “ดูสิ มีแต่พวกเราที่นั่งโต๊ะ คุณป้า น้องสะใภ้ และเด็ก ๆ ปฏิเสธที่จะมานั่งร่วมโต๊ะเพื่อทานอาหารกับพวกเรา”
หยินซื่อตระหนักได้ทันทีว่าในชนบทจะมีธรรมเนียมที่ว่าผู้หญิงและเด็กไม่ควรมานั่งร่วมโต๊ะกับแขก เขาจึงยิ้มและพูดกับหลี่ต้าหนิวว่า “ลุงหลี่ ถ้าคุณไม่ให้คุณป้าและคนอื่น ๆ มานั่งร่วมโต๊ะกับพวกเรา แล้วพวกเราจะกินอย่างสบายใจได้อย่างไร”
หลี่ต้าหนิวยังคงพูดอย่างดื้อรั้น “นี่คือธรรมเนียม ! ”
หยินซื่อหัวเราะเบา ๆ “คุณลุง คุณไม่อยากให้เรากินข้าวที่บ้านของคุณงั้นเหรอ ไม่เป็นไร งั้นฉันจะไปแล้ว”
ขณะที่เขาพูด เขาก็ลุกขึ้นและเตรียมจะออกไป
หลี่ต้าหนิวตกใจจึงรีบลุกขึ้นและคว้าตัวเขาเอาไว้ “ผู้อำนวยการหยิน ไม่ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้คุณกินข้าวที่บ้านฉัน แต่ว่า……”
หยินซื่อขัดจังหวะเขาและพูดว่า “ตอนที่ผมไปเยี่ยมหลายครอบครัวในชนบท พวกเขาต่างก็มากินพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งเด็กและผู้ใหญ่” เขาชี้ไปที่เฉินชุนฮวา หลัวซิ่วลี่และเด็กทั้งสองคน แล้วพูดต่อ “ดูสิ ถ้าคุณไม่ให้พวกเขามานั่งร่วมโต๊ะด้วย ผมก็อายเกินกว่าที่จะกินมันได้ ดังนั้นให้ผมออกไปตอนนี้เลยไม่ดีกว่าเหรอ ? ”
ต้องบอกว่าบางครั้งการเชิญหน้ากับนายพล ยังดีกว่าการยั่วยุพวกเขา
ไม้นี้ของหยินซื่อมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้เหตุผลของหลัวฉางเซิงและเจียงเสี่ยวไป๋
หลี่ต้าหนิวกระทืบเท้า และพูดออกมาว่า “โอ้…… ผู้อำนวยการหยิน อย่าพูดอย่างนั้น ฉัน…..ฉันไม่เถียงอะไรอีกแล้ว ! ”
เขาหันไปหาเฉินชุนฮวาและคนอื่น แล้วพูดว่า “มา มา……เอาเก้าอี้มานั่งที่โต๊ะด้วยกัน ! ”
เด็กสองคน หลี่เฟิงและหลี่ผิงดูมีความสุขมาก พวกเขารีบไปเอาเก้าอี้มาอย่างรวดเร็ว
เฉินชุนฮวาและหลัวซิ่วลี่มองหน้ากัน พวกเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมานั่งร่วมที่โต๊ะ
ครอบครัวของหลี่เกินใช้โต๊ะแปดเซียนซึ่งเหมาะสำหรับที่นั่งแปดคน เดิมทีหลัวฉางเซิงและภรรยาของเขานั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ เจียงเสี่ยวไป๋และเจียงชานนั่งทางด้านซ้าย หม่าหลี่และหยินซื่อนั่งทางด้านขวา ส่วนหลี่เกินและหลี่ต้าหนิวก็นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะอีกด้าน
ในเวลานี้ มีผู้ใหญ่เพิ่มมาอีกสองคนและเด็กสองคน ซึ่งอยู่คนละด้านพอดี
หลัวซิ่วลี่นั่งลงข้างเจียงชาน เฉินชุนฮวานั่งลงข้างหลี่ต้าหนิว หลี่เฟิงและหลี่ผิงไปนั่งข้างหยินซื่อและอีกคนหนึ่งไปนั่งข้างเซี่ยงหงจวี๋
หยินซื่อหัวเราะและพูดว่า “ตอนนี้ทุกคนมาพร้อมพร้อมหน้าแล้ว มาเริ่มกินกันเถอะ”
หลี่ต้าหนิวรีบบอกให้ทุกคนกินข้าว
ดังนั้นผู้ที่ดื่มก็ดื่ม คนที่กินก็กิน คนบนโต๊ะเริ่มกินและดื่มอย่างมีชีวิตชีวา
หยินซื่อยังคงรักษาคำพูดของเขา มีคนหกคนที่ดื่ม หลังจากดื่มหลูโจวเหล่าเจียวสองขวดหมด เขาก็ไม่เปิดเหล้าขวดต่อไปจริง ๆ
ปรากฏว่าดื่มเหล้าไปคนละสามเหลียงได้
เจียงเสี่ยวไป๋สามารถดื่มเหล้าแค่นี้ได้อย่างสบาย ๆ เขาดื่มมันไปโดยที่ไม่รู้สึกอะไร
ไม่ต้องพูดถึงหลัวฉางเซิง เซี่ยงหงจวี๋ หม่าหลี่ และหยินซื่อ
แต่หลี่เกินไม่ใช่แบบนั้น หลังจากดื่มเหล้าไปราวสามจอกใหญ่ เขาก็เวียนหัวและแทบจะพูดผิด ๆ ถูก ๆ
หลังมื้ออาหาร หลัวซิ่วลี่ก็เริ่มเก็บโต๊ะ หยินซื่อจึงดึงหลี่เกินมาแล้วพูดว่า “พี่ชาย ฉันจะบอกคุณว่าฉันพูดผิดไป อย่าฆ่าต้าหวงเลยนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋และคนอื่นตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ และทุกคนก็มองไปที่หลี่เกินเป็นตาเดียว
ลิ้นของหลี่เกินพันกันเล็กน้อย “ไม่……ไม่ได้ ! มันต้องถูกฆ่า พรุ่งนี้……ฉันจะฆ่าต้าหวง ! ”
หลัวฉางเซิง เซี่ยงหงจวี๋รวมถึงเจียงเสี่ยวไป๋และเจียงชานไม่รู้ว่า “ต้าหวง” คือใคร คำพูดนี้จึงทำให้พวกเขาสับสนมากในเวลานี้
มีเพียงคนในตระกูลหลี่เท่านั้นที่รู้ว่า “ต้าหวง” เป็นสุนัขเฝ้าบ้านของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมสองคนนี้ถึงพูดถึงการฆ่าต้าหวงกัน
หลี่ผิงที่ได้ยินแบบนั้นก็เกือบจะร้องไห้ออกมา “พ่อ ทำไมพ่อถึงต้องฆ่าต้าหวงล่ะ ? ”