ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 592 : คืนนี้ไปที่บ้านของหยินซื่อ
- Home
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 592 : คืนนี้ไปที่บ้านของหยินซื่อ
ตอนที่ 592 : คืนนี้ไปที่บ้านของหยินซื่อ
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋มาถึงห้องทำงานของหลัวฉางเซิงประมาณห้าโมงเย็นพอดี หยินซื่อและหม่าหลี่ก็มารออยู่ที่สำนักงานแล้ว
ทว่าเซี่ยงหงจวี๋กลับไม่อยู่ที่นี่
“พี่สะใภ้อยู่ไหนเหรอครับ ? เธอไม่ไปด้วยกันกับเราเหรอ ? ” เจียงเสี่ยวไป๋ถาม
หยินซื่อกล่าวว่า “พี่สะใภ้ไปที่บ้านของฉันก่อนแล้ว เธอบอกว่าอยากไปช่วยภรรยาของฉันเตรียมอาหาร”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้า
หลังจากที่ทุกคนมารวมตัวกันพร้อมหน้าก็เป็นเวลาเลิกงานพอดี พวกเขาจึงออกไปจากออฟฟิศพร้อมกัน
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “เอารถของผมไปดีกว่า ! ”
หลัวฉางเซิงโบกมือ “รถของคุณจอดอยู่ที่นี่น่ะดีแล้ว ฉันจะให้เสี่ยวหลิวขับไปส่ง”
เจียงเสี่ยวไป๋รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายจะไม่ให้เขามีข้ออ้างเลี่ยงดื่ม !
แม้แต่คนขับก็เตรียมมาให้พร้อมเสร็จสรรพ
“ทำไมต้องรบกวนเสี่ยวหลิวด้วยล่ะ ! ผมมีรถ ผมก็ขับของผมไปสิ” เจียงเสี่ยวไป๋พูดออกมาทันที พยายามที่จะเอารถไปเอง
หลัวฉางเซิงกล่าวว่า “คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าคุณไม่ขับหลังดื่ม ? คืนนี้คุณต้องนอนที่บ้านของฉัน ให้เสี่ยวหลิวขับรถให้สะดวกกว่า”
ขณะที่พูด เสี่ยวหลิวก็ได้ขับรถออกมาข้างหน้าเขา ลงจากรถแล้วเปิดประตูให้พวกเขา
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดกับหยินซื่อ “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมไปบ้านของคุณ ผมไม่ได้เอาอะไรติดไม้ติดมือไปด้วยเลย แต่ผมมีเหล้าอยู่ท้ายรถ เอารถผมไป แล้วผมจะให้คุณสองกล่อง”
หยินซื่อหัวเราะ “ฉันจะต้องการเหล้าของคุณไปเพื่ออะไร ? ไป ขึ้นรถเร็วเข้า ! ”
ขณะที่เขาพูด เขาก็ผลักเจียงเสี่ยวไป๋เข้าไปในรถ
หลังจากที่หลัวฉางเซิงและคนอื่นขึ้นรถจนครบแล้ว เสี่ยวหลิวก็ปิดประตูรถแล้วขับออกไปที่บ้านของหยินซื่อ
บ้านของหยินซื่ออยู่ไม่ไกลจากบ้านของหลัวฉางเซิง มันห่างกันเพียงไม่ถึงสองลี้เท่านั้น
ไม่นาน รถก็ขับมาถึงบ้านของเขา
บ้านของตระกูลหยินเป็นบ้านไม้แต่มีขนาดใหญ่กว่าบ้านของหลัวฉางเซิง นอกจากนี้ยังดูใหม่กว่ามากและมีสนามหญ้าขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าบ้าน
หลายคนเข้าไปในบ้านที่มีการจุดเตาถ่านหิน ซึ่งข้างในนั้นอบอุ่นมาก
หลัวฉางเซิงเห็นว่าโครงของเตาถ่านหินของครอบครัวหยินซื่อดูเหมือนโต๊ะไม้ที่เจาะรูวงกลมตรงกลางโต๊ะ จากนั้นก็เลื่อยขาเตาถ่านหินให้สั้นลง เพื่อให้โต๊ะสูงกว่าเตาถ่านหินเล็กน้อย เขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เหล่าหยิน นี่มันอะไร ? คุณลอกเลียนแบบความคิดสร้างสรรค์ของเจียงเสี่ยวไป๋งั้นเหรอ ! ”
หยินซื่อยิ้มและพูดว่า “ถูกต้อง ฉันเปลี่ยนโต๊ะสี่เหลี่ยมอันเก่าที่บ้าน หลังจากที่เห็นภาพการออกแบบโต๊ะผิงไฟของเสี่ยวเจียงเมื่อครั้งที่แล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋ก็มองไปที่โต๊ะซึ่งดูคล้ายกับโต๊ะผิงไฟที่เขาออกแบบ แต่รูตรงกลางของโต๊ะตรงหน้านี้ถูกขุดให้ใหญ่ขึ้นกว่าในแบบ ทำให้ลดพื้นที่ในการวางสิ่งของบนโต๊ะลงไปอีก
ยิ่งไปกว่านั้น เพราะโต๊ะทำมาจากไม้ หากอยู่ใกล้เตาถ่านมากเกินไป ไฟก็จะลุกไหม้ได้ง่าย
ดังนั้นแม้ว่ารูตรงกลางโต๊ะจะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ขอบของรูก็ยังคงเป็นสีดำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันยังคงถูกเผาไหม้อยู่บ้าง แม้ว่าจะทำรูใหญ่แล้วก็ตาม
หลัวฉางเซิงมองไปรอบ ๆ โต๊ะ พลางพยักหน้าแล้วพูดว่า “จะว่าไปมันก็สะดวกจริง ๆ ”
หยินซื่อยิ้มและพูดว่า “ฉันแค่ทำมันขึ้นมาชั่วคราว ท้ายที่สุดฉันก็ต้องซื้อโต๊ะผิงไฟของเสี่ยวเจียงมาใช้อยู่ดี”
ในขณะที่พูด เขาก็หยิบจานถั่วลิสงและเมล็ดแตงโมหนึ่งจานมาวางไว้บนโต๊ะ
หลัวฉางเซิงยิ้มและพูดว่า “เห็นไหมว่าถ้าเตรียมพร้อมมันจะแตกต่างออกไป”
หยินซื่อกล่าวว่า “พี่เซี่ยได้เตรียมของไว้ให้แล้ว ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของเธอเอง แต่อาจจะไม่อร่อยเท่าที่ผลิตในโรงงานของเสี่ยวเจียง”
เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินประโยคสั้น ๆ นี้ก็พอจะเดาออกว่าคนรักของหยินซื่อคงจะอายุมากกว่าเขา
ในยุคนี้ ผู้ชายมักจะเรียกภรรยาที่อายุมากกว่า “พี่”
ขณะที่เขาเดาอยู่ในใจ ประตูห้องด้านหลังก็เปิดออก เผยให้เห็นผู้หญิงอายุห้าสิบปลาย ๆ เดินออกมา เธอมีรูปร่างที่สูง มือและเท้าใหญ่ คิ้วหนา ตาโต จมูกโด่งและปากกว้าง ทำให้ดูเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก
“นายอำเภอหลัว พวกคุณมาแล้วเหรอคะ ! ”
หลัวฉางเซิงยิ้มและพูดว่า “ฉันตั้งใจมารบกวนคุณนี่แหละ”
หยินซื่อเห็นจางหงเซี่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม เขาก็ชี้ไปที่เจียงเสี่ยวไป๋และพูดว่า “พี่เซี่ย นี่คือเจียงเสี่ยวไป๋”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวทักทายอย่างรวดเร็ว “สวัสดีครับพี่สะใภ้ ! ”
“สวัสดีค่ะคุณป้า ! ” เจียงชานกล่าวทักทายเช่นกัน
จางหงเซี่ยตอบเจียงเสี่ยวไป๋และมองไปที่เจียงชาน แล้วพูดว่า “หนูคือชานชานใช่ไหมจ๊ะ ? พี่จวี๋เล่าเรื่องของหนูให้ฉันฟังตลอดเลย หนูสวยและน่ารักจริง ๆ ”
เธอหยิบถั่วลิสงทอดจำนวนหนึ่งส่งให้เจียงชาน แล้วพูดว่า “ที่บ้านป้าไม่ค่อยมีอะไรอร่อย ๆ หรอก กินถั่วลิสงไปก่อน แล้วป้าจะทำอาหารมาให้”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า ! ”
เจียงชานพูดอย่างสุภาพ เธอหยิบถั่วลิสงทอดมาพร้อมกับรอยยิ้มมีความสุขบนใบหน้า
หลังจากพูดคุยกันสักพัก ทุกคนก็นั่งลง จากนั้นจางหงเซี่ยก็กลับเข้าไปในครัวต่อ หยินซื่อจึงไปชงชาและพูดกับเจียงเสี่ยวไป๋ว่า “พี่เซี่ยอายุมากกว่าฉันสามปี ที่ฉันสามารถเรียนจบได้ ก็เป็นพี่เซี่ยที่คอยสนับสนุน”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ผมก็พอจะมองออกว่าพี่สะใภ้เป็นคนมีความสามารถมาก”
หยินซื่อหัวเราะเสียงดัง “ฉันไม่รู้ว่าเธอมีความสามารถไหม แต่คุณสู้เธอเรื่องดื่มไม่ได้แน่นอน”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกใจและมองไปที่หลัวฉางเซิง
หลัวฉางเซิงพยักหน้าและกล่าวว่า “จางหงเลี่ยง พ่อตาของเหล่าหยินเป็นเจ้าของโรงกลั่นเหล้าที่มีชื่อเสียงในถู่เฉิงของเรา น้องเซี่ยเรียนรู้การผลิตเหล้ามาตั้งแต่เด็ก เธอได้ชิมเหล้ามามากมายเพื่อที่จะได้รู้รสชาติของมันและพัฒนาต่อ ซึ่งฉันและเหล่าหยินยังดื่มสู้เธอไม่ได้เลย”
หัวใจของเจียงเสี่ยวไป๋เต้นรัว เขาพูดได้เพียงว่าเขาชื่นชมเธอ แต่เขาไม่คิดที่จะไปแข่งกับเธอแน่นอน !
ในตอนที่เขากำลังคิดไปต่าง ๆ นานา ประตูห้องด้านหลังก็เปิดออกอีกครั้ง จางหงเซี่ยเดินออกมาพร้อมกับหม้อไฟ เธอวางมันลงบนเตาถ่านตรงกลางโต๊ะ ซึ่งมันก็กำลังเดือดปุด ๆ ๆ
เจียงเสี่ยวไป๋อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นว่าในหม้อนั้นมีไส้กรอก หัวใจ และปอดอยู่ข้างใน ฯลฯ หลัวซิ่วลี่เพิ่งให้ไส้กรอกจำนวนหนึ่งกับเขามาก่อนหน้านี้ และเขากำลังคิดอยู่ว่าจะเอาไปทำเมนูอะไรดีเมื่อกลับไปที่ชิงโจว แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอเมนูนั้นในตอนกลางคืน
หยินซื่อยิ้มและพูดว่า “เสี่ยวเจียง วันนี้มาเปลี่ยนรสชาติกันเถอะ มากินเครื่องในหมูกันบ้าง”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “ผมเห็นแล้วครับ มันน่ากินมาก”
ได้กินอะไรไม่สำคัญ เพราะเขาชอบกินไส้กรอก หัวใจ ปอดและตับหมูเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่เขาเป็นกังวลคือการดื่มต่างหากล่ะ !
ก่อนหน้ามีหลัวฉางเซิงและคนอื่นที่เป็นนักดื่ม แต่วันนี้มีจางหงเซี่ยที่ดื่มได้เก่งกว่า เขาไม่รู้ว่าการประชันกันจะออกมาเป็นสภาพไหนในภายหลัง ?
มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจ
ในไม่ช้า เซี่ยงหงจวี๋และจางหงเซี่ยก็นำอาหารหลายจานออกมาวางไว้บนโต๊ะ ล้อมรอบหม้อไฟที่อยู่ตรงกลาง
หลัวฉางเซิงกล่าวชม “เหล่าหยิน การที่คุณทำโต๊ะให้เป็นแบบนี้ มันสามารถกินและอบอุ่นร่างกายไปพร้อม ๆ กันได้ มันดีจริง ๆ ”
หลังจากที่เซี่ยงหงจวี๋ได้ยิน เธอก็พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณก็กลับไปเปลี่ยนโต๊ะที่บ้านสิ”
หลัวฉางเซิงโบกมือ “ฉันไม่มีฝีมือเหมือนเหล่าหยิน ฉันทำเองไม่ได้หรอก นอกจากนี้ เจียงเสี่ยวไป๋ยังบอกว่าจะทำโต๊ะตัวอย่างออกมาในวันพรุ่งนี้ ฉันรอเอาโต๊ะตัวอย่างกลับบ้านไม่ดีกว่าเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าหลัวฉางเซิงจะมีความคิดนี้ !
เขาถึงกับวางแผนที่จะเอาโต๊ะตัวอย่างกลับบ้านไปใช้เองด้วย !