ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 60 :การตอบโต้เริ่มต้นขึ้น
ตอนที่ 60 :การตอบโต้เริ่มต้นขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้น
เจียงเสี่ยวไป๋พาหลินเจียอินและเจียงชานออกไป และพบกับหลิวซือกั๋วและภรรยาของเขาที่ถนนลูกรังพอดี
“ไปเร็วเหมือนกันนะเนี่ย”
เจียงเสี่ยวไป๋ทักทายด้วยรอยยิ้ม
“นายก็ไปแต่เช้าเหมือนกันไม่ใช่หรือไง ? นายกังวลว่าถ้าฉันไปเร็ว ธุรกิจของนายจะเจ๊งสินะ ? ”
หลิวซือกั๋วกล่าวอย่างมีชัย
“เฮอะ ยังรับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กไม่ได้เลยไม่ใช่หรือ มาดูกันว่านายจะหัวเราะได้นานแค่ไหน”
จูเยี่ยนผิงพูดเสียงกระแทก เธอจ้องมองหลินเจียอินซึ่งนั่งอยู่บนเบาะหลังของจักรยานด้วยความอิจฉา
ทำไมเธอถึงมีจักรยานให้นั่ง แต่ฉันกลับต้องเดินเท้าไป ?
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่สนใจคำถากถางของทั้งสอง เขารีบปั่นจักรยานไปและพูดว่า “ใช้เวลาของนายให้คุ้มล่ะ ฉันจะไปก่อน”
ขณะที่เขาพูดนั้น จักรยานก็พุ่งไปไกลแล้ว ทิ้งไว้เพียงฝุ่นฟุ้งตลบอบอวลเท่านั้น
“เฮอะ คิดว่าตัวเองดีเด่มาจากไหน มันก็แค่จักรยานคันหนึ่งไม่ใช่หรือ ? ” จูเยี่ยนผิงกัดฟัน “ซือกั๋ว ผ่านไปสักสองวันเราจะต้องซื้อจักรยานมาให้ได้”
“แน่นอน”
หลิวซือกั๋วยังอิจฉาที่เจียงเสี่ยวไป๋ได้ปั่นจักรยานจึงตอบตกลงทันที แต่ในวินาทีต่อมา ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นขมขื่น “เราซื้อมาแล้วใครเป็นคนปั่นล่ะ ? ฉันปั่นไม่เป็น”
“สิ่งที่ไร้ค่ากลับเรียนรู้ได้ แต่สิ่งที่มีค่ากลับเรียนรู้ไม่ได้”
จูเยี่ยนผิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ทำไมเธอถึงต้องมาลงเอยกับผู้ชายแบบนี้ด้วยนะ ดูฉลาดแต่ไม่มีความกล้าหาญเลย
เมื่อเจียงเสี่ยวไป๋มาถึงร้านน้ำชา ด้านในร้านกำลังปรับปรุงใหม่ หวังผิงจึงตั้งแผงขายไว้ด้านนอกแล้ว
เมื่อวานส่งผลกระทบต่อรายได้ของพวกเขาเล็กน้อย รวมกันแล้วพวกเขามีรายได้เพียง 1,104.5 หยวนเท่านั้น
น้อยกว่าสองวันก่อนหน้านี้เกือบ 200 หยวน
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่เพียงแต่ผัดมันฝรั่งจะขายได้น้อยลง แต่ฟักเขียวตุ๋นก็ขายได้น้อยลงเช่นกัน
หวังผิงอารมณ์ไม่ค่อยดี ในขณะที่เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและเล่าเรื่องการรับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กของหลิวซื่อกั๋วในราคาชั่งละ 4.5 เหมาเพื่อปลอบโยนเขา
แต่ใครจะไปคิดว่ามันจะยิ่งทำให้หวังผิงรู้สึกหดหู่ใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินเรื่องนี้
“เสี่ยวไป๋ ราคาของมันฝรั่งลูกเล็กเพิ่มขึ้นจากชั่งละ 5 หลีเป็น 4.5 เหมาเชียวนะ กำไรของเราจะไม่น้อยลงหรือ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หัวเราะ แน่นอนว่าทุกคนต่างมีความคิดที่ไม่เหมือนกัน
“ไม่ต้องห่วง พวกเขาซื้อมันฝรั่งลูกเล็กไปมากเท่าไร เดี๋ยวมันก็ตกมาอยู่ในมือเราอยู่ดี”
“เราไม่ได้โง่ ทำไมเราถึงจะต้องต่อสู้กับพวกเขาเพื่อจ่ายเงินรับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กในราคาสูงขนาดนั้นด้วย ? ”
“ในตอนบ่ายนี้นายไปหาพี่เจียเหอ และขอให้เขาช่วยรับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กในบ้านเกิดของเขาให้เรา ให้ราคาชั่งละ 5 หลีเหมือนเดิม”
เมื่อหวังผิงได้ยินดังนั้น เขาก็มีความสุขทันที
ใช่แล้ว เจียงวานรับซื้อในราคาถูกไม่ได้ แต่ที่อื่นยังคงหาซื้อได้
บ้านเกิดของเจียเหออยู่ในชีหลี่ผิง ซึ่งอยู่คนละที่กับละแวกเจียงวานเลย นักเลงเฉินคิดว่าถ้าพวกเขารับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กในละแวกเจียงวานไปหมดแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็คงหาซื้อไม่ได้ แต่เขาประมาทไป เพราะพื้นที่ปลูกมันฝรั่งไม่ได้มีแค่ในแถวเจียงวานเท่านั้น
“วันนี้เราจะขายผัดมันฝรั่งน้อยลง เราขายถึงแค่ตอนเที่ยงพอ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยังกล่าวอีกครั้ง “ถ้ามีใครถามให้บอกไปว่ามันฝรั่งของเราหมดแล้ว วันนี้กำลังไปหารับซื้อ แล้วพรุ่งนี้จะมาเปิดร้านใหม่”
หวังผิงพยักหน้าซ้ำ ๆ
หลินเจียอินคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ในกรณีนี้ ลูกค้าที่ต้องการกินมันฝรั่งไม่สามารถซื้อได้ในร้านของเรา ดังนั้นพวกเขาจะไปซื้อที่ร้านหลิวซือกั๋ว แต่พอพวกเขารู้ว่ามันไม่อร่อย พวกเขาก็จะไม่ไปที่นั่นอีก”
“และยิ่งลูกค้าประจำของเราไปบอกกันปากต่อปากได้มากเท่าไร ชื่อเสียงของพวกเขาก็ยิ่งย่ำแย่ขึ้นเท่านั้น”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและเสริมว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือทั้งหลิวซือกั๋วและเจิ้งต้าเป่า คิดผิดว่าธุรกิจของพวกเขาจะดีกว่าเมื่อวาน ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจึงขัดขวางไม่ให้ผมรับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กได้”
หลินเจียอินเม้มริมฝีปากของเธอและยิ้ม เธอมองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยดวงตาเป็นประกาย
“คุณนิสัยไม่ดีจริง ๆ ใช้แผนการดักจับคนอย่างเดียวไม่พอ ยังเสริมกับดักไว้ไม่ให้คนตั้งรับได้ทันอีกด้วย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผมไม่ได้ขอให้พวกเขาให้ราคาสูงสักหน่อย มันเป็นการตัดสินใจของนักเลงเฉินเอง ความโลภของเขาต่างหากที่ทำให้เขาตกลงไปในหลุมพราง”
หลินเจียอินพยักหน้า
มนุษย์มักจะยับยั้งความโลภไม่ได้ และเมื่อความโลภเข้าครอบงำเหตุผล พวกเขาก็จะอยู่ไม่ไกลจากความพินาศ
เจียงเสี่ยวไป๋ดำเนินการตามแผน และในตอนเที่ยง พวกเขาขายเฉพาะฟักเขียวตุ๋นน้ำแดงและตุ๋นฟักเขียวสไลด์แบบหมูสามชั้นเท่านั้น
เป็นผลให้หลายคนที่ต้องการกินผัดมันฝรั่งต้องไปซื้อที่ร้านของหลิวซือกั๋ว
”ซือกั๋ว เร็วเข้า”
“มันฝรั่งลูกเล็กที่ฉันขูดไว้ใกล้จะหมดแล้ว”
หลิวซือกั๋วไม่ได้จ้างคนมาขูดมันฝรั่งที่นี่ เขาทำแค่สองคนผัวเมีย เมื่อวานนี้พวกเขาจัดการได้ แต่วันนี้เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะมีลูกค้ามากกว่าเมื่อวาน พวกเขาสองคนยุ่งจนมือแทบจะพันกัน
นอกจากนี้ หลิวซือกั๋วเป็นคนชอบสังเกต เขาพบว่ามีลูกค้าจำนวนมากมาจากฝั่งตรงข้าม หลังจากที่เขาสอบถามลูกค้า เขาก็รู้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋ไม่มีมันฝรั่งแล้ว
สิ่งนี้ทำให้หลิวซือกั๋วและจูเยี่ยนผิงมีความสุขมาก
เป็นวันที่แสนจะวุ่นวาย แต่ก็เป็นวันที่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่อย ๆ ลูกค้าเกือบทั้งหมดที่มาจากฝั่งตรงข้ามไม่พอใจหลังจากกินผัดมันฝรั่งที่ปรุงด้วยซอสของจูเยี่ยนผิง
แต่ด้วยความดูแลของเจิ้งต้าเป่า ลูกค้าเหล่านั้นมักจะทะเลาะกับหลิวซือกั๋วและภรรยาของเขาเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น
เมื่อเลิกงาน ในตอนกลางคืน วันนี้พวกเขาขายผัดมันฝรั่งได้ในราคา 1,152 หยวน
หลิวซือกั๋วและภรรยาของเขาได้รับเงิน 110.5 หยวน และพวกเขามีความสุขราวกับว่าพวกเขาถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่อะไรเทือกนั้น
ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนว่าจะหาเงินได้มากขนาดนี้ในวันเดียว
“ทำงานอีกวัน พรุ่งนี้ค่อยซื้อจักรยานก็ได้”
ระหว่างทางกลับ จูเยี่ยนผิงไม่สามารถลบความคิดที่จะซื้อจักรยานของเธอได้
“ตกลง พรุ่งนี้ฉันจะซื้อให้” หลิวซือกั๋วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“พรุ่งนี้ ฉันจะแล่เนื้อสองชิ้นให้คุณ และเหล้าหนึ่งชั่ง”
เมื่อจูเยี่ยนผิงได้ยินว่าหลิวซือกั๋วตกลงจะซื้อจักรยานให้เธอ เธอมีความสุขมากและพูดเอาอกเอาใจเขาทันที
“ตอนนี้ฉันมีเงินแล้ว ฉันควรจะสนุกกับมัน ฉันกินมันฝรั่งทุกวันจนแทบจะอ้วกออกมาเป็นมันฝรั่งแล้ว”
เมื่อคิดถึงการกินเนื้อและดื่มเหล้าในวันพรุ่งนี้ หลิวซือกั๋วก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายตัวเอง
“นอกจากนี้ ฉันจะให้น้องชายของคุณมาช่วยงานในวันพรุ่งนี้ แบบนั้นเราจะต้องทำงานได้อย่างรวดเร็วและขายได้มากขึ้นแน่นอน” จูเยี่ยนผิงกล่าว
หลิวซือกั๋วพยักหน้าเห็นด้วย น้องชายจอมโง่ของเขาโง่เขลา แต่เก่งเรื่องใช้แรงงาน
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เขาขายของจนปวดร่างกายจากความเหนื่อยล้า ฉะนั้นเขาสามารถแบ่งเบาความเหนื่อยล้าได้โดยพาหลิวซือหมิงไปช่วยทำงาน
สามีและภรรยาพูดคุยถึงแผนการต่าง ๆ ตลอดทางด้วยความรู้สึกอิ่มเอมใจ
เมื่อเจิ้งต้าเป่ากลับมาที่หมู่บ้านถังซาน เขาได้มอบเงิน 1,041.5 หยวนให้นักเลงเฉิน นักเลงเฉินที่เห็นเงินก้อนโตก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุขเช่นกัน
เมื่อวานนี้ได้เงินเพียง 427 หยวน แต่วันนี้มากกว่า 1,000 หยวน
“วันนี้ขายดีหรือ? ทำไมถึงได้เพิ่มมาเป็น 600 หยวนเลยล่ะ ? ” นักเลงเฉินถามอย่างกระตือรือร้น
“ลูกพี่ มันฝรั่งของเจียงเสี่ยวไป๋ขายหมดตอนเที่ยงวันนี้ ลูกค้าของเขาจึงมาซื้อที่ร้านของเรา” เจิ้งต้าเป่าตอบ
นักเลงเฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ดูเหมือนว่าการตัดสินใจขึ้นราคารับซื้อเมื่อคืนนั้นถูกต้อง ตราบใดที่เจียงเสี่ยวไป๋ไม่มีมันฝรั่งลูกเล็ก ร้านของเขาจะต้องเจ๊งภายในสองสามวันแน่
นักเลงเฉินชื่นชมการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของเขา
“รับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กในหมู่บ้านเหล่านี้ต่อไป และอย่าให้เจียงเสี่ยวไป๋ได้มันฝรั่งลูกเล็กไปแม้แต่ชั่งเดียว”
เจิ้งต้าเป่ามีสีหน้าขมขื่นและพูดว่า “ลูกพี่ เรามีเงินไม่พอ”
เมื่อคืนที่ผ่านมา ทุกครัวเรือนในหลายหมู่บ้านมีมันฝรั่งลูกเล็ก และพวกเขาก็รับซื้อมันฝรั่งหลายหมื่นชั่ง ซึ่งเกือบจะใช้สมบัติทั้งหมดที่นักเลงเฉินสะสมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาหมดไป
“งั้นก็รับซื้อต่อไป” นักเลงเฉินกัดฟันพูด
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาทำทุกวิถีทางและประหยัดเงินแทบตายกว่าจะเก็บเงินได้ 10,000 หยวนในเวลาหลายปี แต่วันนี้เขามีรายได้มากกว่า 1,000 หยวนต่อวัน
เขารู้สึกว่าวิธีการทำเงินในอดีตไม่สามารถเทียบได้กับการขายผัดมันฝรั่งเลย
เขามอบเงินทั้งหมดที่เพิ่งได้รับให้เจิ้งต้าเป่าและพูดว่า “นายเอาเงินไปเก็บก่อน ฉันจะขอให้ซื่อเหยียนส่งฉันเข้าเมืองเพื่อขอเงินจากพี่เขยของฉัน แล้วฉันจะให้ซื่อเหยียนไปเรียกนายตอนฉันได้เงินกลับมา”
หลังจากพูดจบ เขาก็พูดอีกครั้ง “นายให้เงินหลิวซือกั๋วไปเป็นร้อยหยวนเหมือนกันไม่ใช่หรือ ? ไปบอกเขาและขอให้เขาเอาเงินออกมาก่อน จะได้รับซื้อมันฝรั่งลูกเล็กให้หมด”